เรื่องสั้นจิตตก : # 1 @กรรม@

โจทย์
1. จงนำชื่อเรื่องมาวางตรงชื่อตอนในตำแหน่งที่ถูกต้อง ( 3 คะแนน )

@เก่า

ผม มีชีวิตที่เกือบเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ

ผมเกิดในครอบครัวฐานะที่เรียก ได้ว่ารวยล้นเหลือ พ่อเป็นนักธุรกิจใหญ่ ใหญ่ขนาด
มีเครือธุรกิจมากมาย หลากหลายเชื่อมโยงกัน ปี ๆ หนึ่งสร้างมูลค่าและผลกำไรไม่ต่ำ
กว่าพันล้าน ส่วนแม่ก็เป็นปลัดกระทรวงใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อประเทศเป็นอย่างมาก
อาจจะ พอเรียกได้ว่าทั้งสองคนต่างเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถผลักดันประเทศให้เจริญ
ก้าว หน้าได้

แต่จะว่าไป นั่นก็เป็นเรื่องของพ่อกับแม่ ไม่ได้เกี่ยวกับตัวผมเลยแม้แต่น้อย การเอา
เรื่องพ่อแม่มากล่าวอ้างแล้ว มายกตนข่มท่าน ในสายตาผมแล้วมันดูกระจอกมาก ๆ
พ่อเป็นอย่างนั้น แม่เป็นอย่างนี้ แล้วไง แล้วเอ็งได้เป็นอย่างพ่อแม่เอ็งเหรอ ดังนั้น ผม
จึง เบะปากทุกครั้งที่เพื่อนในห้องหรือใครก็ตามกล่าวอ้างพ่อแม่เพื่ออวดศักดาของ
ตัว เอง จะว่าไงดี เหมือนตัวเองใหญ่เสียเต็มประดาด้วยบารมีของพ่อกับแม่แต่โดย
เนื้อ แท้แล้วก็เป็นแค่ไอ้กระจอกคนหนึ่งเท่านั้น

นั่นเป็นเรื่องของพ่อกับ แม่ ถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นผม แต่ก็ช่วยเสริมขับให้
ผมดูดีมีสง่า ราศีขึ้นมาระดับหนึ่ง แต่เนื้อแท้ของผมต่างหาก ที่ผมภาคภูมิใจเป็น
อย่าง มาก

ผมมีหน้าตาที่หล่อเหลาเอาการ ผิวขาว สูงโปร่ง ชนิดที่สามารถไปเป็นนายแบบหรือ
ไม่ก็ไปเป็นนักร้องได้สบาย ๆ นั่นแค่หน้าตาเท่านั้น ผลการเรียนของผมก็ยอดเยี่ยม
ผมเข้าสอบเข้าเรียน โรงเรียนที่ดังและอัตราการแข่งขันสูงที่สุดของประเทศได้ด้วย
คะแนนเป็น ลำดับที่ 4 แถมตอนเรียนก็มีผลการเรียนติดลำดับ 1-3 ของชั้นปีอยู่ตลอด
นอก จากเกรดจะดี ผมก็ยังกิจกรรมเด่นด้วย ระหว่างเรียนผมเป็นกีฬาบาสของโรงเรียน
แถม ยังพ่วงกับเป็นตัวแทนแข่งขันทางวิชาการและตบท้ายด้วยการเป็นประธานนักเรียน
และ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมยังสามารถสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้เป็นลำดับ 1 ของคณะ
พร้อมกับได้ทุนการศึกษาเรียนจนจบปริญญาเอก เรียกได้ว่าอนาคตสดใสเลยทีเดียว

แต่โลกนี้ไม่มีอะไรเพอร์เฟค

ผม มีอาการป่วยประจำตัว อาการมันเริ่มตอนสมัยมัธยม ผมจะปวดหน้าอก ปวดแปล๊บ
แต่ แค่แป๊บเดียวก็หายไป นาน ๆ ครั้งจะเป็นที ซึ่งผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าคงจะเป็น
อาการยอกเนื่องจากการซ้อมบาส อาการปวดอกมันเป็นเช่นนี้มาพักหนึ่ง แต่แล้วจู่ ๆ
ในวันที่ผมกำลังจะเข้า พิธีปฐมนิเทศน์นักศึกษาใหม่นั้น อาการก็กำเริบหนัก ผมปวด
ร้าวในอกจนแทบ หายใจไม่ได้ ล้มลงกองกับพื้นคาชุดนักศึกษา ทางบ้านผมรีบ
พาผมส่งโรง พยาบาล แต่พอกำลังจะไปถึง อาการก็หายเป็นปลิดทิ้งไปเสียเฉย ๆ แต่ถึง
อาการ เจ็บหน้าอกจะหายไป พ่อกับแม่ผมก็ให้ผมเข้ารีบการตรวจวินิจฉัยโรค ผมถูก
เอ็ก ซ์เรย์ ซีทีสแกน ตรวจวัดคลื่นหัวใจ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่น่าแปลกหมอกลับ
ไม่ พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ที่จะเป็นสาเหตุของอาการปวดหน้าอกได้ จึงได้เพียงแค่ติดตาม
อาการพร้อมกับให้ยาเพื่อบำรุงแค่นั้น

และหลังจากวันนั้นเป็นต้น ผมก็มีอาการปวดหน้าอกอย่างรุนแรง มันจะเป็นทุก ๆ สามถึง
สี่วัน ผมจะปวดหน้าอกรุนแรงจนแทบสลบ และก็จะเป็นเหมือนเดิมทุกครั้ง พอจะไปถึง
มือหมอ ผมจะหายปวดเป็นปลิดทิ้งทันที พ่อกับแม่ผมพยายามที่จะให้ผมได้รับการ
รักษา โรคที่เป็นอยู่นี้ให้หายขาด ท่านส่งผมไปแทบทุกโรงพยาบาลทั้งในประเทศและ
ต่าง ประเทศ ในบางครั้ง ผมถึงกับต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเกือบเดือน แต่สุดท้ายก็
ไม่ มีหมอคนไหนสามารถวินิจฉัยอาการป่วยของผมได้เลย ผลตรวจทุกอย่างต่างบ่งชี้
ว่า ผมสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีทั้งสิ้น และตลอดเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาล ผมก็จะ
ไม่ มีอาการปวดหน้าอกเลย แต่พอกลับบ้าน อาการปวดถึงได้กลับมากำเริบอีกครั้ง
มัน ช่างเป็นโรคร้ายที่อุบาทว์และสุดแสนจะสร้างโมโหให้เป็นอย่างมาก ชีวิตผมกำลัง
ถูกเจ้าโรคนี้ทำลายไปอย่างช้า ๆ ผมไม่สามารถไปเรียนได้ตามปกติ เพราะต้องเสีย
เวลาไปทำการตรวจรักษา จนไม่สามารถเข้าเรียนได้ การใช้ชีวิตผมก็ไม่สามารถทำได้
เหมือนเดิม ได้แต่อยู่กับบ้าน ทำอะไรไม่ได้ มันทำให้ผมเครียด ความเครียดสะสม
ทั้ง บ้านเลยสุขภาพจิตเริ่มย่ำแย่ สิ่งดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต ในครอบครัว กำลังมลาย
หายไปอย่างช้า ๆ

ผมต้องรักษาโรคนี้ให้หายให้ได้

แต่ แพทย์แผนปัจจุบันกลับไม่สามารถทำการรักษาได้เลย พ่อกับแม่จึงหันไปหาแพทย์
แผนโบราณ แพทย์ทางเลือก สาระพัดยา เวชการ หัตถการต่าง ๆ ทั้งที่มีหลักการอ้างอิงบ้าง
ไม่อ้างอิงบ้าง แต่การรักษาที่เยอะแยะมากมายนี้ กลับไม่สามารถรักษาอาการ ป่วยนี้ได้เลย
มันยังคงเป็นเหมือนเดิม

ผมกำลังสิ้นหวังแล้ว

แต่แล้ววันหนึ่ง แม่ก็ตัดสินใจพาผมไปกับชายคนหนึ่ง

2. จงอ่านตอนนี้พร้อมด้วยวิจารณญาณ ( 4 คะแนน )

สแกน@

ผม ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นมันคืออะไร

ตอนที่ผมจับมือน้าสาวแล้วหลับตา ภาพบางอย่างจะปรากฎขึ้นมา ภาพที่ไม่เคยพบ
เคยเห็นมาก่อน ปรากฏขึ้นมาเป็นเหตุกาณ์ในดวงตาที่หลับสนิทของผม มันอาจจะ
เป็นภาพหลอน นิวรณ์ อุปทาน หรืออาจจะเป็นอะไรก็ได้ พอผมบอกสิ่งที่ผมเห็นให้
กับน้า สาว บอกว่าผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังใช้ค้อนทุบหัวหมูอยู่ ผมเห็นเขาทุบหัว
หมู มากมายหลายหลายตัว เป็นสิบ เป็นร้อย พอน้าได้ฟัง เธอก็ตะลึงก็ไปครู่หนึ่ง แต่
สักพัก เธอก็ฉีกยิ้ม พูดจาหาว่าผมเพ้อเจ้อ

แต่ดวงตาเธอดูหวาด ๆ

หลังจากวันนั้น น้าของผมก็เริ่มทำบุญตักบาตร เธอใส่บาตรทุกเช้า หลังใส่บาตร
เธอก็กรวดน้ำด้วย แถมผมได้ยินมาว่า เธอไปไถ่ชีวิตหมูบ้าง โค กระบือ บ้างจาก
โรงฆ่าสัตว์ แล้วต่อมาอีกสักพักหนึ่ง ผมก็ได้ข่าวว่าเธอไม่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อย ๆ
อีกแล้ว ซึ่งผมมาทราบทีหลังว่า น้าผมเธอป่วยเป็นไมเกรนอาการหนักมาก เธอจะ
ปวดหัวราวกับมีคนใช้ค้อนทุบหัว แต่ตอนนี้เธอหายสนิทแล้ว

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตอนผมอายุสิบเอ็ดขวบ

หลัง จากนั้นเป็นต้นมา เวลาที่ผมจับมือใคร หลับตา สงบสติ สร้างสมาธิ ผมจะก็จะ
เห็น ภาพเหตุการณ์ขึ้นมาในนิมิตร ใครสักคนกำลังทำอะไรสักเรื่อง แต่ทุกเรื่องที่
พวก เขาทำนั้นล้วนแต่เป็นเรื่องไม่ดี ฆ่าสัตว์บ้าง ปล้นทรัพย์ ลักขโมยบ้าง บางคน
เลวร้ายถึงขนาดฆ่าคนตายด้วยซ้ำ และเมื่อผมลืมตา ผมบอกสิ่งที่ผมเห็นให้พวกเขา
ได้ทราบ พร้อมกับแนะนำให้พวกเขาไปทำอะไรสักอย่างเพื่อลบล้างและบรรเทา
สิ่งที่คน ที่อยู่ในนิมิตรที่ผมเห็นนั้นได้กระทำ และพอพวกเขาได้ลงมือปฏิบัติตาม
สิ่งเลวร้าย โชคร้าย อาการเจ็บป่วยที่พวกเขาเหล่านั้นประสบก็ค่อยบรรเทาเบาบาง
ลง บางรายก็หายเป็นปลิดทิ้ง และพอพวกเขาหายจากอาการที่ประสบ จากปากต่อ
ปากก็ขยายความไปเรื่อย ๆ ว่า ผมมีความสามารถพิเศษ สามารถรักษาคนที่ประสบ
เคราะห์ กรรม อาการป่วยที่แพทย์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

