“ ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา “ พัทยาที่เหมือนไม่ได้อยู่พัทยา
สวัสดีกันอีกครั้งกับ TravelHolic ตอนที่ 21 ครับ

วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งโรงแรม 5 ดาว ที่น่าสนใจมากๆของเมืองพัทยากันครับ

โรงแรมนี้ชื่อว่า “ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา” ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาพักที่โรงแรมแห่งนี้ครับ แต่ก่อนหน้านั้นก็พอจะได้ยินชื่อเสียงของโรงแรมนี้มาบ้าง เนื่องจากเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างแตกต่างกับโรงแรมเชนใหญ่ๆในเขตเมืองพัทยาอยู่มากพอสมควร โรงแรมนี้มีเจ้าของเป็นคนไทย เป็นโรงแรมที่มีพื้นที่เยอะ สระว่ายน้ำใหญ่มาก อาคารที่พักไม่สูงมาก ที่สำคัญหน้าหาดผู้คนก็ไม่พลุกพล่านเล่นน้ำทะเลสบายเพราะอยู่บริเวณหาดนาจอมเทียนซึ่งอยู่เลยตัวเมืองพัทยาไปอีก เรียกได้ว่าอารมณ์การเข้าพักต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยล่ะครับ

อยากรู้กันแล้วใช่มั๊ยฮะว่าที่ผมเกริ่นมาทั้งหมด มันเป็นยังไง ตามไปชมกันได้เลยนะครับ



จากที่บอกไว้ตอนต้นว่าโรงแรมตั้งอยู่บริเวณหาดนาจอมเทียน ซึ่งต้องขับรถเลยจากตัวเมืองพัทยาไปอีกนิดนึง สังเกตง่ายๆว่าโรงแรมจะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง โอเชี่ยนมารีน่า ยอร์ช คลับ และ แอมบาสเดอร์ซิตี้ จอมเทียนครับหาไม่ยากเลย



ผมออกเดินทางกันไปจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงสายๆไปถึงพัทยาก็เที่ยงกว่าๆไปแล้ว ทางไปโรงแรมมันต้องผ่านที่เที่ยวหลายๆที่ครับทั้งตลาดน้ำ 4 ภาค โรงละครอลังการ รวมถึง Mimosa ซึ่งอย่างหลังเนี่ยผมยังไม่เคยได้มาเดินเที่ยวเลยก็เลยถือโอกาสแวะเที่ยวกันก่อนเข้าโรงแรมฮะ

Mimosa Pattaya เป็นแหล่งชอปปิ้งแห่งใหม่ที่เปิดขึ้นได้ประมาณ 2 ปีครับ โดยได้จำลองเมืองชนบทชื่อ โกลมาร์ ที่อยู่ติดชายแดนของฝรั่งเศสและเยอรมันมาเป็นแบบในการก่อสร้าง



การเข้าชมต้องเสียค่าเข้านะครับ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 75 บาท โดยหางบัตรสามารถนำเข้าไปชมกิจกรรมภายในได้ 1 อย่างโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีก โดยมีให้เลือกคือ Art in Mimosa ถ่ายรูปกับรูปภาพ 3 มิติ หรือ Marine Monster รวมสัตว์แปลกประหลาดครับ

เข้าไปด้านในก็จะมีร้านขายของต่างๆมากมายทั้งร้านอาหาร เสื้อผ้า ของที่ระลึก





Art in Mimosaห้องแสดงภาพ 3 มิติที่เราสามารถถ่ายรูปร่วมได้



มีมุมให้ถ่ายรูปเล่นกันบ้างครับ





นอกจากนี้ยังมีโซนการแสดงที่เรียกกันว่า Mimosa Cabaret Show รวมถึงการแสดงน้ำพุ โดยจะมีการแสดงวันละ 3 รอบตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็นเป็นต้นไป แต่ถ้าเป็นเสาร์ - อาทิตย์จะมีรอบการแสดงในช่วงกลางวันเพิ่มขึ้นอีก 2 ช่วงครับ



ถ้าให้แนะนำว่าจะเที่ยวยังไงให้คุ้มค่ากับค่าตั๋วที่เสียไปก็ต้องมาในวันเสาร์ - อาทิตย์หรือในช่วงเวลาเย็นๆ เพราะจะมีกิจกรรมต่างๆให้เราได้ชมเยอะมากกว่ามาวันธรรมดาแบบผม (รู้สึกไม่ค่อยคุ้ม) จุดเด่นของที่นี่คือโชว์ต่างๆของสาวๆประเภทสองฮะ เสียดายที่ไม่มีเวลาอยู่ชมช่วงโชว์

เที่ยวเสร็จทีนี้ก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้วครับ ขับรถเลยจาก Mimosa ไปอีกนิดหาจุดกลับรถกลับมาก็ถึงแล้วล่ะครับ “ ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ”



ย่างก้าวแรกแอบรู้สึกประทับใจเป็นการส่วนตัวเลยกับการบริการของคุณรปภ.ที่ประตูทางเข้าโรงแรม ยิ้มแย้มแจ่มใสและพูดจาไพเราะบริการดีสุดๆ

ขับรถเข้ามาเรื่อยๆก็จะพบกับล็อบบี้เป็นอันดับแรกครับ



จอดรถลงกระเป๋าเสร็จก็เอารถไปจอด ลานจอดรถจะอยู่ด้านข้างของล็อบบี้และในอาคารชั้นใต้ดินของล็อบบี้ลงไปครับ จอดเสร็จก็เข้าไปเช็คอินด้านในกัน ล็อบบี้ของที่นี่ใหญ่โตมากๆครับเป็นอาคารหลังใหญ่มีปีกอาคารยื่นออกไปทั้งสองฝั่ง





ปีกซ้ายของล็อบบี้จะเป็นส่วนของห้องอินเตอร์เน็ตที่อยู่รวมกับห้องสมุด ห้องซักรีด รวมไปถึงห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่และเล็กอีกหลายห้องครับ



ปีกด้านขวาจะเป็นห้องอาหาร ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ และ Kid’s Club ซึ่งเดี๋ยวจะพามาชมกันอีกที เลยจากส่วนนี้ไปก็จะเป็นโซนของที่พักกันแล้วครับ



โรงแรมราวินทรานี้มีพื้นที่กว้างขวางมากครับ ตัวโรงแรมเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวไปถึงชายหาด ห้องพักสร้างเป็นอาคารยาวขนานกันไปซ้าย - ขวาด้านละ 3 หลังแบ่งเป็นอาคาร A B C และ D E F โดยที่นี่มีห้องพักทั้งหมดถึง 277 ห้องครับตรงกลางระหว่างอาคารสองฝั่งเป็นสระว่ายน้ำที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโรงแรมเลยก็ว่าได้ครับ





ส่วนทริปนี้ผมสองคนกับภรรยา เราสองคนพักกันอีกส่วนนึงที่เป็นบ้านพักแบบ One Bed Room Pool Villa ครับ ซึ่งวิลล่าแบบนี้จะอยู่เลยอาคารที่พักไปทางหน้าหาดครับ



เข้าไปชมตัววิลล่ากันดีกว่าครับ



พูลวิลล่าที่นี่เป็นวิลล่าชั้นเดียวครับเปิดวิลล่าเข้าไปก็เจอกับส่วนของห้องนั่งเล่นกันก่อนเลย ภายในห้องพักค่อนข้างกว้างสำหรับการพัก 2 คนครับ ในห้องนั่งเล่นนี้จะมีโซฟา โต๊ะทำงาน รวมไปถึงทีวี ตู้เย็นและไมโครเวฟ ซึ่งอันนี้ถูกใจเป็นพิเศษเพราะปกติไปตามโรงแรมแล้วไม่ค่อยมีให้ใช้เลย





การออกแบบก็จะออกไปทางไทยประยุกต์ครับ ไม่ได้ไทยจ๋าไปเลยซะทีเดียว ในห้องจะมีผลไม้ต้อนรับไว้ให้ รวมไปถึงเครื่องดื่มต้อนรับและขนมขบเคี้ยวพวกคุ๊กกี้เอาไว้ให้เยอะเลยครับ เรียกได้ว่าอยู่ในนี้ไม่อดตายแน่ๆ



เข้าไปดูในห้องนอนกันบ้างครับ ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนแยกออกจากกันนะครับ พื้นที่ใช้สอยก็พอๆกันเลยให้ความรู้สึกว่าวิลล่าใหญ่พอสมควรเลยล่ะครับ





เตียงนอนเป็นเตียงขนาดใหญ่มีหมอนให้เลือกใช้หลายขนาด ข้างเตียงมี Sofa Bed ไว้ให้นอนเล่นอีกตัว ปลายเตียงไปมีทีวีอีกเครื่องและยังสามารถเปิดประตูออกไปที่สระว่ายน้ำได้อีกด้วย







โต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่ถัดจากเตียงนอนมาหน่อย มีบาร์น้ำและตู้เย็นขนาดเล็กอีกเครื่อง ถัดไปก็เป็นตู้เสื้อผ้าซึ่งอยู่หน้าห้องน้ำครับ 



ห้องน้ำใหญ่เลยล่ะครับมี Bathtub สำหรับนอนแช่น้ำชิลๆ อ่างล้างหน้า 2 ใบ ห้องอาบน้ำและห้องสุขาแยกออกเป็นสัดส่วน







