4 แพร่ง : หนังผี 4 เรื่องที่ดูแล้ว "อิ่ม" จริงๆ
ความชอบส่วนตัว 8.5/10
คาดว่าเพื่อนๆคงดูกันหมดแล้ว Spoil บ้างคงไม่ว่ากันนะ (ยังไม่ดูอย่าอ่านครับ)
เหงา (8/10) ผู้กำกับ: ยงยุทธ ทองกองทุน (แก๊งค์ชะนีกับอีแอบ, สตรีเหล็ก)
แม้ว่าถ้าคิดกันตามจริงแล้วความเป็นไปได้แทบจะไม่มี เนื่องจากวิญญาณที่ไหนจะส่ง msnหรือสามารถเข้าไปในระบบเครือข่ายของมือถือได้ (เอาน่าไม่คิดมาก) อย่างไรก็ตามพล็อตเรื่องถือว่ามีความแปลกใหม่ การดำเนินเรื่องที่ใช้ตัวละครเพียงคนเดียวที่มากับความเหงาพร้อมกับขาที่ไม่สมบูรณ์ อาศัยอยู่ในห้องเช่าโทรมๆ (ย่านคลองถม) ก็มีน้ำหนักพอที่จะสร้างความอึดอัด และกดดันกับคนดูได้ ปิดท้ายด้วยฉากผีหลอกที่เหนือชั้น คือไม่ต้องเปลี่ยนมุมกล้องไปมาให้มากมาย แต่โผล่กันซึ่งๆหน้า ไม่แปลกเลยที่ฉากนี้จะเป็นฉากที่สร้างความตกใจมากที่สุดในเรื่อง
ยันต์สั่งตาย (7/10) ผู้กำกับ: ปวีณ ภูริจิตปัญญา (บอดี้ ศพ#19)
"เอากันอย่างนี้ใช่ไหม ต้องการเป็นใหญ่ใช่ไหม เหมือนคนโรคจิตที่ใครพูดไม่ฟัง ไม่กลัวจะพังใช่ไหม ไม่แคร์คนอื่นใช่ไหม สักวันหนึ่งเหอะไอ้พวกบ้าพลัง ระวังจะเสียใจ ..." เมื่อเพลงจบ การแก้แค้นเอาคืนของ สัปเหร่อหนุ่ม ที่ถูกเพื่อนซ้อมอาการปางตายก็เริ่มขึ้น โดยการเอาภาพคนตายที่ตายตาไม่หลับมาทำพิธีสาปแช่ง จากนั้นใช้เลือดของตัวเองเขียนลงไปใน "ยันต์สั่งตาย" หนังดำเนินเรื่องคล้ายๆกับ Final Destination ที่ฆ่าตัวละครให้ตายไปทีละคน ซึ่งในเรื่องนี้จะขายความตกใจ และความโหดซะมากกว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้อรรถรสของหนังเสียไปมากที่สุด ผมคิดว่าเป็น CG ที่ทำได้ไม่เนียนเอาเสียเลย ทำให้ผีไม่น่ากลัว ทีมนักแสดงที่เล่นแข็งๆ รวมไปถึงบทสรุปในตอนจบที่ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร
คนกลาง (9/10) ผู้กำกับ: บรรจง ปิสัญธนะกูล (ชัตเตอร์, แฝด)
เคยดู บุปผารีตาภาคแรกมา รู้สึกชอบเหมือนกันกับ หนังผีปนคอมมิดี้ ซึ่งในตอนนี้ ผกก. ก็พูดไว้ตั้งแต่หนังไม่ฉายว่า ฮาแน่นอน ประเด็นทีพูดถึง การแย่งกันนอนตรงกลาง แค่นี้แหละ สามารถนำมาปรุงแต่งในเรื่องของบทได้อย่างสนุกสนาน มันกลายเป็นว่า ฮา แทบจะทั้งตอนเลย แม้ว่าจะตลกเพียงใดแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความน่ากลัว ฉากผีโผล่ก็โผล่มาได้ถูกเวลา บทสรุปในตอนท้ายถือว่าผิดคลาดเหมือนกัน แต่ไม่ชอบที่ไปจบคล้ายหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งที่ "นิโคล คิดแมน" เล่น (รู้สึกเสียอารมณ์เล็กน้อย)
เที่ยวบิน 224 (9.5/10) ผู้กำกับ: ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (ชัตเตอร์, แฝด)
หนังสยองขวัญที่ดีต้องขาย "ความน่ากลัว และความตกใจ" มีหลายเรื่องที่ เนื้อเรื่องห่วยแต่ผมชอบ เช่น "ผีคนเป็น" หรือ "Boogeyman ภาคแรก" แต่หากว่าเรื่องนั้นมีการปูเนื้อเรื่องที่ดี มันยิ่งทำให้ดูสนุก และด้วยความที่เรารู้ที่มาที่ไปของผีอย่างชัดเจน ทำให้ดูจบแล้ว ภาพต่างๆอาจจะตามมาหลอกหลอนไปถึงบ้านเลย (เช่น ชัตเตอร์) แน่นอนครับว่าตอนนี้ผมชอบมากที่สุด นักแสดงเล่นได้ดีมากทั้งพลอย และคนที่เล่นเป็นเจ้าหญิง(เป็นใครก็ไม่รู้) เธอหน้าตาน่ากลัวมาก การดำเนินเรื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังทั้งน่ากลัว ตื่นเต้น และอึดอัด แถมยังมีดนตรีประกอบ และเสียงเอฟเฟคที่ชวนหลอน ปิดท้ายด้วยฉากจบที่ลงตัวมากๆ และติดตาผู้ชมเมื่อเดินออกไป
สรุป: 4-5 ปีหลังไม่ได้ดูหนัง 2 รอบมานานแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกจริงๆ (รอบสองดูฟรี) ผมมีข้อสังเกตุอยู่เหมือนกันว่า ฉากผีหลอกจะมาจังหวะคล้ายๆกัน คือ ผีจะโผล่ในจังหวะที่ 3-4 หุหุหุ และสิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่สามารถตามไปหลอกหลอนผมถึงบ้านก็เพราะว่า มันเป็นตอนสั้นๆ ทำให้ไม่อินไปกับเนื้อเรื่องมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม การเข้าไปดูแต่ละรอบนั้น คนดูคับคั่งมากทำให้รู้สึกสนุก ทั้งเสียงกรี๊ด เสียงครวญครางที่แสดงออกถึงความกลัวต่างๆ และการที่มีความเป็นคอมมิดี้เข้ามาขั้นในตอนที่ 3 ทำให้รู้สึกว่าดูจบแล้วอิ่มพอสมควร สรุปว่าดูเรื่องละ 30 บาท 4 เรื่องก็ 120 แค่นี้ก็คุ้มค่าตั๋วมากแล้วล่ะครับ
Create Date : 03 พฤษภาคม 2551 |
|
16 comments |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 17:29:29 น. |
Counter : 4366 Pageviews. |
|
|
|
ตอน 3 ขำมากๆ
ตอน 4 น่ากัวสุดๆ