พวกเขาเหล่านั้นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผมสามารถเห็นอดีตชาติ

และในวันนี้ ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขารูปร่างหน้าตาดีมาก ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน
แววตาดู ฉลาดเข้ามาพบผม ซึ่งทางผู้ประสานงานก็บอกว่า เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูก
ของนักธุรกิจรายใหญ่ของเมืองไทย แถมแม่ของเขาที่เป็นคนพาเขามา ก็เป็นถึง
ปลัดกระทรวง ส่วนสาเหตุที่พามาที่นี่ ก็เป็นเพราะเด็กหนุ่มป่วยด้วยโรคที่หาสาเหตุ
ไม่ได้ หมอไม่ว่าแผนไหน ๆ ก็ไม่สามารถทำการรักษา จนในที่สุดพอแม่ของเขา
ได้ยินกิติศัพท์ของผมเข้า เธอก็ตัดสินใจพาลูกชายมาหาผม

ผมนำเขาเข้ามาในห้องทำพิธี ในขั้นตอนการทำพิธี ผมจะไม่ให้ใครเข้ามาด้วย จะมี
เพียงแค่ผมกับผู้ประสบ ชะตาไม่ดีเท่านั้น เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก เพราะผมต้องการ
สมาธิ เราคุยกัน ผมอธิบายขั้นตอนการทำพิธีให้เขาฟัง เขาตั้งใจฟังพร้อมกับตอบรับ
ด้วย กิริยาที่สุภาพ หลังจากอธิบายเสร็จสิ้นแล้ว ผมก็เริ่มทำวิธี

หลังจาก จับมือทั้งสองข้างของเขาพร้อมกับให้ทั้งผมและเขาหลับตาลง ผมก็เริ่ม
ด่ำ ดิ่งไปในห้วงความมืดมิด แต่มันไม่ได้มืดนานนัก ภาพบางอย่างก็ค่อย ๆปรากฏ
ชัด ขึ้นมาเรื่อย ๆ

ผมเห็นอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ในบ้านมีกลุ่มชายฉกรรจ์ พวกเขาทั้งหมดใส่ชุดทหาร
อืม ชุดที่พวกเขาใส่ดูคุ้น ๆ เหมือนผมเคยเห็นมันมาก่อน อ้า ใช่แล้วล่ะชุดทหาร
ญี่ปุ่นสมัยสงครามโลก ครั้งที่สองนี่เอง พวกเขากำลังกลุ้มรุมอะไรสักอย่าง ดูพวก
เขาทำสีหน้า สนุกสนานอย่างเต็มที่ ผมอยากรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็เห็น
เพียงแผ่นหลังของพวกเขาเท่านั้น

แต่ทันใดนั้นจู่ใครคนหนึ่งในกลุ่มคน เหล่านั้นก็แหวกกลุ่มคนออกมา เปิดช่องให้
ผมได้เห็นสิ่งที่เขากำลังกลุ้ม รุมอยู่

หญิงสาวร่างเปลือยเปล่าคนหนึ่ง ที่ถูกมัดขึงพืดอยู่บนเตียง

แต่แล้วภาพของหญิงสาวคนนั้นก็หายไปเพราะกลุ่มคนเหล่านั้นเบียดตัวกันบังร่าง
ของเธอจนมิด ผมไม่เห็นเธออีก เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง

จำได้เพียงแววตาที่เต็มไปด้วย ความเจ็บปวด หวาดกลัวและความเคียดเเค้น

แต่แล้วภาพเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไป ผมยังอยู่ในบ้านหลังเดิม แต่เห็นทหารญี่ปุ่น
คนหนึ่งอุ้มเด็กทารกอายุน่าจะประมาณเจ็ดเดือน เด็กทารกกำลังร้องไห้จ้า น้ำตา
พรั่งพรูไม่ยอมหยุด ทหารที่อุ้มเด็กหันหน้าไปพยักกพะเยิดกับเพื่อนทหารอีกคน
ที่ถือปืนยาวติดดาบปลายอยู่ ดูเหมือนพวกเขาจะคุยอะไรสักอย่าง แล้วทหารที่อุ้ม
เด็ก ก็ ...

เฮ้ย !!!!!!

เขาโยนเด็กสูงขึ้นไปใส่เพื่อนทหารที่เขาคุยด้วย เด็กยังคงร้องไห้จ้าขณะอยู่กลาง
อากาศ แล้ว แล้ว แล้ว ทหารก็ ก็ ก็

ใช้ดาบปลายปืนเสียบเด็กทารกที่กำลังร่วงใส่เขา

ภาพเปลี่ยนไปอีก ผมเห็นทหารคนหนึ่ง เขายืนอยู่กลางบ้าน สังเกตจากแต่งกาย
ดูเหมือนเขาจะเป็นนายทหาร เขากำลังตะโกน ดูคล้ายกับเขากำลังสั่งลูกน้องด้วย
ท่าทางที่ดูสนุกสนาน แล้วต่อมาเขาก็มองไปที่พื้น ตรงพื้นมีชายคนหนึ่งนอนคว่ำ
หน้า อยู่ เขานอนแนบพื้น กลางหลังของเขามีลิ่มไม้อันใหญ่อันหนึ่งตอกตรึงร่าง
ของเขาเอาไว้ ดูท่าลิ่มนั้นน่าจะทะลุหน้าอกของเขาและฝังแน่นไปที่พื้น ผมเห็น
ชายคนนั้นยังคงขยับตัวอยู่ เขายังไม่ตาย ถึงแม้จะเห็นเลือดไหลเป็นทางออกมา
จากปากแผล แต่เขายังคงไม่ตาย นายทหารมองที่ชายคนนั้นและผมก็เห็นชาย
ที่ถูกตอกลิ่มตรึงไว้กับพื้นคนนั้นค่อย ๆ ผงกหัวขึ้น เขาพยายามเงยหน้าขึ้นมา
แววตาเขาจับจ้องไปที่นายทหารคนนั้น

และผมก็เห็นหน้าชายคนนั้นชัดเจน

3. จงอธิบายเรื่องกรรม ( 3 คะแนน )

ตัด@

ผมยังคงหลับตานิ่งอยู่ตามที่พ่อหมอสั่งไว้ ตลอดเวลาที่เราทำพิธี ผมไม่เห็นอะไร
เลยนอกจากความดำมืด ผมไม่รู้ว่าพ่อหมอมองย้อนชาติก่อนของผมเเล้วเห็นอะไร
แต่ตลอดเวลาที่ทำพิธี มือของเขากระตุกเป็นช่วง ๆ และแถมยังเย็นเฉียบไปเรื่อย ๆ
ซึ่งทำเอาผมตกใจอยู่เหมือนกัน เเละเมื่อครู่พ่อหมอผละมือจากผม เขาสั่งให้ผมหลับตา
เอาไว้ ก่อนจะลุกหนีไป ดูเหมือนเขาจะไปที่ไหนสักที่ ผมจึงต้องนั่งหลับตาเพื่อ
รอเขาทำพิธีให้เสร็จ

วี้บบบ ฉึ่บ !

จู่ ๆ ผมก็ได้ยินอะไรสักอย่างแหวกอากาศและต่อมาก็ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดัง
ข้าง ๆ หู และหลังจากนั้นสติของผมก็วูบไปเรื่อย ๆ

ตุ่บ !

