หุงข้าวไม่เช็ดน้ำ
หม้อหุงข้าวคู่บารมีของผมเพิ่งมาขาดใจตาย

หลังจากที่ผมซาวข้าวเรียบร้อยแล้ว ผมก็เสียบปลั๊ก กดสวิทช์หม้อข้าว แต่ไฟไม่ติดแฮะ
ขยับปลั๊กไปมาก็แล้ว ขยับหม้อไปมาก็แล้ว เคาะ ทุบ ทำยังไงไฟก็ไม่ติด

เจ๊งแน่นอน

ผมเลยรื้อหม้อหุงข้าวออกมาดู ก็พบว่าหน้าสัมผัสของสายชักเสีย ต้องทำการบัดกรีซ่อม
แต่ที่ห้องไม่มีหัวแร้งต้องออกไปหาซื้อมาก่อนจึงจะซ่อมได้ แต่ไอ้ครั้นจะออกไปซื้อมา
ซ่อม ท้องก็ดันร้องโยเยไม่ให้ความร่วมมือแถมข้าวก็ซาวไว้แล้ว เสียดายข้าว

แล้วจะทำยังไงดี ?

เหลียวมองรอบตัว ก็เห็นกระทะไฟฟ้าวางคว่ำอยู่ เอาวะ ใช้กระทะหุงข้าวก็ได้ ว่าแล้ว
ก็ถ่ายข้าวลงใส่กระทะไฟฟ้า เสียบปลั๊ก ไฟแดงติดขึ้น น้ำค่อยๆร้อนจนเริ่มเป็นไอ

ว่าแต่ว่าจะหุงยังไงล่ะ ?

สมัยอยู่บ้านนอก ตอนเด็กๆ บ้านผมยังนิยมใช้ฟืนอยู่ ดังนั้นการหุงข้าวที่คุ้นเคยก็คือ
การหุงแบบเช็ดน้ำ ซึ่งก็ง่ายๆ แค่ต้มจนข้าวเดือด เอาไม้ขัดหม้อควักเม็ดข้าวออกมาดู
ถ้าเม็ดข้าวสุกแล้วก็รินน้ำได้เลย รินเสร็จก็เอามาดงต่อสักหน่อยเป็นอันเสร็จพิธี

แต่ว่านี่ไม่ใช่หม้ออลูมิเนียม นี่คือกระทะไฟฟ้า ไม่เป็นการดีแน่ถ้าจะเอามาหุงข้าวแบบ
เช็ดน้ำ เพราะด้วยที่ปากหม้อกว้างเกินไป เม็ดข้าวมีโอกาสไหลลงพื้นได้ และที่สำคัญ
ไอ้นี่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า เกิดรินน้ำไหลเข้าไปข้างใน พอเสียบปลั๊กอีกทีอาจจะมีศพขึ้น
อืดคาห้องก็ได้

ผมก็เลยเลือกหุงแบบไม่เช็ดน้ำ

ประสบการณ์การหุงข้าวแบบไม่เช็ดน้ำของผมมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนั้นผมลองหุง
แบบนี้เล่น ๆ ดู ผลก็คือข้าวแฉะให้คนทั้งบ้านบ่นปอดแปด

และนี่จะเป็นครั้งที่สอง

พอข้าวเดือด ผมก็คนข้าวไปเรื่อยป้องกันข้าวติดก้นกระทะ หยิบเม็ดข้าวมาดู เม็ดข้าว
ก็ยังไม่สุกเลยแต่น้ำกลับงวดลงไปทุกทีๆ ข้าวจะสุกไหมเนี่ย ทำไงดี ?

1. หรี่ไฟลง ต้มไปเรื่อยๆ จนข้าวสุก
( ถ้าเลือกข้อนี้ให้อ่านความคิดเห็นที่ 1 ห้ามอ่านความคิดเห็นที่ 2 )

2. เติมน้ำลงไป ต้มต่อจนข้าวสุก
( ถ้าเลือกข้อนี้ให้อ่านความคิดเห็นที่ 2 ห้ามอ่านความคิดเห็นที่ 1 )



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2552 16:37:43 น.
Counter : 4513 Pageviews.

