ทริปนี้ตลกตรงที่ไปกัน 6 คนแต่ทุกคู่แยกกันไปคนละสายการบินเลยฮะ คู่เพื่อนคู่แรกบิน FD คู่ที่สองบิน TG ส่วนคู่ของเราบิน PG ดีที่เวลาที่นัดกันไปไม่ห่างกันมากใครไปถึงก่อนก็ให้ไปนั่งรอแถวๆสนามบินเอา

ส่วนตัวผมบินบางกอกแอร์เวย์ไฟลท์เช้าสุดออกจากสุวรรณภูมิ 08:05น. ไปถึงภูเก็ต 09:30น. ครับ 

วันนี้ไปสายนิดนึงเลยไม่ได้แวะใช้บริการของ Blue Ribbon Club Lounge เลยฮะ วันที่ไป Lounge ธรรมดาก็ยังปรับปรุงไม่เสร็จ(ตอนนี้เสร็จแล้ว) 

ก็เลยได้แต่แวะจกๆขนมเอาตรงเกท A7 ก่อนจะวิ่งไปขึ้นเครื่องต่ออีกที (ไม่เป็นไรขึ้นเครื่องไปเดี๋ยวก็มีของให้กินอีก)



ลางไม่ดีตั้งกะยังไม่ได้ไปเลยครับก่อนขึ้นเครื่องฝนก็เทลงมาซะแล้ว

อาหารบนเครื่องวันนี้เป็นครัวซองค์โบโลน่าไก่ฮะ แอบลุ้นไม่ได้กินข้าวเหนียวไก่ทอดซะทีซิน่า

กินเสร็จนอนต่ออีกพักนึงตื่นมาก็เห็นวิวแบบนี้แล้วววว

เพื่อนชุดแรกมาถึงก่อนพักนึงแล้วครับ เพื่อนชุดที่สุดท้ายกำลังจะตามมาในอีกไม่เกิน 15 นาที

ผมก็เลยเดินไปรับรถเช่าก่อน จริงๆตัดสินใจหลายเจ้าครับเพราะทริปนี้มีเพื่อนมาด้วยหลายคน รถที่อยากได้เลยต้องเป็นรถที่ใหญ่หน่อยสามารถวางกระเป๋าและจุคนได้หมดเลยมาลงที่ปาเจโร่ของ Thai Rent A Car เจ้าประจำราคาพอคบกันได้ฮะ ไม่ได้มีคูปองจากงานท่องเที่ยวมาเช่าด้วยสิ

เช็ครถเรียบร้อยเพื่อนๆมากันครบพอดี นั่งแถว 3 คนนึงยังเหลือที่วางกระเป๋าสบายๆ พร้อมออกเดินทางกันต่อครับ

ปล.เล่าประสบการณ์นิดนึงฮะพอดีเที่ยวกลับมาส่งรถช้ากลัวตกเครื่องก็เลยไม่ได้เติมน้ำมันมา ทางรถเช่าเค้าคิดค่าน้ำมันตามสเตปของเค้านะครับผมใช้ไปค่อนถังตอนมาส่งก็เลยต้องเสียค่าน้ำมันตามเรทของบริษัทรถเช่าซึ่งก็ต้องจ่ายแต่โดยดีเพราะเราเป็นคนผิดเอง (2000บาท)

กองทัพต้องเดินด้วยท้องครับ ขับรถเช้าเมืองว่าจะหาติ่มซำบุญรัตน์กิน สรุปว่าร้านเค้ากำลังจะปิดแล้วไม่ได้หาข้อมูงก่อนเล้ยยยว่าเค้าเปิดกี่โมงปิดกี่โมง งานนี้เพื่อนๆเลยลงความเห็นกันว่าจะจัดหนักกันเลย คนขับรถแบบเราก็เลยไม่ปฎิเสธครับ ขับรถวนกลับมาร้านประจำของเราทันที

ถึงแล้วครับร้านวันจันทร์ ร้านที่มาภูเก็ตกี่ทีก็ต้องแวะมาทานตลอด ใครจะว่ายังไงเราไม่รู้แต่เราชอบร้านนี้เป็นพิเศษ



เมนูถ่ายมาไม่หมดนะครับพวกเล่นแร้งลงกันก่อนเลยอดถ่ายมาให้ดู

เริ่มเมนูแรกด้วยแกงปู

จานสองคุณภรรยารีเควส (โปรดมากๆ) ก้ามปูผัดมะนาว



ต่อด้วยใบเหลียงผัดไข่

ตบท้ายด้วยไข่เจียวก้ามปู



มีอีก 3-4 จานที่ไม่ได้ถ่ายมาเช่น หมูฮ้องละลายในปาก แกงเหลือง หมูคั่วเกลือ อะไรแบบนั้น ที่จริงเพื่อนคนนึงบอกเคยมากินแต่ร้านระย้า อยากกินแกงปูร้านระย้า เราเลยบอกว่าเมิงมาที่นี่ดูก่อนถ้าไม่เหมือนไม่อร่อยเดี๋ยวจะพาไปกินระย้า สรุปว่าติดใจร้านวันจันทร์แทน เชื่อไม่เชื่อพิสูจน์ได้จากการให้ขับรถพามาร้านวันจันทร์ 3 วันซ้อนแถมซื้อแกงปูกลับมากรุงเทพฯอีก ฮ่าๆๆ

อิ่มแล้วก็เข้าที่พักกันครับ เรามานอนกันที่ foto Hotel จ้า นี่เป็นครั้งที่ 3 ของผมแล้วที่มานอนที่นี่ก็เลยถือวิสาสะไม่ถ่ายรูปแบบละเอียดนะครับ ถ้าใครอยากชมรีวิว foto Hotel ของผมตามไปชมกันได้ที่ Different Memories “ foto Hotel : Phuket ” ใน blog นี้หมวดสะพายกล้องท่องเที่ยว 2 ครับ

ล็อบบี้เปลี่ยนแปลงจากที่เคยมานิดหน่อยครับ แต่ที่ไม่เปลี่ยนเลยคือพี่หมีfoto ที่รอต้อนรับทุกๆคนอยู่เช่นเดิม

มาครั้งนี้ผมใช้บัตรหมีมาพักฮะ (บัตรที่ทางโรงแรมทำออกมาขายราคาพิเศษแบบถูกมากๆ เป็นห้องแบบ Ozone Hall 3 วัน 2 คืน ใช้ลดค่าอาหารได้ด้วย) พอรู้ว่าจะมาพักก็พยายามตามหาบัตรที่คนอื่นๆเค้าโพสขายเอาไว้จนได้มาครับ ราคาถึงจะแพงกว่าที่ทางโรงแรมขายนิดหน่อยแต่ก็ไม่แพงเท่าจองตรงกับทางโรงแรมครับ (ตอนนี้ไม่ต้องหาแล้วนะครับบัตรนี้เพราะมันหมดอายุบัตรทุกใบเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง)

เก็บกระเป๋าพักในห้องพักนึก็ขึ้นมาด้านบนกันดีกว่า แน่นอนว่าไฮไลท์ของ foto Hotel อยู่ที่สระน้ำด้านบนครับ อากาศเมื่อเช้าที่กรุงเทพฯกับอากาศที่ภูเก็ตมันช่างแตกต่างกันมากกกกก

แน่นอนว่าช่วงเย็นๆบนนี้ก็ยังคงเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดๆเช่นเคยฮะ

ตัดภาพมาที่เช้าวันรุ่งขึ้นกันเลยนะครับ เช้านี้เรามีนัดกันที่เกาะไม้ท่อนฮะ การไปเที่ยวเกาะไม้ท่อนตอนนี้มีเจ้าเดียวที่พาเราไปเที่ยวบนเกาะได้นั่นก็คือ Love Andaman ครับ ถึงผมจะเป็นเพื่อนกับเจ้าของเลิฟแต่ครั้งนี้บอกไปเลยฮะว่ามากะเพื่อนหลายคนเลยขอที่จะไปเที่ยวแบบจ่ายเอง หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเลิฟปล่อยราคาออกมาแพงกว่าไปเที่ยวตาชัยหรือสิมิลันอีก ทั้งๆที่เกาะไม้ท่อนอยู่ใกล้เกาะภูเก็ตนิดเดียว

ที่ราคาแพงกว่าเพราะว่าเกาะนี้เป็นเกาะปิดครับ เป็นเกาะที่มีเจ้าของการจะขึ้นเกาะก็ต้องเสียค่าขึ้นเกาะให้เจ้าของเกาะด้วย แถมอาหารก็มีจัดให้พิเศษกว่าที่ตาชัยหรือสิมิลันอีกมันก็เลยแพงกว่าไปตาชัย-สิมิลันอย่างที่เห็น ที่จริงในแพคเก็จที่ซื้อจะมีรถมารับเราที่โรงแรมด้วยนะครับ แต่ว่าพวกเราคิดว่าขับไปเองที่ท่าเรือดีกว่ากลับมาจะได้ไปไหนต่อไหนได้เลย

การไปเที่ยวเกาะไม้ท่อนเราจะต้องมาขึ้นเรือที่ท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขามครับ ใครไม่รู้จักก็อธิบายง่ายๆว่าไปทางศรีพันวานั่นล่ะฮะ ที่ท่าเรือจะมีน้ำ-กาแฟให้บริการก่อนขึ้นเรือครับ เวลาขึ้นเรือก็เกือบๆ 10 โมงเช้า





ก่อนขึ้นเรือปกติก็ต้องมีการแจกสายรัดข้อมือและบรีฟข้อมูลต่างๆกันก่อน

แล้วก็ได้เวลาออกเดินทางกันจ้าาา เกาะไม้ท่อนอยู่ห่างจากท่าเรือที่เราออกไปไม่ถึง 15 นาทีครับเรียกว่าใกล้ฝั่งมากเลยทีเดียว



ไปกันเลยยยยยยย

ท่าเทียบเรือน้ำลึกอ่าวมะขามอยู่ทางใต้ของเกาะภูเก็ตครับ ทางเดียวกับทางที่ไปศรีพันวาเลยแต่จะอยู่ก่อนถึงประมาณ 2-3 กิโลเมตรครับ เรือที่เรานั่งไปก็จะขับผ่านศรีพันวาด้วยเช่นกัน

สำหรับรีวิวศรีพันวาของผมตามไปรับชมกันได้ที่ I believe in destiny .. " Sri panwa " ใน blog นี้หมวดสะพายกล้องท่องเที่ยว 2 เช่นกันครับ

นั่งเรือยังไม่ทันเมาคลื่นก็ถึงเกาะแล้วครับ เหมาะมากๆกับคนไม่ชอบนั่งเรือนานๆ

ถึงแล้วครับเกาะไม้ท่อน โปรแกรมก็จะคล้ายๆของเกาะตาชัยครับ คือถ้ามาถึงแล้วใครไม่อยากดำน้ำก็ขึ้นเกาะได้เลย แต่ถ้าอยากดำน้ำเรือก็จะพาออกไปที่จุดดำน้ำซึ่งก็อยู่หน้าหาดนั่นล่ะครับ



โดยจะใช้เวลาดำน้ำตื้นในช่วงเช้าประมาณครึ่งชั่วโมงฮะ

ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงต้นเดือนกันยาที่ผ่านมาซึ่งกรุงเทพฯฝนตกแทบทุกวัน แต่อากาศที่ภูเก็ตค่อนข้างดีมากๆฮะ ที่สำคัญคือการเที่ยวเกาะไม้ท่อนเราสามารถเที่ยวได้ทั้งปีครับ เนื่องจากจุดที่เกาะอยู่เหมือนเป็นช่องที่อับคลื่นลมทำให้น้ำและคลื่นในช่วงมรสุมไม่แรงเท่าไหร่ ดูได้จากน้ำที่ยังใสอยู่เลย







ปะการังที่นี่อาจจะไม่ได้สวยงามมากมายแต่ก็ดูค่อนข้างสมบูรณ์ฮะ มีปลาเล็กปลาน้อยพอสมควรครับ





ใช้เวลาดำผุดดำว่ายอยู่พักนึงก็ได้เวลาขึ้นเกาะกันแล้วฮะ

เกาะไม้ท่อนเป็นเกาะส่วนตัวที่มีเจ้าของครับ ในอดีตที่นี่เคยเป็นโรงแรมมาก่อนแต่ก็ปิดกิจการไปนานแล้ว เกาะไม้ท่อนเลยไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเท่าไหร่นัก

เราขึ้นเกาะจากสะพานเรือครับ

อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ครับว่าบนเกาะเคยเปิดกิจการโรงแรมแต่ตอนหลังก็ปิดกิจการไป บนเกาะก็เลยมีสิ่งปลูกสร้างอยู่แต่ก็ถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน แต่ตอนนี้เห็นว่ามีคนงานมาปรับปรุงหลายๆส่วนอยู่ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต่อไปโรงแรมจะกลับมาเปิดบริการอีกหริอเปล่านะครับ

ชายหาดบนเกาะไม้ท่อนมีความยาวพอสมควรเลยทีเดียว ผมว่าน้องๆเกาะตาชัยเลยครับ น้ำก็ใสมากนี่ขนาดว่าเป็นฤดูมรสุมแถมอยู่ใกล้ๆเกาะภูเก็ตอีก ไม่น่าเชื่อว่าน้ำจะใสได้ขนาดนี้









แต่สิ่งที่ค่อนข้างต่างจากเกาะตาชัยและสิมิลันคือชายหาดที่น่าจะมีเศษซากปะการังถูกซัดเข้าหาฝั่งเป็นจำนวนมากครับ ทรายหาดอาจจะไม่ละเอียดเท่า ไม่นุ่มเท้าเท่าเกาะตาชัยแต่ผมว่ามันก็เป็นอีกเสน่ห์นึงของชายหาดที่นี่









มาถึงเรื่องการเที่ยวบนเกาะกันบ้าง ถ้าเป็นทัวร์ไทยก็มีแต่ Love Andaman เพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่สามารถพาเราขึ้นเกาะได้ แต่ก็อาจจะมีพวกทัวร์จีนหรือเกาหลีบ้างนิดหน่อยที่นั่งยอร์ชแวะมาทานกลางวันกันบนเกาะ แต่ก็จะอยู่คนละส่วนกับส่วนของเรา

ทีนี้มาดูเรื่องอาหารการกินกันบ้างครับ วันที่ผมไปมีแขกบนเกาะ 19 คนเองครับแต่อาหารก็ไม่น้อยเลยครับ ถ้าใครเคยไปทัวร์กับเลิฟที่เกาะตาชัยหรือสิมิลันก็จะเห็นว่าอาหารบนเกาะไม้ท่อนไม่ค่อยแตกต่างกันนัก มีอาหารให้ทานแบบบัฟเฟ่ห์อยู่ 5-6 อย่าง ผลไม้ ขนม น้ำให้เลือกมีเยอะพอสมควรครับ แต่ที่จัดเต็มคือกุ้งกับปลาหมึกย่างมีให้ทานกันแบบไม่อั้นฮะ





ผมเคยถามเลิฟว่าทำไมไปเกาะตาชัยไม่เอาซีฟู๊ดมาเสิร์ฟแล้ว (แต่ก่อนเคยเสิร์ฟแต่ตอนหลังเอาเมนูออกไป) เค้าบอกว่าเนื่องด้วยระยะทางที่ต้องเดินทางไกลกว่าจะถึงเกาะ กว่าจะทำมันเสียเวลาค่อนข้างมาก ของที่เอาไปก็จะกลายเป็นของไม่สดเลยยกเลิกไปแล้วไปเพิ่มในส่วนอื่นๆแทนดีกว่า ก็เป็นที่มาว่าทำไมเลิฟไม่เสิร์ฟซีฟู๊ดที่เกาะตาชัยกะสิมิลันแล้ว

นั่งๆทานอาหารอยู่ก็ได้ยินเสียงไกด์โวยวายขึ้นมาจนต้องหันไปดูตามมือที่ชี้ออกไปกลางทะเล เห็นแล้วก็รีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายเอาไว้แต่มันก็ไกลมากๆ เห็นมั๊ยครับว่าอะไร

ใช่ครับ ที่เกาะไม้ท่อนขึ้นชื่อว่าชอบมีโลมามาปากฎตัวให้ได้เห็นกันบ่อยๆ วันนี้พวกเราก็โลคดีที่ได้เห็นฝูงโลมา 5-6 ตัวมาดำผุดดำว่ายอยู่หน้าหาด แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี

ถ้าอากาศดีๆแบบวันที่เราไปก็จะได้เห็นเกาะพีพีอยู่ไกลๆด้วยครับ



ทานอาหารกันจนอิ่ม บนเกาะก็ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายครับบางคนตามไกด์ขึ้นไปที่จุดชมวิวด้านบนของเกาะ บางคนก็เลือกที่จะเล่นน้ำหรือออกไปดำน้ำตื้นกันอีก สำหรับผมก็เลือกที่จะนั่งเฉยๆดื่มด่ำบรรยากาศทะเลสวยๆอากาศดีๆไปเรื่อยๆ

บางคนเลือกที่จะนั่งคายัคออกไปพายเล่น



บ้างก็เลือกจะชิลล์อยู่บนชายหาด

เรียกได้ว่าอยู่ที่นี่วันนึงไม่มีทางเบื่อแน่นอนฮะ





บนชายหาดมีเก้าอี้ผ้าใบไว้ให้นะครับ บางจุดมีชิงช้าที่ผูกกับต้นไม้ไว้ให้ไกวเล่น อยากไปนั่งๆนอนๆตรงไหนก็ตามสบายเราได้เลย





เราใช้เวลาอยู่บนเกาะจนถึง 15:30น.ก็เตรียมตัวกลับเกาะภูเก็ตกันครับ







ก่อนลาขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก 1 ใบ 

เกาะไม้ท่อนถามว่าน่ามาเที่ยวมั๊ยผมว่าสำหรับคนที่ไม่ชอบนั่งเรือนานๆเหมาะที่จะมามาก น้ำที่นี่ใสน้องๆสิมิลัน อาหารการกินพร้อม หาดสวยเล่นน้ำได้ทั้งวัน ที่สำคัญห่างจากเกาะภูเก็ตแค่ไม่เกิน 15 นาที มีโอกาสผมก็ว่าจะกลับไปอีกครั้ง ไปครั้งนี้เอาเวลาไปนั่งดื่มด่ำมากจนแทบไม่ได้เดินถ่ายรูป รูปบนเกาะน้อยไปหน่อยอย่าว่ากันนะครับ ไปดูกันเองกับตาจะดีกว่าเนอะ

เราใช้เวลาประมาณเดิมนั่งเรือกลับเกาะภูเก็ต เมื่อถึงท่าเรือน้ำลึกก็แยกย้ายครับ ใครที่มารถตู้ที่ทางเลิฟไปรับจากโรงแรมก็กลับกันไป ส่วนเราเอารถมากันเองก็แยกย้ายไปที่อื่นๆต่อ

ช่วงเย็นๆผมขับรถพาเพื่อนๆมารอพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวกังหันลมใกล้ๆกับแหลมพรหมเทพ ซึ่งหลังๆเวลาผมมาภูเก็ตผมมักจะมาที่นี่มากกว่าจะเลือกไปแหลมพรหมเทพเนื่องจากคนที่น้อยกว่า เงียบสงบกว่าและผมว่าเผลอๆสวยกว่าด้วยซ้ำ







เสียดายที่วันนั้นพระอาทิตย์ไม่มาตามนัดก็เลยไม่ได้ภาพสวยๆเก็บมาให้ชมกันฮะ

ตัดภาพมาที่เช้าของวันที่สาม วันนี้เราต้องเก็บกระเป๋ากลับกรุงเทพฯกันแล้ว อากาศที่ภูเก็ตยังคงดีอย่างต่อเนื่อง







ทานอาหารเช้ากันก่อนเช็คเอ้าท์ อาหารที่ foto Hotel นี่เปลี่ยนเรื่อยเลยนะครับ แต่ก็ดีถึงจะเป็นแบบสั่งเป็นจานแต่ก็มีอาหารให้เลือกอยู่หลายอย่าง

ก่อนกลับแวะเที่ยวหาดกะตะซะหน่อย หลังจากที่มีเรื่องทางการเมืองมีการจัดระเบียบทางการค้าขายทำให้ชายหาดหลายๆแห่งของภูเก็ตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เหมือนชายหาดเมื่อซักหลายสิบปีที่ผ่านมาเลยเงียบสงบดีจัง คนก็น้อยลง ที่จอดรถก็หาง่ายขึ้น อยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอดเลย

จบทริปด้วยวิวจากจุดชมวิวสามอ่าวที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมครับ ทริปนี้ออกแนวเที่ยวกับเพื่อนๆมากกว่า ทำให้รูปที่ถ่ายมาอาจจะไม่ค่อยเยอะและไม่ค่อยละเอียดซักเท่าไหร่นักนะฮะ แต่ก็ต้องขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาตามชม ตามอ่านกันจนจบรีวิว ครั้งต่อไปผมจะพาไปเที่ยวที่ไหนตามกันได้นะครับ

ติดตามดูรีวิวในแบบภาพเคลื่อนไหวได้ที่นี่เลยฮะ  

ปล.ขอบคุณคุณภรรยาสำหรับคลิปวีดิโอเก๋ๆนี้ด้วยนะจ๊ะ 

ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