ขอเขียนถึงเป็นครั้งสุดท้าย...
รู้สึกไม๊ครับว่าบางทีการรู้อะไรมากเกินไป หรือรู้ในสิ่งที่ไม่รู้เนี่ย มันก็ทำให้อึดอัดได้เหมือนกัน บางทีก้อกดดันจนเซงเลยล่ะครับ มันอาจจะจริงก้อได้ที่ อ.ที่เคยสอนผมเคยพูดว่า "หมอ มือนึงลูบหลังคนไข้ อีกมือเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง" ผมไม่เคยได้รู้สึกอะไรขนาดนั้นมากนัก จนกระทั่งช่วงนี้ครับ เศร้าจิงๆให้ตายเหอะ....

เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้ปู่ผมท่านป่วยหนักอยู่ครับ ตอนนี้อยู่ใน ICU อาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่...จะให้พูดจริงๆก้อไม่ดีเอามากๆเลยล่ะ ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมท่านมา 3-4 ครั้ง(กว่าจะมีเวลาว่าง) ทั้งที่่านเข้า รพ. มาเกือบ 2-3 เดือนแล้ว เข้าใจว่าที่บ้านอาจเห็นผมยุ่งๆด้วย เพราะเดือนที่แล้วอยู่ ER เวลาไม่ค่อยเหมือนมนุษย์อื่นซักเท่าไหร่ บางวันเค้าตื่นกันผมก้อเพิ่งได้นอน กว่าจะรู้เรื่องอีกทีก้อตอนญาติโทรมาถามเรื่องมอนิเตอร์ใน ICU นั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าท่านเข้า ICU ไปแล้ว...

เมื่อวานี้ไปเยี่ยมท่านมาครับ จะบอกว่าลำบากใจมากๆไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เห็นสภาพท่านตอนนี้ ผอมลงมาก แต่ยังพูดคุยได้ ยังห่วงลูกๆ เพ้อถึงญาติที่เสียๆไปแล้วบ้าง ผมได้ไปคุยกับพยาบาลที่เฝ้าไข้กับหมอเจ้าของไข้(ไม่ได้บอกว่าเรียนหมออยู่ แต่ก้อใช้ศัพท์เทคนิคบ้าง) พอทรายอาการท่าน จะบอกว่าน้ำตาซึมเลยครับ ความหวังน้อยมากๆ ตกับหัวใจมีปัญหามาก แล้วก้อไม่สามารถทำอะไรได้เพราะสวนหัวใจไตก้อจะแย่ลงอีก ได้แต่ประคับประคองไปเรื่อยๆ พอออกมาจากเยี่ยมก้อมีญาติมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง คุยกับหมอแล้วเป็นไง ไม่รู้จะพูดยังไงครับ ตอนเรียน เราเองเป็นคนพูดกับญาติคนไข้เองเรื่องโรคของคนไข้ แต่ตอนนี้พอเป็นคนฟังเองมันรู้สึกยังไงก้อไม่รู้ครับ อึ้งมึนไปหมด ยิ่งโดนญาติๆถามแล้ว จะให้บอกว่าไม่ไหวเหรอ มันก้อ... สุดท้ายผมก้อได้แต่คุยไปเรื่อยๆ บอกไปแค่กับญาติที่มาเฝาตลอดคนเดียว ไม่กล้าพูดครับ ไม่กล้าแม้จะบอกอะไรเลย ยิ่งตอนเข้าไปลาท่าน ท่านบอกว่า "คืนนี้คงหมดเวรหมดกรรมแล้วล่ะ" อึ้งครับ เศร้าไปเลย แต่ก้อต้องยิ้มไป แล้วก้อบอกว่า อาทิตย์หน้าจะมาเย่ยมใหม่ครับ รู้ไม๊ครับ ท่านตอบว่า"ไม่ต้องมาแล้วแหละ" อึ้งอีกรอบครับ ได้แต่ยิ้มๆแล้วก้อเดินออกมา...ตอนนี้ก้อคงได้แต่นั่งลุ้นอย่างเดียวครับว่าอาการท่านจะทรงๆไปได้นานขนาดไหน...

ครั้งนี้ผมเพิ่งรู้นะครับว่าการทีเราได้เจอเรื่องความตายบ่อยๆ มันไม่ได้ทำให้เราทนขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งถ้าเรื่องพวกนี้เกิดกับคนใกล้ๆตัวด้วยแล้ว(ที่จริงผมกับคุณปู่ก้อไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก) มันยากมากครับที่จะทำตัวนิ่งอยู่ได้ แถมยิ่งเรารู้เรื่องที่สุดด้วย หมายถึงคุยกับหมอกับพยาบาลเข้าใจมากกว่าเพื่อน มันไม่รู้จะทำยังไงครับ ถ้าทำตัวเศ้ราเกินไป คนอื่นสังเกตเห็นก้อคงเอะใจกันแล้วว่าไม่ดีแน่ๆ แต่ถ้าไม่พูดอะไรเลยมันก้อไม่ได้อีก เพราะไม่อยากจะปิดคนอื่นซักเท่าไหร่ มันเหนื่อยครับ ตอนนี้เหนื่อยใจมากๆ...



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2549 23:45:42 น.
Counter : 405 Pageviews.

3 comments
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
ประสบการณ์ ทำพาสปอร์ตที่สายใต้ใหม่ newyorknurse
(2 ม.ค. 2567 17:45:17 น.)
  
เหตุการณ์แบบนี้ต้องเจอกันสักครั้งในชีวิตแหละคับ

ยังงัยเราก็ต้องผ่านมันไปได้

อย่าเศร้าคับ มันเป็นวัฏสงสาร มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย

มาอยู่เป็นเพื่อนนะคับ
โดย: บุคคลไม่สำคัญของโลก วันที่: 14 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:57:50 น.
  
ต้อนรับวันทำงานด้วยกาแฟสักถ้วยหนังสือพิมพ์ลักเล่มนะคับ

โดย: บุคคลไม่สำคัญของโลก วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:15:43 น.
  

myspace layouts, myspace codes, glitter graphics

โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:5:24:12 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bedoc.BlogGang.com

Holy light
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]