ทนายอ้วนกลับบ้าน ตอนที่ 10 วันที่เจ็ดในเมลเบิร์น Melbourne Zoo

วันนี้เราจะไปเที่ยว Royal Melboune Zoo กันนะครับ คงใช้เวลาครึ่งเช้าทั้งครึ่งเลย วิธีไปก็ง่ายมากครับเลือกได้ 2 ทางคือจะขึ้นรถไฟสาย Upfield ที่สถานี Souther Cross ไปลงที่สถานี Royal Park ก็ได้ หรือว่าจะนั่งแทรมสาย 55 ที่วิ่งบนถนน William Street ไปลงที่ Royal Park ก็ได้ครับ

เดี๋ยววันนี้เราจะนั่งแทรมไปกันครับ เรานั่งแทรมจากโรงแรมมาลงที่ William Street แล้วก็มาต่อแทรมสาย 55 ตรงหัวมุมถนน La Trobe Street ตัดกับ William Street ตรงนั้นจะมีสวนขนาดไม่ใหญ่มากชื่ Flagstaff Garden ครับ

ฝั่งตรงข้ามกันคือโรงกษาปณ์ของ Melboune เรียกว่า The Mint




เรานั่งแทรมมาเรื่อยๆครับ ผ่าน Queen Victoria Market ที่เราตั้งใจว่าจะแวะซื้อของในช่วงบ่าย ผ่าน Royal Hospital Melbourne และ Royal Children Hospital ทางขวามือ ก้อเตรียมตัวลงได้ครับ

พอลงจากแทรมแล้วประตู Zoo ก็อยู่ตรงหน้าเลยครับ เสียค่าเข้าคนละ 18 เหรียญ แตเอาส่วนลดมาจากหนังสือ That's Melbourne ที่หยิบมาจากสนามบินตอนที่เพิ่งมาถึง แป๊บเดียวก็เข้ามาอยู่ใน สวนสัตว์กันแล้วครับ

กรงแรกที่เราไปเยี่ยมเยียนก็คือกรงของเจ้าจิงโจ้ กับนกอีมู ครับ เจ้าสัตว์พวกนี้ไม่ค่อยเป็นอัตรายกับคนนะครับ ยกเวนว่ามันจะกระโดดถีบ หรือโดดเตะ ถ้าจิงโจ้กระโดดเตะละก้อถึงขั้นสาหัสเลยครับ เพราะเล็บเท้ามันยาวมากๆ เย็บหลายเข็มเชียว แต่ยากมากครับที่มันจะกระโดดเตะ เราก็พยายามอย่าไปยั่วมันครับ คอยสังเกตุว่าจิงโจ้ตัวไหนยืนตรง ทำตัวสูงๆ ก็อย่าไปเข้าใกล้นะครับ นั่นแสดงว่ามันกำลังจะท้าสู้ครับ ไม่ว่าสัตว์ตัวไหนที่อยู่ข้างหน้ามันแล้วทำตัวสูงเท่ากับมัน มันจะสู้ด้วยทันทีครับ





กรงต่อมาคือพวกนกต่าง ออสเตรเลียนี่มีนกแก้วเยอะครับ เค้าจะเรียกพวกนกแก้วรวมๆว่า Lollies ครับ แต่ถ้าตัวใหญ่เค้าจะเรียก Galahs ถ้าเป็นพวกมีหงอน เรียก Cocktiels ครับ



นกที่แปลกที่มีแต่ในออสเตรเลียก็มี Kookaburra ครับ เสียงร้องของมันเหมือนเสียงหัวเราะดัง "วะ อะ อะ อ่า" มากเลยครับ ถ้าออกไปนอกเมืองสักหน่อยจะได้ยินเสียงของมันบ้างครับ

นกอีกชนิดหนึ่งที่อันตรายมากๆคือ Magpie หรืออีกาครับ อีกาที่นี่ตัวใหญ่มากๆๆๆ ครับ ในช่วงวางไข่นกชนิดนี้จะดุเป็นพิเศษครับถึงกะไล่บินจิกคนที่เข้าใกล้ เคยเป็นข่าวออกโทรทัศน์มาหลายรายแล้วครับ




นก Ibis นกเขา นกพิราบ พวดนี้ไม่อันตรายแต่น่ารำคาญครับ ชอบแย่งอาหารกินจากมือเลย ส่วนเจ้านกพิราบก็ตัวอ้วนมากแถมไม่กลัวคน กลัวรถด้วย รถวิ่งมาใกล้ๆ ยังไม่บินหนีเลยครับ



จากนั้นก็ไปดูสัตว์อีกชนิดนึงที่เป็นเหมือสัตว์ประจำชาติของออสเตรเลีย นอกจากจิงโจ้นั่นก็คือเจ้า Koala ครับ เจ้านี่ไม่ใช่หมีนะครับ เป็นสัตว์จำพวก Mazupain เหมืนกับจิงโจ้นี่หละครับ เจ้านี่จะเป็นสัตว์ขี้เซาอย่างมากๆ เพราะว่าใบยูคาลิปตัสที่เป็นอาหารของ Koala นี่มันมีฤทธิ์ที่ทำให้ง่วงนอนครับ และกว่า 80 % ของใบยูคาลิปตัสเป็นไฟเบอร์ เพราะฉะนั้น Koala จึงต้องพยายามรักษาพลังงานเอาไว้โดยการนอนครับ มันนอนมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อวันเลยครับ ไม่แปลกนะครับที่เราจะเห็น Koala หลับมากกว่า Koala ตื่น อิอิอิ

