ท่องเที่ยว+เรียนรู้+ความฝัน

ผมได้ยินชื่อ นิ้วกลม จากคอลัมน์ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ ของหนุ่มเมืองจันท์ ที่พูดถึงในบทความชื่อ พี่เชิด บทความนั้นทำให้ผมดู The Polar Express, อ่านนั่งคุยกับความตาย, รู้จัก เชิด ทรงศรี
และได้ยินชื่อ นิ้วกลม พร้อมกับหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในเจ็ดเล่มของโครงการ The first hand ของสำนักพิมพ์ a book ที่ทำ ความฝัน ของนักเขียนหน้าใหม่ให้มีหนังสือของตนเองออกสู่ตลาดเป็นเล่มแรก
อ่านคำนำแล้ว นิ้วกลม นอกจากจบสถาปัตย์ฯ ทำงานโฆษณา น่าจะเป็นคนชอบดูหนังแล้วเอาแก่นมาหากิน (ฮา) สองเรื่องที่นำมาพูดในคำนำเป็นหนังดีทั้งสองเรื่อง โดยเฉพาะ Dead poets society ที่สื่อว่าเราเป็นพวกเดียวกัน เป็นสาวกครูคีตติ้งเหมือนกัน
อ่านเล่มนี้เปิดมุมมองเรื่อง Backpacker ที่เราเองไม่เคยสัมผัส มีกลเม็ด และบางสิ่งที่ต้องเตรียม เช่น บัตรนักศึกษา
อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะเห็นญี่ปุ่นในหลายมุม แทบจะครบ หลายคนรวมทั้งผมชอบวิถีแบบญี่ปุ่น แต่เราจะเห็นทีละด้าน เช่น
การอนุรักษ์วัฒนธรรม
กลุ่มวัยรุ่นที่มีทั้งจริงจังและหลุดกรอบ
เวทีการปลดปล่อยอารมณ์ของวัยรุ่น
ปราชญ์ที่มีอยู่ทุกที่ในญี่ปุ่น
ร้านหนังสือขนาดใหญ่มากมายและหลากหลายในญี่ปุ่น
วัฒนธรรมที่เน้นด้านจิตใจ เช่น ชงชา
น้ำใจของคนเมืองใหญ่ ฯลฯ
ทั้งหมดทุกด้าน มีให้อ่านในเล่มนี้ ทั้งด้านสว่างและด้านมืด แบบว่าครบ
อ่านแล้วจะได้เลิกสงสัยทำไมประเทศเขาอยู่ยงคงกระพันมาได้ เขามีอะไรต่างกับบ้านเราบ้าง
ที่เห็นชัดๆ คือ ญี่ปุ่นมีหลายกระแสให้เลือกในประเทศ ไม่เฮกันไปหมดทั้งประเทศ มีทางเลือกมากมาย
อีกอย่างมีคนมุ่งมั่น มีอุดมการณ์ และเข้าใจชีวิตจำนวนไม่น้อย
มีคำเด็ดๆ เต็มเล่มเลยครับ ที่ต้องหยุดจด คือ
อย่าหลงลืมโลกแห่งจินตนาการและความฝัน เพราะมันมีอยู่จริง
การได้รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร สำคัญกว่าการได้รู้ว่าเขาคิดเหมือนเราหรือไม่
ต้องทำในสิ่งที่ชอบ คนญี่ปุ่่นที่ยังรักที่ยังรักในวิชาชีพตัวเองยังมีอยู่
เกิดมาทำไมไม่รู้เหมือนกัน แต่น่าจะตั้งคำถามว่าเกิดมาแล้วจะทำอย่างไรต่อไปมากกว่า เพราะเราเกิดมาแล้วนี่นา
เวลาไปเที่ยวควรกลับตอนที่ไม่อยากกลับ
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนที่เราอยากไป ประสบการณ์ที่ไหนที่เราอยากเจอ เราต้องเดินเข้าไปหามัน จะรอมันเดินมาหาเราไม่ได้
ประโยคสุดท้ายของเล่ม ดึงทุกอย่างมารวมกัน
ความฝัน ก็เหมือนกันกับโตเกียว
มันไม่มีขา
ถ้าอยากไปถึง ต้องเดินไปหาเอง!
ชอบมากครับ
นอกจากแนวคิดแล้ว เล่มนี้จะแนะนำที่เที่ยวและกิจกรรมในโตเกียวได้เป็นอย่างดี อาจไม่ต้องโลดโผนเหมือนผู้เขียนก็ได้ แต่ทุกที่น่าไปและน่าสัมผัส ก็เลือกกันเอาเองตามแต่จริตครับ
ผมเชื่ออีกอย่างหนึ่ง หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเป็นความเชื่อของผมมาตลอดคือ สถาปัตยกรรม เป็นคณะที่ให้ความคิดสร้างสรรค์ ผลงานกี่คนแล้ว ที่เราสัมผัส มาจากคณะนี้ ผลงานเหล่านั้นน่าชื่นชม
พาลคิดเล่นๆ จะให้ลูกเรียนคณะนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ก็ได้แต่แกะว่าเขาสอนอะไรกันนะที่นี่ (บางคนบอกว่า วาดรูป และ อัพเกรดวิธีคิดขึ้นทุกปี) กิจกรรมอะไรนะที่แถมความคิดสร้างสรรค์มาให้ด้วย (เท่าที่รู้มีละครเวที) ทำอย่างไรลูกเราจะคิดถึงชีวิตในเชิงลึก คงต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน
สุดท้ายต้องบอกว่า ดีใจครับที่ขึ้นรถไฟสายโตเกียวขบวนนี้ เสียที แบบว่ายืมมานานแล้ว
รถไฟอีกขบวนที่ดีใจที่ได้ขึ้นคือ ขบวน LIF นี่แหละครับ หนังสือเล่มนี้ก็ได้จากรถไฟขบวนนี้เหมือนกัน
ขอบคุณเจ้าของหนังสือ คุณลวิตร์ มากๆ เลยครับ สำหรับหนังสือดีๆ เล่มนี้
ปล. แหล่งพบกับนิ้วกลมครับ
Blog : //www.roundfinger.wordpress.com
E-Mail : roundfinger2547@yahoo.com