หนัง 7 เรื่องบนเครื่องบิน + 1 เรื่องที่ไปดูมาวันนี้

บินไป-กลับ กรุงเทพฯ - นิวยอร์ค เที่ยวละ 17 ชั่วโมง เลยไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่า นอนและดูหนัง ไม่ค่อยอยากอ่านหนังสือ เพราะต้องเปิดไฟ เกรงใจคนอื่นๆ ที่นอนหลับ)) เลยได้ดูหนังหลายเรื่องหน่อยค่ะ จอเล็ก แสงสะท้อนแยะ ดูซะตาโหลเลย ^^" ถึงจะไม่ได้อารมณ์แบบดูหนังโรง แต่ก็เป็นการฆ่าเวลาที่ใช้ได้เลยทีเดียว ^^

กรุงเทพฯ - นิวยอร์ค


The Devil Wears Prada (2006)




หนังที่สร้างมาจากหนังสือแนวกึ่ง Chic-lit ชื่อเดียวกัน ... ตอนที่หนังสือออกใหม่ๆ ที่อังกฤษ มีเพื่อนบอกว่าหนังสือไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ก็เลยไม่ได้สนใจที่จะอ่าน พอดีหนังสร้างออกมาก่อน ก็เลยคิดว่าคงจะไม่อ่านหนังสือแล้วล่ะค่ะ เพราะไม่ใช่แนวที่ชอบซักเท่าไหร่ แหะๆ

เรื่องราวของสาว Andy Sachs (Anne Hathaway) ที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยใหม่ๆ เข้าไปทำงานเป็น second assistant ของ Miranda Priestley "เจ้าแม่" ของนิตยสาร Runway นิตยสารแฟชั่นชื่อดัง เพื่อหวังว่า นี่จะเป็นบันไดไปสู่การเป็นนักข่าวอย่างที่เธอต้องการ

Miranda ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายที่เอาใจยากที่สุดคนหนึ่ง ตอนแรกๆ Andy ซึ่งไม่รู้เรื่อง ไม่สนใจเรื่องแฟชั่น แถมค่อนไปทางดูถูก "สาวแนว Runway" ไม่สามารถทำงานได้ดี แต่ในที่สุดเธอก็พยายามทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ ก้าวขึ้นมาเป็น assistant ที่ Miranda ยอมรับได้ แต่ขณะเดียวกันนั้น เธอก็เริ่มสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง เพื่อนรอบข้าง และคนรักไปอย่างช้าๆ

แต่ในที่สุดสาว Andy ก็พบกับคำตอบที่ว่า balance ระหว่างความทะเยอทะยาน ความฝัน - ตัวตนของตัวเองและความสัมพันธ์กับคนรอบกายอยู่ที่ไหน

....

หนังดำเนินไปในแนวทาง Chic-lit ค่อนข้างธรรมดา ไม่มีพลิกผันอะไร ก็ดูได้เพลินๆ ค่ะ แฟชั่นในเรื่องสวยดี ^^



The Lake House (2006)




หนังรักข้ามเวลาที่ดัดแปลงมาจากหนังเกาหลี ไอซ์ยังไม่ได้ดูต้นฉบับเลยไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่า เหมือนหรือแตกต่างกันยังไงบ้าง

เรื่องเริ่มต้นที่วันวาเลนไทน์ ... คุณหมอสาว Kate Forster (Sandra Bullock) เห็นอุบัติเหตุตรงหน้า และคนที่ประสบอุบัติเหตุนั้นก็ตายในอ้อมแขนของเธอ เธอไม่สบายใจจึงไปที่ Lakehouse บ้านริมทะเลสาปที่เธอเคยเช่าอยู่

ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อเธอได้รับจดหมายจาก Alex Wyler (Keanu Reeves) ซึ่งอ้างว่า เคยอยู่บ้านหลังนั้นเช่นเดียวกัน ....

ทั้งสอง support ซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นความรักขึ้น ... ปัญหาก็คือ ทั้งสองอยู่กันคนละช่วงมิติเวลา

....

หนังโรแมนติกที่ดูได้พอเพลินๆ ค่ะ พล็อตเก๋ดี แต่กลับดูแล้วไม่ประทับใจ ไม่รู้เหมือนกันว่า ขาดอะไรไป งืม อาจจะเอื่อยๆ ไปหน่อยก็ได้มั้งคะ



The Break-Up (2006)




Gary Grobowski (Vince Vaughn) กับ Brooke Meyers (Jennifer Aniston) คู่รักที่คบกันมาระยะหนึ่ง จนความสัมพันธ์มาถึงทางตัน เพราะความไม่เข้าใจกันและกัน

Brook ยังรัก Gary อยู่ เธอพยายามทำให้เขากลับมาคืนดี แต่ดูเหมือนว่า สิ่งที่เธอทำเองคิดเองทั้งหมด จะยิ่งทำให้เขาห่างออกไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกับ Gary ที่คิดว่า Brook ผลักไส ก็ต่อต้าน ประชดประชันมากยิ่งขึ้น ((โดยที่ทั้งสองมีเพื่อน - ญาติ - พี่น้อง ที่ยิ่งช่วยกันทำให้ความสัมพันธ์ร้าวฉานมากยิ่งขึ้นไปด้วย))

ทั้งสองซื้อแฟลตร่วมกัน เมื่อความสัมพันธ์ล้มเหลว ก็จำเป็นต้องขายแฟลต ระยะเวลาเวลาที่รอให้มีคนมาซื้อและย้ายออก เป็นเวลาที่คนทั้งคู่ต่างได้เรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

......

ฮะๆ จะบอกว่า เรื่องนี้ดีกว่าที่คิด ถึงตอนแรกๆ ไอซ์คิดว่า หนังอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง Gary กับ Brook สั้นไปนิด เพราะมีแค่ฉากที่ปิ๊งกัน แล้วต่อมาก็เป็นรูปถ่ายบอกเรื่องราวของทั้งสอง ไอซ์คิดว่ามันเร็วและน้อยไปหน่อย ทำให้ไม่เห็นว่า สองคนนี้รักและอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ได้ยังไง เลยทำให้ช่วงหลังๆ อินน้อยไปหน่อย

แต่ถึงจะบอกว่าอินน้อย ก็ต้องสารภาพว่า ดูหนังเรื่องนี้ไปร้องไห้ไปค่ะ ฮา ... หนังเรื่องนี้อธิบายทฤษฎี Men are from Mars and Women are from Venus ได้ดีจริงๆ ผู้หญิงกับผู้ชายคิด และมองปัญหาในเรื่องต่างๆ แตกต่างกัน และเมื่อต่างฝ่ายไม่สามารถเข้าใจอีกฝ่ายได้ มันก็ล้มเหลว

ชอบตอนจบของเรื่องนี้ค่ะ คิดว่ามันลงตัวดีที่สุดแล้ว ^^



Alchemy (2005)




Mal Downey (Thomas Cavanagh) โปรเฟสเซอร์ด้านคอมพิวเตอร์ประสบปัญหา เพราะเงินทุนถูกตัด เขาจะต้องหาทางตีพิมพ์บทความกับที่ไหนให้ได้สักที่ และเขาก็คิดโปรเจ็คทดลองขึ้นมาได้ เขาต้องการทดลองว่า คอมพิวเตอร์กับคน ใครจะทำให้สาวตกหลุมรักได้เร็วกว่ากัน ... การแข่งขันชิงหัวใจของ Samantha Rose (Sarah Chalke) ระหว่าง คอมพิวเตอร์ซึ่งมี Mal เป็นคนประดิษฐ์กับ Troy Rollins (James Barbour) ศาสตราจารย์ปากหวานผู้ซึ่งได้ฉายาว่า Dr. Love จึงเริ่มขึ้น

....

เรื่องรักกุ๊กกิ๊กธรรมดาที่สองฝ่ายแข่งกันแย่งชิงหัวใจของสาวคนเดียวกัน แล้วก็ดันตกหลุมรักเจ้าหล่อนขึ้นมาจริงๆ ... เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกว่า ไร้สาระชะมัดเลยค่ะ ฮา พล็อตหลวม จะให้เป็น Romantic comedy ก็ไม่ค่อยตลก ที่สำคัญ บทยังไม่แน่นพอที่จะทำให้เห็นว่า ใครรักใครได้ยังไง ... ส่วนตัวคิดว่า ไม่สนุกอย่างแรงอะค่ะ



นิวยอร์ค - กรุงเทพฯ


Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl (2003)


เมื่อตอนเป็นเด็ก Elizabeth Swann (Keira Knightley) ลูกสาวของเจ้าเมือง ได้ช่วยชีวิต Will Turner (Orlando Bloom) เอาไว้จากทะเล เธอเห็นเขาห้อยเหรียญที่มีสัญลักษณ์หัวกะโหลก และรู้ว่าเขาเป็นโจรสลัด แต่ก็ตัดสินใจเก็บเหรียญนั้นเอาไว้ Will จึงเติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้เลยว่า ในตัวของเขามีเลือดของโจรสลัดไหลเวียนอยู่

กัปตันโจรสลัด Jack Sparrow (Johnny Depp) วางแผนที่จะชิงเรือ Black Pearl ... เรือต้องคำสาป เรือที่เขาโดนลูกน้องทรยศกลับคืนมา

เนื่องจาก Elizabeth ถูก Barbossa (ลูกน้องทรยศและเป็นกัปตันเรือ Black Pearl คนปัจจุบัน) จับตัวไป Sparrow และ Will จึงจำเป็นต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างบรรลุเป้าหมาย

....

ความจริงเรื่องนี้ไอซ์เคยดูในโรงมาแล้วล่ะค่ะ แต่เนื่องจากเพิ่งกลับมาจากทะเลแถบแคริเบียน ก็เลยดูซ้ำเพื่อให้เข้าบรรยากาศ เรื่องก็สนุกสนานสไตล์วรรณกรรมเยาวชน ดูเพลินดีค่ะ ^^



The Sentinel (2006)




เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ทำงานรักษาความปลอดภัยให้กับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาถูกฆ่าตาย จึงต้องมีการสอบสวนขึ้น และเจ้าหน้าที่ที่ถูกดึงเข้ามารับผิดชอบหน้าที่นี้ก็คือ David Breckinridge (Kiefer Sutherland) และคู่หูสาวสวยคนใหม่ Jill Marin (Eva Longoria)

สืบไปก็พบว่า เจ้าหน้าที่ผู้ตายอาจจะไปรู้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการลอบสังหารประธานาธิบดี และผู้ต้องสงสัยอันดับแรกก็คือ Pete Garrison (Michael Douglas) เพราะเขาไม่ผ่านการตรวจ lie detector

Pete จึงตกเป็นผู้ต้องสงสัย ในขณะเดียวกับที่เขาเองก็กำลังมีปัญหาใหญ่ เพราะกำลังถูกแบล็คเมล์จากมือลึกลับ ที่มีหลักฐานว่า เขามีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสตรีหมายเลขหนึ่ง...ภรรยาของประธานาธิบดี Sarah Ballentine (Kim Basinger)

Pete ตัดสินใจหนีเพื่อหาตัวการ โดยมี David ไล่ตามอย่างไม่ลดละ ขณะเดียวกับที่คนร้ายตัวจริงกำลังเตรียมการสังหารประธานาธิบดี

....

เป็นหนังเรื่องที่รวมดาราดังๆ เอาไว้คับคั่งเชียวค่ะ ^^ แต่เสียดายที่การดำเนินเรื่องมันหลวมๆ ยังไงก็ไม่รู้ อาจจะเพราะดาราดังมากเกินไป ทำให้ต้องกระจายบท เลยกระจายมากจนขาดความกระชับ และแอบรู้สึกว่า Michael Douglas ไม่ค่อยเหมาะกับบทบาทนี้สักเท่าไหร่ ...
รวมๆ แล้วก็ดูสนุกดีนะคะ แต่ดูจบแล้วก็จบกัน ไม่เหลืออะไรไว้ในสมองเลย เสียดายค่ะ...น่าจะทำได้ดีกว่านี้



Take the Lead (2006)




เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงค่ะ

Pierre Dulaine (Antonio Banderas), ครูสอนเต้นรำ รับอาสาสอน Ballroom dancing ให้เด็กมีปัญหา ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเด็ก "เหลือเดน" เขาเชื่อว่า การเต้นรำนี้ จะสามารถช่วยเหลือเด็กพวกนี้ได้

....

เป็นหนังที่ดูสบายๆ สไตล์ ครูที่เข้ามาช่วยเหลือเด็กมีปัญหา และก็ประสบความสำเร็จในตอนท้าย เนื้อหาไม่มีอะไรมากมาย แต่ฉากเต้นรำสวยๆ เยอะดีค่ะ โดยเฉพาะฉากเต้น Tango ในการแข่งขัน เร่าร้อนดี อิอิ



ส่วนเรื่องสุดท้าย เพิ่งดูกลับมาตะกี้นี้เอง

Crank (2006)




Chev Chelios (Jason Statham) นักฆ่ามืออาชีพ ดันโดนวางยาพิษขณะนอนหลับ เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 60 นาทีเท่านั้น และวิธีเดียวที่จะชลอพิษนี้ได้ เขาจะต้องทำให้สารอะดรีนาลีนหลั่งตัวตลอดเวลา ... เขาใช้ช่วงเวลาสุดท้ายไล่ล่าคนที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้

....

ฮะๆ หนังเกรด B ของแท้ เป็น Comedy action ที่ดูเอาเพลินพอไหวค่ะ พล็อตไม่มีอะไรเลย วิ่งแหลกทำลายล้างอย่างเดียว ให้จ่ายตังส์ไปเอง ไม่ดูนะเนี่ย ฮา -"-

หมดแล้วล่ะค่ะ ฮา อืม...ดูหนังหลายเรื่อง แต่ไม่ประทับใจเรื่องไหนเป็นพิเศษซักเรื่องเลยแฮะ แหะๆๆๆ ^^"

Create Date : 22 ตุลาคม 2549 Last Update : 22 ตุลาคม 2549 15:59:20 น. Counter : 1815 Pageviews.		10 comments
Share Tweet

	เรื่องเล่าของอีสป : เซอร์ โรเจอร์ เลสเตร็นจ์ มาช้ายังดีกว่าไม่มา (6 ม.ค. 2566 18:39:48 น.)		Singha Park - RiRi Teahouse mariabamboo (6 ม.ค. 2566 18:31:57 น.)
	🐰 ได้รับพรดีๆจากปากพระในบ้านต้อนรับปี 🐰 โอน่าจอมซ่าส์ (4 ม.ค. 2566 10:48:02 น.)		: พู่กันเดียว - จิตของผู้ที่เริ่มต้นฝึกฝนตนเอง : กะว่าก๋า (9 ม.ค. 2566 04:14:48 น.)