จากนั้นเราก็มาที่กรงนกยูง แมวน้ำ แล้วก็เจ้า ลีเบอร์ครับ





ความจริง Royal Melbourne Zoo ยังมีสัตว์ให้ดูมากมายนะครับ อยู่ที่นี่ได้ครึ่งวันเลยครับ

ออกจาก Zoo เราก้นั่งแทรมสาย 55 มาลงที่ หน้า Queen Victoria Market ได้เลยครับ สังเกตุง่ายๆครับ Queen Victoria Market จะอยู่ทางซ้ายมือที่มีลานกว้างๆ มีคนเยอๆครับ

เราซื้อของสดเล็กน้อยเพื่อเอากลับไปทำอาหารเย็นกันครับ

แล้วก็นั่งแทรมสาย สาย 57 กับ 59 ก็ได้ครับมาลงสุดสายที่ Flinder Street Station แล้วเดินมาตรงที่เป็นโดมเหลืองใหญ่ๆ ฝั่งตรงข้ามคือ Federation Square ครับ เป็นสถานที่ที่ถูกกำหนดให้เป็นลานกว้างใจกลางเมือง เพื่อใช้เป็นที่รวมตัวกันของชาวเมืองเวลามีงานสำคัญๆ เจ้า Federation Square นี่ก็ถูกพัฒนามาจากพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเหมือนกันครับ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2002 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 100 ปีของการรวมตัวของรัฐต่างๆเป็นประเทศออสเตรเลียครับ บริเวณ Federation Square จะมีสถานที่น่าสนใจอยู่หลายที่นะครับ เช่น Melbourne’s Visitor Centre ตั้งอยู่ชั้นใต้ดิน เป็นแหล่งรวมรวมข้อมูลท่องเที่ยวขนาดใหญ่เกี่ยวกับเมลเบิร์นเองและรัฐวิคทอเรียด้วยครับ Ian Potter Centre: National Gallery of Australia และ Australian Centre of the Moving Image ก็เป็นสถานที่ที่พลาดไม่ได้สำหรับคนรักศิลปะทั้งในแนว Classic และ Contemporary เลยครับ

ฝั่งตรงกันข้ามกับ Federation Square คือ มหาวิหาร St. Paul ที่มีขนาดใหญ่มากๆ สร้างขึ้นระหว่างปี 1880 –1891 ครับ





แล้วเราอเดินเล่นๆรอเวลาเย็นๆเพื่อขึ้นไปถ่ายรูปบน Observation Deck : Rialto Building

Rialto Building นี่ถือว่าเป็นอาคารสำนักงานที่สูงที่สุดใน Melbourne เลยนะครับ ภายนอกเป็นกระจกทั้งหมดซึ่งจะเปลี่ยนสีได้ในวันอากาศดีครับ

Observation Deck จะอยู่บนชั้นที่ 55 จะเลือกขึ้นบันได 1254 ขั้นก็ได้นะครับ แต่ผมจะขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงไปรอข้างบนก่อนละครับ อิอิอิ

พอซื้อบัตรเสร็จก็จะมีวิดีโอให้ชม 15 นาทีก่อนครับ แล้วก็ขึ้นลิฟต์ที่มีความเร็วถึง 25 กม / ชั่วโมง ไม่ถึงอึดใจก็ขึ้นมาข้างบนแล้วครับ

บน Observation Deck นี่สามารถมอง Melbourne ได้ไกลถึง St. Kilda เลยนะครับ ส่วยทางตะวันออกก้อไกลถึง Caufield โน่นแหละครับ เค้าจะมีแผนที่ติดไว้ให้ดูด้วยนะครับว่าถ้าไปทางี้จะเห็นอะไรบ้าง

เราเดินอยู่จนมืดเลยครั เพราะต้องการจะถ่ายรูปจากบนตึก Rialto ตอนกลางคืมมาฝากด้วยครับ เป็นไงบ้างครับ สวยหรือเปล่า อิอิอิ

Create Date : 14 เมษายน 2552 Last Update : 31 มีนาคม 2553 8:46:19 น. Counter : 1508 Pageviews.		1 comments
Share Tweet

	ข้าวหมูแดงสุณี ตลาดพลู & ข้าวหมูแดงศิริพร โภชนา เสาชิงช้า & ขนมครกไข่ เจริญกรุง103 peaceplay (24 เม.ย. 2567 06:22:08 น.)		บางปู : นกกาบบัว ผู้ชายในสายลมหนาว (19 เม.ย. 2567 10:34:34 น.)
	วัดพุทไธศวรรย์ ดาวริมทะเล (18 เม.ย. 2567 17:54:51 น.)		The Proud Exclusive Hotel นครปฐม ที่พักทันสมัยใจกลางเมือง แมวเซาผู้น่าสงสาร (17 เม.ย. 2567 09:22:45 น.)