เรื่อง กำเนิดต้นข้าว
 เรื่อง กำเนิดต้นข้าว
คุณธรรมจะให้ผลตอบแทนด้วยตัวของมันเอง Virtue is its own reward.
เมื่อทำความดี ถึงจะไม่ได้หวังผลตอบแทน แต่เชื่อแน่เถอะว่า มันมีผลดีตามมาแน่นอน และจะตอบสนองผลแห่งความดี อาจให้เห็นทันตา หรือรออีกนิดหน่อย หรือเลยไปชาติหน้า
เรื่องเล่าแบบไทย ๆ นี้มีอยู่ว่า แต่เดิมข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของมวลมนุษยชาตินั้น มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ คนไม่ต้องปลูกและเมล็ดข้าวใหญ่โต ใหญ่กว่ากำปั้นคนถึง 5 เท่าในแต่ละเมล็ด เรียกว่าข้าวเมล็ดเดียวอาจกินอิ่มไปได้ถึงหลายมื้อสำหรับคนกินน้อย ๆ  แถมด้วยกลิ่นหอมหวนเอามาก ๆ แล้วเหตุไฉนจึงกลายมาเป็นเช่นในปัจจุบันที่ผู้คนต้องปลูกข้าวกินกันเองแถมเหลือเมล็ดเล็กนิดเดียว
ข้าวเป็นพืชพันธุ์ธัญญาหารที่คนส่วนใหญ่เกือบค่อนโลกใช้กินเป็นอาหารหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวเจ้า แต่ข้าวเจ้าเองมีหลายพันธุ์ คนที่เคยกินซูชิอาหารหลักของชาวญี่ปุ่นหรือเคยกินข้าวญี่ปุ่นจะรู้ทันทีว่าแตกต่างจากข้าวบ้านเราที่ขนาดของเมล็ดและความเหนียว ข้าวญี่ปุ่นจะเมล็ดเล็กและสั้นมีความเหนียวมากกว่า ข้าวที่ชาวเม็กซิโกกินจะออกแข็งและร่วน
ส่วนข้าวเจ้าบ้านเราที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกคือข้าวหอมมะลิ  คนไทยที่ชอบกินข้าวหอมมะลิจะบอกว่านุ่มนวลและมีกลิ่นหอม ถึงแม้จะเอาข้าวที่เหลือแต่ละมื้อใส่ตู้เย็นจะยังคงความนุ่มนวลไม่แข็งกระด้าง แม่ค้าขายข้าวแกงจะนิยมใช้ข้าวเสาไห้เพราะร่วนซุยและขึ้นหม้อและราคาถูกกว่าข้าวหอมมะลิมากนัก
ถึงแม้ว่าคนค่อนโลกกินข้าวไม่ว่าจะเป็นข้าวเจ้า ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาเลย์ แต่คนปลูกข้าวโพดมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือข้าว แปลว่าคนปลูกข้าวน้อยกว่าข้าวโพดน่ะสิ
เรื่องของเรื่องที่ทำให้ข้าวเมล็ดเล็กลงและคนต้องปลูกข้าวกินกันเองนั้นเกิดจากหญิงหม้ายคนหนึ่งมักง่ายและโลภมาก นางเป็นคนนิสัยไม่ดี เอาแต่ได้ และนิสัยหยาบกระด้าง นางสร้างยุ้งฉางขนาดใหญ่แล้วให้ต้นข้าวไปเติบโตในยุ้งฉาง ด้วยนิสัยหยาบกระด้างทำให้นางชอบตีข้าวให้หักกลายเป็นเศษข้าวและเศษเล็กเศษน้อยนี้ปลิวว่อนออกไปนอกยุ้งฉาง ข้าวรู้สึกไม่พอใจที่นางปฏิบัติต่อข้าวอย่างไร้ซึ่งมารยาทอันดีงามเช่นนี้
ต้นข้าวนี้จะมีแม่พระโพสพคอยพิทักษ์ปกปักรักษา เมื่อข้าวแตกหักกลายเป็นเศษข้าวที่ปลิวว่อนไปทั่วเช่นนี้ แม่พระโพสพมีหน้าที่คอยติดตามต้นข้าวทุกต้นไปทั่วทุกหนทุกแห่งจึงรู้สึกว่ามันเป็นภาระที่หนักหนาสาหัสมากจนเกินไปซึ่งความผิดนี้เกิดจากคนเพียงคนเดียวที่ไร้มารยาท
เศษข้าวที่ปลิวไปไกลถึงยอดดอย จะเติบโตกลายเป็นข้าวดอย ส่วนที่ปลิวไปตกในน้ำกลายเป็นข้าวนาดำ แม่พระโพสพที่เคยอยู่สบาย ๆ กลับ
ต้องทนทรมานบนยอดดอยและต้องไปอาศัยอยู่กับปลาในหนองน้ำทน
ทุกข์ทรมานมากมาย
แม่พระโพสพโกรธหญิงหม้ายคนนี้มากจึงหนีไปขึ้นสวรรค์ ไม่ยอมทำหน้าที่เทวดาผู้พิทักษ์คุ้มครองต้นข้าวอีกต่อไป ต้นข้าวจึงสูญหายจากโลกนี้นับพันปี เมื่อไม่เห็นคุณค่า เมื่อไม่เคารพนบนอบแถมยังไร้มารยาทอันดีงามอีก แม่พระโพสพจึงคิดว่าทำไมเทวดาอย่างเราต้องยอมให้มนุษย์ต่ำทรามมา
ย่ำยีเช่นนี้
ต่อมาวันหนึ่งชายหนุ่มลูกเศรษฐีไปเที่ยวป่าแล้วหลงทาง เขาจึงเอาแต่ร้องไห้ บังเอิญที่ตรงนี้อยู่ใกล้กับหนองน้ำแห่งหนึ่งที่เคยมีข้าวนาดำและแม่
พระโพสพเคยมาดูแลต้นข้าวที่นี่ เหล่าบรรดาปลาจึงรู้จักแม่พระโพสพและเล่าขานสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
เมื่อปลาได้ยินเสียงร้องไห้ของชายหนุ่มที่หลงทาง ให้รู้สึกสงสารจึงเอ่ยปากบอกว่าลองอธิษฐานขอพรจากแม่พระโพสพดูสิ อาจได้รับความช่วยเหลือก็ได้ หลังจากเขาสวดอ้อนวอนแม่พระโพสพอยู่นานจึงได้รับความช่วยเหลือและได้รับรู้เหตุการณ์อันเลวร้ายที่หญิงหม้ายคนหนึ่งได้กระทำการอันมิบังควรต่อแม่พระโพสพจนนางต้องหนีขึ้นสวรรค์
เมื่อชายหนุ่มลูกเศรษฐีได้รู้ความจริงจึงอ้อนวอนให้แม่พระโพสพกลับมาอยู่ยังโลกมนุษย์ต่อไป แต่นางยืนกรานไม่ยินยอม เหล่าเทวดาต้องการให้มนุษย์ได้กินอาหารดี ๆ อีกครั้งหนึ่งจึงแปลงร่างกลายเป็นปลาและนกแก้วช่วยกันอ้อนวอนแม่พระโพสพจนนางใจอ่อน แต่มีข้อแม้ว่า ต้นข้าวจะไม่ขึ้นเองตามธรรมชาติเหมือนเดิม มนุษย์คนใดต้องการกินข้าวให้ปลูกต้นข้าวกันเอง แล้วเมล็ดข้าวจะเล็กลง
ข้อสำคัญทุกครั้งที่จะตำข้าวเอาเปลือกออกต้องทำพิธีขออนุญาตจากแม่พระโพสพก่อนทุกครั้งไป และเมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วต้องทำพิธีสู่ขวัญข้าวจึงกลายเป็นประเพณีของชาวนาที่ยึดอาชีพปลูกข้าวทำนา รวมทั้งผู้คนทั่วไปที่รู้จักแม่พระโพสพมักจะทำพิธีขอบคุณเสมอไม่ว่าก่อนจะกินข้าวแต่ละมื้อหรือในพิธีสำคัญอื่นใด เพราะเราเชื่อว่าข้าวมีจิตวิญญาณและมีแม่พระโพสพคอยพิทักษ์ปกปักรักษาอยู่
เรื่องนี้ทำให้คิดว่า คนเราต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณ รู้จักการเคารพนบนอบต่อผู้ที่สูงศักดิ์กว่า ไม่กระทำการอันหยาบช้าต่อสิ่งที่ควรเคารพนับถือ
คนไทยได้รับการปลูกฝังเรื่องการมีสัมมาคารวะ การเคารพผู้มีอาวุโส เพราะเรามีระบบอุปถัมภ์ค้ำจุนอยู่ เราจะยกย่องให้เกียรติผู้มีพระคุณแม้จะล่วงลับไปแล้ว เราจะไม่ด่าทอหรือแสดงกริยาอันมิบังควรต่อผู้ใหญ่ทุกคนไม่ว่าเราจะรู้จักสนิทสนมเป็นเครือญาติหรือแม้แต่คนที่ไม่รู้จักมักคุ้น
เราจะไม่จับศีรษะผู้ใหญ่ ไม่เล่นหัวผู้ใหญ่ ไม่พูดเล่นที่เรียกว่าลามปาม ซึ่งอาจต่างจากพวกฝรั่งที่ลูก ๆ จะเล่นหัวพ่อแม่จนคนไทยบางคนค่อนขอดเอาว่าไม่เหมาะสม เรามักมีคำสรรพนามนำหน้า เช่น พี่ ป้า น้า อา ตา ยาย กับบุคคลทั่วไปเป็นการยกย่องให้เกียรติทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน อาจเป็นแม่ค้าหรือคนที่ผ่านไปผ่านมาเท่านั้น
ชายหนุ่มลูกเศรษฐีได้ทำดีเพื่อตอบแทนบุญคุณของแม่พระโพสพที่ได้ช่วยชีวิตไว้ ความดีนี้จะตอบแทนผู้ทำความดีด้วย และเมื่อคนต้องการกินข้าวต้องปลูกข้าว เจตนาดีจึงจะได้สิ่งที่ดี รวมทั้งรู้จักทำพิธีขอบคุณผู้มีพระคุณด้วย
 
ใช่ว่าจะได้ทุกสิ่งที่หวังมาโดยง่าย
จำต้องรู้สำนึกในบุญคุณของผู้ให้
เพราะถ้าไม่ให้คงไม่ได้มา
เมื่อได้มาต้องเก็บรักษาให้ดี
ให้คุ้มค่าสมกับที่รอคอย
 
 
 
กฎแห่งกรรมทางพระพุทธศาสนาสอนว่า
ใครทำกรรมใดจะได้รับกรรมนั้นตอบแทนเสมอไม่ช้าก็เร็ว
บางคนพูดว่าเดี๋ยวนี้กรรมติดจรวด แปลว่า มันมาเร็วกว่าที่เราคาดคิดเสียอีก
กรรมคือการกระทำ ถ้าทำดีจะได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าทำชั่วตกนรกโดยพลัน เป็นคำสอนของผู้ใหญ่ที่สอนเด็ก ๆ ให้รู้จักทำแต่ความดี
คนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นความจริงเสียด้วย ที่ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว แต่เมื่อเราได้เห็นคนชั่วทำเลวในละคร ในหนัง จุดจบของนางอิจฉา หรือพวกคนใจบาปหยาบช้า มักได้รับผลตอบแทนในทางเลวร้ายเสมอ
เรื่องจริงในชีวิตล่ะ พวกคนทำบาป เลวทราม อาจไม่คิดถึงผลแห่งกรรมชั่ว เพราะไม่เคยรู้ ด้วยไม่เคยมีใครบอกกล่าว อบรมสั่งสอนในวัยเยาว์ หรือถึงรู้ก้ไม่เชื่อว่ามีจริง
พวกเขาจะได้รับคำตอบเมื่อใด น่าสงสัยอยู่ ถ้าชาติก่อนเขาทำบุญมาเยอะ จึงได้รับแต่สิ่งดีงาม เสวยสุข แต่ทำบาปชาตินี้ แล้วจะรับผลกรรมชั่วเมื่อใด ช่วยกันตอบทีนะ

 



Create Date : 07 มีนาคม 2563
Last Update : 7 มีนาคม 2563 7:08:42 น.
Counter : 589 Pageviews.

0 comments
: รูปแบบของการค้นพบตนเอง : กะว่าก๋า
(16 เม.ย. 2567 06:05:58 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 36 : กะว่าก๋า
(14 เม.ย. 2567 06:17:30 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 35 : กะว่าก๋า
(13 เม.ย. 2567 05:51:40 น.)
Day..10 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(11 เม.ย. 2567 08:25:45 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Drpk.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด