ทำไมจึงต่างกันราวฟ้ากับดิน ทำไมจึงต่างกันราวฟ้ากับดิน คำถามที่ยังคงค้างคาใจใครต่อใครหลายคน คงรวมถึงฉันด้วยว่า ทำไมเกิดมาเป็นคนเหมือนกันแต่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน บางคนเกิดมาในประสาทราชวัง หรือคฤหาสน์หลังใหญ่โต เป็นเจ้าขุนมูลนาย เป็นมหาเศรษฐี คฤหบดี แต่บางคนเกิดมาในกระท่อมปลายนา หาเช้ากินค่ำ บางคนเกิดในตรอกซอกซอยหาค่ำกินเช้าอยู่อย่างเบียดเสียดยัดเยียดในสลัมน้ำครำเน่าเหม็น เช้านี้ตื่นมาได้ฟังพระเทศน์ทางทีวี ทำให้ใจครุ่นคิดเรื่องของธรรมะ ขณะที่ฉันเดินออกมาจากซอยเพื่อขึ้นรถเมล์ไปทำงาน สายตาเหลือบไปเห็นคนบ้าใบ้เนื้อตัวดำมอมแมมกำลังนั่งแทะไก่ทอดที่คงจะมีคนใจบุญหยิบยื่นให้ด้วยความสงสารจากร้านข้าง ๆ ท่าทางของเขาลุกลี้ลุกลนคงเกรงว่าจะมีใครมาแย่งไก่ทอดจากมือของเขาไป ของอร่อย ๆ แบบนี้ใช่ว่าจะหาได้อิ่มทุกมื้อเมื่อไหร่ มองแล้วไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกเช่นไรดี ปลงสังเวชในชะตากรรมหรือสงสารในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ขณะนั่งในรถเมล์ที่แสนจะติด ผู้คนในรถเบียดเสียดกันแน่น โชคดีที่ได้นั่ง สายตาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มใส่สูทผูกไท นั่งในรถหรูราคาแพงป้ายแดงเสียด้วย ท่าทางภูมิฐานเช่นนี้คงจะรวยมาก ๆ เสียเหลือเกินเพราะทั้งรถที่โก้หรู ทั้งคนขับที่แต่งเต็มยศ และหน้าตาที่ดูหล่อเหลาเอาการในเบาะหลังกับหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ทำไมสองหนุ่มจึงแตกต่างกันมากมายเช่นนี้หนอ เสียงพระเทศน์เรื่องกรรมตามมาให้ขบคิด หรือว่าทั้งสองเคยทำกรรมที่ต่างกันในชาติปางก่อนทำให้ได้รับผลที่แตกต่างกันในชาตินี้ ถ้าไม่ใช่กรรมเก่าจะหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่า ทำไมคนจึงแตกต่างกันมากมายทั้งที่เป็นคนเหมือนกันได้เช่นไร คำสอนในพระพุทธศาสนาสอนว่า ที่ผลเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุเป็นเช่นนี้ นั่นแสดงว่า ผลเกิดจากเหตุ ไม่ได้เกิดมาลอย ๆ ทุกสิ่งมีเหตุเป็นปัจจัยเกื้อหนุน อาจมาจากกรรมเก่าในชาติก่อนที่ส่งผลสะท้อนมา หรือจากกรรมใหม่ที่เพิ่งทำในชาตินี้ส่งผลมาสด ๆ ร้อน ๆ
|
บทความทั้งหมด
|