ณ ห้วงรัตติกาลแห่งความหวัง ราตรีที่มิไร้สุรเสียง เสียงดนตรีที่บรรเลงจากเสียงกระทบของหยาดน้ำฝนลงสู่พื้นดิน ไอละอองปลิวแผ่ซ่านผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง เมื่สัมผัสใบหน้า...ก็พลันรู้สึกเย็นซ่านเข้าหัวใจ สายฝนพลันหยุดแล้ว คงเหลือแสยงที่ว่างเปล่า เป็นเสียงราตรีมอบให้ในคืนที่ม่านรัตติกาลปิดสนิท หยาดพิรุณที่กระทบสู่เบื้องธรณี พลันได้กลิ่นไอดินหอมกรุ่นน่าสูดดม รัตติกาลมีเสียง มันถูกกำหดมาหรืออย่างไร หรือเพียงแต่โนกั่นแกล้งด้วยโชคชะตา ลมหายใจที่แผ่วเบา กำกับด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ เสียงร้องไห้ของทารกน้อย ที่เพิ่งลืมตาสัมผัสกับชีวิต เสียงร่ำไห้เศร้าโศกของผู้ที่ผูกพันธ์ ทวยเทพผู้สังคีต ช่างแปลกนัก เสียงที่เหมือนกัน...แต่ความหมายช่างแตกต่างกันนัก ห้วงแห่งราตรีเจ้าเอ๋ย ม่านแห่งรัตติกาลค่อยๆแหวกม่านออกช้าๆ แสงสุริยาประกายทอแสงแหวกนภาอย่างเงียบงัน ส่งเป็นสัญญาณการเคลื่อนมาของอรุณรุ่งวันใหม่ รัตติกาลที่เคลื่อนจากไป...ความหวังมิได้รูดม่านจากจรลี เมื่อตื่นขึ้นมาหัวใจก็ยังมีรัก 14-05-51 / 04.27 น. โรงพยาบาลชัยภูมิ |
เมื่อตื่นขึ้นมาหัวใจก็ยังมีรัก
บทความทั้งหมด
|