Lotus Sutra ![]() ![]() สวัสดีเพื่อนกัลยาณธรรมทุก ๆ ท่าน ในยุค New nomal life Corona Virus - 19 Pandemic อย่างหนักสำหรับปี 2021 นี้ทุกชีวิตมีความเสี่ยงจึงขอนำบางส่วนของ ปทุมสูตรมาวาง ขอพรพระอวโลกิเตศรวรมหาโพธิสัตว์ปกปักรักษา สัทธรรมปุณฑริกสูตร ภาค การเนรมิตกายของพระอวโลกิเตศวรขณะนั้น พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ ได้ลุกขึ้นจากที่นั่งครองผ้าไว้บนใหล่ขวา ประนมมือขึ้นทูลถามพระศาสดาเจ้าว่าโอ ! พระศาสดาเจ้าด้วยเหตุใดพระโพธิสัตต์มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร จึงมีนามว่า อวโลกิเตศวรพระเจ้าข้าเมื่อทรงถามดังนี้ พระ ศาสดาจึงตอบพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติว่ากุลบุตร เวไนยสัตว์ทั้งหลาย จำนวนร้อยพันหมื่นโกฏิ ผู้ต้องทนทุกข์ยากในโลกนี้ เมื่อได้ยินพระนามของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวรเจ้า ก็จะหลุดพ้นจากความทุกขฺ์ยากทั้งปวง ผู้ท่องบ่นพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แม้จะตกอยู่ในวงล้อมอัคคีภัยก็จะปลอดภัยได้ด้วยพระรัศมีของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ ผู้นี้ กุลบุตร ในกรณีที่เวไนยสัตว์ถูกกระแสน้ำพัดพาไป แล้วระลึกถึงพระนามของ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แม่น้ำทั้งหลายก็จะหาที่พักพิงให้กุลบุตรในกรณีที่สรรพสัตว์ ทั้งหลายร้อยพันหมื่นโกฏิ ลงเรือออกทะเลใหญ่ ถูกพายุพัดเข้าไปติดเกาะยักษีทำให้ต้องสูญเสียทรัพย์สมบัติ เช่น ทองคำแท่ง ทอง แก้วมณี มุก ไพฑูรย์ หอยสังข์ หินประการัง มุสารคัลวะมุกแดง และ สินค้าอื่น ๆ และ หากในเรือนั้นมี ใครซักคนเอ่ยนาม พระอวโลกิเตศวร ทุกคนก็จะพ้นพัยจากเกาะยักษีด้วยเหตุนั้น กุลบุตร พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร จึงมีชื่อว่า อวโลกิเตศวรหากมีผู้ต้องโทษประหาร ระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ดาบของเพชรฆาตจะหักสะบั้นทีเดียว นอกจากนั้น กุลบุตร หากโลกทั้งสามเต็มไปด้วยปิศาจและยักษ์ เมื่อกล่าวนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แล้วจะทำให้พวกเขามองอะไรไม่เห็น ทำความชั่วไม่ได้ กุลบุตรหากมีผู้ตกอยู่ในเครื่องพันธนาการไม่ว่าจะเป็นไม้หรือ เหล็ก โซ่หรือเครื่องจองจำ ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ผิดหรือบริสุทธิ์ เครื่องพันธนาการ โซ่หรือเครื่องจองจำเหล่านั้นจะหลุดทันที ที่เอ่ยพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร นี่แหละเป็นอำนาจ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร กุลบุตรหากทั้งสามโลกนี้ เต็มไปด้วยศัตรูโจรผู้ร้าย พร้อมดาบเป็นอาวุธ และ หากพ่อค้าวานิชซึ่งเป็นหัวหน้าคุมกองเกวียนบรรทุกเครื่องเพชรนิลจินดา ได้พบปะกับโจรผู้ร้ายและศัตรูมีดาบเป็นอาวุธ ด้วยความตระหนกตกใจนั้นก็นึกว่าตนทำ อะไรไม่ได้ แล้ว หากพ่อค้าวานิชผู้นั้นกล่าวว่า"อย่ากลัวไปเลย พี่น้องทั้งหลาย อย่าตกใจเลยทุกๆคน พร้อมกันท่องพระนาม พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร พระผู้รอด เจ้าจะพ้นอันตรายแห่งเงื้อมมือของโจรผู้ร้าย และ ศัตรูทั้งปวง และ เมื่อผู้คุมกองเกวียนทั้งหลาย กล่าวขึ้นเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอจงทรงพระเจริญ ขอจงทรงพระเจริญ พระผู้ช่วยให้รอด พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวรเพียงแต่การเอ่ยพระนามดังนี้ กองเกวียนนั้น จะรอดพ้นจากอันตราย กุลบุตร นี่แหละเป็นอำนาจแห่ง พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ที่ยังหมกมุ่นในตัณหา กุลบุตรเมื่อได้สรรเสริญพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ก็จะเป็นอิสระจากตัณหา ผู้ยังมีความเกลียดโกรธ เมื่อได้สรรเสริญพระนามพระ โพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ก็จะเป็นอิสระจากความเกลียดนั้นผู้ที่ยังติดในความหลง เมื่อได้สรรเสริญพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ก็จะเป็นอิสระจากความหลงนั้น กุลบุตร พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร มีอำนาจมากดังนี้ หากหญิงใดมีความปราถนาอยากได้บุตรชาย เมื่อสรรเสริญพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แล้วก็จะได้บุตรชาย สง่าและงดงาม มึคุณสมบัติของเด็กชายโดยสมบูรณ์ เป็นคนน่ารัก สามารถเอาชนะใจคนทั้งหลาย เป็นผู้มี(พีชกุศล)หากหญิงใดปราถนาอยากจะได้บุตรหญิง บุตรหญิงที่ดี และงดงามก็จะเกิดแก่เธอ มีคุณสมบัติที่ดีของเด็กหญิงโดยสมบูรณ์ และ เป็น เด็กน่ารักสามารถเอาชนะใจคนทั้งหลาย เป็นผู้มีพีชกุศล กุลบุตร อำนาจของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร เป็นดังนี้ผู้ที่สรรเสริญพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ย่อมได้รับผลประโยชน์โดยแน่แท้ กุลบุตร หากสมมติว่า บุคคลผู้หนึ่งสรรเสริญและท่องบ่นพระนามของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ส่วนอีกผู้หนึ่งสรรเสริญพระศาสดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นจำนวนเท่าเม็ดทรายใน 52 คงคานที กับ ทั้งถวายสักการะแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตลอดชั่วชีวิต ได้ ถวายจีวร บาตร อาสนะ ยารักษาโรคสำหรับคนเจ็บ กุลบุตรเจ้าคิดว่า กุลบุตร หรือ กุลธิดาได้สร้างสมบุญกุศลมากหรือไม่พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ จึงทูลพระศาสดาว่า ยิ่งใหญ่ โอ !พระสุคต กุลบุตรและกุลธิดาย่อมได้รับกุศลมหาศาลจากการกระทำของเขา พระศาสดาจึงตรัสต่อไปว่า กุลบุตร บุญ กุศลที่ชายหนุ่มได้รับจากการถวายต่อพระศาสดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และ บุญกุศลที่ได้จากการสรรเสริญพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร และ ท่องบ่นพระนามแม้แต่ครั้งเดียวนั้นเท่ากัน ผู้ที่ได้ถวายสักการะพระพุทธเจ้าทั้งหลายมีจำนวนเท่าเม็ดทรายใน 62 คงคานที และได้ท่องบ่นพระนามของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แม้เพียงครั้งเดียว ย่อมได้บุณกุศลเท่ากับบุญกุศลทั้งสองแบบ ยากแก่การทำลายลงได้ แม้ในเวลานานถึงร้อยพันหมื่นโกฎิกัลป์ กุลบุตร บุญกุศลที่ได้จากการสรรเสริญ และ ท่องบ่นพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร นั้นมากมายมหาศาลยิ่งนักพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ ได้กราบทูลถามพระศาสดาอีกว่า โอ ! พระศาสดาเจ้า เหตุใด พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร จึงต้องมาดูแลสหโลกธาตุนี้อยู่เสมอ พระเจ้าข้า พระองค์ประกาศธรรมอย่างไรพระเจ้าข้าและพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร มีความสามารถเพียงใดพระเจ้าข้า" เมื่อทูลถามดังนั้นพระศาสดาจึงตัดตอบ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติว่าในโลกธาตุบางแห่งนั้น กุลบุตร พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แสดงธรรมแก่สรรพสัตว์ในรูปของพระพุทธเจ้า ส่วนที่อื่นนั้นนั้นในรูปของพระโพธิสัตว์ สำหรับบางคนก็แสดงธรรมในรูปของพระปัจเจกพุทธ สำหรับคนอื่นแสดงธรรมในรูปพระสาวก สำหรับคนอื่นๆ ก็อาจแสดงในรูปของพระพรหม พระอินทร์หรือคนธรรพ์ สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรม ด้วยปิศาจ พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของปีศาจ สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพระอิศวร พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระอิศวรสำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพระมเหศวร พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระมเหศวร สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพระจักรพรรดิ พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระจักรพรรดิ สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยท้าวกุเวร พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของท้าวกุเวร สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยเสนาบดี พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของเสนาบดี สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดย พราหมณ์ พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพราหมณ์ สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพระวัชรปาณี พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระวัชรปาณีด้วยคุณสมบัติอันมหาศาลยากที่จะหยั่งถึงได้นี้กุลบุตร เป็นความสามารถเฉพาะของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ดังนั้น กุลบุตร พึงสรรเสริญพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร เถิด พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร กุลบุตร สามารถช่วยให้ผู้มีความทุกข์ ความกังวลใจ มีความปลอดภัยได้ และ ด้วยเหตุนี้ จึงถวายพระนามพระองค์ว่า อภัยนทัต(ผู้ประทานความปลอดภัย)จากนั้น พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ กราบทูลพระศาสดาเจ้าว่า โอ ! พระศาสดาเจ้า เราควรมอบรางวัลแห่งความศรัทธา เครื่องยศแห่งความศรัทธาให้แก่พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร หรือไม่ พระเจ้าข้า พระศาสดาจึงตรัสตอบว่า ย่อมได้ หากเจ้าเห็นว่าสมควรพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ จึงปลดสร้อยไข่มุกจากคอของตนเอง ซึ่งมีค่าถึงแสนเหรียญทองแลัวถวายแก่ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร เป็นรางวัลแห่งความศรัทธา พร้อมกับกล่าวว่า ท่านผู้ประเสริฐ ขอจงรับความศรัทธานี้เถิดแต่ท่านไม่ยอมรับ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ จึงกล่าวแก่ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ว่าด้วยความเมตตาที่ท่านมีแก่พวกเรา กุลบุตร ขอให้ท่านจงรับสร้อยไข่มุกนี้ไว้เถิด พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร จึงยอมรับสร้อยคอไข่มุกจากพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ ด้วยความเมตตาใน พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ และพุทธบริษัททั้งสี่ และ ด้วยความเมตตาในเทวดาทั้งหลาย นาค เปรต คนธรรพ์ ปีศาจ ครุฑ กินนร มโหรค มนุษย์ และ อมนุษย์ ดังนั้น พระองค์จึงแบ่ง สร้อยไข่มุกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งถวายแก่พระศาสดา ศากยมุนี ตถาคตเจ้า อีกส่วนหนึ่งถวายแก่มหารัตนสถูปแห่ง พระศาสดาประภูตรัตน ตถาคตเจ้า ผู้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้วด้วยความสามารถในการแปลงร่างเช่นนี้แหละ กุลบุตร พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร เสด็จไปในสหโลกธาตุนี้และในวาระนี้ พระศาสดาเจ้าทรงตรัสเป็นพระคาถา มีความว่า 1.จิตรธวัช ได้ถามพระอักษยมติว่า ด้วยเหตุใดเล่าพระชินบุตร พระอวโลกิเตศวร จึงได้พระนามเช่นนี้ 2.พระอักษยมติ ผู้มีพระญาณอันไพศาลดุจมหาสมุทร เมื่อได้พิจารณาแล้ว จึงตอยแก่พระจิตรธวัช ว่า จงฟังถึงการกระทำของพระอวโลกิเตศวรเถิด 3.จงฟังเถิดว่า พระองค์ได้ปฏิบัติสร้างสมภายใต้พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จำนวนหลายพันโกฎิพระองค์เป็นเวลานานหลายกัลป์จนมิอาจนับได้ถ้วน 4.ได้ยิน ได้ห็น ได้ระลึกถึงพระองค์อยู่โดย สม่ำเสมอ ย่อมสามารถทำลายทุกขเวทนาทั้งหลายในโลกนี้ลงได้ 5.แม้ถูกศัตรูโยนลงในกองไฟ เพื่อหวังจาฆ่าให้ตาย หากเพียงระลึกถึง พระอวโลกิเตศวร ไฟนั้นก็จะมอดลงราวถูกดับด้วยน้ำ 6.หากมีคนตกลงไปในทะเลอัน่ากลัว เป็นที่อยู่ของบรรดานาคทั้งหลาย รวมทั้งสัตว์น้ำและปีศาจ เมื่อระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ก็จะไม่จมน้ำ 7.หากถูกโยนลงมาจากยอดเขาพระสุเมรุโดยหวังจะฆ่าให้ตาย ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ก็จะยืนอยู่ในกาศอย่างมั่นคงดุจพระอาทิตย์ 8.หากถูกขว้างด้วยก้อนหินใหญ่ เพื่อหวังจะฆ่าให้ตาย ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร จะไม่เป็นอันตรายแม้เส้นผม 9.หากถูกรุมล้อมด้วยศัตรูพร้อมด้วยอาวุธในมือเพื่อหวังจะฆ่าให้ตาย ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรพวกศัตรูก็จะเกิดมีจิตเมตตาขึ้นทันที 10.หากถูกจองจำอยู่ในหลักประหาร ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ดาบของเพชฌฆาตก็จะพินาศเป็นเสี่ยงๆ 11.หากถูกจองจำด้วยเครื่องพันธนาการที่เป็นไม้ก็ดี เหล็กก็ดี ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร เครื่องพันธนาการเหล่านั้นก็จะหลุดออกไปทันที 12.เวทมนตร์คาถา อำนาจแห่งแม่มด ยาพิษ ภูตผีปีศาจที่จะป็นอันตรายถึงชีวิต ย่อมแปรเปลี่ยนไปเมื่อ ระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร 13.หากถูกรุมล้อมด้วยเปรต นาค ผีปีศาจ หรือ ยักษ์ที่มีนิสัยชอบทำลายพลังในร่างกาย ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ก็จะไม่เป็นอันตรายแม้เพียงเส้นผม 14.หากถูกห้อมล้อมด้วยสัตว์ป่าดุร้าย มีเขี้ยวเล็บแหลมคม ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร สัตว์ป่าเหล่านั้นก็จะวิ่งกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง 15.หากถูกห้อมล้อมโดยงูพิษที่ดุร้ายต่างๆ ทำให้ตกใจกลัวโดยพ่นพิษและไฟถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร งูพิษเหล่านั้นจะสิ้นพิษลงทันที 16.หากมีฟ้าแลบฟ้าผ่าและฟ้าร้อง ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ไฟจากสวรรคืก็จะสงบเงียบลง 17.พระองค์ทรงวิชา ทรงเห็นสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ในความทุกข์ยากหลายร้อยประการ และต้องทนทุกข์อยู่ในเวทนาทั้งหลาย ทรงเป็นพระผู้มาโปรดโลกมนุษย์ และ เทวดา 18.ทรงเป็นผู้ชำนาญในมนตร์คาถา ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและกุศโลบาย ทรงปรากฎพระวรกายให้เห็นได้ในทุกทิศและทุกสถานที่ในโลกธาตุนี้ 19.ความเกิด ความแก่ และ ความเจ็บไข้ ย่อมถึงกาลอวสาน สำหรับผู้อยู่ในสภาพอันเลวร้าย ในนรก เป็นสัตว์ร้ายในอาณาจักรของพระยายมราช สำหรับสรรพสัตว์ทั้งมวล(ด้วยความปลาบปลื้มในดวงจิต พระอักษยมติ จึงเปล่งคาถามีความว่า) 20.โอ ! ท่านผู้มีสายตาอันสว่างไสว มีเมตตา ธรรม ทรงมีปัญญา และวิชชาเป็นเลิศ มีสายตาอันเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา มีพระพักตร์และดวงเนตรอันงดงามเป็นที่เจริญตายิ่งนัก 21.ทรงเป็นผู้ประเสริฐบริสุทธิ์ มีแสงโอภาศอันปราศจากมลทิน มีวิชชาอันปราศจากความมืดมัว ส่องแสงดุจดวงอาทิตย์มิอาจบดบังได้ สว่างจ้าดุจเปลวไฟเมื่อเคลื่อนไปฉายแสงส่องสว่างไปทั่วโลก 22.พระองค์ผู้เจริญในเมตตาคุณและกรุณาธิคุณ ทรงเป็นเมฆแห่งคุณธรรม และจิตอันเปี่ยมในเมตตาคุณ ทรงดับไฟอันเผาลนเวไนยสัตว์ให้มอดไหม้ไป ประน้ำทิพย์อันเป็นหยาดฝนแห่งพระธรรม 23.หากทะเลาะ วิวาท มีสงคราม มีการสู้รบ อยู่ในอันตรายใหญ่หลวง จงระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร พระองค์จะทำให้กองทัพศัตรูพ้ายแพ้ไป 24.พึงระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ผู้มีพระสุรเสียงดุจเมฆและกลอง สะเทือนเลื่อนลั่นดุจเมฆฝน มีพระสุรเสียงไพเราะดุจพระพรหม มีพระสุรเสียงสูงต่ำทั่วทุกระดับเสียง 25.พึงระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ด้วยอารมณ์ อันตั้งมั่นพระองค์ ผู้บริสุทธิ์ เป็นผู้รักษา เป็นสรณะ ทรงเป็นผู้ให้รอดจากความตาย ภัยภิบัติและความหายนะ 26.ทรงถึงพร้อมไปด้วยบารมีทั้งปวง ทรงมองสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยความมีเมตตากรุณา ทรงเป็นดุจมหาสาครแห่งบารมี ทรงเป็นบารมี พระอวโลกิเตศวรผู้ควรแก่การสรรเสริญ 27.พระองค์ผู้ทรงเมตตาต่อโลก จะได้ตรัสรู้เป็นพุทธเจ้า ทรงทำลายอันตราย และความทุกข์โศกทั้งปวง ข้า ขอนอบน้อมต่อพระอวโลกิเตศวรเจ้าด้วยความเคารพ 28.พระศาสดาแห่งจักรวาล พระราชาธิราชผู้ทรงเป็นเนื้อนาแห่งศีลบารมี เป็นที่เคารพในจักรวาลโดยทั่วถึง ได้บรรลุถึงซึ่งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ หลังจากที่ได้บำเพ็ญบารมีเป็นเวลาหลายร้อยกัลป์ 29.ครั้งหนึ่งประทับอยู่เบื้องขวา ครั้งหนึ่งประทับอยู่เบื้องซ้ายของพระอมิตภพุทธเจ้า ถวายการพัดวี โดยอาศัยการบำเพ็ญสมาธิประดุจเงา ในทั่วทุกทิศ ถวายพระเกียรติแด่พระชินเจ้า 30.ในทิศตะวันตก อันเป็นที่ตั้งแห่ง สุขากร โลกธาตุ อันบริสุทธิ์ พระอมิตภพุทธเจ้าผู้ทรงฝึก อบรมมนุษย์ ทรงมีที่ประทับอันถาวร 31.ไม่มีอิสตรีเพศ ไม่มีกามรมณ์ ณ ที่นั้น บรรดาพระชินบุตรทั้งหลายอุบัติขึ้นโดยนั่งบนใจกลางดอกบัวอันปราศจากมลทิน 32.และพระอมิตาภพุทธเจ้าประทับนั่งบนบัลลังก์ในใจกลางดอกบัวอันบริสุทธิ์ส่องแสงโอภาสประดุจศาลราช 33.พระโลกนาถเจ้าผู้ทรงบุญญาธิการดังได้แสดงมาแล้ว ไร้ผู้เปรียบในตรีโลก โอ ! พระองค์ผู้ประเสริฐ ขอพวกเราจงได้สำเร็จ อย่างท่านในกาลอันใกล้นี้และแล้ว ระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ ธรณินธร ลุกขึ้นจากที่นั่ง ครองผ้าเฉวียงบ่า คุกเข่าขวาลงกับพื้น ถวายนมัสการแด่พระศาสดาเจ้าแล้วทูลว่า โอ ! พระศาสดาเจ้า ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมบรรยาย บทนี้เกี่ยวกับพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร และอภินิหารในการแปลงพระวรกายของ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ย่อมมิใช่ผู้มีพีชกุศลเพียงเล็กน้อย และขณะที่พระศาสดาเจ้ากำลังทรงแสดงพระธรรมเกี่ยวกับพระคุณพระอวโลกิเตศวรอยู่นั้น สรรพสัตว์ทั้งหลายในธรรมสภา จำนวน 84000 พากันน้อมจิตเข้าสู่สัมมาสัมโพธิญาณ อันไม่สิ่งอื่นใดจะเปรียบปาน คัดบางส่วน จาก สัทธรรมปุณฑริกสูตร ปทุมสูตร หรือ พระสูตรบัวขาว ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ แปล สิงหาคม 2538 มัชฌิมประภาสปุญสถาน ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ ![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|