7 comments
: รูปแบบของความว่าง : กะว่าก๋า
(18 เม.ย. 2567 04:00:35 น.)
แพ้เนื้อจากการโดนเห็บกัด alpha-gal allergy สวยสุดซอย
(17 เม.ย. 2567 14:07:10 น.)
: รูปแบบของการค้นพบตนเอง : กะว่าก๋า
(16 เม.ย. 2567 06:05:58 น.)
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
  
1.
ผมหรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน น้ำงวดไปหมดแล้ว ชิมข้าวดู เหลืออีกนิดหน่อยจึงจะสุก ผมก็
เลยหรี่ไฟลงอีกเป็นการดงข้าว ดงไปสักหน่อยข้าวก็เริ่มส่งกลิ่นไหม้อ่อนๆ ขึ้นมา ผมเปิด
ฝาขึ้น ไอน้ำพร้อมกับกลิ่นข้าวหอมมะลิก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว ข้าวสุกแล้ว

กูนี่อัจฉริยะจริง

แหม๋ ขนาดไม่ได้หุงข้าวแบบนี้ตั้งนานแล้วนะเนี่ย ยังหุงข้าวสุกจนได้กิน โคตรภาคภูมิใจ
กับตัวเองจริงๆ ว่าแล้วก็กินข้าวไปดูทีวีไปดีกว่า

ข่าวรัฐมนตรีพาณิชย์ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจพร้อมกับแถลงนโยบายต่างๆ
สำหรับผมแล้ว ก็เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ท่านเป็นมือใหม่แต่กลับต้องมารับบทหนัก ต้องขับ
เคลื่อนเศรษฐกิจให้เงยหัวขึ้นให้ได้ ซึ่งถือท้าทายความสามารถเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ
สภาวะที่มีปัจจัยลบรุมเร้ารอบด้านแบบนี้ ผมคิดว่า ท่านคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ

แต่เรื่องปากท้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ

ในใจผมคิดเลยว่า ท่านต้องรีบออกนโยบายและมาตการเพื่อกระตุ้นธุรกิจ สร้างงานให้
แก่แรงงาน ควบคุมราคาสินค้าให้สมเหตุสมผลเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน
สิ่งเหล่านี้ท่านต้องเร่งรีบผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมาเพื่อปากท้องของพี่น้อง
ประชาชน

ถึงท่านจะเป็นมือใหม่แต่ผมเชื่อว่าท่านต้องหุงข้าวแบบไม่เช็ดน้ำเป็นเหมือนผมแน่ๆ
โดย: garnet19th วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:38:27 น.
  
2.
ผมตัดสินใจเติมน้ำลงไปเพิ่ม เพราะน้ำงวดเกินไปแบบนี้ข้าวอาจไม่สุกได้ ต้มต่อไปสัก
หน่อยก็หยิบข้ามมาชิม อ้าว ข้าวสุกแล้วแต่น้ำยังท่วมอยู่เลย ทำยังไงดีเนี่ย ผมก็เลย
ตัดสินใจต้มข้าวต่อ แต่ด้วยความที่เป็นกระทะไฟฟ้า ก็เลยทำให้ข้างล่างได้รับความร้อน
มากกว่าข้างบน ข้าวข้างล่างจึงเริ่มไหม้แต่ข้าวยังแฉะแหยะอยู่เลย

เอาไงดี ?

