ฉันยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ฉันจะตามหามันให้เจอ...ELIZABETH GILBERT
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2562
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
22 กุมภาพันธ์ 2562
 
All Blogs
 
อัพเดตชีวิต ไตรมาศสาม-สี่ 2561 (ตอน4)



เรื่องที่ฉันเล่าไป ไม่ใช่เรื่องใหม่ของโลก
มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแทบจะทุกวันในสังคม

แม่ผู้เคยเป็นเสาหลักของบ้าน ผู้เคยเป็นหัวหน้าครอบครัว
และเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กสำหรับฉัน ฉันเคยคิดว่าชีวิตฉันขาดอิสรภาพเพราะแม่
บัดนี้ กำแพงนั้นได้พังทลายลงแล้ว แต่กลายเป็นโซ่แห่งทุกข์ที่พันธนาการฉันไว้

ก่อนหน้านี้ ฉันกำลังเตรียมตัว ว่าจะออกไปหารายได้ เมื่อส่งลูกเข้าโรงเรียน
เมื่อแม่ล้ม กลายเป็นคนติดเตียง และต้องมีคนดูแล
เราไม่ใช่ครอบครัวที่มีฐานะมากพอที่จะจ้างคนมาช่วย
ยิ่งเรื่องส่งแม่ไปอยู่ศูนย์ดูแล ไม่ใช่ทางเลือก และเราไม่ต้องการเช่นนั้น

ภาระหนักในการดูแลแม่จึงตกมาที่ฉัน 
วันแรกที่แม่กลับมาอยู่บ้าน ฉันตื่นประมาณตีห้า กว่าจะได้นอนเกือบเที่ยงคืน
วันนั้นฉันขาสั่นไปหมดด้วยความเหนื่อยล้า

วันถัดมาฉันไปส่งลูกที่โรงเรียน วันนั้นลูกงอแง ฉันเครียดมาก
เดินส่งลูกเข้าห้องเรียนน้ำตาก็ไหล ครูประจำชั้นก็สังเกตเห็น
ฉันส่งลูกเสร็จแวะไปไหว้พระพุทธรูปในวัด นั่งร้องไห้อยู่พักใหญ่
แล้วค่อยกลับเข้าบ้าน

สิบวันแรกที่แม่กลับมาอยู่บ้าน ฉันอยู่โยงเฝ้าแม่ 24ชม. แทบจะติดต่อกัน จนเริ่มไม่ไหว
พี่ชายตัวดีก็มีเหตุต้องไปทำธุระ
แม่เริ่มมีแผลอุจจาระกัด ฉันรู้สึกรับมือไม่ได้ จึงพาแม่ไป รพ. หวังให้แม่ได้พักรักษาตัว
แต่สิ่งที่ดูเป็นเรื่องใหญ่ของฉันได้รับการปฏิเสธ ฉันได้แต่ก้มหน้ายอมรับมัน

ฉันมักมีคำถามกับตัวเองบ่อยครั้งว่า "นี่คือบททดสอบของกูใช่มั้ย ทำไมต้องเป็นกู"
และฉันก็มีคำตอบให้ตัวเองเช่นกัน "ถ้านี่คือบททดสอบ กูจะไม่หนี
กูจะทำให้ถึงที่สุด ใครหนีได้หนีไป หนีชาตินี้ ก็ไปทำชาติหน้าอยู่ดี"

ช่วงที่แม่รักษาตัวอยู่ รพ. ฉันติดต่อเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาลัย กับเพื่อนในกลุ่ม 
เอาจริงๆตั้งแต่จบมา ฉันก็ไม่ได้ติดต่อหรือไปไหนกับเพื่อนมากนัก
สิ่งที่ฉันได้รับคือ คำพูดที่ให้กำลังใจ ในช่วงแรก
ก่อนที่เพื่อนๆจะช่วยอุดหนุนสินค้าบางอย่างกับฉัน

ในขณะที่พี่ชายซึ่งยังคงมีสังคมเพื่อนฝูง และถือว่าเป็นกลุ่มเพื่อนที่ดี
พวกเขามาเยี่ยมแม่ และให้ความช่วยเหลือตามที่พี่ชายร้องขอไป

ช่วงนั้นฉันรู้สึกโดดเดี่ยวมากเลยนะ แต่ในความโดดเดี่ยว
ฉันรู้ว่ามีฉันอีกคนที่ไม่ยอมแพ้ ฉันอีกคนที่ชอบมีลูกฮึด
และทำให้ฉันตัดสินใจลงมือขายของ ส่วนหนึ่งเพราะคำแนะนำของเพื่อน
อีกส่วนเพราะมองเห็นโอกาส แม้ว่าตอนนี้มันยังมองไม่ค่อยเห็นทาง

ปัญหาที่ตามมาอีกอย่างคือ ลูกฉันมีพัฒนาการถดถอย 
สามเดือนที่ฉันไปเฝ้าแม่ ฉันกลับมาเจอลูกแค่ก่อนนอนกับตื่นนอนเท่านั้น
ปล่อยให้สามีรับผิดชอบดูแลลูกบ้าง
เมื่อเปิดเทอมภาคเรียนที่2 และแม่กลับมาอยู่บ้านแล้ว
ฉันก็วุ่นวายกับการดูแลแม่ และไม่มีอารมณ์รบกับความซนของลูก
ฉันปล่อยให้ลูกสัมผัสคอมกับมือถืออีกครั้ง จนลูกไปโรงเรียนไม่ยอมฟังครูเลย

ครูจึงเรียกฉันไปประชุมผู้ปกครอง ฉันต้องแบ่งเวลาพาลูกไปพบจิตแพทย์
ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะได้รับนัด เพราะเด็กสมัยนี้มีปัญหากันค่อนข้างมาก

โชคดีที่สามียอมไปประชุมด้วยในวันนั้น
ก่อนหน้านั้น ฉันพูดเท่าไหร่ เขาก็ไม่เข้าใจ
วันนี้ เราร่วมมือกัน แก้ไขเรื่องลูกอยู่

เดือนที่แล้ว ฉันมีภาวะซึมเศร้า เพราะความเครียด
ครึ่งปีที่ผ่านมา ฉันใช้เงินเก็บส่วนตัวใช้จ่ายไปมาก โดยไม่ได้มีรายได้เข้ามาเลย
เมื่อฉันพาลูกไปพบแพทย์ ฉันจึงได้รับการประเมินสุขภาพจิตด้วย

แต่เดือนนี้ ฉันพอมีรายได้เล็กน้อย ก็เลยผ่อนคลายลงบ้าง

แม่กลับมาอยู่บ้านได้ 3เดือนเศษ
ฉันปรับตัว ปรับใจ รับมือกับทุกอย่างที่เข้ามาในระดับหนึ่งแล้ว
ฉันกำลังเดินหน้า ทำการค้าเล็กๆไปด้วย
ฉันพยายามฝึกสติและดูลมหายใจ เวลาที่นึกขึ้นได้
ฉันพยายามเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นพลังใจ
ควบคู่กับการดูแลแม่ และใช้ธรรมเทศนาเป็นยาใจของเราสองแม่ลูก

ฉันบอกแม่ให้เตรียมตัวให้พร้อมเสมอ 
...เพราะชีวิตคือความไม่แน่นอน อย่าประมาท...




Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2562
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2562 20:08:48 น. 0 comments
Counter : 325 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ruchy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม่ลูกหนึ่ง ที่ยังไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน ขอบคุณในมิตรภาพที่มอบให้กันนะคะ
Friends' blogs
[Add Ruchy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.