ออกไปดูสระว่ายน้ำในวิลล่าของเรากันดีกว่า



สระว่ายน้ำน่าเล่นมากฮะบอกเลย ข้างสระมีโต๊ะและเก้าอี้อาบแดดไว้ให้อีกด้วยฮะ แน่นอนว่าไม่พลาดกระโดดลงไปแน่งานนี้ เล่นน้ำกันมั๊ยครับ











เล่นน้ำกันซักพักเดี๋ยวจะพาออกไปชมรอบๆบริเวณของโรงแรมกันบ้างครับ

ส่วนแรกมาชมสระว่ายน้ำกันก่อนดีกว่า สระว่ายน้ำถือเป็นไฮไลท์อย่างนึงของโรงแรมเลยครับ เนื่องจากพื้นที่ของโรงแรมค่อนข้างยาวสระว่ายน้ำก็เลยยาวมากๆ แถมมีสองสระยาวต่อกันเป็นลากูนบอกเลยว่าน่าเล่นกว่าในวิลล่าอีกฮะ รอบๆสระก็จะมีเตียงอาบแดดวางไว้รอบๆ แต่เชื่อมั๊ยฮะว่าที่เห็นเตียงเยอะๆนี่แทบจะไม่ว่างเลย เช้ามาก็ถูกจับจองกันโดยผู้เข้าพักต่างชาติกันเกือบหมด





ที่สระว่ายน้ำตรงส่วนนี้ยังมีบาร์เครื่องดื่มและอาหารว่างชื่อว่า Splash Pool Bar อยู่โดย Pool Bar นี้จะเปิดให้บริการในช่วงเวลา 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นครับ ผ้าเช็ดตัวก็แลกรับจากตรงจุดนี้ได้เช่นกัน



สระนี้มีคนเล่นตลอดทั้งวันจริงๆครับ ไม่เว้นแม้แต่ช่วงกลางคืน



นอกจากสระที่ว่าไปแล้วก็ยังมีสระว่ายน้ำหลักอีกหนึ่งสระที่อยู่หน้าหาดเป็น Infinity Pool สระนี้จะมองเห็นทะเลชัดเจนเลย



เรียกได้ว่ามาที่นี่เลือกเล่นน้ำกันได้แบบจุใจเลยล่ะครับ



ทีนี้มาดูที่หน้าหาดกันบ้างครับ



โรงแรมราวินทรานี้น่าจะเป็นโรงแรมเดียวของพัทยาที่ยังมีต้นตาลริมทะเลอยู่มากที่สุดฮะ มองแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ



ที่ชายหาดมีป้ายเตือนให้ระวังแมงกะพรุนอยู่แต่ก็ไม่ต้องกลัวครับ ทะเลหน้าหาดของโรงแรมมีการขึงตาข่ายไว้เผื่อเรียบร้อยแค่ติดให้ระวังการเล่นเฉยๆ



ในตอนกลางวันชายหาดทางฝั่งนาจอมเทียนจะค่อนข้างเงียบและดูส่วนตัวกว่าทางจอมเทียนหรือนาเกลือ บรรยากาศมันไม่เหมือนการมาเที่ยวพัทยาเลยด้วยซ้ำครับ



แน่นอนว่าทางโรงแรมก็จะมีเตียงอาบแดดเอาไว้ให้กับแขกที่เข้าพักได้นอนอาบแดดกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถูกจับจองกันไว้ตั้งแต่เช้าแล้วล่ะครับ





มีตาข่ายไว้ให้เล่นบีชวอลเลย์บอลกันด้วย





ด้านข้างของสระว่ายน้ำหน้าหาดจะมีห้องอาหารหลักของโรงแรมตั้งอยู่ชื่อว่า Reva Beach Restaurant เปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึง 5 ทุ่ม โดยจะเมีอาหารหลากหลายรูปแบบทั้งไทยและอินเตอร์เนชั่นแนลแต่จะเน้นไปทางอาหารทะเลครับ



ห้องอาหารเปิดโล่งรับลมเย็นๆจากทะเล จะนั่งทานอาหาร



หรือเลือกจะนั่งจิบค็อกเทลอร่อยๆก็ได้ฮะ



ที่เตียงชายหาดนี่นั่งกันได้ทั้งวันจริงๆครับ ถ้าเป็นคนไทยแดดแบบนี้คงถอยหนีกันหมด แต่คนต่างชาติชอบจริงๆเค้ามีอะไรมาให้ทำเยอะแยะนอกจากนอนอาบแดดนะ เช่นอ่านหนังสือ ฟังเพลง เล่นเกมส์ฝึกสมอง ดูแล้วก็เพลินๆเหมือนกัน





ช่วงเย็นวันนี้ทางโรงแรมจัดดินเนอร์พิเศษเอาไว้ให้ครับเป็น Private Dinner ริมชายหาดซึ่งทางโรงแรมจะจัดเพียงแค่ 1 เซ็ตต่อวันเท่านั้น



บรรยากาศช่วงเย็นของทะเลพัทยาสวยไม่แพ้ที่ไหนเลยนะครับ ยิ่งได้นั่งทานข้าวกับคนพิเศษๆในมื้อพิเศษๆแบบนี้คงไม่ต้องบอกว่าความรู้สึกจะเป็นยังไง





เราเลือกที่จะทานกันในช่วงค่ำๆครับ คุณภรรยาเห็นภาพแบบนี้ตรงหน้าก็แอบกรี๊ดเลยทีเดียวฮะ





ส่วนบรรยากาศในห้องอาหาร Reva ก็น่านั่งไม่แพ้กันครับ





ทีนี้มาดูอาหารเย็นในคืนพิเศษๆนี้กันบ้างดีกว่าว่ามีอะไรให้ทานกันบ้าง

เริ่มจาก Mango Smoothie และ Cocoa Smoothie



แน่นอนว่าอันดับแรกจะเป็นขนมปังเสิร์ฟกับเนย โดยขนมปังทางโรงแรมทำเองนะครับ



Starter จะเป็น Rare-seared Tuna and Tuscan vegetables with Miso dressing



ตามมาด้วย Pumpkin Chowder with Crispy Parma Ham and Sesame foam อร่อยเข้มข้นมากๆ



คั่นหวานด้วย Lemon Sherbet ขอบอกว่าไอศกรีมอร่อยมาก



Main Course จานแรกของคุณภรรยาเป็น Seared Norwegian Salmon topped King Prawn on Spinach, Baby Carrots, Tomato glazed with Butter Emulsion and Capsicum puree’



ส่วนของผมเป็น Grilled Australia Lamb loin with Vegetable ragout in Potatoes scallop and Lamb jus อร่อยอีกแล้วเนื้อแกะไม่มีกลิ่นคาวและไม่เหนียวเลยฮะ



ตบท้ายด้วย Fresh Fruit salad with Martini and Rum in Dragon fruit เด็ดมากๆฮะทั้ง มาร์ตินี่และรัม แทบจะไม่ได้รสความขมเลยเมื่อราดลงไปในผลไม้ แถมกลายเป็นอร่อยไปเลยครับ



ตบท้ายเบาๆกันอีกนิดด้วย Four Element ค็อกเทลตัวใหม่ของโรงแรมไล่เรียงกันมาครบทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ ค็อกเทลอร่อยๆ 4 รสชาติ เก๋ๆด้วยก้อนผลไม้น้ำแข็งแปลกไม่เหมือนใคร



ทั้งอิ่มและอร่อย แถมบรรยากาศสุดยอดเลยครับ แนะนำว่าถ้าใครมาพักที่นี่แล้วอยากจะเซอร์ไพร์สคนพิเศษด้วยอาหารมื้อพิเศษๆแบบนี้บอกเลยว่าไม่ได้แพงอย่างที่คิดแน่นอนฮะ

คืนนี้หลับสบายฝันดีเลยล่ะ



ตัดมาที่เช้าของวันรุ่งขึ้นครับ บรรยากาศยามเช้าช่วงที่ไปพักดีมากๆครับไม่ร้อนเลย





เดี๋ยวเดินไปทานอาหารเช้ากันนะครับ ห้องอาหารที่เราจะทานอาหารเช้ากันมีชื่อว่า Raveena All Day Dining Restaurant ซึ่งอยู่ข้างๆล็อบบี้ครับ



ห้องอาหารแห่งนี้จะเปิดบริการเฉพาะช่วงของอาหารเช้าตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึง 10 โมงครึ่งครับ ส่วนนี้เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่รองรับแขกที่เข้ามาใช้บริการได้ถึง 200 คนพร้อมๆกัน







อาหารเช้าของราวินทรามีให้เลือกเยอะพอสมควรเลยล่ะครับ มีทั้งอาหารแบบตะวันตก อาหารจีน อาหารไทยให้เลือก และอาหารในแต่ละวันก็จะมีเปลี่ยนไปเรื่อยๆครับ





ส่วนของเบเกอรี่ก็มีเยอะเลยเหมือนกันครับ ภาพที่เห็นนี่น้อยกว่าของที่มีอยู่จริงมากๆฮะ เรียกได้ว่ามีสารพัดของกินให้เลือกทานได้ตามใจชอบ



ส่วนตัวผมเองถูกใจปาท่องโก๋ที่สุดครับ ที่ไหนมีปาท่องโก๋ให้ผมให้คะแนนพิศวาสเพิ่มให้เสมอๆนะ ฮ่าๆ



ทานอาหารเช้าอิ่มแล้วก็ไปดูส่วนอื่นๆที่ยังไม่ได้แนะนำให้ชมกันต่อนะครับ

ฝั่งตรงข้ามของห้องอาหารจะเป็นพื้นที่ของกิจกรรมนันทนาการทั้งหลายครับ มีตั้งแต่ฟุตบอลโต๊ะเล็ก โต๊ะปิงปอง



ห้องโยคะ



ฟิตเนสเซ็นเตอร์



รวมไปถึง Kid’s Club ครับ



ช่วงเช้าๆแบบนี้บรรยากาศดีมากฮะ บรรดาแขกที่เข้าพักเริ่มมาจับจองพื้นที่พักผ่อนกันแล้ว บางคนก็เล่นน้ำ บางคนก็อาบแดด





ชายหาดด้านหน้าของโรงแรมอยู่ใกล้กับ Ocean Marina Yacht Club ครับตรงชายหาดเราก็จะเห็นที่จอดเรือยอร์ชอีกด้วย



หมู่ต้นตาลคอยให้ร่มเงา เตียงอาบแดดที่นี่เลยค่อนข้างระเกะระกะไม่อยู่เป็นระเบียบเพราะแขกมักจะลากเก้าอี้ไปนอนในจุดที่ตัวเองต้องการครับ



กิจกรรมทางน้ำแถวๆนี้ก็พอมีนะครับ แต่จะไม่เยอะเหมือนแถวจอมเทียน



ส่วนเรื่องลงเล่นน้ำบอกเลยว่าชายหาดที่นี่น่าเล่นกว่าแถวตัวพัทยาเยอะครับ นี่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นมากๆของโรงแรมเลย



ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเอง แต่รู้สึกจริงๆว่าน้ำแถวนี้ใสกว่าแถวตัวเมืองพัทยาฮะ แถมดูสะอาดกว่าเยอะเลยด้วย แน่นอนว่าถูกใจคนชอบเล่นน้ำทะเลแน่ๆ







วิวจากหน้าชายหาดของโรงแรมมองไปที่ตัวเมืองพัทยา เหมือนอยู่กันคนละทีเลยทีเดียว





เดินเล่นดูนกชมไม้ชายทะเลพักใหญ่ๆก็ได้เวลาอาหารเที่ยงกันแล้วครับ อาหารเที่ยงวันนี้เราทานกันที่ห้องอาหาร Reva ที่อยู่ตรงหน้าหาดกันฮะ

มื้อนี้ทางเราทานอาหารไทยกันดีกว่า ..

จานแรกเรียกน้ำย่อยด้วย เมี่ยงก๋วยเตี๋ยวทานกับกุ้งตัวโตๆฮะ



ต้มยำกุ้ง กุ้งนี่กรอบเชียว ^^



ยำสามกรอบ



ฉู่ฉี่กุ้งรสเด็ด



ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์



ผัดคะน้าหมูกรอบ



แกงเผ็ดเป็ดย่างรสเข้มข้น



ตบท้ายด้วยน้ำแตงโมปั่นเย็นชื่นใจ อิ่มมากๆครับ



อิ่มแล้ว ผมก็อยากจะแนะนำห้องพักแบบอื่นของโรงแรมราวินทราให้ได้ชมกันซักหน่อยเผื่อเอาไว้เป็นตัวเลือกในการเข้าพักสำหรับผู้สนใจนะครับ

ห้องพักแบบแรกที่จะพาไปชมคือห้องแบบ Family Suite

เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่และเหมาะกับการเข้าพักแบบครอบครัวฮะ โดยห้องพักแบบนี้จะมีพื้นที่ส่วนของห้องนอนแยกกับห้องนั่งเล่นและจะมีทั้งแบบหนึ่งห้องนอนและสองห้องนอนโดยทุกห้องจะเป็นห้องที่เปิดถึงกันได้



ห้องนอนหลักจะเป็นห้องเตียงใหญ่หันหน้าออกสู่ทะเล การตกแต่งคล้ายๆกับห้องแบบวิลล่าที่ผมนอนครับ





ห้องน้ำจะเหมือนกันกับวิลล่าที่ผมพักเลยฮะ



อีกห้องเป็นห้องนั่งเล่น มีโซฟายาวและโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 คน รวมไปถึงตู้เย็น ไมโครเวฟและทีวี





ระเบียงห้องค่อนข้างกว้างและเป็นรูปตัว L ครับ ห้องนี้พิเศษที่อยู่สุดอาคารถ้าเป็นชั้นบนๆก็จะมองเห็นทะเลชัดเจนหน่อย แต่ถ้าชั้นล่างๆก็อาจจะมียอดตาลบังวิวหน่อยครับ



อีกห้องที่เป็นห้องนอนที่สองเป็นห้อง Connecting กันครับถ้ามา 4 คนก็เปิดใช้แต่ถ้ามา 2 คนทางโรงแรมก็จะปิดเอาไว้ ห้องนี้จะเป็นห้องแบบเดียวกับ Deluxe Room ของโรงแรมครับจะมีทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่



สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะน้อยกว่าวิลล่าที่ผมพักหน่อย จะไม่มีไมโครเวฟให้ แต่ห้องก็ยังกว้างขวางอยู่นะครับ



ห้องน้ำจะเล็กกว่าวิลล่าที่ผมพักหน่อยแต่ก็มี Bathtub ให้นอนแช่เหมือนกัน





ดูห้องพักกันไปแล้วทีนี้พาไปสปากันหน่อยดีกว่า สปาที่นี่เปิดบริการตั้งแต่เที่ยงไปจนถึง 3 ทุ่มนะครับ



พนักงานต้อนรับจะนำเครื่องดื่มมาต้อนรับครับ เป็นน้ำกระเจี๊ยบสูตรพิเศษที่ไม่มีใครเหมือน อธิบายไม่ถูกแต่ก็อร่อยชุ่มคอดี พนักงานต้อนรับพร้อมอธิบายถึงโปรแกรมการทำสปาต่างๆให้เราได้เลือกครับ



เมื่อเลือกโปรแกรมสปาเรียบร้อยก็เข้ามานั่งรอการทำสปา ในขั้นตอนแรกก็ต้องทำความสะอาดเท้ากันก่อนครับ



ตอนที่ไปส่วนของสปาฝั่งใหม่กำลังปรับปรุงอยู่ก็เลยมาทำกันที่สปาฝั่งเก่ากันแทน โดยห้องที่ทำจะเป็นห้องแบบคู่สามารถทำสปาพร้อมกันได้ 2 คน แน่นอนว่ามันเหมาะกับคู่รัก







ห้องนี้พิเศษตรงมีอ่างจากุซซี่ไว้ให้แช่เพื่อผ่อนคลายหลังจากการทำสปาแล้วด้วยครับ



ห้องสปาอีกแบบ ห้องนี้จะเป็นสปานวดแบบไทยจะแยกเตียงปิดม่านในเวลานวดได้ครับ



เห็นทางพนักงานต้อนรับบอกว่าสปาของโรงแรมราวินทรา เพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดเกี่ยวกับสปาของโรงแรมในเขตเมืองพัทยามาด้วยนะครับ ส่วนตัวผมเองเลือกนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยเพลินจนหลับไปเลยล่ะครับ

นวดเสร็จออกมาก็เย็นพอดี เจอบรรยากาศดีๆอีกแล้ว



ช่วงเย็นยิ่งดูชิลเข้าไปอีกครับ ดูจะคึกคักกว่าช่วงกลางวันหน่อยอาจจะเพราะอากาศที่เย็นขึ้น











ริมชายหาดใกล้เคียงกันก็จะเริ่มมีกิจกรรมสนุกๆ คนเริ่มจะเยอะมากขึ้นดูคึกคักทีเดียวครับ



ช่วงเวลาเย็นๆนี่โรแมนติคมากๆครับ ผมนี่ถึงกับต้องขอนั่งดูพระอาทิตย์ตกอยู่เฉยๆกับคนที่เรารักเลย





สระว่ายน้ำในตอนค่ำก็ยังมีคนเล่นนะครับ เรียกได้ว่าเล่นกันได้ทั้งวัน ใช้เวลาในโรงแรมได้คุ้มค่าสุดๆ





ล็อบบี้ในช่วงค่ำคืนก็เปิดไฟสว่างไสวครับ ถ้าหลายๆคนได้ดูละครทางช่องเคเบิ้ลช่องนึงคงจะคุ้นๆในหลายๆมุมของโรงแรมราวินทรา ละครเรื่องที่ว่าคือละครเรื่อง สงครามนางงาม ครับกำลังออนแอร์อยู่เลย





ข้างๆล็อบบี้ยังมีมุมเครื่องดื่มและเบเกอรี่ชื่อ Praotawan Lobby Lounge มีเค้กอร่อยๆให้เลือกทานเยอะเลยล่ะครับโดย Lobby Lounge นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 5 ทุ่มครับ





ใกล้ๆกันยังมีอีกหนึ่งห้องอาหารหลักของโรงแรมชื่อว่า The Reef Mediterranean Restaurant เป็นห้องอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนี่ยนที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม ห้องอาหารนี้จะเป็นห้องอาหารในห้องปรับอากาศอยู่ติดกับห้องอาหาร Raveena All Day Dining Restaurant ที่เราทานอาหารเช้ากันเลยฮะ





รีวิวในส่วนของตัวโรงแรมจะมีเท่านี้ครับ แต่ทริปนี้ของเราจะยังไม่จบเพียงเท่านี้ฮะ



หลังจากเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมในช่วงเที่ยงๆของอีกวันนึงเราก็จะไปเที่ยวกันต่อที่ Pattaya Dolphin Worlds Resort ครับ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าที่นี่มีอะไรให้เรามาชม เราจะมาชมปลาโลมากันครับ

สำหรับการเดินทางมายัง Pattaya Dolphin Worlds Resort ไม่ยากครับ ทางเข้าจะอยู่ตรงสี่แยกไฟแดงบ้านอำเภอพอดี ถ้ามาจากทางพัทยาถึงไฟแดงก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามป้ายได้เลยครับ วิ่งตามป้ายที่มีบอกตลอดทางไปเรื่อยๆ อาจจะไกลจากถนนใหญ่ซักหน่อย แต่ก็หาไม่ยากครับ



เมื่อมาถึงก็ต้องซื้อบัตรเข้าชมกันก่อน ราคาบัตรคนไทยจะอยู่ที่ 250 บาท เด็กเล็กความสูง 90-120 เซ็นติเมตรค่าเข้าชม 100 บาทครับ สำหรับชาวต่างชาติค่าเข้าชม 500 บาท เด็ก 250 บาทครับ



การแสดงโชว์โลมาจะมีทุกวัน วันละ 5 รอบตั้งแต่ 9 โมงเช้า 11 โมง บ่ายโมง บ่าย 3 โมง และรอบสุดท้าย 5 โมงเย็น

สระที่ใช้แสดงโชว์ใหญ่โตเหมือนกันครับมีที่นั่งชมเป็นอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ วันที่ไปชมเป็นวันธรรมดาคนเข้าชมก็เลยน้อยหน่อย



โลมาที่ใช้โชว์จะมี 4 ตัวครับเป็นโลมาปากขวดที่เราเห็นกันบ่อยๆ 2 ตัวส่วนอีก 2 ตัวเป็นโลมาอิรวดีหรือโลมาสีชมพู ซึ่งไม่ค่อยมีที่ไหนเค้าเอามาฝึกโชว์กัน แต่ตอนนี้จะใช้โชว์หลักๆแค่ 3 ตัวเพราะโลมาอิรวดีตัวเก่งอีกตัวเป็นโรคผิวหนังอยู่ครับ เวลาในการโชว์ก็จะอยู่ที่ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ เราก็จะได้เห็นความฉลาดแสนรู้สร้างรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวได้พอสมควรเลยทีเดียว ต้องชมคนเลี้ยงและคนพากษ์ด้วยครับที่ทำให้โชว์สนุก







ระหว่างโชว์ก็จะเปิดโอกาสให้เด็กๆได้ขึ้นไปร่วมสนุกกับโลมาด้วยฮะ แต่เด็กคนนี้ออกจะกลัวๆไปหน่อยนะ ฮ่าๆๆ



หลังจากจบโชว์โลมาในบริเวณของ Pattaya Dolphin Worlds Resort ก็ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกหลายอย่างครับทั้งนั่งรถม้าชมบริเวณรอบๆ ว่ายน้ำกับโลมาซึ่งจะเป็นโลมาคนละชุดกับที่ใช้โชว์ ขับรถเอทีวี ยิงปืนจริงในสนามซ้อม ยิงปืนอัดลม ปีนหน้าผาจำลอง ให้อาหารแกะ และกิจกรรมอื่นๆอีกหลายอย่าง แต่ทั้งหมดจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ



แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งการแสดงที่เราสามารถเข้าชมได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าบัตรเพิ่มอีกนอกจากค่าเข้าครั้งแรกนั่นก็คือการแสดงโชว์คาว์บอย ซึ่งจะโชว์สลับช่วงเวลากับการโชว์โลมานั่นก็หมายถึงเมื่อเราดูโชว์โลมาจบเราก็เดินมารอชมโชว์คาว์บอยต่อได้เลยครับ



การแสดงก็จะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเช่นกันโดยจะมีการแสดงความสามารถของม้า การบังคับม้า เล่นกับม้า การโชว์แซ่และรวมไปถึงการให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมกับการแสดงอีกด้วยครับ







ถ้าพูดถึงราคาค่าเข้าชมอาจจะแพงไปซักหน่อย แต่ถ้าหากคิดว่าแลกกับการมาดูโชว์ของโลมาและม้าแสนรู้แล้วก็ถือว่าพอจะคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปครับ

บทสรุป..

“ โรงแรมราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ” เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ค่อนข้างแตกต่างจากโรงแรมเชนทั่วๆไปในระดับเดียวกันอยู่พอสมควรในเรื่องของบรรยากาศการเข้าพัก เมื่อขับรถเข้ามาในบริเวณของโรงแรมคุณจะไม่รู้สึกเลยว่านี่คือพัทยาด้วยบรรยากาศร่มรื่น ดูเงียบสงบ ชายหาดก็ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกผล่าน ผมแนะนำว่าที่นี่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบจริงจังหลีกหนีความวุ่นวายในสังคมที่คุณต้องเผชิญ นี่คืออีกโลกที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศ ความสุขในการพักผ่อน เล่นน้ำ ทานอาหาร แค่ได้ใช้ชิวิตอยู่ในโรงแรมก็เหมือนได้ชาร์ตพลังให้กับตัวเองได้มากมายแล้วล่ะครับที่นี่เหมาะสำหรับแขกทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นคู่รัก วัยทำงาน เพื่อนฝูง กรุ๊ปสัมมนา

“จุดเด่น” ของที่นี่คือบรรยากาศและความเงียบสงบ สระว่ายน้ำใหญ่ ห้องพักราคาไม่ได้แพงมากเทียบกับโรงแรมเชนใหญ่ๆในเมืองพัทยา ห้องพักกว้างขวางไม่ใช่อาคารสูง ชายหาดเงียบและค่อนข้างส่วนตัว

“ข้อด้อย”ของที่นี่คือการเดินทางถ้าไม่มีรถส่วนตัวจะลำบากหน่อยเพราะโรงแรมจะอยู่เลยจากตัวเมืองพัทยามาพอสมควร ถ้านั่งรถโดยสารสาธารณะมาอาจจะต้องเหมารถต่อมาส่งหรือรอรถโดยสารที่ผ่าน นี่น่าจะเป็นข้อด้วยเดียวที่ผมพอจะนึกออกในตอนนี้

ขอแนะนำพิเศษสำหรับคู่รักเนื่องจากใกล้จะถึงวันแห่งความรักแล้ว ผมคิดว่าน่าจะมีเพียงไม่กี่โรงแรมในเมืองพัทยาที่จะสามารถจัดดินเนอร์ส่วนตัวริมชายหาดให้คุณได้ ที่สำคัญคือราคาก็ไม่ได้แพงเลยสำหรับอาหารมื้อพิเศษมื้อนึงถ้ามีโอกาสได้พาคนรักของคุณมาพักผ่อนที่นี่ นี่เป็นอีกตัวเลือกที่น่าจะทำให้คนรักของคุณประทับใจครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชมมาจนจบรีวิว ในโอกาสหน้าผมจะพาไปเที่ยวที่ไหนติดตามได้นะครับ ขอบคุณครับ



ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ




Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2558 17:54:03 น.
Counter : 19025 Pageviews.

7 comments
จุดชมวิวเสม็ดนางชี, ร้าน Cafe Phuket View Point สายหมอกและก้อนเมฆ
(11 ก.ย. 2567 17:15:17 น.)
ป้อมยุทธนาวีทั้ง 25 : เมืองท่าสมุทรปราการ ผู้ชายในสายลมหนาว
(9 ก.ย. 2567 11:31:22 น.)
Street Art น้องมาร์ดี เมืองพังงา, เหมืองหินถ้ำทองหลาง, หาดนางทอง สายหมอกและก้อนเมฆ
(5 ก.ย. 2567 18:30:38 น.)
5 กย 67 คั่นเวลา พบเจอในที่สุด mcayenne94
(5 ก.ย. 2567 20:31:33 น.)
  
สวยน่าพักมากเลยค่ะ เคยพักแต่ ฎ ชฎา ใกล้ๆกัน
โดย: ชลบุรีมามี่คลับ วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:20:28:57 น.
  
ถึงกับกด Bookmark ไว้เลยค่ะ

กำลังมองหาที่พักแบบพูลวิลล่าที่ไม่ไกลมากอยู่เหมือนกัน

ที่สำคัญ .. เกิดมาชีวิตนี้ยังไม่เคยไปพัทยาเลยค่ะ



บางทีครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกก็ได้

โดย: LemonOnTheRock วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:22:32:23 น.
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:3:18:29 น.
  
แจ่มเด้อ
โดย: ROP IP: 171.96.151.136 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:9:22:50 น.
  
สงสัยต้องไปแบบ CR ที่พัทยาบ้างแล้วค่ะ
โดย: เอ เองค่ะ (เอ เองค่ะ ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:7:46:55 น.
  
สุขสันต์วันเกิด ครับ
โดย: **mp5** วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:18:29:09 น.
  





สุขสันต์วันเกิด นะคะ ..

ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ ..



..



ชอบ ฟองคลื่น ..

ชอบ พระอาทิตย์ตก ..

ชอบ คุณแฟนสาว .. ที่ดู เพลิดเพลิน กับการท่องเที่ยวทริปนี้ ..


3 ชอบ .. ก้อ .. ต้อง ..







บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
biGbOySalaDbAr Photo Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น





โดย: foreverlovemom วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:19:11:45 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bigboysaladbar.BlogGang.com

biGbOySalaDbAr
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]

บทความทั้งหมด