เรื่องสั้น "เมื่อความตายมาเยือน"
นี่เราจะไปไหนกัน” ฉันถามน้องชายด้วยอารมณ์อยากรู้
“ก็เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หรือพี่จะกลับก็ได้นะ” น้องชายจอมซนตอบกลับทันทีด้วยสีหน้าแสดงอาการไม่พอใจ พลางรีบเดินจ้ำแหวกเถาวัลย์สีน้ำตาลอย่างรวดเร็ว ซึ่งคำตอบกับการกระทำตอนนี้มันช่างดูขัดกันยิ่งนัก

บ่ายนี้อากาศไม่ค่อยจะแจ่มใส ฉันรู้สึกถึงกลิ่นเหม็นคลุ้งตลอดทางที่เราทั้งสองได้เดินผ่านมา พยายามขบคิดว่ามันคือ “กลิ่นอะไร” แต่ก็ไม่ได้คำตอบสะที เจ้าน้องชายก็รีบเดินเสียจนแทบไม่ได้พูดคุยกัน

ท่ามกลางการเดินทางที่ไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อไร
ฉันได้พบเห็นเรื่องราวมามากมาย

หนึ่งในความทรงจำเลวร้ายนั่นคือ “ญาติพี่น้อง” ของฉันที่ต้องจบชีวิตลงอย่างอนาถ บ้างก็หายสาบสูญไป

ความจริงเรื่องนี้ฉันไม่ได้อยากจะถ่ายทอดให้ใครได้รับรู้ แต่หากวันหนึ่งฉันต้องจากไปเหมือนกับพวกเขาคงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับญาติพี่น้องของฉันที่ยังมีชีวิตอยู่อีกเช่นกัน

ย้อนไปเมื่ออาทิตย์ก่อนฉันได้ออกมาเดินเล่นกับพี่ชายในป่าเถาวัลย์สีน้ำตาลแห่งนี้ วันนั้นมีน้ำใสๆ ตกลงมาจากฟ้าประมาณ 3-4 หยดใหญ่ๆ แต่อนุภาพมันรุนแรงตั้งแต่แรกที่ตกกระทบถึงพื้นที่เรายืนกันอยู่

ฉันวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตเพราะด้วยกลิ่นที่ฉุนมาก สูดดมแล้วทำให้แสบจมูกจนแทบจะยืนอยู่ไม่ไหว อีกทั้งผิวหนังใต้ฝ่าเท้าฉันเริ่มไหม้เกรียม ฉันตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงรีบหนีเอาชีวิตรอด

เวลาผ่านไปได้สักระยะหนึ่งหลังจากที่อพยพตัวเองออกมาจากสถานการณ์ที่เลวร้าย พลันนึกได้ว่าพี่ชายของฉันไม่ได้หนีมาด้วยกัน ฉันจึงกลับไปรอเขาที่บ้าน

จนผ่านมา 2 วันก็ไม่มีวี่แววที่เขาจะกลับมา
น้องชายของฉันร้อนใจมากจึงชวนฉันออกตามหา
แต่ฉันเองเข้าใจดีอยู่แล้วว่าการตามหาครั้งนี้คงได้พบเพียงร่างที่ไร้วิญญาณเหมือนกับญาติของเราที่จบชีวิตลงท่ามกลางป่ามรณะแห่งนี้

เคยมีเรื่องเล่าที่น่ากลัวเกี่ยวกับอาถรรพ์ “ป่าเถาวัลย์สีน้ำตาล” อีกเรื่องหนึ่งคือ “เจ้ายักษ์ใจร้าย” ไม่มีใครเคยได้เห็นหน้าคร่าตาพวกมันมาก่อน นอกเสียจาก “มือใหญ่ๆ” ของพวกมันที่คอยมาจับตัวพวกเราเอาไปฆ่าแกงอย่างทารุณ ดูไปแล้วชีวิตเราช่างน่าสงสารเสียกระไร ทำไมถึงมีแต่คนคอยจ้องฆ่าฟัน ฉันก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าพวกเราไปทำอะไรเขาไว้ !!

“พี่ชาย!!! ช่วยด้วยยยย”
เสียงน้องชายตะโกนลั่นมาจากทิศด้านหน้าที่เขาเดินจ้ำทิ้งระยะหายไปได้สักครู่

ฉันรีบเดินแหวกเถาวัลย์สีน้ำตาลที่หนาแน่นอย่างเร็วไว
แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้ตกใจยิ่งนัก
น้องชายฉันกำลังถูกเจ้ายักษ์จับตัวไป
ขาฉันเริ่มสั่น น้ำตาฉันเริ่มไหลด้วยความหวาดกลัว
จิตใจฉันพลันแต่จะให้หนีไปจากภาพที่เห็น
แต่ฉันก็ทำไม่ได้ขามันก้าวไม่ออก
และแล้วยักษ์ใจร้ายก็เอาน้องชายฉันไปฆ่า

ส่วนฉันเริ่มขยับถอยหนีมาได้ไม่ทันไรก็มีชะตากรรมที่คล้ายกัน!!

ก่อนที่ร่างกายฉันจะถูกบดขยี้ หูก็ได้ยินเสียงของเด็กหญิงแว่วดังมาแต่ไกล
“แ...ม่”
“เอาอีกแล้วนะ”
“บอกแล้วใช่ไหม มันบาป”

---- ก็มันกัดหมาเราทำไมหล่ะ แม่ก็ต้องฆ่ามันสิ ---- !!


สัพเพ สัตตา อะเวราโหตุ



ฝากเรื่องสั้นเล็กๆ น้อยๆ ไว้ในอ้อมใจด้วยนะจ๊ะ
จบการเขียนมาก็เพิ่งจะได้ใช้มันเป็นเรื่องเป็นราวก็คราวเนี้ย



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2551 19:24:11 น.
Counter : 564 Pageviews.

0 comments
6 กย 67 Trip2024; Praque to Vienna 23 เมย 67 mcayenne94
(6 ก.ย. 2567 19:56:43 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 359 : รอยยิ้มที่ไม่มีวันลืม The Kop Civil
(5 ก.ย. 2567 01:00:11 น.)
โจทย์ตะพาบ ... "รอยยิ้มที่ไม่มีวันลืม" ... tanjira
(4 ก.ย. 2567 12:57:07 น.)
ต้องขยันมากกว่านี้! peaceplay
(2 ก.ย. 2567 15:52:17 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Beauty-jeban.BlogGang.com

ตีไม่แรง ไม้แพง แต่งตัวเท่ห์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]

บทความทั้งหมด