Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
เริ่มจาก The Dark Night ย้อนกลับไป The Four Feathers



อาทิตย์ที่แล้วปิด 4 วัน (17พฤ:อาสาฬหบูชา, 18ศ:เข้าพรรษา, 19ส, 20อ) เลยแอบแว่บไปต่างจังหวัด วันหยุดยาวอย่างนี้ในกรุงเทพคงจะน่าอยู่ขึ้นไม่น้อย.. ก็คิดว่าอาทิตย์นั้นคงจะไม่ได้ดูหนังซะและ แบบว่าหลังๆนี่ดูหนังกันเมามันมาก ดูทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์ปาเข้าไปซะตั้ง 2 เรื่อง ..เลยเริ่มติด

..แต่ก็ไม่พลาด กลับมาถึงกรุงเทพวันอาทิตย์ประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง ก็ดันหาเรื่องไปซื้อบัตรคอนเสิร์ต LOST ที่เซ็นทรัล ซื้อเสร็จก็กะว่าจะกลับและ แต่ก็ดั้นหาเรื่องแว่บไปดูโปรแกรมหนัง(เล่นๆ)อีกซะงั้น จนสุดท้าย..ก็เลยต้องดู The Dark Knight

( ครั้งแรกที่ “คนทำหนัง” และ “คนทำเพลง” มาพบกัน เพื่อร่วมกันถ่ายทอดนิยามแห่ง “ความสุข” สู่ทุกสัมผัสของคุณ พบกับการแสดงสดภาพและเสียงผ่านมุมมองของ น้อย วงพรู,อรอรีย์ ,ริค วชิรปิลันธิ์ ,ญารินดา และ คิว วงฟลัว ใน LOST CONCERT )

comment : หนังน้าน..นาน 2 ชั่วโมงกว่าแหน่ะ แต่ก็หนุกดี หนังออกไปทาง Action Drama เน้นอารมณ์หนักๆไปที่ตัวเอก(อีกแล้ว!!) ก็ Batman ดันเกิดความสับสนในตัวเองอ่ะดิ๊ เนื้อหาของเรื่องมันเยอะไปหน่อย ไม่จบซะที..พลิกไปพลิกมา นอกจากจะพูดถึงตัวเอกที่เป็นซูปเปอร์ฮีโร่อย่าง Batman แล้ว ยังมีตัวเอกที่เป็นคนธรรมดาอย่างอัยการเขต Harvey Dent ที่มีความมุ่งมั่น(เช่นเดียวกับ Batman)ที่จะกำจัดคนเลวให้หมดไปจากเมือง Gotham แต่แล้วคนดี(มาก)อย่าง Dent ก็ต้องแพ้ทางให้กับคนเลวอย่าง The Joker ..น่าเสียดายจริง!!




(แบทแมนหน้าตาออกจะดูมีอายุไปซักหน่อย แต่ก็เท่ห์ดีนะ..ดูอบอุ่นดี)




(Heath Ledger ในบท Joker แสดงออกมาได้ดีทีเดียว)





ต้องยอมรับว่าดู The Joker ในเรื่องนี้แล้ว ทำให้อดคิดถึง Heath Ledger ในเรื่อง The Four Feathers ที่เราเคยชอบไม่ได้..



เรื่องย่อ

ปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อสหราชอาณาจักรทำสงครามเพื่อรักษาอำนาจปกครองเหนือแผ่นดินซูดาน ทหารหนุ่ม Harry Feversham ได้ขอลาออกก่อนการรบครั้งสำคัญ ทำให้เขาถูกตราหน้าว่าขี้ขลาดตาขาว และได้รับมอบขนนกสีขาว 4 อันจากเพื่อนๆ และคู่หมั้น เป็นเครื่องหมายที่เชื่อว่าเขาตาขาวจริงๆ แต่ไม่นานหลักจากนั้น Harry ได้ลักลอบเข้าเมืองหลวงของศัตรู และช่วยปลดปล่อยเพื่อนๆทหารที่ถูกจับเป็นเชลยออกมา ทำให้เขากอบกู้ชื่อเสียงและเกียรติยศกลับคืนมาได้ - siamzone




บทวิจารณ์

ก่อนจะมาเป็น The Four Feathers

The Four Feathers เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคแห่งจักรวรรดินิยมซึ่งบรรดาชาติมหาอำนาจในยุโรปต่างแสวงหาประเทศต่างๆในแอฟริกามาเป็นเมืองขึ้น ในปี 1884 ผู้นำกบฏชาวมุสลิม โมฮัมหมัด อาเหม็ด ได้นำชาวอาหรับซูดานลุกขึ้นประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ และนายพลชาร์ลส กอร์ดอนถูกส่งไปปราบปรามพวกกบฏ แต่ทว่านักรบกบฏได้แสดงให้เห็นแสนยานุภาพที่เหนือกว่าด้วยการโจมตีและโอบล้อมกรุงคาร์ทูม จนในปี 1885 ที่นี่ก็ได้กลายเป็นหลุมศพของทหารอังกฤษมากมาย

A.E.W. Mason ได้รับแรงบันดาลใจที่จะเขียนนวนิยายเรื่องนี้ขึ้นในปี 1875 สิบปีก่อนที่คาร์ทูมจะตกในความยึดครองของทัพกบฏซูดาน เรื่องราวในหนังสือกล่าวถึงกองทัพอังกฤษที่ตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูในคาร์ทูม และกล่าวถึงความมุ่งมั่นของนายทหารหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องการพิสูจน์คุณค่าในตัวเองหลังจากที่ถูกประณามว่าขี้ขลาด..กลัวตาย

“ผมเชื่อว่าคนหนุ่มในยุคนั้นคงไม่มีใครตั้งคำถามกับตัวเองถึงหน้าที่ที่จะต้องไปสู้ เพื่อราชินีและประเทศของพวกเขา” ผู้กำกับ Shekhar Kapur กล่าว “ความไม่มั่นใจที่เกิดกับ Harry ทำให้เรื่องนี้มีสิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวในใจ เขาจะต้องสู้กับทุกความกลัวที่จะเกิดขึ้น คำถามก็คือ การลาออกเป็นการแสดงถึงความขลาดหรือแสดงถึงความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่กัน?”

Kapur กล่าวต่อไปว่า “โดยแก่นแท้นี่คือหนังที่พูดถึงเด็กหนุ่มที่เข้าร่วมสงครามเพื่อจะเป็นชายหนุ่มเต็มตัวที่สมรภูมิ ขณะที่ผมให้ประเทศอังกฤษเป็นตัวแทนสถานที่ที่ไม่มีคำถามให้ถาม ผมก็มอบให้ซูดานคือสถานที่ที่มีคำถามให้ถาม Harry Feversham คือผู้ชายที่ได้เผชิญกับความกลัวอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง เพราะฉะนั้นผมจึงมองหานักแสดงที่แสดงออกถึงความไม่มั่นใจตัวเองได้ดี เมื่อผมลองให้ Heath ทดสอบบท ผมก็แปลกใจที่คนหนุ่มอย่างเขาช่างเฉลียวฉลาดได้ถึงขนาดนี้”

นักแสดงหนุ่มชาวออสเตรเลียน Heath Ledger กล่าวย้อนหลังเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “มันช่างเป็นบทที่ยอดเยี่ยมเสียจริงๆ มันเหมือนกับหนังที่เกี่ยวกับการเดินทางเรื่องหนึ่ง ซึ่งแม้จะหนักแต่มันก็เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกและการแสดงออกทั้งวิญญาณและจิตใจ ไม่รวมถึงความสนุกสนาน” - movie sanook



ความเห็นส่วนตัว

ชอบเรื่องนี้ เพราะมันเน้นไปที่อารมณ์(หนักๆ)ของตัวเอกอย่างมาก กดดัน-กดอารมณ์ดี รวมถึงการแสดงถึงความกล้าหาญอันยิ่งใหญ่ของคนขึ้ขลาดคนหนึ่ง ถือว่าเรื่องนี้ดีมากๆเลยทีเดียว

ฉากที่ -- พระเอกถอนตัวออกจากการไปรบ จากคนที่เคยมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งฐานะหน้าที่การงาน คู่หมั้นที่แสนดี ก๊วนเพื่อนซี้กลุ่มใหญ่ ทุกอย่างกลับหายไปในพริบตา เขาถูกตราหน้าว่าเป็นคนขี้ขลาด โดยเฉพาะ..เพื่อน ไม่เว้นแม้กระทั่ง..คนที่เขารักมากที่สุด ก็ยังหมดความเชื่อมั่นในตัวเขาไปด้วย เขาได้รับมอบขนนก 4 อัน ซึ่งมันเป็นพิธีการที่แสดงต่อทหารที่ยอมแพ้ต่อสงครามในสมัยนั้น มันแย่ตรงที่..เขาได้รับมันจาก..เพื่อน..หรือ..คู่หมั้น..จำไม่ได้ ซึ่งมันแสดงถึงความหมดศรัทธาจากคนที่เคยรักที่สุด -- คิดดูละกัน..มันจะรู้สึกแย่ขนาดไหน Heath Ledger สามารถถ่ายทอดอารมณ์-ความรู้สึกนั้นออกมาได้ดีเอามากๆ ดึงอารมณ์เราเข้าไปด้วยเลย ดูแล้วโคตรประทับใจ

และฉากที่ -- คนที่เคยถูกตราหน้าว่าขี้ขลาด หวาดกลัวต่อสงคราม กลับกลายเป็นคนที่กล้าหาญที่สุด เขาปลอมตัวเข้าไปในฝ่ายของศัตรู เพื่อช่วยเพื่อนรักที่หมดศรัทธาต่อเขา ซึ่งถูกจับตัวไปเป็นเชลย -- สุดยอดมากๆ มันไม่ง่ายเลยที่คนขี้ขลาดจะลุกขึ้นมาทำสิ่งที่กล้าหาญที่สุด เพียงเพื่อรักษามิตรภาพระหว่างเพื่อน และคนรักให้คงไว้เช่นเดิม

-- เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวในใจ เขาต้องสู้กับทุกความกลัวที่จะเกิดขึ้น การลาออกเป็นการแสดงถึง"ความขลาด" หรือแสดงถึง "ความกล้าหาญ" ที่ยิ่งใหญ่กัน? --









thx : MoviePosterDB


Create Date : 24 กรกฎาคม 2551
Last Update : 26 กรกฎาคม 2551 0:28:58 น. 0 comments
Counter : 1018 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zazi_i
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




My FaceBook

:: วัตถุประสงค์หลักของผู้จัดทำ Blog นี้ คือ เผยแพร่ข้อมูลร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึงสาระบันเทิงต่างๆนานา ทุกข้อความที่ปรากฎเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น ::

ƒ ก า ร เ ดิ น ท า ง ยั ง ย า ว ไ ก ล   ถ น น ส า ย นี้ ยั ง ย า ว ไ ก ล   จุ ด ห ม า ย ป ล า ย ท า ง ไ ก ล เ พี ย ง ใ ด   ฉั น เ อ ง ก็ ไ ม่ รู้ ว่ า เ มื่ อ ไ ห ร่   แ ต่ ท า ง ย า ว ไ ก ล ที่ ก้ า ว ม า   ไ ด้ ทำ ใ ห้ ฉั น นั้ น รู้ ว่ า   เ สี ย ง หั ว เ ร า ะ แ ล ะ น้ำ ต า   กี่ สุ ข แ ล ะ กี่ ทุ ก ข์ ที่ ฟั น ฝ่ า   มั น ทำ ใ ห้ ชี วิ ต มี ค่ า   เ พ ร า ะ ฉั น ไ ด้ รู้ ว่ า . . . เ ธ อ ยั ง อ ยู่ ต ร ง นี้ ƒ

Nara Bar
(ชั้น 7 CW) ร้านอาหารไทยสไตล์ Contemporary รสชาติอาหารใช้ได้ทีเดียว มี "ยำมะเขือยาว" ด้วยอ่ะ
K-ca Ramen
(Food Hall @ Paragon) เส้นราเมนอร่อย ข้าวญี่ปุ่นเค้าก็อร่อย ไม่เหมือนใคร.. ปกติจะกินเส้นไม่เคยหมด แต่สำหรับร้านนี้..เหลือไว้ไม่ได้แล้ว!!
Reflections
(ย่านประดิพัทธ์) กับ location ใหม่ แต่ยังคงเน้นสีสันการตกแต่งที่แปลกหูแปลกตาอยู่เหมือนเดิม..เจ๋ง!! ชอบการตกแต่งของที่นี่จริงๆ
แพกระแต
(ย่านประดิพัทธ์) ร้านอาหารไทย เน้นพวกปลาน้ำจืด เจ้าของร้านเป็นกันเอง ชอบมาแนะนำเมนูให้ลูกค้า ติดใจกะ "ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม" ที่ซู๊ดด!!
SOFA so good
(อารีย์ ซ.5) ถ้าไปกินมื้อค่ำ บอกได้คำเดียวว่า "ควรไปกะแฟน..แล้วเลือกนั่งโต๊ะแบบโซฟา"
Pathe
(ห้าแยกลาดพร้าว) ร้านบรรยากาศ antique ที่ตกแต่งด้วยของเก่า โดยเฉพาะแผ่นเสียง ลำโพงเก่า จักรยานโบราณ ฯลฯ เมนูแนะนำ "ไก่กรอบซอสมะนาว" "แกงส้มไข่ชะอม" ชะอมชุบไข่ชิ้นหนาๆอวบๆ อันนี้ชอบมากก..ฯลฯ มีถั่วให้กินเล่น และน้ำชาร้อนๆดับกลิ่นปากก่อนออกร้าน..ห่ะห่ะ!! กู๊ดไอเดีย
Grand Palace
ชอบซี่โครงหมูมั่กๆ หนังบางๆ เคี้ยวกรุบๆ สุดยอดดด!!
The Pool
(เกษตร-นวมินทร์) บรรยากาศดีทีเดียว อาหารก็ใช้ได้ นั่งฟังเพลงไปเพลินๆ (โอ้ เสกสรร+ชัด)
Banana Leaf
(ชั้นใต้ดิน Silom Complex) อร่อยกะอาหารไทยๆ "แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ", "ทอดมันกุ้ง", "พล่ากุ้ง", "เนื้อปูผัดผงกระหรี่", ฯลฯ
Platfrom 1
(เลียบทางรถไฟ สถานีสามเสน) ร้านอาหารนานาชาติ..เล็กๆ..เรียบ..หรู เป็นบ้านไม้สีขาวอบอุ่น บรรยากาศเงียบๆ ลองชิมแค่ "สปาเกตตี้ผัดปูนิ่ม, เนื้อปูบดห่ออะไรซักอย่าง, เป็ด.."(ชื่อมันเป็นภาษาปะกิด..จำม่ะร่าย)
โบราณเรียกชื่อ
(พหลโยธิน 13) บรรยากาศโอเค รสชาติอาหารธรรมดา เพลงใช้ได้
Goodevening Restaurant
(ถ.นราธิวาส ติดกับ Sortel) ร้านนี้บรรยากาศดี ใกล้ที่ทำงาน อาหารอร่อยใช้ได้ เพลงก็เพราะ(ร้องสด) ถ้าไปต้องสั่ง "กระเบื้อง Good Evening" นะ..
Country Place
(พระราม 5) กิน "เบียร์" สิครับ
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
(ถ.นราธิวาส) ก็ต้อง "เบียร์ - Lager Beer, Dunken Beer, Weizen Beer", "ขาหมู", "กระหล่ำปลีน้ำปลา", "เย็นตาโฟทรงเครื่อง", ฯลฯ
Wasabi
(ชั้น 3 Esplanade) ชาบูน้ำเต้าหู้..สุดยอดไปเลย หอมมั่ก, ฯลฯ ตบท้ายด้วย "ของหวาน 3 อย่าง" จำได้ว่ามีไอติม(ทำจากถั่วเหลืองอีกเหมือนกัน..ห้อม หอม), วุ้นแก้วมังกร, แล้วอะไรอีกอย่างจำไม่ได้และ
Secret Recipe
(La Villa อารีย์ / Paragon) วันนั้นไปกิน "ปลา(อะไรซักอย่าง)ราดซอสร็อบสเตอร์" ไฮโซ๊..ไฮโซจิง เค้าว่าเค้กอร่อย ได้รางวัลมาเยอะ ไม่เคยได้ลองซักที "สปาเกตตี้เนื้อ" ก็ใช้ได้นะ ร้านนี้มีสาขาทั้งในสิงคโปร์ มาเลเซีย และจาการ์ตาเน่อ
Bug&Bee
เมนูเครปสุดยอดด.. ต้องไปลองที่สีลมบ้างและ
Greyhound Cafe'
(ทั่วไป) I tasted "Noodle in Tom Yum Kung" and "Phad Thai with fresh Shrimps". Good..Costly..High
Take a view
(สะพานพระราม 8 ฝั่งธนฯ) อาหารงั้นงั้นไม่ค่อยถูกปาก นักร้องร้องมันทุกแนว บรรยากาศร้านเหมือนจะดี แต่ซวยเอง..ดันไปตอนร้านกะลังปรับปรุง..เลยไม่ได้นั่งชมวิวสะพานพระราม 8
แพกลางกรุง
หรือ "Virgin River" (เกษตร-นวมินทร์) อาหารไม่ค่อยถูกปากอ่ะ แต่มี "อุ๊ หฤทัย" มาร้องวันศุกร์หละ..เจ๋ง!!
Darabar
(เกษตร-นวมินทร์) ร้านนี้อาหารอร่อย อย่างน้อยก็อร่อยทุกอย่างที่สั่งเลย จำได้แต่ "กุ้งกระเบื้อง"(มั้ง) แล้วก็หมูพันบะหมี่(มันชื่อไรไม่รุ้นะ) บรรยากาศดี๊ดี ข้างนอกเป็นเหมือนสระน้ำ แล้วก็มีที่นั่งเหมือนแพ(อธิบายไม่ถูกว่ะ) ร้านนี้ขอแนะนำ!!
Sortel
(ถ.นราธิวาส ติดกับ Goodevening) จำมะร่าย ไปมานานและ จำได้ว่ากินคอกเทลด้วยแหละ ตอนนั้นเพลงมันโคตรดัง(หนวกหู) แต่วันนั้นไปกิน Goodevening แล้วเดินผ่าน คนเยอะโคตร นักร้องเป็นผู้หญิงด้วย(วันศุกร์) เสียงใช้ได้เลย ต้องไปลอง..ต้องไปลอง
บ้านพระอาทิตย์
(ถ.พระอาทิตย์) "Espresso" เข้มสุดสุด กินแก้วเดียวตาแข็งไปทั้งคืน..ยันเช้า แนะนำข้าวผัดปลาสลิด..อร่อยได้ใจ บรรยากาศร้าน..ดีม๊ากก เหมาะสำหรับไปนั่งอ่านหนังสือ..
บะหมี่ฮ่องกง
หรือ "Hong Kong Noodle" (ตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ เยาวราช/สยาม) เกี๊ยวกุ้งตัวโต เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ซู้ดดยอดด!!"
the terrace
(Central Lardpao) กินได้ กินได้ กุ้งตัวใหญ่ เป็ดอร่อย ตบท้ายด้วยกล้วยไข่เชื่อม "ไป central ไม่รู้จะกินอะไร ให้คิดถึง the terrace"
สีฟ้า
(ทั่วไป) ไปทุกครั้งต้องสั่ง "แกงเผ็ดเป็ดย่าง" หละ
ผัดไทยอารีย์
(จากซอยอารีย์ย้ายไปพหลโยธิน 8/เอราวัณ) ตอนนี้กินแต่ "เส้นมะละกอ"(ผัดไทยมะละกอ) แต่อยากกิน "ข้าว"(ผัดไทยข้าว)แล้วง่ะ..ไปทีไรสั่งแต่มะละกอ
เจียงฮาย
(ต้นซอยลาดพร้าว) ต้องกิน "ข้าวซอยไก่(original)" เพราะที่นี่เค้ามีเส้นหลายอย่าง อูด้ง, ราเมนก็มีนะ ฯลฯ แต่ต้องใส่น้ำตาลหน่อย รู้สึกคนทำจะชอบกินเค็ม ไปกินกี่ครั้งก็จะแก่เค็ม น้ำเงี้ยวก็มี.. เป็นร้านของมือกีตาร์วง Big Ass หล่ะ..เห็นพี่แกขยันขันแข็งช่วยเมียซะจิ้ง..
KURODA
(ตรงข้าม TOPS RCA) ร้านอาหารญี่ปุ่น คุณภาพดี รสชาติพอใช้(สำหรับตัวเองนะ)กินแก้ขัดได้ ราคาย่อมเยาว์ อยากกินอาหารญี่ปุ่นนึกถึงร้านนี้ก็ไม่ผิดหวัง แต่อาหารรสชาติจะออกแนวเค็มไปนิดส์ ร้านนี้เมนูจะเน้นไก่บ้าน เพราะเค้ามีฟาร์มเป็นของตัวเองหละ
เดอะครก
(Siam Square Soi.2 ติดกับ "ไอดินกลิ่นครก") จำเมนูเด็ดๆ มะร่าย สลับกันกินกะ "ไอดินกลิ่นครก" เลยสับสน
อาจิเซน ราเมน
(ท่าพระจันทร์) อร้อย..อร่อย บางอย่างก็อร่อยกว่าโออิชิอีกนะ ดูเป็นญี่ปุ่นมากกว่า มีสาขามากมายในแถบเอเชีย ของเค้าดีจิง.. ถ้าไปตอนเย็นมากๆ เมนูอาจมีให้เลือกกินน้อยลง..ฉะนั้นต้องรีบไป
ก๋วยจั๊บน้ำใส..มะรุ้ชื่อ
(โรงหนังเก่า เยาวราช) "ก๋วยจั๊บ" ชามโต..อร้อย..อร่อย หมูกรอบก็อร่อย น้ำซุปเผ็ดร้อนหอมกลิ่นพริกไทยก็อร่อย อิ่มได้ที่จิงจิง!!
ตลาดนางเลิ้ง
(นครสวรรค์ 6/8 แล้วแต่จะเข้า) อร่อยทั้งตลาด ยกตัวอย่างก็ได้ มี "บะหมี่เป็ด"(เป็ดเยอะมั่ก บะหมี่อร่อยเหนียว), "สาคู"(มี 2-3 ร้านติดกัน จำชื่อร้านที่ดังๆไม่ได้ ที่เด็ดๆคือ สาคูไส้ปลา), "ข้าวแช่"(กินแล้วชื่นใจ กะปิทอด..อร่อย ไอ้หวานๆเหนียวๆ..หัวไชโป๊ป่าวไม่รู้..อร่อยมาก), และอีกมากมาย..
ซีฟู้ดเยาวราช..ม่ะรุ้ชื่อ
(เยาวราช) มีให้เลือกทั้ง indoor และ outdoor กินได้อย่างไม่ต้องอายใคร เพราะโต๊ะอื่นมูมมามกันเต็มที่เหมือนกัน(มีแต่ต่างชาติเอเชีย)
โชคดีติ่มซำ
(ทั่วไป) กินแก้หิว เมนูเด่นคงเป็น "บักกุดเต๋" ก็พอกินได้นะ
ติ่มซำเยาวราช..จำชื่อมะร่าย
(เยาวราช ป้ายรถเมล์แรก) "โกยซีหมี่" เส้นอร่อย..หุหุ
ร้านโจ๊ก..ไม่มีชื่อ
(แยกแปลงนาม ถ.เจริญกรุง) "โจ๊ก - ใส่ทุกอย่าง ใส่ไข่ ไม่ผัก ไม่ขิง" เด็ด!!
โรตีมะตะบะ
(ถ.พระอาทิตย์) ต้อง "มะตะบะไก่", "สตูแพะ", "มัสมั่น", ฯลฯ
ร้านบะหมี่..ไม่มีชื่อ
(ข้าง swensen's ท่าพระจันทร์) "บะหมี่แห้ง" อร่อยที่สุดในโลก มีเกี๊ยวให้กินฟรีด้วย แต่คนเยอะมั่กๆ ไปครั้งล่าสุดก็ไม่ได้กิน ไม่มีที่นั่ง อยากกินน..อยากกินน
ใบไม้ร่าเริง
<i> (เกษตร) ร้านคาราโอเกะ อาหารอร่อย..ใช้ได้เลยทีเดียว
To-Sit
(Siam Square Soi.3) มาร้านนี้ก็ต้องกิน "ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว" อีกเหมือนกัน(แต่ที่ "กิน ดื่ม" อร่อยกว่า) จำได้ว่าวันพฤหัสจะมี "อิน บูโดกัน" วันศุกร์มีผู้หญิงร้องเพลงกับเปียร์โน
กิน ดื่ม
(ถ.พระอาทิตย์) มาร้านนี้ต้องกิน "ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว" แซ่บบบ.. มานั่งคุย นั่งฟังเพลงแนว bekery
มิตรโกหย่วน
(ตรงข้าม กทม.) "กุ้งกระเทียม", "หมี่กรอบ", "สตูลิ้นวัว"
Friends' blogs
[Add zazi_i's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.