1 เรื่อง กบจำศีล ![]() 1 เรื่อง กบจำศีล เมื่อโลกเปลี่ยนไป ใยจึงต้องยึดเชื่อ ในสิ่งเดิม ๆ ว่าดีงาม ก้าวออกมาสิ ทำสิ่งใหม่ ๆ ได้แล้ว ฤดูนี้เป็นฤดูฝน ฝนตกทุกวันเลย ตกหนักมากเสียด้วย หลายคนพูดทำนองบ่นว่า ช่วงเวลาที่ฝนตกเหมือนเวลาเลิกทำงานเลย พอเย็นเลิกงานปุ๊บฝนจะตกปั๊บทันที ทำให้รถราในเมืองกรุงติดหนักยิ่งกว่าเดิม คนทำงานนอกบ้านแทนที่จะได้กลับบ้านกันเร็ว ๆ ไปหาครอบครัว ลูกน้อยที่น่ารัก กลับกลายเป็นต้องมานั่งมองสายฝนในรถอย่างเหงาหงอย ฝนตกหนักตอนเย็นเช่นนี้เป็นมานานหลายวันแล้ว หรือเป็นเพราะกลางวันอากาศร้อนจัดมาก พอตอนเย็นความร้อนที่สะสมทำให้ฝนตก เหตุหนึ่งเกิดจากความกดอากาศสูงกับความกดอากาศต่ำมาเจอกัน ช่องว่างระหว่างกันทำให้เกิดเม็ดฝนหล่นลงมาจากฟากฟ้าได้ ย่ามองสายฝนที่โปรยปรายลงมาเบา ๆ ในตอนแรกแล้วเปลี่ยนมาเป็นตกหนักแถมด้วยลมกรรโชกอย่างรุนแรงราวกับพายุบ้าคลั่ง พลอยทำให้นึกถึงเสียงกบที่ร้องระเบ็งเซ็งแซ่ยามฝนตกหนักเมื่ออยู่บ้านนอก ย่าเลยนึกถึงกบที่จะเป็นตัวเอกของเรื่องนี้ ย่า เมื่อวานนี้ฝนตกหนักมากทำให้ย่านึกถึงกบ วันนี้ย่าจะเล่าเรื่องกบแต่ไม่ใช่กบในฤดูฝนนะที่พวกมันจะร้องเล่นเต้นระบำกลางสายฝนอย่างสนุกสนาน แต่กบในฤดูหนาวทำอะไรหลานรู้ไหม ดนย์ กบจำศีลครับ เพราะอากาศหนาวมาก กบจะออกหากินลำบาก ย่า เก่งมากหลานรัก แต่มีบางคนบอกว่าที่กบจำศีลเพราะเป็นสัญชาติญาณ หรือเป็นธรรมชาติของกบ มันจะหาอาหารกินให้อิ่มเต็มท้องแล้วนอนนิ่งเฉย ๆ ตลอดฤดูหนาว ดนย์ ตกลงเราเลยไม่รู้ว่ากบจำศีลเพราะเหตุใดเพราะเราไม่รู้ภาษากบ และกบเรื่องนี้ไม่ใช่เจ้าชายกบที่พอเจ้าหญิงจูบจะกลายร่างเป็นเจ้าชายเสียด้วย ย่า ที่จริงคำว่าจำศีลนี่ ย่าชอบมากเลยนะ เหมือนคนถือศีลอยู่วัดวาอาราม ไม่ทำบาปทำกรรมเอาแต่สวดมนต์ภาวนา ทำจิตใจให้สงบ ส่วนกบจำศีลนี่คงคล้าย ๆ กันนั่นแหละ มันจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่กินอาหาร ไม่ทำกิจกรรมใด ๆ มันจะมุดไปอยู่ใต้ดินเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และดึงอาหารที่สะสมไว้ออกมาใช้ตลอดฤดูหนาว ที่เป็นเช่นนี้เพราะกบเป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก อุณหภูมิในร่างกายจะเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ถ้าอากาศหนาวมากมันอาจจะตายได้ง่าย ๆ ดนย์ ย่าอธิบายซะละเอียดเลยนะครับ เล่านิทานของย่าต่อดีกว่าครับ ย่า นิทานเรื่องนี้มีกบ 2 ตัวอาศัยอยู่ในป่าเดียวกัน มันคงจะเป็นเพื่อนกัน หรือเป็นพี่น้องกันดีนะ เป็นเพื่อนกันดีกว่า เพราะมันทั้งสองนิสัยต่างกัน ถ้ามันเป็นพี่น้องกันมันน่าจะต้องเชื่อฟังพ่อแม่เหมือนกันเพราะถูกเลี้ยงดูมาคล้ายกัน ดนย์ ทำไมย่าถึงคิดว่าเป็นพี่น้องกัน นิสัยจะคล้ายกันล่ะครับ ผมเห็นเพื่อนหลายคนนิสัยไม่เห็นจะเหมือนพี่หรือน้องเลย ย่า นิสัยอาจไม่เหมือนกันทีเดียว แต่การอบรมเลี้ยงดูอย่างเดียวกันย่อมหล่อหลอมให้ความคิดเห็นต่อเรื่องเดียวกันคล้ายกันได้ เอาล่ะ เล่าต่อดีกว่า เมื่อถึงฤดูจำศีลกบต้องแฝงเร้นร่างกายเป็นเวลานานเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้ กบตัวแรกเชื่อฟังคำสั่งจากกบพ่อแม่มาก กบตัวที่สองจะดื้อรั้น มักจะท้าทายความเชื่อที่ผู้อื่นสั่งไว้เสมอ มันจะไม่ทำตามใครจนกว่าจะถึงคราวจำเป็นที่บังคับให้มันต้องทำด้วยความจำใจ ดนย์ แล้วระหว่างกบ 2 ตัวนี้ ตัวใดจะดีกว่ากัน ระหว่างการเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่กับความเป็นตัวของตัวเอง ย่า ย่ายังไม่รู้เลย คอยฟังให้ถึงตอนจบดีไหม ดนย์ ถึงจะเป็นตอนจบ ผมคิดว่าย่าไม่ค่อยสรุปหรือชี้ชัดว่าใครผิดใครถูกหรือควรจะเลือกทำสิ่งใดกันแน่ ย่า ใช่แล้ว เพราะย่าอยากให้หลานคิดเองตัดสินใจเลือกด้วยตัวของหลานเอง ไม่ใช่ว่าแค่จดจำได้และทำตามเท่านั้น ย่าต้องการให้นิทานเรื่องนี้สอนให้คิดมากกว่าสอนให้รู้ วันหนึ่งเมื่อใกล้ถึงฤดูการจำศีลกบตัวแรกเตรียมหาอาหารเพื่อเก็บกักตุนไว้ใช้ตลอดฤดูการจำศีล กบตัวที่สองบอกว่า ทำไมเราต้องจำศีลด้วยนะในเมื่อเราย้ายถิ่นฐานอพยพมาอยู่ที่ป่าแห่งใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ไม่เหมือนที่เดิม ที่นั่นมันแห้งแล้ง พอถึงฤดูหนาวมันก็หนาวจัด อาหารที่เคยมีอุดมสมบูรณ์จะหมดไป จึงจำเป็นต้องเก็บกักตุนอาหารเอาไว้ และเพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายคงที่จึงต้องแอบซ่อนตัวไว้ไม่ให้ร่างกายกระทบกับอากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป ดนย์ กบตัวที่สองน่าจะพูดถูกในเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปการกระทำน่าจะเปลี่ยนไปด้วย ย่า กบตัวแรกไม่ต้องการจะเถียงกับกบตัวที่สอง มันคิดว่า ผู้ที่ชอบเถียง ไม่ยอมทำตามคำสั่งเสียของพ่อแม่นั้น เพราะเป็นผู้ที่ดื้อรั้น ชอบคิดว่าตัวเองเก่งแน่ ไม่ยอมฟังความคิดของใคร แล้วในที่สุด ผู้นั้นต้องแพ้ภัยตัวเอง กบสองตัวอยู่ด้วยกันมานาน แม้ว่ากบตัวแรกไม่อยากเถียงกบตัวที่สอง แต่ด้วยความห่วงใย จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า การเชื่อฟังผู้ใหญ่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีถึงจะไม่อยากทำตาม แต่เมื่อเป็นคำสั่งสอนเราก็ควรทำ ดนย์ ผมคิดว่า บางทีการทำตามคำสั่งมันก็ยากเหมือนกันนะ ย่า ใช่ เพราะการบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำนั้นจะต้องอาศัยความสามารถในการควบคุมตนเอง กบตัวแรกเลยบอกว่า การที่เจ้าไม่อยากจำศีลคงเป็นเพราะเจ้าไม่มีความสามารถในการควบคุมตนเองด้วยกระมังเลยอ้างโน่นอ้างนี่เพื่อที่จะหาเหตุไม่ต้องทำ กบตัวแรกเป็นกบที่ยึดมั่นในคำสอนของผู้ใหญ่ เป็นกบที่สามารถควบคุมตนเองได้ดีและเชื่อว่าคำสอนใด ๆ ย่อมมีเหตุผลเสมอ จึงเป็นกบที่พ่อแม่รัก เพราะว่านอนสอนง่าย ไม่คิดแปลก ๆ ไม่ทำตะแบง ๆ ผิดจากที่เคยมีมา ส่วนกบตัวที่สองเป็นกบที่ต้องการทำตามใจตัวเอง มันไม่อาจควบคุมตนเองให้ทำสิ่งที่มันไม่อยากทำได้ ดนย์ คนที่ควบคุมตนเองได้น่าจะเป็นคนที่ทำตามกฎระเบียบข้อบังคับของสังคมได้ดี แต่การคิดไตร่ตรองก่อนจะเชื่อน่าจะดีกว่าไหมครับ ย่า นิทานเรื่องนี้ไม่ได้บอกว่า เมื่อถึงฤดูจำศีลแล้ว ทุกอย่างจะเป็นไปตามคำสอนของกบผู้เฒ่าที่เตือนไว้ว่ากบจะต้องจำศีลและกินอาหารที่ได้สะสมไว้หรือไม่ ในเมื่อกบตัวแรกกักตุนอาหารไว้น่าจะดีกว่าไหมหรือกบตัวที่สองคิดว่าไม่ต้องเหนื่อยยากรีบกักตุนค่อย ๆ หาอาหารใส่ปากเลี้ยงท้องไปวัน ๆ จะสบายกว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่กบต้องจำศีลจริง ๆ กบตัวใดจะสบายกว่ากัน ดนย์ น่าจะเป็นกบตัวแรกเพราะได้กักตุนอาหารไว้แล้ว การเตรียมพร้อมของกบตัวแรกย่อมจะยังประโยชน์มากกว่าเพราะถ้าเหตุการณ์ไม่เลวร้ายดังเช่นอดีตอาหารที่เก็บสะสมไว้ก็ไม่ได้เสียหายใด ๆ แต่ถ้าเหตุการณ์ปกติกบสามารถดำรงชีวิตได้อย่างสบายมีอาหารให้กินได้ตลอดเวลา กบตัวที่สองคงจะบอกกับกบตัวแรกว่าเห็นไหมไม่มีประโยชน์อันใดเลยที่จะต้องลำบากเก็บกักตุนอาหารไว้สู้ใช้ชีวิตอย่างสบายไม่ต้องทำงานหนัก ย่า นิทานเรื่องนี้อยากจะเอาใจกบตัวแรกให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายอากาศแปรปรวนอย่างมาก จนกบไม่สามารถออกหาอาหารได้และกบตัวที่สองต้องลำบากอดอยากเพราะไม่มีอาหารจะกิน เมื่อมันไปขออาหารจากตัวแรกแล้วกบตัวแรกปฏิเสธอ้างว่าอาหารที่เตรียมไม่พอสำหรับกบสองตัว กบตัวที่สองจะทำเช่นไรหนอ ดนย์ กบตัวที่สองคงจะอดตายเพราะขาดอาหาร แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น กบตัวที่สองจะไปเยาะเย้ยกบตัวแรกว่า กาลสมัยเปลี่ยนไปคำสั่งสอนของผู้เฒ่าย่อมใช้การไม่ได้ แต่ผมยังสงสัยว่า คนที่เชื่อมั่นในตนเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ตามที่ย่าพูดเลย ผมคิดว่า กบตัวที่สองเป็นกบที่เกียจคร้านมากกว่าที่ไม่ยอมไปหาอาหารและกักตุน ไม่ใช่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงหรอกครับ ย่า ย่าบอกว่า กบตัวที่สองมีความเป็นตัวของตัวเองสูงจึงมักจะท้าทายความเชื่อที่ผู้อื่นสั่งไว้เสมอ มันจะลองทำในสิ่งที่มันคิดจนได้คำตอบแล้วจึงจะเลือกว่าจะทำอะไรต่อไป มันจะไม่ทำตามใครจนกว่าจะแน่ใจว่าสิ่งนั้นดีจริงและถูกต้องจริง ๆ ย่าไม่ได้พูดว่า กบตัวที่สองเชื่อมั่นในตนเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ตามที่ดนย์พูดนะจ๊ะ ดนย์ ถ้าเช่นนั้น กบตัวที่สองจะได้คำตอบว่า ปีต่อไปควรจะกักตุนอาหารหรือไม่ ถ้าปีนี้อากาศแห้งแล้งมากและออกไปหาอาหารกินไม่ได้เช่นนั้นใช่ไหมครับ แต่กบตัวที่สองควบคุมตนเองไม่ได้ที่ตรงไหนครับ ย่า คนว่านอนสอนง่ายจะทำตามคำบอกของผู้ใหญ่และทำได้ดี โดยไม่เกี่ยงงอน จึงเหมือนคนที่ควบคุมตนเองได้ดี ในขณะที่คนที่อยากลองผิดลองถูกก่อนดูเหมือนจะไม่สามารถทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการได้ในตอนแรก แต่เมื่อเขารู้ถึงความจำเป็นจริง ๆ เขาจึงจะควบคุมตนเองได้ ผู้ที่ควบคุมตนเองได้เป็นอย่างดี ย่อมจะเป็นผู้ที่ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำสิ่งใดให้สำเร็จได้สูง การฝึกฝนที่จะควบคุมตนเองให้ได้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก ต่อผู้ที่มุ่งหวังจะประสบความสำเร็จในชีวิต |
บทความทั้งหมด
|