ผมตัดสินใจสละข้าวข้างล่างทิ้ง ยอมให้ไหม้แต่แลกกับข้าวข้างบนที่แฉะแต่ไม่เป็นน้ำ
ตัดสินใจดงข้าวต่อ กลิ่นเหม็นไหม้คลุ้งไปทั่วห้อง แต่ทำยังไงได้ก็มันพลาดไปแล้วนี่
หลังจากที่ข้าวข้างบนเลิกแฉะแล้วผมก็ถอดปลั๊กออก คดข้าวใส่จาน

ข้าวที่กินได้มีไม่ถึงครึ่ง

ผมเปิดหน้าต่างและประตูห้องทุกบานเพื่อให้พัดลมเป่าเอากลิ่นเหม็นไหม้ออกจากห้อง
ไปก่อนจะเริ่มตั้งสำรับข้าว เปิดทีวีไปกินข้าวไป นั่งดูข่าวเป็นกับข้าวเพิ่ม

ในทีวีเสนอข่าวกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจับกุมผู้ที่ทำการประท้วง
ปิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด หลังจากที่ดูข่าวนี้จบ ผมก็นึกย้อนถึงข่าวการให้สัมภาษณ์
ถึงแนวคิดเรื่องการยึดสนามบินของคนบางคน

เราต้องเสียสละวันนี้เพื่อวันข้างหน้า

มันจะเหมือนผมที่ต้องยอมเสียสละให้ข้าวข้างล่างไหม้ เพื่อแลกกับข้าวข้างบนที่ไม่แฉะ
แหยะจนเป็นข้าวต้มรึเปล่าเนี่ย

ผมสงสัยจัง
โดย: garnet19th วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:38:53 น.
  
อืม...ปัญหาใหญ่นะเนี่ย...

เพราะมันเป็นปัญหาเรื่องปากท้อง

รัฐบาลต้องรีบเร่งแก้ไขด่วน!!!


ขอเลือกข้อ 2 อ่ะ

แต่...เราเติมน้ำลงไปทีละน้อยดีมะ

จะได้ไม่แฉะนิ


ปล. อรุณสวัสดิ์จ้า!

โดย: i am_giddy วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:47:58 น.
  

เลือกข้อ 2 ไป เพราะเผื่อว่าจะทำเป็นข้าวต้มไปเลย


เรื่องบ้านเรื่องเมือง เรื่องความหิว .. หากต้องเลือกสักทาง ทุกคนก็คงอยากเลือกทางที่เสียหายน้อยที่สุด รึเปล่านะ
โดย: ภูติ IP: 161.200.255.162 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:54:23 น.
  
เลือกไม่ถูกครับไม่ค่อยมีประสบการณ์
ล่าสุดเมื่อสักปีก่อน หุงข้าวมันไก่แบบเช็ดน้ำ จำได้ว่ามีการเติมน้ำเรื่อยๆแต่น้ำที่เติมไปเมื่อไปผสมกับมันไก่ก็ข้นเหนียวขึ้นทุกที สุดท้ายก็ได้ข้าวที่เละประมาณข้าวเหนียวเปียก แล้วก็ต้องมาบ่นกับตัวเอง รุงี้หุงหม้อไฟฟ้าดีกว่า^^
(คนส่วนมากมักเลือกให้ข้าวคนอื่นไหม้ ส่วนข้าวตัวเองให้สุกดูน่ากิน หรือข้าวที่ไหม้ก็ยกให้คนอื่นส่วนที่สุกสวยก็เก็บไว้ให้ตัวเองพวกพ้อง ฉะนี้)
โดย: lomocat วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:26:17 น.
  
ฝากข้อความยากจังค่ะ

เข้ามาเยี่ยมนะคะ

happy valentine's day ค่ะ

ขอให้กอดเจ๊ (เอ๊ย!) กอดแฟนให้มีความสุขนะคะ
โดย: หมูอมโรค วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:46:57 น.
  
ฝากข้อความยากจังค่ะ

เข้ามาเยี่ยมนะคะ

happy valentine's day ค่ะ

ขอให้กอดเจ๊ (เอ๊ย!) กอดแฟนให้มีความสุขนะคะ
โดย: หมูอมโรค วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:46:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Garnet19th.BlogGang.com

garnet19th
Location :
ขอนแก่น  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด