Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
22 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

(ดองed) The Twilight Saga : NEW MOON



มี 3 ประการที่ฉันแน่ใจได้เต็มที่


อย่างแรก..

เอ็ดเวิร์ดเป็นผีดูดเลือด


อย่างที่ 2..

มีบางส่วนในตัวเขา ซึ่งฉันไม่ทราบว่ากุมอำนาจขนาดไหน ที่มันกระหายเลือดฉัน


และอย่างที่ 3..

ฉันรักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข และไม่อาจจะถอนตัวได้




( Release Date : 19 NOV 2009 , Runtime : 130 min )


หลังจากที่ได้ดู Twilight ภาคแรกกันไปแล้ว สาว ๆ หลายคนคงอดใจรอดูภาคต่อกันจนแทบไม่ไหว เล่นเอาหนังเปิดตัว (วันแรก) ซะแรงเกินคาด เอาชนะหนังแอ๊คชั่นฮีโร่อย่าง The Dark Knight ไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ก็ภาคแรกเล่นปูทางให้สาวน้อยสาวใหญ่หลงไหลไปกับแวมไพร์หนุ่มที่มั่นคงในรักกันอย่างหัวปักหัวปัมไปแล้วหนิ แถมพ่อหนุ่มหน้าขาวยังโชว์พาวปกป้องคนรักแบบสุดชีวิต ซึ่งไม่มีมนุษย์โลกคนไหนจะทำได้อีกแล้ว สาว ๆ ทั่วโลกเลยต้องหันไปพึ่งโลกมายา (แห่ไปดูภาคต่อกันอย่างล้นหลาม) ถึงแม้มันจะเป็นเวลาเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้หัวใจผู้หญิงอย่างเรา ๆ ได้กระชุ่มกระช่วยขึ้นมาบ้าง..จริงมะ?


สำหรับภาคต่อของแวมไพร์ทไวไลท์นี้ เนื้อหาของเรื่องไม่มีอะไรมาก เรื่องราวเริ่มต้นที่..


"Edward (Robert Pattinson) ไม่อยากให้ Bella (Kristen Stewart) ต้องตกอยู่ในอันตราย และอยากให้เธอมีชีวิตวัยรุ่นปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไป เขาและครอบครัวจึงย้ายออกไปจาก Forks และปฏิเสธความสัมพันธ์ที่เคยมีกับเธอ ทำให้ Bella เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก..ถึงกับมีอาการซึมเศร้า แต่เธอก็พยายามหากิจกรรมเสี่ยงตายต่าง ๆ นานาทำ เพื่อหวังที่จะได้พบกับ Edward อีก และในความคิดแผลง ๆ ของเธอที่อยากจะซิ่งมอเตอร์ไซด์ เธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนชายเพียงคนเดียวที่สนิทสนมกับครอบครัวเธอ

Jacob Black (Taylor Lautner) หนุ่มผู้มีพลังอันเหลือเชื่อ และเก่งกาจในเรื่องงานช่าง ทั้งคู่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการซ่อมมอเตอร์ไซด์ร่วมกัน จนทำให้ Jacob เริ่มตกหลุมรัก Bella เองก็รู้สึกดีขึ้นที่มีคนมาช่วยเยียวยาแผลในใจ ขณะเดียวกัน Jacob กลับพบว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไป แต่ Bella ก็ทำใจยอมรับได้ไม่ยากนักกับเรื่องแบบนี้

แต่จนแล้วจนรอด Bella ก็ยังไม่อาจลืม Edward แวมไพร์หนุ่มคนที่เธอรักสุดหัวใจได้สักที เธอตัดสินใจโดดหน้าผาเพื่ออยากจะพบ Edward อีกครั้ง แต่เป็น Jacob ที่มาช่วยชีวิตเธอ ในขณะที่ Alice น้องสาวของ Edward แวมไพร์ประเภทที่สามารถมองเห็นอนาคต แต่กลับไม่อาจมองอนาคตผ่านมนุษย์หมาป่าได้ Edward จึงเข้าใจว่า Bella ตาย และเขาก็ปรารถนาที่จะตายตาม แต่สุดท้าย Bella ก็ไปขัดขวางความอยากตายนี้ได้ทัน และเธอต้องแลกกับข้อตกลงในการยอมเป็น Vampire ตามที่เธอปรานา.."






โดยรวมแล้วเราชอบภาคแรกมากกว่า มันอาจจะดูสดใหม่กว่า ทั้งนักแสดง และเนื้อหาของหนัง รวมถึงความกลมกล่อมของอารมณ์หนัง แต่ภาคสองดูจะยืดเยื้อกับอารมณ์เปลี่ยวของนางเอกมากไปซักหน่อย (รึป่าว?) หนังก็เลยดูเลื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ไม่ถูกตาต้องใจ ผู้ชมหลาย ๆ คน ก็เลยบ่นกันอุบ..ว่าหนังไม่ดีบ้าง น่าเบื่อบ้าง ดูแล้วอยากจะหลับบ้าง นานาจิตตังก็ว่ากันไป แต่เราว่าโออ่ะ..ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะไม่ได้อ่านหนังสือมาด้วย และอีกส่วนเราว่าเราเข้าใจตัวหนังประมาณนี้จริง ๆ อ่ะ มันก็แค่หนังรักเรื่องนึง แล้วทุนสร้างก็ไม่ได้สูงอะไร ละครน้ำเน่าก็ไม่ปาน ว่าเข้าไปนั่น..


สรุปแล้ว "ชอบ" แต่ชอบน้อยกว่าภาคแรก ..แค่นั้นแหละ









( Release Date : 27 NOV 2008 , Runtime : 122 min )


ความเดิมตอนที่แล้ว..


ถ้าคุณมีชีวิตที่เป็นอมตะ คุณจะอยู่ไปเพื่ออะไร?

ชีวิตของ Bella Swan (Kristen Stewart) ดูจะต่างจากสาวในรุ่นเดียวกันกับเธอ เธอไม่เคยสนใจวัตถุภายนอก และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในโรงเรียนมัธยมที่ฟินิกซ์ แต่เมื่อแม่ของเธอตัดสินใจที่จะแต่งงานใหม่ และต้องย้ายไปอยู่กับสามีที่ฟลอริด้า เธอจึงจำเป็นต้องย้ายไปอยู่กับพ่อ ที่เมืองฟอร์ค รัฐวอชิงตัน เธอไม่เคยคิดเลยว่า การย้ายครั้งนี้จะแตกต่างจากที่แล้วๆ มา แต่แล้วเธอก็พบกับ เด็กหนุ่มรูปงามที่ชื่อ Edward Cullen (Robert Pattinson) ผู้ที่ทั้งมีความฉลาดและไหวพริบเป็นเลิศ เขาไม่เหมือนผู้ชายที่เธอเคยรู้จักมาก่อน และเธอก็รู้สึกว่าดวงตาของเขาสามารถมองทะลุได้ถึงในดวงใจเธอเลยทีเดียว

และแล้วความรักที่ไม่ธรรมดาของคนทั้งสองก็เริ่มเบ่งบาน และที่ไม่ธรรมดานั้นก็เป็นเพราะว่า Edward เป็นมนุษย์ที่สามารถวิ่งได้เร็วกว่าเสือชีตาร์ เขาสามารถหยุดรถได้ด้วยมือเปล่า และอายุของเขาก็ไม่เพิ่มขึ้นเลยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 ใช่แล้วเขาคือแวมไพร์ และก็เหมือนกับแวมไพร์ทั่วไป "เขาเป็นอมตะ" เพียงแต่ว่า เขาไม่มีเขี้ยว และไม่ดื่มเลือดมนุษย์ดังเช่นแวมไพร์ตัวอื่นๆ ซึ่งการดำรงชีวิตของเขานั้นก็อยู่ได้ด้วยการล่าหมี หรือล่าสิงโตภูเขาในป่าลึกเท่านั้น

สำหรับ Edward แล้ว Bella คือหญิงสาวที่เขารอคอยมากว่า 90 ปี เธอเปรียบเสมือน "คู่แท้" ของเขา แต่ยิ่งเขาอยู่ใกล้เธอมากเท่าไใด สัญชาตญาณดิบของเผ่าพันธ์แวมไพร์ที่มีต่อเหยื่อ ซึ่งก็คือมนุษย์ ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น และเรื่องมันก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก เมื่อศัตรูคู่อาฆาตของ Edward ที่มีทั้ง James , Laurent และ Victoria ก็ได้เดินทางมาถึงเมืองที่เขาอยู่ ก็ลองดูสิว่า..รักแท้..จะสามารถกุมชัยชนะให้เหนือทุกสิ่งได้หรือไม่ หรือว่ามันจะจบลงแบบโศกนาฎกรรมดังเช่น "Romeo" กับ "Juliet" - NangDee.Com






ความรู้สึกในภาคที่แล้ว..


"ก่อนเข้าโรง (หนัง) ตั้งใจว่าจะได้ดูหนังแอ๊คชั่นเต็มที่เลย แต่พอออกมากลับได้สัมผัสถึงความรักอันยิ่งใหญ่ (โคตรเว่อร์) ที่พระเอก (หล่อบาดใจม๊ากค่ะ..) มีต่อนางเอก เขาสัญญาว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดี ไม่ให้ได้รับอันตรายใด ๆ โอ้ว!! เทพบุตรแท้ๆ เลยเชียว แล้วเขาก็ทำได้ดังนั้น"









( Release Date : 30 JUN 2010 (USA) , Runtime : - min )


Summit Entertainment เจ้าของหนังที่สร้างจากนิยายขายดีของ Stephenie Meyer ในชุด The Twilight Saga โดยทาง Summit Entertainment รายงานว่าบทที่ 3 ของชุด The Twilight Saga ที่ใช้ชื่อว่า The Twilight Saga : Eclipse จะได้เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำกันในวันที่ 17 สิงหาคม ถึง 31 ตุลาคม 2009 ที่ Vancouver Film Studios โดยในตอนนี้จะได้ David Slade จาก 30 Days of Night มากำกับ และมีกำหนดเข้าฉายในอเมริกาวันที่ 30 มิถุนายน 2010


เรื่งอราวในภาค Twilight Saga : Eclipse นี้เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยฝีมือของกลุ่มแวมไพร์กำเนิดใหม่ ที่ต้องการจะกลับมาแก้แค้นครอบครัว Cullen และฆ่า Bella Swan ใน ขณะที่ Bella Swan ถูกบังคับให้เลือกระหว่าง Edward Cullen และ Jacob Black ครอบครัวแวมไพร์ของ Edward Cullen และ Jacob Black ผู้เป็น มนุษย์หมาป่า ได้ร่วมกันต่อสู้กับกลุ่มกองทัพแวมไพร์จนสำเร็จ และในที่สุด Bella Swan ก็ได้เลือก Edward Cullen และตกลงที่จะแต่งงานกับเขา



ร อ ดู !!




ชุดหนังสือ Twilight Saga
+ เล่ม1 Twilight หรือ แรกรัตติกาล
+ เล่ม2 New Moon หรือ นวจันทรา
+ เล่ม3 Eclipse หรือ คราสสยุมพร
+ เล่ม4 Breaking Down
+ เล่ม5 Midnight Sun





 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2552
0 comments
Last Update : 4 ธันวาคม 2552 0:30:31 น.
Counter : 1007 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zazi_i
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




My FaceBook

:: วัตถุประสงค์หลักของผู้จัดทำ Blog นี้ คือ เผยแพร่ข้อมูลร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึงสาระบันเทิงต่างๆนานา ทุกข้อความที่ปรากฎเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น ::

ƒ ก า ร เ ดิ น ท า ง ยั ง ย า ว ไ ก ล   ถ น น ส า ย นี้ ยั ง ย า ว ไ ก ล   จุ ด ห ม า ย ป ล า ย ท า ง ไ ก ล เ พี ย ง ใ ด   ฉั น เ อ ง ก็ ไ ม่ รู้ ว่ า เ มื่ อ ไ ห ร่   แ ต่ ท า ง ย า ว ไ ก ล ที่ ก้ า ว ม า   ไ ด้ ทำ ใ ห้ ฉั น นั้ น รู้ ว่ า   เ สี ย ง หั ว เ ร า ะ แ ล ะ น้ำ ต า   กี่ สุ ข แ ล ะ กี่ ทุ ก ข์ ที่ ฟั น ฝ่ า   มั น ทำ ใ ห้ ชี วิ ต มี ค่ า   เ พ ร า ะ ฉั น ไ ด้ รู้ ว่ า . . . เ ธ อ ยั ง อ ยู่ ต ร ง นี้ ƒ

Nara Bar
(ชั้น 7 CW) ร้านอาหารไทยสไตล์ Contemporary รสชาติอาหารใช้ได้ทีเดียว มี "ยำมะเขือยาว" ด้วยอ่ะ
K-ca Ramen
(Food Hall @ Paragon) เส้นราเมนอร่อย ข้าวญี่ปุ่นเค้าก็อร่อย ไม่เหมือนใคร.. ปกติจะกินเส้นไม่เคยหมด แต่สำหรับร้านนี้..เหลือไว้ไม่ได้แล้ว!!
Reflections
(ย่านประดิพัทธ์) กับ location ใหม่ แต่ยังคงเน้นสีสันการตกแต่งที่แปลกหูแปลกตาอยู่เหมือนเดิม..เจ๋ง!! ชอบการตกแต่งของที่นี่จริงๆ
แพกระแต
(ย่านประดิพัทธ์) ร้านอาหารไทย เน้นพวกปลาน้ำจืด เจ้าของร้านเป็นกันเอง ชอบมาแนะนำเมนูให้ลูกค้า ติดใจกะ "ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม" ที่ซู๊ดด!!
SOFA so good
(อารีย์ ซ.5) ถ้าไปกินมื้อค่ำ บอกได้คำเดียวว่า "ควรไปกะแฟน..แล้วเลือกนั่งโต๊ะแบบโซฟา"
Pathe
(ห้าแยกลาดพร้าว) ร้านบรรยากาศ antique ที่ตกแต่งด้วยของเก่า โดยเฉพาะแผ่นเสียง ลำโพงเก่า จักรยานโบราณ ฯลฯ เมนูแนะนำ "ไก่กรอบซอสมะนาว" "แกงส้มไข่ชะอม" ชะอมชุบไข่ชิ้นหนาๆอวบๆ อันนี้ชอบมากก..ฯลฯ มีถั่วให้กินเล่น และน้ำชาร้อนๆดับกลิ่นปากก่อนออกร้าน..ห่ะห่ะ!! กู๊ดไอเดีย
Grand Palace
ชอบซี่โครงหมูมั่กๆ หนังบางๆ เคี้ยวกรุบๆ สุดยอดดด!!
The Pool
(เกษตร-นวมินทร์) บรรยากาศดีทีเดียว อาหารก็ใช้ได้ นั่งฟังเพลงไปเพลินๆ (โอ้ เสกสรร+ชัด)
Banana Leaf
(ชั้นใต้ดิน Silom Complex) อร่อยกะอาหารไทยๆ "แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ", "ทอดมันกุ้ง", "พล่ากุ้ง", "เนื้อปูผัดผงกระหรี่", ฯลฯ
Platfrom 1
(เลียบทางรถไฟ สถานีสามเสน) ร้านอาหารนานาชาติ..เล็กๆ..เรียบ..หรู เป็นบ้านไม้สีขาวอบอุ่น บรรยากาศเงียบๆ ลองชิมแค่ "สปาเกตตี้ผัดปูนิ่ม, เนื้อปูบดห่ออะไรซักอย่าง, เป็ด.."(ชื่อมันเป็นภาษาปะกิด..จำม่ะร่าย)
โบราณเรียกชื่อ
(พหลโยธิน 13) บรรยากาศโอเค รสชาติอาหารธรรมดา เพลงใช้ได้
Goodevening Restaurant
(ถ.นราธิวาส ติดกับ Sortel) ร้านนี้บรรยากาศดี ใกล้ที่ทำงาน อาหารอร่อยใช้ได้ เพลงก็เพราะ(ร้องสด) ถ้าไปต้องสั่ง "กระเบื้อง Good Evening" นะ..
Country Place
(พระราม 5) กิน "เบียร์" สิครับ
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
(ถ.นราธิวาส) ก็ต้อง "เบียร์ - Lager Beer, Dunken Beer, Weizen Beer", "ขาหมู", "กระหล่ำปลีน้ำปลา", "เย็นตาโฟทรงเครื่อง", ฯลฯ
Wasabi
(ชั้น 3 Esplanade) ชาบูน้ำเต้าหู้..สุดยอดไปเลย หอมมั่ก, ฯลฯ ตบท้ายด้วย "ของหวาน 3 อย่าง" จำได้ว่ามีไอติม(ทำจากถั่วเหลืองอีกเหมือนกัน..ห้อม หอม), วุ้นแก้วมังกร, แล้วอะไรอีกอย่างจำไม่ได้และ
Secret Recipe
(La Villa อารีย์ / Paragon) วันนั้นไปกิน "ปลา(อะไรซักอย่าง)ราดซอสร็อบสเตอร์" ไฮโซ๊..ไฮโซจิง เค้าว่าเค้กอร่อย ได้รางวัลมาเยอะ ไม่เคยได้ลองซักที "สปาเกตตี้เนื้อ" ก็ใช้ได้นะ ร้านนี้มีสาขาทั้งในสิงคโปร์ มาเลเซีย และจาการ์ตาเน่อ
Bug&Bee
เมนูเครปสุดยอดด.. ต้องไปลองที่สีลมบ้างและ
Greyhound Cafe'
(ทั่วไป) I tasted "Noodle in Tom Yum Kung" and "Phad Thai with fresh Shrimps". Good..Costly..High
Take a view
(สะพานพระราม 8 ฝั่งธนฯ) อาหารงั้นงั้นไม่ค่อยถูกปาก นักร้องร้องมันทุกแนว บรรยากาศร้านเหมือนจะดี แต่ซวยเอง..ดันไปตอนร้านกะลังปรับปรุง..เลยไม่ได้นั่งชมวิวสะพานพระราม 8
แพกลางกรุง
หรือ "Virgin River" (เกษตร-นวมินทร์) อาหารไม่ค่อยถูกปากอ่ะ แต่มี "อุ๊ หฤทัย" มาร้องวันศุกร์หละ..เจ๋ง!!
Darabar
(เกษตร-นวมินทร์) ร้านนี้อาหารอร่อย อย่างน้อยก็อร่อยทุกอย่างที่สั่งเลย จำได้แต่ "กุ้งกระเบื้อง"(มั้ง) แล้วก็หมูพันบะหมี่(มันชื่อไรไม่รุ้นะ) บรรยากาศดี๊ดี ข้างนอกเป็นเหมือนสระน้ำ แล้วก็มีที่นั่งเหมือนแพ(อธิบายไม่ถูกว่ะ) ร้านนี้ขอแนะนำ!!
Sortel
(ถ.นราธิวาส ติดกับ Goodevening) จำมะร่าย ไปมานานและ จำได้ว่ากินคอกเทลด้วยแหละ ตอนนั้นเพลงมันโคตรดัง(หนวกหู) แต่วันนั้นไปกิน Goodevening แล้วเดินผ่าน คนเยอะโคตร นักร้องเป็นผู้หญิงด้วย(วันศุกร์) เสียงใช้ได้เลย ต้องไปลอง..ต้องไปลอง
บ้านพระอาทิตย์
(ถ.พระอาทิตย์) "Espresso" เข้มสุดสุด กินแก้วเดียวตาแข็งไปทั้งคืน..ยันเช้า แนะนำข้าวผัดปลาสลิด..อร่อยได้ใจ บรรยากาศร้าน..ดีม๊ากก เหมาะสำหรับไปนั่งอ่านหนังสือ..
บะหมี่ฮ่องกง
หรือ "Hong Kong Noodle" (ตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ เยาวราช/สยาม) เกี๊ยวกุ้งตัวโต เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ซู้ดดยอดด!!"
the terrace
(Central Lardpao) กินได้ กินได้ กุ้งตัวใหญ่ เป็ดอร่อย ตบท้ายด้วยกล้วยไข่เชื่อม "ไป central ไม่รู้จะกินอะไร ให้คิดถึง the terrace"
สีฟ้า
(ทั่วไป) ไปทุกครั้งต้องสั่ง "แกงเผ็ดเป็ดย่าง" หละ
ผัดไทยอารีย์
(จากซอยอารีย์ย้ายไปพหลโยธิน 8/เอราวัณ) ตอนนี้กินแต่ "เส้นมะละกอ"(ผัดไทยมะละกอ) แต่อยากกิน "ข้าว"(ผัดไทยข้าว)แล้วง่ะ..ไปทีไรสั่งแต่มะละกอ
เจียงฮาย
(ต้นซอยลาดพร้าว) ต้องกิน "ข้าวซอยไก่(original)" เพราะที่นี่เค้ามีเส้นหลายอย่าง อูด้ง, ราเมนก็มีนะ ฯลฯ แต่ต้องใส่น้ำตาลหน่อย รู้สึกคนทำจะชอบกินเค็ม ไปกินกี่ครั้งก็จะแก่เค็ม น้ำเงี้ยวก็มี.. เป็นร้านของมือกีตาร์วง Big Ass หล่ะ..เห็นพี่แกขยันขันแข็งช่วยเมียซะจิ้ง..
KURODA
(ตรงข้าม TOPS RCA) ร้านอาหารญี่ปุ่น คุณภาพดี รสชาติพอใช้(สำหรับตัวเองนะ)กินแก้ขัดได้ ราคาย่อมเยาว์ อยากกินอาหารญี่ปุ่นนึกถึงร้านนี้ก็ไม่ผิดหวัง แต่อาหารรสชาติจะออกแนวเค็มไปนิดส์ ร้านนี้เมนูจะเน้นไก่บ้าน เพราะเค้ามีฟาร์มเป็นของตัวเองหละ
เดอะครก
(Siam Square Soi.2 ติดกับ "ไอดินกลิ่นครก") จำเมนูเด็ดๆ มะร่าย สลับกันกินกะ "ไอดินกลิ่นครก" เลยสับสน
อาจิเซน ราเมน
(ท่าพระจันทร์) อร้อย..อร่อย บางอย่างก็อร่อยกว่าโออิชิอีกนะ ดูเป็นญี่ปุ่นมากกว่า มีสาขามากมายในแถบเอเชีย ของเค้าดีจิง.. ถ้าไปตอนเย็นมากๆ เมนูอาจมีให้เลือกกินน้อยลง..ฉะนั้นต้องรีบไป
ก๋วยจั๊บน้ำใส..มะรุ้ชื่อ
(โรงหนังเก่า เยาวราช) "ก๋วยจั๊บ" ชามโต..อร้อย..อร่อย หมูกรอบก็อร่อย น้ำซุปเผ็ดร้อนหอมกลิ่นพริกไทยก็อร่อย อิ่มได้ที่จิงจิง!!
ตลาดนางเลิ้ง
(นครสวรรค์ 6/8 แล้วแต่จะเข้า) อร่อยทั้งตลาด ยกตัวอย่างก็ได้ มี "บะหมี่เป็ด"(เป็ดเยอะมั่ก บะหมี่อร่อยเหนียว), "สาคู"(มี 2-3 ร้านติดกัน จำชื่อร้านที่ดังๆไม่ได้ ที่เด็ดๆคือ สาคูไส้ปลา), "ข้าวแช่"(กินแล้วชื่นใจ กะปิทอด..อร่อย ไอ้หวานๆเหนียวๆ..หัวไชโป๊ป่าวไม่รู้..อร่อยมาก), และอีกมากมาย..
ซีฟู้ดเยาวราช..ม่ะรุ้ชื่อ
(เยาวราช) มีให้เลือกทั้ง indoor และ outdoor กินได้อย่างไม่ต้องอายใคร เพราะโต๊ะอื่นมูมมามกันเต็มที่เหมือนกัน(มีแต่ต่างชาติเอเชีย)
โชคดีติ่มซำ
(ทั่วไป) กินแก้หิว เมนูเด่นคงเป็น "บักกุดเต๋" ก็พอกินได้นะ
ติ่มซำเยาวราช..จำชื่อมะร่าย
(เยาวราช ป้ายรถเมล์แรก) "โกยซีหมี่" เส้นอร่อย..หุหุ
ร้านโจ๊ก..ไม่มีชื่อ
(แยกแปลงนาม ถ.เจริญกรุง) "โจ๊ก - ใส่ทุกอย่าง ใส่ไข่ ไม่ผัก ไม่ขิง" เด็ด!!
โรตีมะตะบะ
(ถ.พระอาทิตย์) ต้อง "มะตะบะไก่", "สตูแพะ", "มัสมั่น", ฯลฯ
ร้านบะหมี่..ไม่มีชื่อ
(ข้าง swensen's ท่าพระจันทร์) "บะหมี่แห้ง" อร่อยที่สุดในโลก มีเกี๊ยวให้กินฟรีด้วย แต่คนเยอะมั่กๆ ไปครั้งล่าสุดก็ไม่ได้กิน ไม่มีที่นั่ง อยากกินน..อยากกินน
ใบไม้ร่าเริง
<i> (เกษตร) ร้านคาราโอเกะ อาหารอร่อย..ใช้ได้เลยทีเดียว
To-Sit
(Siam Square Soi.3) มาร้านนี้ก็ต้องกิน "ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว" อีกเหมือนกัน(แต่ที่ "กิน ดื่ม" อร่อยกว่า) จำได้ว่าวันพฤหัสจะมี "อิน บูโดกัน" วันศุกร์มีผู้หญิงร้องเพลงกับเปียร์โน
กิน ดื่ม
(ถ.พระอาทิตย์) มาร้านนี้ต้องกิน "ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว" แซ่บบบ.. มานั่งคุย นั่งฟังเพลงแนว bekery
มิตรโกหย่วน
(ตรงข้าม กทม.) "กุ้งกระเทียม", "หมี่กรอบ", "สตูลิ้นวัว"
Friends' blogs
[Add zazi_i's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.