นั่นคือ เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนสติจะมืดสนิทลง



ผมลดดาบที่ถือ อยู่ในมือลง พยายามผ่อนลมหายใจที่รัวและถี่ให้กลับมาเป็นปกติ

เลือดสีแดงฉานค่อย ๆ ไหลย้อยจากคมดาบไปหาปลายดาบก่อนจะหยดลงบน
พื้นพรมของห้อง ทีละหยด ทีละหยด สายตาของผมจับจ้องไปยังร่างของเด็กหนุ่ม
คนนั้น เลือดที่เคยฉีดจนพุ่งพรวดไปถึงเพดานห้อง ตอนนี้กำลังไหลเอื่อย ๆ ออก
มาจากคอของเขา ชุดสีขาวบริสุทธิ์ของเขากำลังถูกย้อมให้แดงฉานด้วยเลือดของ
ตัวเขาเอง หัวของเขาหยุดกลิ้งแล้ว มันไปซุกอยู่ตรงมุมห้อง กลิ่นคาวคละคลุ้งไป
ทั่วและผมก็สูดเอากลิ่นคาวเหล่านั้นเข้าปอด

ผมเดินไปที่มุมห้อง เขาหลับตาพริ้ม ดวงหน้าไม่ได้บ่งบอกถึงความตกใจ ความเจ็บปวด
หรือความเคียดแค้น เขาตายอย่างสงบ ผมหยุดนิ่ง มองเขาอยู่อย่างเนิ่นนาน

ผมขอ อโหสิกรรมให้คุณ

ชาติก่อนที่คุณเคยทำกับลูกผม เมียผมและตัวผมนั้น มันหนักหนาเพียงใด ผมก็
ขออโหสิให้ และตั้งแต่ชาตินี้เป็นต้นไป เราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ผมขอให้เรา
เริ่มชาติหน้าด้วยไมตรีจิตและ สร้างกุศลกรรมอันดีต่อกัน

ขอให้คุณไปสู่สุคติ













บัดซบ เอ๊ย ! ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องเมื่อชาติที่แล้วแท้ ๆ !



Create Date : 14 มิถุนายน 2553
Last Update : 14 มิถุนายน 2553 17:40:24 น.
Counter : 671 Pageviews.

2 comments
The Greatest Hits (2024) ไมเคิล คอร์เลโอเน
(18 เม.ย. 2567 18:36:03 น.)
เวลาที่หายไป - บทที่ 27 ดอยสะเก็ด
(16 เม.ย. 2567 20:17:49 น.)
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
๏ ... คืนฟ้าไร้ดาว ... ๏ นกโก๊ก
(14 เม.ย. 2567 09:49:36 น.)
  

ขอแสดงความเสียใจด้วย ถ้าคุณได้ฟังเทปนี้ก็แปลว่าคุณเลือกที่จะทำมัน
ถ้าคุณไม่ฆ่าผม คุณก็จะได้รู้ว่า ลูกสาวคุณอยู่ที่ไหน เพราะผมเป็นคนเดียวที่รู้

555555

เพิ่งดู saw จบภาคสามไป

มันดูเข้าๆกันกะเรื่องนี้ไงมะรู้นะนี่ หุ หุ

โดย: cinta วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:17:53:02 น.
  
ตอนหกมาละค่า
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9389511/E9389511.html

อย่าลืมกลับไปเก็บตอนห้าให้ครบก่อนนะคร้าา ^^


ปล รักคนอ่าน ทำตาหวานใส่คนเม้น เห็นคนให้กิฟท์หน้าตาดีกว่าใคร ส่วนคนที่โหวตให้ ก็ขอให้รวยๆๆ 555

หากเมล์นี้รวบกวน แจ้งได้นะคะ


ปล 2 กะว่าจะส่งหลังไมค์ แต่ส่งมะได้แล้วอะ เลยขอมาตามทางนี้เน้อออ ^^
โดย: cinta วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:58:10 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Garnet19th.BlogGang.com

garnet19th
Location :
ขอนแก่น  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด