ท่าทุ่มยูโด ippon seoinage อิปปงเซโอนาเกะเป็นอีกหนึ่งท่าที่นำมาจากยูยิตสูในสมัยโบราณท่านี้ถูกจัดเป็นท่าบังคับในการฝึกฝนของทหารที่ต้องเรียนรู้ท่านี้แต่ก่อนใช้ในจังหวะที่ถูกอีกฝั่งรวบมาจากด้านหลังท่านี้อาจจะเชื่องช้าถ้าเทียบกับเซโอนาเกะหากแต่พลังในการใช้มันออกมาได้น่ากลัวมากๆถ้าหากใช้เป็นพื้นฐานเป็นการทำคุสุชิมาด้านหน้าหรือเฉียงขวาหน้า เอาแขนขวาสอดเข้าไปหนีบแขนขวาของอุเกะก่อนจะทุ่มมาทางด้านหน้า
รูปแบบที่1 นาเกะโนะกาตะจังหวะทุ่มของท่าทุ่มมาตรฐาน ท่านี้เป็นหนึ่งใน15ท่าของท่าทุ่มมาตรฐานอยู่ในหมวดของท่าทุ่มด้วยมืออุเกะจะเริ่มต้นท่านี้ด้วยการเอากำปั้นทุบเข้ามาบริเวณศรีษะของโทริ ท่ากำปั้นทุบนี้มีใช้อยู่4ท่าในนาเกะโนะกาตะคือท่าอิปปงเซโอนาเกะ อุกิโกชิ อุระนาเกะ และโยโกกุรุม่าพออุเกะทุบเข้ามาโทริให้เอามือซ้ายออกไปปัดพร้อมกับการเข้าท่าอิปปงเซโอนาเกะในการทุ่มสิ่งที่แตกต่างหลักๆของการใช้ท่านี้ในส่วนของรันโดริกับส่วนของนาเกะโนะกาตะนั้นคือในส่วนของรันโดริทั่วๆไปจะเป็นการใช้ข้อพับหนีบแขนคู่ต่อสู้เอาไว้แต่ในส่วนของนาเกะโนะกาตะจะเป็นการทุ่มโดยใช้ไหล่ยกแขนของอุเกะสิ่งที่สอนในนาเกะโนะกาตะคือการหมุนของแรงไม่ใช่การคุมแขนขวาของคู่ต่อสู้เหมือนที่ใช้กันในการรันโดริดังนั้นตั้งแต่การทุบลงมาของอุเกะจะต้องต่อเนื่อง เอาแรงตรงนั้นมาใช้ในการทุ่มไปด้านหน้าถึงไม่สามารถที่จะเอาแขนหนีบแขนคู่ต่อสู้ได้เพราะจะทำให้การไหลของแรงหยุดชะงักไปท่านี้ในนาเกะโนะกาตะจะต้องทำต่อเนื่องไปมือของโทริที่ไปปัดแขนที่ทุบของมาของอุเกะจังหวะนั้นก็ห้ามหยุดชะงักเพราะทำให้การไหลของแรงหยุดตามไปด้วยอีกจุดนึงที่สำคัญคือข้อมือขวาของโทรินั้นต้องบิดเข้าหาตัวจับแขนเสื้อบริเวณไหล่ขวาของอุเกะเอาไว้ด้วย
รูปแบบที่2 การใช้ในจังหวะที่อุเกะขยับขาขวาออกมาด้านหน้า จังหวะทั่วๆไปคือตอนที่อุเกะกำลังขยับเท้าขวาก้าวมาด้านหน้าโทริใช้ทั้งสองมือทำคุสุชิมาด้านหน้าและเปิดมือซ้ายขึ้นด้านบนเพื่อที่จะเอาแขนขวาเข้าไปหนีบแขนขวาของอุเกะจังหวะที่เอาแขนเข้าไปหนีบนั้นดันเข้าไปให้สุดรักแร้ก่อน ใช้แขนบริเวณข้อพับหนีบแขนขวาของคู่ต่อสู้เอาไว้จากนั้นก็หมุนตัวเข้าไปให้หลังชนหน้าอกอุเกะ การหมุนตัวให้หมุน180องศาย่อเข่าลงเล็กน้อยการย่อเข่าต้องทำตั้งแต่ก้าวแรกคือก้าวขวาที่วางเท้าออกไปแล้วพอหมุนไปขาซ้ายจะย่อตามไปด้วย(สำคัญมากไม่ใช่ย่อตอนที่ขาสองเข้าไปเท่านั้น)ระยะห่างระหว่างขาคือประมาณเท่ากับไหล่ของเรานั้นแหละนิ้วเท้าไม่แบะออกให้ชี้ไปด้านหน้า งอเข่าหลังตรง ตามองไปด้านหน้า จังหวะทุ่มให้ดันเข่าย่อหลังลง(มีอาจารย์ท่านนึงสอนให้เอาตามองไปที่นิ้วก้อยขาซ้ายของเรา)มือทั้งสองข้างทำเหมือนกำลังใช้จอบขุดอะไรซักอย่าง อาจารย์คาโน่จิโกโร่ได้อธิบายถึงข้อสำคัญ2ข้อในการใช้อิปปงเซโอนาเกะเอาไว้ข้อแรกคือจังหวังที่หมุนตัวเข้าไปต้องหมุนให้ครบ180องศาถ้าคู่ต่อสู้เอียงเฉียงไปเราก็จำเป็นต้องหมุนตามไปให้หลังช่วงไหล่ของเราชนกับหน้าอกทั้ง2ข้างของคู่ต่อสู้ส่วนของสองคือจังหวะของท่าและความเร็วทุกอย่างต้องเคลื่อนที่แบบเฉียบคมเข้าไปด้วยความเร็วสเต็ปเดียวเพราะถ้าเข้าช้าอีกฝั่งจะรู้ทันทีว่าเราจะทำอะไรและออกแรงต้านทำให้การเข้าท่าไม่สำเร็จ ในส่วนของกติกาการแข่งขันของโคโดกัง(กฏไอเจเอฟถือว่าผิดกติกาแล้ว)สามารถพลิกแพลงท่านี้ออกไปได้โดยจังหวะที่แขนขวาหนีบแขนขวาคู่ต่อสู้ได้แล้วจังหวะทุ่มลงอาจจะใช้แค่แขนซ้ายเป็นตัวดึงในขณะที่แขนขวาที่หนีบอยู่นั้นพลิกมายกขาขวาคู่ต่อสู้ให้พลิกคว่ำลงไปได้หรืออาจจะใช้ต่อเนื่องไปเป็นท่าโคอุจิการิต่อไปก็ได้ อีกรูปแบบนึงที่เห็นได้ในการแข่งขันบางครั้งคือการใช้มือขวาหมุนวนด้านนอกในการรวบมือซ้ายของคู่ต่อสู้ก่อนที่จะใช้เข้าท่าอิปปงเซโอนาเกะท่านี้ต้องอาศัยจังหวะหลอกล่อเก็บแขนคู่ต่อสู้เข้ามาถ้าทำได้แล้วตอนทุ่มคู่ต่อสู้จะไม่เหลือแขนเอาไว้ขวางการทุ่มได้
รูปแบบที่3 การใช้ในจังหวะที่อุเกะขาขวาอยู่ด้านหลัง ท่านี้รูปแบบและจังหวะเหมือนกับท่าเซโอนาเกะในรูปแบบที่2(การทุ่มในจังหวะที่คู่ต่อสู้ก้าวขาขวาถอยหลัง)ลองกลับไปดูในส่วนของท่าทุ่มยูโด seoinage นะครับขี้เกียจอธิบายกันใหม่อีกรอบครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=ablaze357&month=20-10-2013&group=2&gblog=6 |
บทความทั้งหมด
|
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [