ความคิดเห็นส่วนหนึ่งกับรายการ "อ๋อ ซี ยู"
ขออนุญาตินำเอาข้อความของคุณ hypnosis เมื่อวันที่ 27 มีนาและ 28 มีนา มาลงไว้อีกครั้งนะครับ

อ้างอิงจาก //www.bloggang.com/viewblog.php?id=aurseeyou&date=23-03-2006&group=1&blog=2

***********************************
สวัสดีค่ะ

ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ชมรายการ อ๋อซียู เทปแรก ดูแล้ว แอนตี้มากๆ เพราะมองในลักษณะที่ว่า รายการงมงาย จู่ๆ แค่มองหน้าแล้วบอกว่า เป็นงั้นเป็นงี๊ ดิฉันดูเทปแรก จนจบรายการ และถามกับตัวเองว่า รายการแบบนี้ เราจะรับได้ไหม จึงตอบตัวเองไปว่า " เอาน่ะ ถ้ามันงมงาย ไร้สาระ คงโดนถอดออกจากผัง " และเราก็ไม่รู้ด้วยว่า คุณอ๋อเป็นใครมาจากไหน แต่ด้วยความที่เรายังเผื่อใจรับรายการนี้อยู่บ้าง และยังอยากทราบที่มาที่ไปของการหยั่งรู้ของคุณอ๋อ จึงได้ติดตามมาเรื่อยๆ จำได้ว่า ดูได้อยู่ประมาณ เทปแรกๆ แล้วก็ไม่ได้ดูติดต่อกันเพราะบางครั้งก็ดู vcd บ้าง แต่เปิดมาอีกครั้งเห็นคุณ ลูกเกด กับแฟนมานั่งให้สัมภาษณ์แล้ว ก็เริ่มกลับมาคิดอีกครั้งว่า "อื่ม มันก็นานแล้วนะ ที่เค้าลงจอ แต่ยังอยู่ได้ แสดงว่า คงมีดีอะไรแน่ๆ" เทปต่อมาเป็นคุณ ออย กับ เจ้ ตะลุย ก็ ถือว่า คุณได้มีการพัฒนาในรูปแบบของรายการได้ดีมากๆ
เพราะสำหรับดิฉันเองแล้ว ถ้าชอบอะไร ก็ชอบจริงจัง ถ้าเบือนหน้าหนีต่อสิ่งไหน ก็จะไม่หันกลับไปชอบอีก แต่รายการนี้ทำให้ดิฉัน เปลี่ยนไป เริ่มเป็นคนฟังหูไว้หู ฟังบ้าง เปิดรับบ้าง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ดี เพราะคุณ ได้เสริมรูปแบบรายการในส่วนของการให้ข้อคิด-ปรัชญาในการใช้ชีวิต สอดแทรกเข้ามาในระหว่างรายการ ตั้งแต่ที่คุณอ๋อ บอกว่า การแต่งหน้า เป็นการเสริมโหวเฮ้ง เป็นการใช้สีสรร ในการเสริมบุคคลิคของตัวเรา แต่ประโยคที่ชอบ และถึงกับหลั่งน้ำตา ก็คือ เทป ที่ไปหาแม่ค้าขายปลา (คืน 26 มีค.)
เป็นการสื่อให้เห็นถึงคนที่มีอาชีพ การฆ่าชีวิต เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง คุณอ๋อ มีวิธีการทำบุญให้แม่ค้า เพื่อรับบาปกรรมจากการล่าชีวิตให้น้อยที่สุด คุณอ๋อ ให้ทำสังฆทาน เป็นชุดยารักษา อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ เพราะยังมีคนอีกมากมายทำอาชีพเดียวกันกับคุณป้าขายปลา คงเป็นประโยชน์กับเค้าเหล่านั้นหากเค้าเชื่อ และได้รับชมเทปนี้ ส่วนช่วงที่ดิฉันถึงกับต้องร้องไห้ตามก็คือ คำพูดของคุณอ๋อที่พูดว่า " การที่เราต้องการอะไรจากใคร เราต้องเรียนรู้ที่จะให้เสียก่อน "
นี่คือสิ่งที่บอกกับแม่ค้าขายปลา สำหรับการแก้ไขเรื่องปัญหาชีวิตของเธอกับลูก และอีกประโยค ที่เป็นช่วงคุณอ๋อพูดคนเดียว คือ "การที่เราอยากได้อะไรก็ตาม เราต้องให้เค้าก่อน ต้องเป็นผู้ให้ก่อน แต่ถ้าเราต้องการให้คนๆนึง เป็นในแบบที่เราต้องการให้เค้าเป็น แต่ในเมื่อสิ่งๆนั้นที่คุณต้องการให้เค้าเปลี่ยน มันไม่ใช่ตัวเค้า เค้าก็เปลี่ยนไม่ได้ สุดท้ายคนที่เจ็บ ก็คือตัวคุณ และอาจจะเป็นเค้า ที่เจ็บเช่นกัน " ดิฉันไม่ได้จดไว้ค่ะ หากเป็นบทสคริปที่ดิฉันพิมพ์ผิด ต้องขอ อภัยทางทีมงานด้วยนะคะ แต่ถ้าจดทัน ดิฉันก็อยากจดไว้ค่ะ ใน 2 ประโยคนี้ ดิฉันร้องไห้กับความหมายที่คุณอ๋อสื่อสารออกมา เพราะโดยส่วนตัวแล้ว กำลังมีปัญหาเรื่องนี้ กับ คุณแม่ ซึ่งดิฉันแยกออกมาอยู่กับสามีแล้ว แต่ในบางครั้งท่านก็ยังอยากให้เรารับฟัง หรือ ปรึกษาปัญหาท่านก่อนในทุกๆ เรื่อง แต่ในบางเรื่อง ดิฉันและสามีไม่มีเวลาที่จะ ปรึกษาท่าน เพราะคิดว่า เราคืออีก 1 บ้านแล้ว เราโตแล้วนะ เราคิดว่าเราทำตรงนั้นมันถูกต้องแล้ว และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็บอกว่า เราทำดีมากๆ ทั้งๆที่ทำแล้วเหนื่อย ไม่ได้ผลประโยชน์อะไร แต่เป็นการทำเพราะช่วยผู้อื่นในยามคับขัน และเป็นเวลาตี 2 แล้ว (คืนวันที่ 24 มีค.) ถ้าเป็นกลางวัน ดิฉันอาจจะโทรปรึกษาท่าน แต่ตี 2 ท่านควรพักผ่อน และท่านก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่อยากให้ท่านต้องตื่นกลางดึกมารับรู้สถานการณ์ตอนนั้น แต่รุ่งขึ้น ดิฉันก็โทรไปบอกกับท่าน เพราะต้องการถามท่านว่า การเป็นพลเมืองดี ช่วยเหลือคนแปลกหน้าเมื่อเค้าพูดว่า พี่ช่วยหนูด้วย นั้นเป็นเรื่องที่ดีไหม ดิฉันพาผู้ประสบเหตุส่งถึงผู้ปกครองด้วยตัวเองและสามี พร้อมทั้งยินดีเป็นพยานหาก ผู้ประสบเหตุ ต้องการแจ้งความ เมื่อความสมัครใจในการแจ้งความเกิดขึ้น ดิฉันและสามีจึงเข้าไปให้ปากคำ ในฐานะของพยานที่เห็นว่า ผู้แจ้งความเข้ามาบอกว่าพี่ช่วยด้วย และเราเห็นว่าเธอ วิ่งหนีมาจริงๆ แต่ก่อนหน้านั้นเราไม่ทราบว่าเธอไปทำอะไรมา เรา 2 คนบอกแค่ว่าเราเห็นเธอ และช่วยเธอ พาส่งผู้ปกครอง โดยมีการโทรคุยกันก่อนไปส่ง เพราะเรากลัวว่าจะโดนหลอก ดิฉันไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร แต่บอกตามตรงว่า ไม่ได้เชื่อที่ผู้แจ้งความให้การทั้งหมด ซึ่งตรงนั้นก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฏหมาย เพราะเจ้าตัวต้องการแจ้งความ ในฐานะที่เราเห็น เราแค่เป็นพยาน เพราะพยานในที่เกิดเหตุจากจุดอื่นๆ ก็ให้การตรงกันกับคำให้การของผู้แจ้งความ ดิฉันไม่ได้อะไร ไม่คิดว่าต้องการอะไร และไม่ได้คิดว่า การที่ดิฉันทำเพื่อต้องช่วยใคร และหวังว่าผลรูปคดีจะเป็นอย่างไร ดิฉัน ยึดถือความถูกต้อง เป็นอันดับแรกๆ ตรงไปตรงมา แต่เมื่อคุณแม่ของดิฉันทราบ กลับโดนท่านต่อว่า ว่าทำไมต้องไปยุ่งเรื่องของคนอื่น ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามมาปองร้ายพยาน จะทำอย่างไร ท่านต้องการให้ เจ้าทุกข์ถอนคำแจ้งความ แต่ดิฉันไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ดิฉันไม่ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อใครๆ ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์เรื่องนี้ ท่านต้องการโทรคุย แต่ดิฉันก็เลี่ยงไปว่า หากต้องการทราบข้อกฏหมาย บทลงโทษ หรือ อะไรก็ตามที่เป็นผลต่อพยาน ให้ท่านโทรไปยัง สถานีตำรวจที่ดิฉันให้ปากคำไว้ แต่ท่านไม่ยอมโทรไป ซึ่งท่านร้องไห้ ต่อว่าดิฉันว่าทำไมดิฉันไม่ปรึกษาท่านก่อน ทำไมดิฉันไม่แนะนำให้เจ้าทุกข์ถอนแจ้งความ ดิฉันเป็นคนพูดตรงๆ ว่าดิฉันทำไม่ได้ ดิฉันไม่ได้ช่วยใคร แต่ต้องการความจริง ต้องการให้ความยุติธรรม กับทุกฝ่าย ยินดีเป็นพยาน เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และไม่ได้หวังว่า ใครจะเป็นฝ่ายชนะคดี คุณแม่ร้องไห้ และบอกว่า ท่านผิดหวังในตัวของดิฉัน ดิฉันหัวดื้อ ไม่ฟังท่านเลย ท่านวางโทรศัพท์ไปทันทีพร้อมกับเสียงร้องไห้ด้วยความน้อยใจ หากอยู่ตรงหน้าดิฉันอยากจะกราบเท้าขอโทษท่าน เพราะรู้ว่าท่านเป็นห่วงดิฉันมาก กลัวภัยจะมาเยือนดิฉันและสามี ซึ่งดิฉันทราบมาโดยตลอดว่า คุณแม่ เป็นผู้ที่ห่วงใย รัก คิดถึง และปราถนาดีมาโดยตลอด แต่ทว่าธรรมชาติของดิฉัน เป็นคนตรงไปตรงมา อาจจะมีเฉไฉในทางคำพูดบ้าง เวลาที่ต้องเจรจาในทางธุรกิจของดิฉัน คุณแม่ท่านผิดหวังในตัวดิฉัน แต่ทั้งๆที่ดิฉันคิดว่านั่นคือ การเป็นพลเมืองดีคนหนึ่ง หากวันใดที่ดิฉันต้องการความช่วยเหลือในยามที่ตนทำอะไรไม่ได้ แล้วใครล่ะจะมาช่วย แล้วใครล่ะจะมีใจมาแยแสเรา ถ้าเราไม่รู้จักการช่วยเหลือผู้อื่นก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ปีที่แล้วดิฉันได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในลักษณะการช่วยเป็นเงินซึ่งเงินในวันนั้น ทำให้ดิฉันมีวันนี้ได้ ดิฉันซาบซึ้งมากๆ เกรงใจญาติ จึงอาศัยเพื่อนๆ มันจึงเป็นความรู้สึกของผู้ได้รับว่ามีความสุข ผู้ให้ก็คงหวังให้เราพ้นวิกฤตินั้น จึงได้เข้าใจว่า ผู้ให้คืออะไร วันนี้เช้าวันที่ 27 มีค. หลังจากที่กลับมาจากใส่บาตร ( นานๆ ใส่ทีค่ะ ใจอยากทำบุญแต่ตื่นไม่ทัน แต่วันนี้ตั้งใจตื่นมากๆ ) ดิฉันทำกระเป๋าสตางค์หล่น ในชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน ดิฉันยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำกระเป๋าสตางค์หาย แต่ก็มีชาวบ้านแถวนั้น ช่วยกันเรียกดิฉันให้เดินกลับไป เพราะฉันเดินจากจุดที่กระเป๋าหล่นประมาณ 50 เมตร มีคนเก็บได้ แต่ไม่ใช่กระเป๋าสตางค์ทั่วไปนะคะ มันเป็นกระเป๋าผ้ารูดซิบธรรมดา ไม่มีเอกสารทางราชการที่บ่งบอกว่าเป็นดิฉัน แต่ในนั้นมีเงินประมาณ พันบาท เพราะเป็นธนบัตรย่อย จึงบอกจำนวนเงินไม่ได้ เมื่อคนที่เก็บได้ไต่ถามเพื่อความแน่ใจ แต่ดิฉันก็บอกลักษณะกระเป๋า-สี และประเภทธนบัตรได้อย่างถูกต้อง แต่บอกจำนวนไม่ได้เพราะมันเป็น ธนบัตรย่อย จึงได้กระเป๋าสตางค์คืนมา เพราะนอกจากคนที่เห็นจะไม่เก็บเป็นของตนแล้ว ยังมีลุงท่านนึงที่ขายของอยู่เห็นว่าตกจากถุงที่ดิฉันใส่กระเป๋า เมื่อได้ของคืนแล้ว ดิฉันตั้งใจก่อนหน้าอยู่แล้วว่าจะเดินมากรวดน้ำใต้ต้นไม้ เมื่อดิฉันลุกขึ้นจากต้นไม้เพื่อจะเดินกลับบ้าน ก็มีมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งจอดเทียบดิฉัน แต่คนขับคือ 1 ใน ผู้หวังดีที่ต้องการคืนของให้ดิฉัน เธอบอกว่าเธอเป็นคนเห็นคนแรก นึกว่ากระเป๋าเครื่องสำอาง แต่เปิดออกมาเห็นว่าเป็นเงิน จึงรีบตามหาเจ้าของโดยด่วน ซึ่งลุงคนที่เห็น ชี้ตามดิฉันซึ่งเดินจากจุดนั้นแล้ว และให้คนปั่นจักรยานมาเรียกดิฉันว่าทำกระเป๋าหายหรือเปล่า เธอบอกว่า เมื่อเธอเห็นว่าเป็นเงิน เธอก็นึกถึงตัวเองทันทีว่า หากเธอเป็นเจ้าของเงิน คงเสียดายเงินมาก ถ้าไม่มีใครคืนเธอ ดิฉันไม่รู้จักเธอมาก่อน เธอเหมือนกำลังจะเข้างานเพราะใส่ชุดทำงานโรงงาน ดิฉันยกมือไหว้เธอแสดงความขอบคุณในน้ำใจของเธอ ทั้งๆที่เธอคงจะเดือดร้อนเรื่องเงินอยู่ เพราะดิฉันเห็นเธอก่อนหน้าที่จะทำของหาย ดิฉันซื้อของอยู่ร้านติดๆ กับที่เธอยืน เธออยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม กำลังเช็คยอดเงิน และพูดกับเพื่อนของเธอเหมือนกับว่า " ตายแล้ว อีกตั้ง 3-4 วันกว่าเงินจะออก ทำไงดีวะ.." แต่เธอก็ไม่เอาเงินของดิฉัน ดิฉันชี้ทางไปบ้านของดิฉัน ซึ่งก็หาง่ายและเป็นจุดเด่นพอสมควรในซอยนั้น เผื่อว่าเมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือในสิ่งที่ดิฉันช่วยได้เธอจะได้มาหา เพราะไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจเธออย่างไรดี ซาบซึ้งจริงๆค่ะ .... น้ำใจสาวโรงงาน จนทำให้ดิฉันนึกถึง รายการคุณอ๋อเมื่อคืน และเข้าอินเตอร์เน็ต เช็คเรื่องงาน และค้นหาเวปที่เกี่ยวกับคุณอ๋อ จนพบ blog ของคุณเป็นที่แรก อยากขอบคุณค่ะ ที่ให้ความคิด ข้อคิดดีๆ หรือแม้แต่หลักการจัดวางเรื่องของฮวงจุ้ยการทำมาค้าขาย ไม่ใช่ว่า พอเจอเรื่องตรงกับตัวเองแล้วจะบอกว่ารายการของคุณดีขึ้นนะคะ แต่รู้สึกว่าดีขึ้น ตั้งแต่มีหลักปรัชญา ข้อคิดเตือนใจ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ ดิฉันหนักใจเรื่องคุณแม่มากๆ ค่ะ เพราะดิฉันไม่กล้าบอกท่านด้วยปรัชญาต่างๆ นานา ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ เครียด ไมเกรนขึ้น ดิฉันทำให้คุณแม่ร้องไห้ ดิฉันกลัวตกนรก กลัวบาป กลัวมากๆ เพราะเมื่อตอนเด็กๆ ก็หัวแข็งมาแต่ไหนแต่ไรให้ท่านลำบากใจมากมาย ที่ผ่านมาท่านอโหสิให้อภัยดิฉัน แต่ตอนนี้เหมือนฉายหนังม้วนเดิมเลยค่ะ ตอนนี้จิตใจดิฉันกำลังแย่มากๆ ต้องขอโทษคุณเจ้าของ blog นะคะ ที่ร่าย comment มาเสียยืดยาว แต่หากจะเป็นความเข้าใจในตัวดิฉันว่ากำลังทุกข์ใจเหลือเกิน ก็ขออย่าได้โกรธกันเลยนะคะ ไม่รู้จะระบายกับใคร.....รายการ อ๋อซียู ทำให้คนคิดเป็น คิดดี ทำดีได้ ดีแล้วค่ะ คุณ-ทีมงานทุกๆคน รวมทั้งคุณอ๋อเอง ทำได้ดีมากๆ ดิฉันขออวยพรให้ทุกๆคน คุณอ๋อ ทีมงานรายการอ๋อซียู ได้รับแต่สิ่งที่ดีในการงาน การเงินและด้านอื่นๆ นะคะ เพราะคุณทุกคนชี้ทางสว่างให้ผู้ชมมากมาย สุดท้ายอยากบอกจากใจจริง ขอบคุณมากค่ะ ที่ทำให้คนๆนี้ มองโลกเปลี่ยนไป จากโลกใบเก่าที่หมองหม่น เปลี่ยนเป็นโลกที่ตนรู้จักเปิดใจ "รักรายการ อ๋อซียู"
***********************************

และอีกครั้งกับคุณ hypnosis เมื่อวันที่ 28 มีนาครับ

***********************************
อยากเล่าให้ทุกคนฟังว่า....

เนื่องจากกระแสของคำว่า อ๋อซียู ที่หนาหูในกลุ่มของคนเปิดทีวีดูยามดึก บ้างก็ว่าจริง บ้างก็ว่าเธอเป็นใคร บ้างก็ว่าไร้สาระ นานาจิตตังในความรู้สึกของแต่ละคน แต่สำหรับดิฉัน ซึ่งเข้ามาโพสต์ระบายความอัดอั้นที่ด้านบน ซึ่งถ้าไปโพสต์ blog คนอื่น เจ้าของ blog คงมีน้ำโห น่าดู....แต่ไม่ใช่ที่นี่ เพราะที่นี่คือ อ๋อซียู

หากคุณมีปัญหาชีวิต หากคุณไม่รู้จะระบายให้ใครฟัง หากคุณคิดว่า การเปิดใจรับข้อคิดใหม่ๆ เป็นเรื่องที่ไม่เชย คุณเลือกถูกแล้ว ที่เข้ามาที่นี่....เหมือนคำโฆษณาชวนเชื่อ
แต่ความจริง ไม่ได้ชวนเชื่อ.....เป็นคำโฆษณาชวนคิด

hypnosis เป็น ชื่อเล่นในการสร้าง blog ของดิฉัน ซึ่งก็บอกตามตรงว่า เคยมีชื่ออื่นมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ต้องปล่อยให้ร้าง เพราะเจอมารสังคมไซเบอร์คุกคามความเป็นส่วนตัวมากเกินไป.....หนีมันซะ อย่าเอามาเป็นอารมณ์

คุณคงคิดว่า hypnosis เป็นหน้าม้าให้ อ๋อซียู ล่ะสิ รู้นะ...
คุณมีสิทธิ์คิด แต่ถ้าความคิดนั้นมันค้างคาใจอยู่ละก็ hypnosis จะตอบว่า hypnosis ไม่ได้เป็นหน้าม้า แต่เป็นหน้าต่างบานหนึ่ง ที่ได้รับการปล็ดล็อคจากลูกกุญแจหัวใจแง้มบานหน้าต่างที่ปิดตาย ให้ได้รับสัมผัสของคำว่าการเรียนรู้เพื่อการมีชีวิตอย่างถูกวิธีว่าทำอย่างไรชีวิตเป็นสุข

คุณคงมีคำถามในใจ ว่า "คุณอ๋อ ต้องการโทรไปจริงเหรอ?? ทำไมคุณอ๋อต้องโทรไปทั้งๆที่คนอื่นๆ ต้องการเบอร์โทรเพื่อโทรไปหาคุณอ๋อ?? คุณอ๋อโทรหาhypnosis จริงเหรอ?? hypnosis เป็นใครทำไมคุณอ๋อต้องสนใจ?? หรือคำถามที่อาจจะมีหลายคนสงสัยว่า....hypnosis มีส่วนได้ส่วนเสียผลประโยชน์กับรายการ อ๋อซียู ?!!

คำตอบคือ
- "เป็นความต้องการของคุณอ๋อโดยตรงที่อยากโทรหา"
- "คุณอ๋อเลือกที่จะช่วยคนที่คิดว่า คุณอ๋อช่วยเหลือได้"
- "คุณอ๋อโทรหาจริงๆ ภายในวันเดียวกันที่ขอเบอร์ ไม่มีใครต่อสายให้ เสียงแรกที่ได้ยินคือ ฮัลโหล พี่อ๋อนะคะ"
- " hypnosis เป็นคนที่กำลังมีปัญหาและต้องการระบายให้ใครซักคนรับรู้ เพราะเป็นปัญหาในครอบครัว จึงมาพิมพ์ระบายที่นี่ คุณอ๋อสนใจเพราะมีทางแก้ให้ดีได้"
- "hypnosis ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางรายการ ไม่รู้จักทีมงานซักคน ไม่มีความพิเศษอะไร นอกจากซึ้งใจรายการ"

:*:คำตอบเพิ่มเติม:*:
- hypnosis เปิดใจรับข้อคิดดีๆของคุณอ๋อ เธอจึงคิดว่าช่วยไม่ผิดคน
- hypnosis ไม่ได้ขอหวย ไม่ได้ถามถึงชาติหน้า ถามแค่ว่า "เราไม่เคยเจอกัน แต่เรื่องส่วนตัวของดิฉัน คุณอ๋อทราบได้อย่างไร"
- คุณอ๋อใจดีมาก ไม่หยิ่ง พูดได้ทุกเรื่อง เธอไม่ใช่หมอดู เธอหยั่งรู้และใช้หลักธรรม ให้คนที่เดือดร้อนไปประยุกต์ใช้ เธอมีมิตภาพที่ดี เธอมีน้ำใจ ร่วมชั่วโมงในสาย เธอรับฟัง และให้ข้อคิด เธออ่านจากที่ฉันเขียนออกมาจากใจจริงของฉัน เธอจึงมองฉันออก โดยที่ไม่ต้อง ไปนั่งเห็นหน้าตาอะไรเลย

+ ข้อนี้ไม่ใช่คำตอบแต่อยากถอนคำพูดเบื้องต้นที่ว่า "ฉันไม่ได้ศรัทธาในตัวคุณอ๋อ เพราะเธอยังไม่หยั่งรู้ฉัน"
ข้าพเจ้า hypnosis ขอถอนวาจานี้ ออกจากจิตสำนึก

:*:ตอบข้อสุดท้าย:*:
- ถ้าคุณเข้าใจจุดประสงค์ของรายการ อ๋อซียู คุณจะเป็น
"อ๋อไอซี"

รักพี่อ๋อมากค่ะ พี่สาวคนดีของหนู
p' aur she's nice person ..... i sure
***********************************



Create Date : 31 มีนาคม 2549
Last Update : 31 มีนาคม 2549 1:06:11 น.
Counter : 4904 Pageviews.

6 comments
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
  
สวัสดีค่ะ พี่อ๋อ

หมวยเองค่ะ hypnosis คนเดิม ระยะนี้ แม้จะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของแม่ แต่เมื่อ2-3วันที่ผ่านมา ก็ได้คุยกันหลายเรื่อง ในระหว่างที่เราไม่ได้คุยโทรศัพท์กันเลย ตั้งแต่ได้คุยกับพี่อ๋อวันนั้น แต่แม่ก็อยากง้อโดยขณะที่น้องสาวกำลังคุยอยู่ในสาย แม่ก็มาไล่น้องให้ไปทำงานบ้านส่วนที่น้องต้องรับผิดชอบ แล้วแม่ก็มาคุยกับหมวยแทนน้องสาวเลย ... ก็คุยกันหลายเรื่องค่ะ เรื่องบ้าน เรื่องกิจการที่เค้ากำลังตัดสินใจกัน เรื่องการเมือง ก็คุยกันไปสารพัด เรากลับมาคุยกันได้เหมือนเดิม เหมือนอย่างที่พี่อ๋อแนะนำหมวยไปค่ะ ตอนนี้หมวยก็จดจำคำสอนของพี่อ๋อ ไปใช้บอกน้องสาวอีกที เธออายุแค่ 16 เป็นช่วงที่เสี่ยงมาก เปราะบางมาก แม่อาจจะพูดไม่ดีกับน้อง หมวยก็บอกว่า เธอก็อย่าว๊าก แม่กลับ ไม่งั้น จะเป็นสงครามใหญ่ น้องก็ได้แต่รับปาก และมีอะไรก็บอกว่าให้ติดต่อมาทางหมวยก่อน ถ้าไม่กล้าบอกแม่ น้องสาวเป็นเด็กขี้กลัวค่ะ ไม่กล้วแสดงออก แต่ก็ยังดีที่เป็นคนมีความพยายาม หมวยก็ได้รับฟังคำของน้องที่เล่าว่าแม่บ่นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่หมวยก็ถามแม่ด้วยว่า แม่ดุแม่บ่นน้องเหรอ เค้าทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า แต่เหตุผลก็คือ แม่หวังในตัวลูกจนเกินไป แม่คิดว่า "ดูสิ ทำไมบ้านอื่นถึงมีลูกที่ดี" หมวยบอกแม่ว่า "ถ้าเป็นหมวย หมวยจะไม่โกรธนะ แต่น้องเป็นคนคิดมาก แม่ต้องศึกษาจิตใจเค้ามากๆ เค้าจะได้ไม่ว๊ากๆ ใส่แม่อีก หนูก็ไม่อยากให้น้องเป็นแบบนั้น แต่ก็ดีอย่างหนึ่งคือ น้องเป็นคนไม่มีฑิฐิอะไร โกรธแล้วแป๊บเดียวก็หาย เวลาหมวยเอ็ดน้องต่อหน้าแม่ เมื่อสมัยอยู่บ้านเดียวกัน น้องจะไม่เถียงหมวยเลย แต่ทำไมกับแม่ พุดอะไรนิดหน่อยไม่ถุกหู ก็ว๊าก เคยบอกเค้าว่า เธอเคารพพี่ใช่ไหม และถ้าเธอเคารพพี่ ทำไมเราไม่เคารพแม่พี่บ้างล่ะ ซึ่งเป็นแม่ของเราด้วยนะ ...
หมวยคงต้องแบ่งเวลา ดูแลเค้าทางเสียงตามสาย ให้คำแนะนำ-ปรึกษาด้วยวัยที่ไม่ห่างกันมาก ซักวันเค้าคงเข้าใจค่ะ เค้าแค่ขี้งอนบ่นๆๆ คืนก็จบ แต่หมวยก็ขี้น้อยใจเหมือนกัน เฮ่อ...อารมณ์นี้ ผู้หญิงเป็นเหมือนกันหรือเปล่าเอ่ย??

แต่เท่าที่แม่เปลี่ยนไป คือ แม่ยอมรับขอโทษในสิ่งที่ตัวเองหลงลืม นัดกับหมวยไว้ว่าตอนเช้าเจอกัน คืนนี้ให้แม่คุยธุระกับป้าเสร็จก่อน ถ้าว่างหรือไม่ว่างให้โทรบอกหมวยนะ เพราะถ้าไม่โทร หมวยก็ไม่กล้าโทร เพราะท่านกลัวโทรศัพท์ตอนดึกมากๆ แต่ท่านก็ไม่โทรมาคอนเฟริ์ม ว่าจะเจอกันที่ไหน จะมารับ หรือจะให้ไปเอง หมวยยิงคำถามไป 1 คำว่า แม่ ทำไมไม่โทรหาหมวยถ้าแม่อยู่บ้านป้า หนูก็ไปหาได้ ไม่ไกลกันเลย ไม่โทรมาบอกหมวย หมวยก็ทำตัวไม่ถูกเลย แม่พูดว่า " อื่ม โทษที แม่คุยเพลินไปหน่อย คุยกับป้าน่ะ กลัวว่าโทรไปหาเราแล้วเราจะบ่นว่าโทรมาทำไมตอนดึกๆ " ก็เหมือนที่พี่อ๋อบอกล่ะค่ะ ว่า แม่ลูกคู่นี้เหมือนกัน จริงๆ ต่างคนต่างเกรงใจ เลยไม่มีใครโทรเลย หมวยก็บอกท่านแต่แรกว่าไม่ต้องเกรงใจ โทรศัพท์อยู่ในห้องนอน มือถือจะโทรมาเบอร์ใครก็ได้ เพราะคนที่หมวยควรเกรงใจ คือท่านมากกว่า หมวยไม่รู้ว่าแม่เปลี่ยนไปไหม แต่ตอนนี้รู้ว่า ท่านยอมมอบคำขอโทษ หรือ โทษที ที่ท่านบอกหมวย แค่นี้ หมวยก็พอจะมีหวัง ที่จะอดทนต่อสิ่งที่ตัวเองต้องเจออีกมากมายต่อไป เพราะคนขี้น้อยใจ เอาแต่ใจ และคิดแต่ความคิดของตัวเอง ซึ่งคนรอบข้างหมวยหลายคน ทั้งแม่ พ่อ น้อง และแฟน แต่หวังว่า ความอดทนของหมวย และการรู้จักปลงอะไรเสียบ้าง คงจะทำให้เดินทางนี้ได้ง่ายขึ้น และไม่ทำให้ฝ่ายใดเจ็บปวดเหมือนที่ผ่านๆมา
....ขอบคุณพี่อ๋ออีกครั้งที่ให้คำแนะนำค่ะ แล้วก็คิดถึงพี่อ๋อนะคะ รักษาสุขภาพด้วย แล้วหมวยจะเมลล์หาเรื่อยๆ นะคะ รักพี่อ๋อค่ะ
:^: love aurseeyou. 'cause her guru have insight. ...in me :^:

ปล. เสื้อที่พี่อ๋อใส่ บางเทป โดนใจจิงๆ อิอิ ชอบแบบนั้นเลย คนขาวอวบใส่สวยมากๆ (เช่น เทป ที่ไปหาเจ้าของร้านขายเสื้อน่ะค่ะ สวยดี อาร์ตๆ ไม่โหล เท่ห์ค่ะ )
โดย: hypnosis (hypnosis ) วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:3:59:38 น.
  
ติดตามชมรายการของคุณอ๋อมาประมาณ 3 ครั้ง และพอได้ดูครั้งที่ 2 ก็รีบขวนขวายหาเบอร์ที่จะติดต่อกับคุณอ๋อ และก็ได้ส่ง e-mail และพร้อมทั้งส่งจดหมายมาถึงคุณอ๋อ และจนเวลาล่วงเลยมากว่า 2 อาทิตย์แล้วก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากคุณอ๋อ โทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ชื่อคุณตาก็ได้รับทราบคำตอบว่าคุณอ๋อจะตอบภายในวันเสาร์ ที่ 8 เมษายนนี้ และตอนนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบจากคุณอ๋ออยู่ และท้ายนี้ก็หวังว่า คงจะไม่ต้องรอเก้อนะค่ะ และขอให้การรอคอยของดิฉันในครั้งนี้สมหวังด้วยนะค่ะ
โดย: คนงามบ้านโป่ง IP: 61.7.156.82 วันที่: 8 เมษายน 2549 เวลา:22:24:11 น.
  
สวัสดีค่ะพี่อ๋อหนูชื่อประมณฑ์นิษฐ์(ไหม)ดูรายการของพี่อ๋อได้ด้วยความบังเอิญมากและตั้งแต่วันอาทิตย์แรกของต้นเดือนมกราคม2550ก็ได้ดูตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกเช้าวันอาทิตย์ต้องรีบตื่นมาดูถึงแม้จะง่วงมากก็ต้องตื่นมาดูแล้วค่อยนอนต่ออีกซักนิดเพราะวันอาทิตย์อยากพักผ่อนเยอะๆ รายการ "aurseeyou" เป็นรายการที่มีความรู้มากยิ่งสำหรับตัวของไหมเองแล้วไหมคิดว่ามันเป็นประโยชน์มากเพราะไหมกำลังจะเปิดร้านเครื่องดื่มจำพวกกาแฟสด,น้ำผลไม้ปั่นต่างๆพร้อมทั้งขายเครื่องประดับต่างๆด้วย และตอนนี้กำลังตกแต่งร้านอยู่พอดีแต่ไม่รูว่าจะถูกฮวงจุ้ยหรือเปล่ามีความรู้แค่งูๆปลาๆ ที่ได้จากรายการของพี่ จำได้ว่ามีหงส์,มังกร,ลูกหงส์,ลูกมังกร แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันทำให้จัดตำแหน่งยากมากๆ เพราะทาว์เฮ้าน์ที่เช่าจะมีห้องน้ำชั้นล่างอยู่ได้บันไดและที่สำคัญอยู่ตรงตำแหน่งมังกรเสียด้วยยิ่งทำให้ไหมหนักใจและคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี? ส่วนสีของร้านที่จะทาจะใช้เป็นสีซ็อกกี้พิงค์มีลายเพ้นท์ที่พนังเป็นเถาว์วัลย์ดอกไม้เพิ่มความหวามคิขุเล็กลงไปด้วย และยิ่งใกล้ถึงวันที่จะต้องเปิดให้ทันมหาลัยเปิดแล้วด้วยยิ่งเพิ่มความกังวลให้ไหมเป็นอย่างมากจึงได้ส่งเมล์มาหาพี่อ๋อเพื่อให้ช่วยไหมหน่อยที่สำคัญไหมยังมีรูปทาว์เฮ้าน์มาให้ด้วย ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
โดย: www.maily@yahoo.co.th IP: 210.86.146.226 วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:16:46:44 น.
  
สวัสดีค่ะ ไหมเองค่ะพี่อ๋อลืมบอกไปขอให้พี่อ๋อรักษาสุขภาพด้วยน๊ะค่ะและอยากให้พี่อ๋อคงความน่ารักอย่างนี้ไปนานๆน๊ะค่ะ
โดย: www.maily@yahoo.co.th IP: 210.86.146.226 วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:16:53:15 น.
  
สวัสดีค่ะพื่อ๋อ สังเกตจากชื่อ พี่อ๋อคงนึกว่าเป็นผู้ชายใช่ไหมคะสำหรับชื่อชลอ แต่จริง ๆ แล้วเป็นผู้หญิงค่ะ ดูรายการของพี่อ๋อเกือบทุกอาทิตย์ รู้สึกว่าเป็นรายการที่พยายามอธิบายสิ่งต่าง ๆ โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์ประกอบด้วย โดยส่วนตัวคิดว่าหลาย ๆ สิ่ง หลายอย่างรอบ ๆ ตัวเราสามารถมีเหตุผลอธิบายได้ มันไม่ใช่เรื่องงมงาย อยู่ที่ว่าเราได้มีการวิเคราะห์ตามหลักความเป็นจริง แต่บางสิ่งบางอย่างอาจยังไม่สามารถหาเหตุผลอธิบายได้ เนื่องจากบางอย่างคงยังต้องอาศัยการค้นคว้าต่อไป

คิดว่ารายการของพี่อ๋อ เป็นรายการที่ช่วยชี้แนะให้กับคนที่อาจมีความทุกข์ใจ ไม่สบายใจหรือไม่แน่ใจในบางเรื่อง ได้มีแนวทางอีกทางหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้สามารถช่วยให้เขาเหล่านั้นมีสติในการคิด แก้ปัญหาก็เป็นได้

ก่อนจะจบ ก็มีคำถามเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับตัวเองค่ะ ว่าไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเวลาทำงาน หรือพยายามประหยัดเงินเท่าไร ก็มักมีเหตุฉุกเฉินให้ไม่สามารถเก็บเงินนั้นไว้ได้ เคยดูรายการพี่อ๋อครั้งหนึ่ง ซึ่งพีอ๋อแนะนำให้ไปซึ้อแหวนมาใส่ สำหรับคนที่มีปัญหาในลักษณะนี้ ไม่ทราบว่าจะหาซื่อได้ที่ไหนคะ หรือสามารถซื้อจากเครื่องประดับรายการอ๋อ ซี ยู ได้ไหมคะ รบกวนพี่อ๋อช่วยตอบให้หน่อยได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ
โดย: ชลอ IP: 119.42.65.243 วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:12:12:52 น.
  
อยากจะถามพี่อ๋อว่าเจงเปิดร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับเสื้อผ้า เช๋น ไม้แขวนเสื้อ ราว ถุงต่างๆ และหุ้นต่างๆ คะ อยากรบกวนถามพี่อ๋อ ว่าเหมาะกับตัวเองไหมและก้อใจจริงอยากให้พี่อ๋อมาดูร้าน ฮ้วงจุยร้านให้ด้วยคะ แต่ก้อทราบมาว่าพี่อ๋องานเยอะ และยุ่งๆ แต่อยากทราบว่าพี่อ๋อจะมาที่จังหวัดอุดรธานี บ้างหรือเปล่าเพราะถ้ามีมาก้ออยากจะเจอเพื่อถามและคุยกับพี่อ๋อคะ
สุดท้ายนี้ก้อขอให้พี่อ๋อมีสุขภาพแข็งแรง และทำรายการดีๆแบบนี้ต่อไปคะ
ถ้าโชคดีเราคงมีโอกาสได้เจอกันนะคะ
จาก น้องเจงคะ ร้านอาร์ม อุปกรณ์ ที่อุดรธานีคะ
เจง อีเมล์ jengto3@hotmail.com ka

โดย: เจงคะ IP: 115.87.4.111 วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:17:44:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aurseeyou.BlogGang.com

toy9b
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด