ผมเองได้รับมอบหมายให้ไปเยือนโรงแรมที่เข้าประกวดในโครงการ TBA นี้ทั้งหมด 6 แห่งครับ ที่ "บ้านชาติ" นี้เป็นแห่งสุดท้ายแล้วที่ผมมีโอกาสได้ไปเยือน ถ้ายังไม่ได้ชมรีวิว 5 แห่งที่ผ่านมาตามกันไปได้เลยฮะ

1. สิงหมนตรา ลานนาบูติคสไตล์ เชียงใหม่

2. Makka มรรคา เชียงใหม่

3. แรมริมนา เชียงใหม่

4. นากายา รีสอร์ท สวนผึ้ง 

5. เอา-เทีย-รัว ออแกนิคฟาร์ม แอนด์ รีสอร์ท สวนผึ้ง

ตามไปชมโรงแรมแห่งสุดท้ายในโครงการฯ ของผมได้เลยฮะ

" บ้านชาติ " โรงแรมขนาดกลางแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนจักรพงษ์ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่ที่ตัดผ่านย่านการค้าสำคัญอย่างบางลำพูและถนนสายท่องเที่ยวอย่างถนนข้าวสารฮะ ตัวโรงแรมจะอยู่ตรงกันข้ามกับวัดชนะสงครามพอดี หาไม่ยากครับจุดเด่นเลยก็คืออาคารสีน้ำเงินเด่นสะดุดตาที่ด้านบนมีป้ายชื่อโรงแรมบอกอยู่ ถ้าขับรถมาก็สามารถจอดรถที่ริมถนนหน้าโรงแรมได้เลยมีรปภ.ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงครับ

เดินเข้ามาที่ชั้นล่างของโรงแรมจะมีเค้าเตอร์เช็คอินอยู่ฮะ เข้ามาก็จะเห็นได้เลยว่าสไตล์การตกแต่งของโรงแรมเป็นแบบอินโดจีน มีกลิ่นไอความเป็นจีนอยู่มากพอสมควรสังเกตุได้จากตัวเค้าเตอร์ ลายฉลุ และลายหน้าต่างด้านหลัง





ได้เวลาเข้าไปดูห้องพักกันบ้างครับ .. โรงแรมบ้านชาติมีห้องพักทั้งหมดเพียง 42 ห้องแบ่งตัวอาคารออกเป็น 4 ชั้น โดยชั้นล่างสุดจะเป็นส่วนต้อนรับและห้องอาหาร ชั้นที่ 2-4 จะเป็นห้องพักโดยมีชั้นพิเศษคือชั้นที่ 5 เป็นสระว่ายน้ำ

เราขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 4 กันฮะห้องพักของเราอยู่บนชั้นนี้

ห้องพักของที่นี่จะมีทั้งหมด 3 รูปแบบครับ คือ

1. Amazing Indo-China

เป็นห้องพักแบบที่ส่วนตัวผมชอบที่สุดเพราะผมว่ามันดูร่วมสมัยดีฮะ เตียงขนาด 6 ฟุต หัวเตียงตกแต่งด้วยลายอิฐ เฟอร์นิเจอร์เป็นไม้สีอ่อน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบทั้งทีวีตู้เย็น ห้องน้ำขนาดกำลังดีตกแต่งสวยงามฮะ

ห้องแบบที่สอง Chinese Inspired

เป็นห้องแบบที่ออกจีนจ๋าหน่อยครับ ทั้งเตียงนอนไม้ ทั้งตกแต่งหัวนอนด้วยวอลเปเปอร์ลายดอกไม้แนวจีนๆ ห้องจะเป็นโทนสีน้ำตาลดูทึบๆหน่อยฮะ 

ห้องแบบที่สาม Blue Heritage

ห้องโทนสีน้ำเงินจะดูเรียบหรู แต่โดดเด่นตรงลายกระเบื้องสีสันสดใส ห้องทั้ง 3 แบบจะมีขนาดเท่ากันหมดและมีให้เลือกพักทั้งแบบเตียงเดี่ยวขนาด 6 ฟุตและเตียงคู่ครับ

แบบเตียงคู่ 

ปิดห้องไว้ก่อน เดี๋ยวพาขึ้นไปดูบนชั้นที่ 5 กันว่ามีอะไร

บนชั้นดาดฟ้าซึ่งเป็นชั้นที่ 5 จะเป็นชั้นสระว่ายน้ำฮะ จะมี Pool Bar ให้บริการด้วย สระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนักคงเนื่องจากขนาดของห้องพักและข้อจำกัดของพื้นที่ด้วย

มาดูบรรยากาศยามค่ำคืนกันบ้างเนอะ ช่วงค่ำๆจะเป็นช่วงที่รอบๆโรงแรมคึกคักครับ เนื่องจากเป็นพื้นที่แถวๆถนนข้าวสารก็เลยจะมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติเดินไปมากันเยอะ รวมไปถึงร้านอาหารและบาร์ต่างๆก็เยอะไปด้วย

เค้าเตอร์เช็คอินมองแล้วรู้เลยว่าโรงแรมออกแบบสไตล์ไหน





ด้านหน้าของโรงแรมมีพื้นที่ให้เช่าด้วยนะครับ ที่เห็นเป็นร้าน Starbucks อีกฝั่งนึงเป็น Burger King ส่วนตรงกลางเป็นร้านอาหารแบบ Open Air ที่ชื่อว่า Court Yard Restaurant เปิดบริการสำหรับลูกค้าของทางโรงแรมและลูกค้าทั่วๆไปตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนฮะ อาหารเช้าเราก็ต้องลงมาทานที่นี่เช่นกัน







นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมี Bar ที่ชื่อ Fu Bar Khaosan เปิดให้บริการอยู่ด้านข้างโรงแรมอีกด้วย บาร์นี้จะเปิดให้บริการช่วงเวลา 5 โมงเย็นจนถึงตี 2 ของทุกวัน โดยมีทั้งอาหารไทยและนานาชาติ รวมทั้งเครื่องดื่มนานาชนิดไว้คอยบริการ อีกทั้งที่ Fu Bar จะมีวงดนตรีเล่นเพลงสดๆให้ฟังทุกคืนอีกด้วย





คืนนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะไปนั่งทานอาหารที่ Court Yard Restaurant กันฮะ

ที่จริงอาหารของทั้ง Court Yard Restaurant และ Fu Bar Khaosan ออกจากครัวเดียวกันฮะเพียงแต่เราเลือกได้ว่าอยากนั่งชิลๆหรือไปนั่งในบาร์

อาหารที่สั่งมีออเดิร์ฟเป็นเม็ดมะม่วงยำ (ใส่จานสังกะสีมาเลย เก๋ๆ)

เอามาทานกับเครื่องดื่มที่เป็น Signature ของโรงแรม เข้าก๊านนเข้ากัน

หมูแดดเดียว

มัสมั่นไก่ (แอบเหนียวไปหน่อย แต่รสชาติดีนะ)



เนื้อกระทะร้อน



ตบท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง



ถ้าชอบดนตรีเบาๆก็มาฝั่งนี้ครับ มี Acoustic ให้ฟังชิลๆด้วยเสียงดีเชียวน่าไปประกวดอะไรซักอย่างนะ อิอิ

อิ่มแล้วยังสามารถเไปเดินเล่นผึ่งพุงต่อที่ถนนข้าวสารที่อยู่ใกล้ๆกันได้อีกด้วย







เช้าวันรุ่นขึ้น .. ลงมาสำรวจด้านล่างคนละอารมณ์กับเมื่อคืนเลยครับ ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติไม่คึกครื้นเหมือนเมื่อคืนเลย





ลูกค้าหลายๆคนก็เริ่มทะยอยลงมาทานอาหารเช้ากันแล้ว อาหารเช้าที่นี่จะเสิร์ฟถึง 10 โมงนะครับ

อาหารเช้าเป็นแบบง่ายๆครับ เป็น ABF แบบชุด มีไข่ที่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาไข่แบบไหน ที่เหลือจะเป็นไส้กรอก แฮม เบค่อน ขนมปัง และชาหรือกาแฟครับ อาหารเช้าสำหรับลูกค้าทั่วไปก็มีให้บริการนะครับ รู้สึกจะเริ่มต้นที่ 150 บาท



ได้เวลาเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันแล้ว



บทสรุป ..

โรงแรม"บ้านชาติ" เป็นโรงแรมสไตล์เมืองที่เน้นการพักผ่อนแบบสบายๆ ถึงห้องจะไม่ใหญ่โตมากนักแต่การนอนสบายมากครับ คงเนื่องจากเพราะโรงแรมค่อนข้างใส่ใจกับเรื่องของที่นอนและหมอนเป็นพิเศษ สไตล์การออกแบบห้องทั้ง 3 แบบเน้นความเป็นเอเชียเรียบง่าย จุดเด่นที่สุดน่าจะเป็นที่ตั้งฮะน่าจะดึงดูดลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติที่ต้องการมาท่องเที่ยวเพราะถ้าพักที่นี่จะได้เที่ยวทั้งรอบเกาะรัตนโกสินทร์ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนที่โด่งดังอย่างถนนข้าวสารอีกด้วย

เรื่องของข้อด้อยก็คงเป็นเรื่องของเสียงจากภายนอกเพราะโรงแรมอยู่ใกล้ถนนเราจะได้ยินเสียงจากเครื่องยนต์ของรถผ่านไปมาบ้าง แต่เสียงดนตรีตอนกลางคืนผมกลับไม่รู้สึกว่ามันดังขึ้นมารบกวนเท่าไหร่ฮะ

"บ้านชาติ" มีเจ้าของเป็นคนไทยที่เกิดและโตอยู่บริเวณนี้ จึงอยากที่จะสร้างโรงแรมแนวเรียบง่ายไม่ได้หรูหราเกินไปจับต้องได้ให้นักท่องเที่ยวได้มาพัก โดยใช้ชื่อของคุณพ่อมาเป็นชื่อโรงแรมให้ดูเหมือนคนที่มาพักได้มาพักบ้านเพื่อน ให้ความรู้สึกสบายๆเป็นกันเอง ด้วยราคาห้องพักที่ไม่แพงมากเมื่อเทียบกับเกสเฮ้าส์ในแถบนั้นแลกกับความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นหน่อย ที่นี่เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจครับ



ขอบคุณสำหรับการรับชมในทุกๆรีวิวในโครงการ TBA ที่ผ่านมาครับ ขอบคุณที่คอมเม้นท์ติชมพูดคุยกันด้วยนะครับ

ที่ขาดไม่ได้ต้องขอบคุณทางบริษัทบัตรเครดิตกรุงไทยที่จัดโครงการดีๆนี้ขึ้นมาให้ทำให้พวกเราได้รู้จักโรงแรมสไตล์บูติคเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ขอบคุณบางกอกแอร์เวย์ ไทยเร้นท์อะคาร์ ที่สนับสนุนการเดินทางด้วยครับ

ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