Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
(ดองed) มหากาพย์ “คนเหล็ก” 4 ภาค



งานนี้ เห็นทีพวกเราจะได้ดูคนเหล็กจนเข้าสู่ปี 2029 กันเลยทีเดียวหละ (หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น) ก็อยากรู้เหมือนกันอ่ะนะ ว่าถึงตอนนั้นแล้วมันจะเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆ คือ John Connor จะต้องตายด้วยฝีมือหุ่นพิฆาต T-800 ตัวนี้ ชัวร์ !!  (จากภาค 3) แล้วก็จะเหลือแต่ Katherine Brewster ที่เป็นตัวหลักคอยต่อสู้กับคอมพิวเตอร์อัจฉริยะในสงครามจักรกลนี้ต่อไป

แ ล้ ว เ รื่ อ ง ร า ว มั น จ ะ เ ป็ น ยั ง ไ ง ห น อ ?  ต้ อ ง ร อ ดู กั น ล ะ ค ร้ า บ. . พี่ น้ อ ง !




T4


( Release Date : 2009 , Runtime : ≈130 min )


Terminator Salvation : The Future Begins
aka
คนเหล็ก 4 มหาสงครามจักรกลล้างโลก


Director : McG

Synopsis : เหตุการณ์เกิดขึ้นในโลกอนาคตหลังวันพิพากษาในปี 2018 ซึ่งเป็นเวลา 14 ปีหลังจากโลกถูกถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ ในขณะที่กองทัพหุ่นยนต์ออกไล่ล่าเพื่อกำจัดมนุษยชาติให้สิ้นซาก ฝ่ายมนุษย์เองก็มีชีวิตอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันเป็นองค์กรลับในการโจมตีกองทัพหุ่นยนต์ให้สูญสิ้นไปเช่นกัน และ John Connor (Christian Bale) ก็คือชายคนเดียวซึ่งเป็นความหวังที่จะช่วยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่รอดต่อไปได้

บัดนี้ โลกกำลังจะก้าวสู่อนาคตที่ Connor ถูกพร่ำเตือนเสมอมาตลอดชีวิต แต่ปัจจัยใหม่อย่างหนึ่งได้สั่นคลอนความเชื่อของเขาที่ว่ามนุษยชาติมีโอกาสที่จะชนะสงครามครั้งนี้ นั่นก็คือการปรากฏตัวของ Marcus Wright (Sam Worthington) ชายแปลกหน้า ผู้ซึ่งความทรงจำสุดท้ายของเขาคือการรับโทษประหารก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกใหม่ใบนี้

Connor จะต้องตัดสินใจว่าเขาสามารถไว้วางใจ Marcus ได้หรือไม่ แต่เมื่อ SkyNet ใช้กลยุทธใหม่เพื่อปราบกองกำลังต่อต้านให้ราบคาบ Connor และ Marcus ก็ต้องหาทางร่วมมือกันเพื่อยับยั้งการสังหารโหด ด้วยการแฝงตัวเข้าไปใน SkyNet และชนกับศัตรูแบบจังๆ




เว้นห่างจากภาคที่แล้วนานถึง 6 ปี มาคราวนี้ “คนเหล็ก 4” ได้ทิ้งแนวทางการดำเนินเรื่องในรูปแบบเดิมไปโดยสิ้นเชิง เปลี่ยนจากการส่งเครื่องจักรสังหารย้อนอดีต ที่เล่นกันไปแล้วทั้งสามภาค ไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรในยุคปัจจุบันอย่างจริงๆ จังๆ (ซะที)


ทีมผู้สร้างในภาคนี้น่าจะทำการบ้านกันมาหนักทีเดียว อย่างน้อยก็ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า..ทำยังไงหนังถึงจะไม่แป๊กไปอย่างภาคที่แล้วซะก่อน ด้วยเรื่องราวของหนังภาคนี้มันเกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน (2018) ซึ่งก็หนีจากการดำเนินเรื่องในแบบเดิมๆ ไปแล้ว ความทันสมัยไฮเทคต่างๆ หรือ production ของหนัง ก็ควรที่จะยิ่งใหญ่มากขึ้น เพื่อให้สมศักดิ์ศรีคนเหล็กยุค 2009 และสมกับการรอคอยของแฟนๆ


T H E   Y E A R   I S   2 0 1 8

เปิดเรื่องด้วย Marcus Wright นักโทษประหาร ที่ได้รับการต่อรองชีวิต ด้วยการเอาตัวเข้าแลกกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ให้กับองค์กรลับแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ฟื้นขึ้นมาด้วยอาการเหมือนคนความจำเสื่อม สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือ เขากำลังรอรับโทษประหารชีวิต

ในภาคนี้ ตัวเอกของเรื่องได้เพิ่ม Marcus Wright ขึ้นมาอีกหนึ่งคน และดูเหมือนบทบาทของเขาจะโดดเด่นกว่าตัวเอกอย่าง John Connor ที่มีชื่อมาในทุกๆ ภาคซะอีกด้วย


Marcus Wright ต้นแบบหุ่นยนต์แทรกซึม คนเหล็กหนึ่งเดียวในโลก ถูกชุบชีวิตขึ้นมาโดยผลงานของ Cyberdyne System จุดประสงค์ก็เพื่อบรรลุในสิ่งที่เครื่องจักรอื่นไม่สามารถทำได้สำเร็จ เพื่อเข้าแทรกซึม ค้นหาเป้าหมาย และนำตัวเป้าหมายนั้นมาให้กับ SkyNet

และในภาคนี้ SkyNet ได้ส่งตัว Marcus Wright เครื่องจักรที่มีชิวิตจิตใจและความรู้สึก มาเพื่อแทรกซึมในกลุ่มมนุษย์ เป้าหมายของมันยังคงอยู่ที่การทำลาย John Connor โดยการใช้ Marcus Wright เป็นเครื่องมือ และ Kyle Reese เป็นตัวประกัน เพื่อล่อให้ John เข้าไปในระบบของ SkyNet จากนั้นก็ปล่อย T-800 (Arnold Schwarzenegger) ออกมาเพื่อฆ่า John

ถ้าพูดถึง “คนเหล็ก” แล้ว ก็คงจะขาดพี่บิ๊กเบิ้ม “อาร์โนลด์” ไปเสียมิได้ ถึงแม้พี่แกจะหันไปเอาดีทางด้านผู้ว่าการรัฐแล้วก็ตาม แต่พี่แกก็ยังอุตส่าห์ออกมาโชว์เรือนร่างให้ได้เห็นกันตั้งแป๊บนึง (ฉากเปิดตัวแบบเปลือยเปล่าล่อนจ้อนก็เห็นจะขาดไปเสียมิได้สำหรับ “คนเหล็ก” เช่นกัน) ไว้จะรอดูต่อในภาคหน้าอีกนะ..

ภาคนี้ John Connor จะได้พบกับ Kyle Reese และเขาก็ต้องช่วยชีวิต Kyle ไว้ด้วย ซึ่ง John เองก็รู้อยู่ว่า Kyle Reese คือพ่อของเขา Sarah Connor ได้บอก John ไว้ว่า เขาจะต้องส่ง Kyle ย้อนกลับไปในปี 1984 เพื่อช่วยปกป้องชีวิตเธอ เพื่อที่จะให้กำเนิดบุรุษผู้เป็นความหวังของมนุษยชาติ “John Connor” ได้

John จะได้พบกับ Kyle Reese พ่อของตัวเอง ซึ่งยังเป็นวัยรุ่น และอายุน้อยกว่าเขา ภารกิจของ John ในครั้งนี้ก็คือ การรักษาชีวิต Kyle Reese เอาไว้ เพื่อที่จะได้มีตัวเขาเองในปัจจุบัน

แต่การจะทำเช่นนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจาก Kyle ถูก SkyNet จับตัวไป มีเพียงชายคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วย John ได้ เขาคือบุรุษลึกลับ Macus Wright ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในระบบของ SkyNet ได้ และทั้งคู่ต้องร่วมมือกัน..

แต่ในภาคนี้ John ก็ยังไม่ทันได้ส่ง Kyle Reese ย้อนอตดีต หนังมันก็ดันจบไปซะก่อน.. และในภาคนี้ Katherine (Brewster) Connor ภรรยาของ John ก็กำลังอุ้มท้องลูกของเขาด้วย และ John เองก็ยังไม่ตาย SkyNet ก็ยังครองโลกอย่างแข็งแกร่ง

เท่านี้ก็น่าจะมีเหตุพอให้ต้องรอดูกันต่อในภาคหน้าแล้ว..จริงมะ??


ปล. Katherine Brewster อดีต..รักษาสัตว์ ปัจจุบัน..รักษาคน ห่ะห่ะ!! ฮาาา..











ชอบจริงๆ Moto-Terminator เนี่ย โคตรเท่ห์อ่ะ!!  ถ้าได้มาขับเล่นซักคัน คงจะดี!!  แต่มันก็โคตรโง่เลยนะ โดนเล่นแค่เชือกเส้นเดียว ทำเอาสะดุดคว่ำไม่เป็นท่า อ่อน!! จริงๆ


ทำไม ปี 2018 ใน TMT มันถึงดูล้ำกว่า ปี 2022 ใน Tsunami ซะอีกนะ สงสัยจิงจิ๊ง!!  (ไม่วาย..)

สำหรับภาคนี้ต้องยอมรับว่าเนื้อหาเข็มข้นขึ้นจริงๆ (ถึงแม้จะมีฉากให้ได้แอบงง หรือไร้เหตุผล* บ้างเล็กน้อยก็เถอะ) ฉากต่อสู้ต่างๆ ก็ถือว่าโอเค ..ใช้ได้   โดยรวมถือว่าดีกว่าภาคที่แล้วพอสมควร ก็สมกับการรอคอยอ่ะนะ

* SkyNet ออกจะโง่เว่อร์ไปหน่อย หลอก John Connor เข้าไปได้แล้ว ยังจะฆ่าไม่ได้ซะที

ตัวชูเรื่องเห็นจะเป็น Marcus Wright ไปโดยปริยาย ให้ความสำคัญมากไปหน่อยอ๊ะป่าว?


และสำหรับคนเหล็กในภาคนี้ เราว่ามันเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของไตรภาคที่ 2 ของคนเหล็กเลยอ่ะนะ ก็ไม่รู้หรอก..ว่าจะมีต่ออีกกี่ภาค แต่ในภาคนี้สงครามแห่งโลกอนาคตมันได้เริ่มขึ้นแล้ว และก็ยังไม่มีบทสรุปว่าฝ่ายไหนจะชนะหรือแพ้

ส ง ค ร า ม ยั ง ไ ม่ จ บ . . อ ย่ า เ พิ่ ง นั บ ศ พ ท ห า ร ..เคยได้ยินป๊ะ??



Terminator 4 เป็นฝีมือการกำกับของ McG เจ้าของผลงานหนังแอ็คชั่นบ้าพลังอย่าง Charlie’s Angels ทั้ง 2 ภาค นี่จะเป็นหนังคนเหล็กเรื่องแรกที่เล่าเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในโลกอนาคต นอกจาก ฉากแอ็คชั่นมโหฬารระดับพินาศวอดวายที่มีให้ลุ้นระทึกกันเกือบตลอดทั้งเรื่องแล้ว เราจะได้เห็น SkyNet ในโลกอนาคตแบบเต็มๆ เสียที หลังจากโผล่มาให้เห็นแว่บๆ ในภาคก่อนๆ รวมถึงจะได้รู้ที่มาที่ไปของหุ่นรุ่น T-800 ของเฮียอาร์โนลด์อีกด้วย







T3


( Release Date : 2003 , Runtime : 109 min )


Terminator 3 : Rise of the Machines
aka
คนเหล็ก 3 กำเนิดใหม่เครื่องจักรสังหาร


Director : Jonathan Mostow

Synopsis : หลังจากที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวันพิพากษา บัดนี้ Sarah Connor ได้เสียชีวิตลงแล้ว จะเหลือก็แค่ John Connor (Nick Stahl) ในวัย 25 ปี ที่ต้องเอาตัวให้รอดโดยปราศจากแม่ผู้มีจิตใจแข็งแกร่งอยู่เคียงข้าง และแล้ว T-X (Kristanna Loken) หุ่นยนต์สังหารสาวรุ่นใหม่สุดไฮเทค ก็ถูกส่งย้อนเวลากลับมาเพื่อสังหาร Connor

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่เป้าหมายเดียวที่ SkyNet หวังจะกำจัดอีกแล้ว แต่ยังมี Katherine Brewster (Claire Danes) สัตวแพทย์สาว ว่าที่ภรรยาและผู้ช่วยของ John ในอนาคตด้วยอีกคน ส่วนหุ่นยนต์ที่ถูกส่งมาปกป้องพวกเขาก็ยังเป็น T-800 (Arnold Schwarzenegger) หุ่นยนต์ตกประป๋องรุ่นเดียวกับภาคก่อน นั่นเอง




12 ปีต่อมา.. ภาคนี้แหละ โต (เกิน) พอที่จะได้ดูกันและ (ภาคก่อนๆ ก็เพิ่งหามาดู)

อนาคตไม่ได้ถูกกำหนด.. ฟ้าไม่ได้ลิขิตเรา.. มีเพียงเราที่ลิขิตตนเอง

ภาคนี้เปิดฉากด้วย John Connor ในวัย 25 (หน้าลิง ช่างไม่หล่อเอาซะเล้ย!!) ที่ใช้ชีวิตเร่ร่อนไม่เป็นหลักแหล่ง ขณะที่ Sarah Connor ได้เสียชีวิตไปแล้ว จนกระทั่งเขาได้มาพบกับ Katherine Brewster เพื่อนสาวสมัยเรียนเข้าโดยบังเอิญ ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับเครื่องจักรสังหารตัวใหม่ (T-X) รุ่นใหม่ แต่ไฉไลกว่าเดิม ที่ถูกส่งกลับมาเพื่อสังหารกลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกู้โลกในอนาคตทั้งหมด พร้อมกันนี้ฝ่ายต่อต้านซึ่งนำโดย Katherine Brewster ในโลกอนาคตก็ได้ส่งหุ่นยนต์พิฆาตย้อนโปรแกรมรุ่นเดิม (T-800) กลับมาเพื่อช่วยชีวิตด้วยเช่นกัน (ขณะนั้น John Connor ได้ตายไปแล้ว)

สำหรับในภาคนี้เริ่มไม่ค่อยเนียนและ เรื่องราวมันเริ่มเขวๆ ไปไหนไม่รู้ อาจเป็นเพราะเปลี่ยนผู้กำกับด้วยหรือป่าว? ..ไม่แน่ใจ เนื้อหามันก็เลยดูไม่ค่อยต่อเนื่องกับสองภาคแรกซักเท่าไหร่ แต่เค้าก็พยามจะทำให้มันดูคล้ายกับภาคก่อนอ่ะนะ แต่มันออกแนวแป๊กไปยังไงไม่รู้..ว่ามะ?

แต่สำหรับหุ่นยนต์สังหารรุ่นใหม่ T-X ที่ภายนอกดูเป็นหญิงสาวสวยเซ็กซี่ แท้จริงแล้วชีอึดซะยิ่งกว่านายกล้ามโต อาร์โนลด์ ชวาสฯ หลายขุมเลย ฆ่าเท่าไหร่ชีก็ไม่ยอมตาย แถมชียังมีพลังพิเศษควบคุมเครื่องจักรอื่นได้ด้วยอีก อันนี้ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้เจ๋งจริงๆ


และภาคนี้ก็กล่าวถึงภรรยาในอนาคตของ John Connor (หรือ รองผู้บัญชาการ) ไว้ด้วย นั่นคือ Katherine Brewster ซึ่งเป็นลูกสาวของ Robert Brewster ผู้ควบคุมดูแล SkyNet และเป็นคนเปิดระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์อัจฉริยะนี้

. . ณ   ต อ น นี้   วั น สิ้ น โ ล ก ไ ด้ เ กิ ด ขึ้ น แ ล้ ว . .




Terminator 3 เป็นฝีมือการกำกับของ Jonathan Mostow ใช้ทุนสร้างมหาศาลกว่า $200 ล้าน ถึงแม้จะเป็นภาคที่แฟนๆ ชอบกันน้อยที่สุด แต่หนังก็ยังกวาดรายได้จากแฟนๆ คนเหล็กทั่วโลกไปกว่า $443 ล้าน







T2


( Release Date : 1991 , Runtime : ≈152 min )


Terminator 2 : Judgment Day
aka
คนเหล็ก 2029 ภาค 2


Director : James Cameron

Synopsis : จากหญิงสาวที่ไม่ภาษีภาษา Sarah Connor (Linda Hamilton) ได้กลายเป็นหญิงแกร่งกร้านที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ด้วยความที่ยังโดนหุ่นยนต์สังหารและวันพิพากษาคอยตามหลอกหลอนอยู่ ทำให้เธอต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา ทั้งการไปฝึกรบกับทหารรับจ้างในเม็กซิโก และฝึกให้ John Connor (Edward Furlong) ลูกชายของเธอ รู้จักวิชาการต่อสู้และใช้อาวุธตั้งแต่เล็กๆ

และในที่สุด SkyNet ก็ส่งหุ่นยนต์สังหารรุ่น T-1000 (Robert Patrick) ซึ่งหลอมเหลวเปลี่ยนรูปร่างเป็นอะไรก็ได้ มาตามล่าแม่ลูกคู่นี้ แต่ขณะเดียวกัน Connor ในอนาคตก็ส่งหุ่นยนต์ T-800 (Arnold Schwarzenegger) ที่ถูกตั้งโปรแกรมใหม่แล้ว มาคุ้มครอง John กับ Sarah เช่นเดียวกัน เหตุการณ์จบลงตรงที่ พวกเขาสามารถถล่มห้องทดลองซึ่งเป็นที่เก็บชิ้นส่วนหุ่นยนต์ต้นแบบได้สำเร็จ พร้อมด้วยความหวังที่ว่า “วันพิพากษาและโครงการ SkyNet จะไม่เกิดขึ้น”




7 ปีต่อมา.. ก็ได้ฤกษ์คลอด “คนเหล็ก 2” ตอนนั้นก็น่าจะซักประมาณ ป.3 ได้แล้ว แต่สมัยนั้นก็ยังไม่ถึงวัยที่จะดูหนังอะไรพวกนี้เลย (ยังตื่นแต่เช้ามาดูละครจักรๆ วงศ์ๆ อยู่เล้ย! ห่ะห่ะ!)

สำหรับภาคสองนี้จะอยู่ในช่วงของ John Connor ในวัยเด็ก (13 ปี) หลังจากที่ Sarah Connor รอดชีวิตจากการตามล่าของหุ่นยนต์พิฆาตไปครั้งหนึ่งแล้ว เธอก็ใช้ชีวิตในแบบดิบๆ ไปกับลูกชาย เพื่อเตรียมพร้อมกับวันพิพากษาโลกที่จะมาถึง แต่เธอดันถูกจับตัวให้เข้าไปอยู่ใน รพ. บ้าซะก่อน ส่วน John Connor ก็เลยต้องใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม จนกระทั่งหุ่นยนต์พิฆาตตัวที่สอง (T-1000) ได้ถูกส่งกลับมา เพื่อตามล่าเอาชีวิตของทั้งคู่อีกครั้ง แล้วก็เหมือนเดิม..กลุ่มต่อต้านก็ได้ส่งหุ่นพิฆาต (T-800) ที่ถูกย้อนโปรแกรมมาเพื่อคุ้มครอง Jonh ด้วยเช่นกัน

เนื้อหาของหนังในภาคนี้ก็ยังคงเข้าใจง่าย..เหมือนเดิม อาจจะมีเรื่องราวซับซ้อนขึ้นนิดหน่อย แต่ฉากแอ๊คชั่นก็เริ่มเข้มข้นขึ้น เรื่องราวเริ่มเข้าสู่จุดไคลแมกซ์เข้าไปทุกที..

ในภาคนี้เป็นการยับยั้งต้นกำเนิดคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ โดยการตามหาผู้สร้าง SkyNet และยับยั้งมัน

ฝ่ายตัวโกงในภาคนี้ เก่งกว่าเดิมมาก เป็นโลหะเหลว สามารถ (หลอม) เลียนแบบวัตถุทุกอย่างที่สัมผัสได้ ยกเว้นเครื่องกลที่ซับซ้อน เลียนแบบโลหะรูปต่างๆ ในขนาดที่ใกล้เคียงได้ อย่างเช่นมีด โคตรเท่ห์อ่ะ!!  



Terminator 2 ยังเป็นฝีมือการกำกับของ James Cameron ซึ่งคนเหล็กภาคนี้ถือเป็นหนังภาคระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด หนังใช้ทุนสร้างสูงถึง $100 ล้าน (ซึ่งถือเป็นงบที่สูงที่สุดในยุคนั้น) และกวาดรายได้ทั่วโลกไปแบบถล่มทลายกว่า $520 ล้าน (รายได้เฉพาะในอเมริกาอยู่ที่ $200 ล้าน) แถมยังคว้าออสการ์ไปครองด้วยอีก 4 รางวัล โดยหนังภาคนี้ไม่ได้มีดีแค่ฉากแอ๊คชั่นที่ตื่นเต้นเร้าใจเท่านั้น แต่ยังมีจุดเด่นที่เนื้อหาซึ่งพูดถึงด้านมืดของเทคโนโลยีและความรุนแรงที่ซ่อนอยู่ในตัวมนุษย์ด้วย







T1


( Release Date : 1984 , Runtime : ≈108 min )


The Terminator
aka
คนเหล็ก 2029


Director : James Cameron

Synopsis : SkyNet ส่งหุ่นยนต์สังหาร T-800 (Arnold Schwarzenegger) ย้อนเวลามายังโลกปัจจุบันเพื่อกำจัด Sarah Connor (Linda Hamilton) แม่ของ John Connor ซึ่งจะเติบโตขึ้นเป็นผู้นำกองกำลังกอบกู้โลก ในขณะเดียวกัน John Connor แห่งโลกอนาคตก็ส่ง Kyle Reese (Michael Biehn) นายทหารหนุ่มที่เป็นมนุษย์ ย้อนเวลากลับมาปกป้อง Sarah และสุดท้าย Kyle Reese ก็คือพ่อของ John Connor นั่นเอง

Sarah และ Kyle ร่วมกันกำจัด หุ่นยนต์สังหาร T-800 ได้สำเร็จ แต่โชคร้ายที่ Kyle Reese เสียชีวิต Sarah จึงต้องแบกรับภาระทั้งหมดในการหยุดยั้ง SkyNet แต่เพียงลำพัง พร้อมทั้งต้องประคบประหงมลูกในท้องซึ่งเป็นความหวังเดียวของมนุษยชาติเอาไว้ด้วย




ภาคแรกจะย้อนจากปี 2029 ไปยังปี 1984 เป็นจุดกำเนิดของฮีโร่สายพันธุ์มนุษย์ ที่ลุกขึ้นมาปกป้องโลกจากกองทัพคนเหล็ก เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม SkyNet (คอมพิวเตอร์อัจฉริยะ) จึงส่งหุ่นยนต์พิฆาต (T-800) ย้อนอดีตไปเพื่อฆ่า Sarah Connor แม่ของ John Connor ที่ปัจจุบัน (2029) คือหัวหน้ากลุ่มต่อต้านคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ (หรือ กองกำลังกู้โลก) เรียกว่า..ตามฆ่ากันตั้งแต่แม่พันธุ์กันเลยทีเดียว ฝ่าย John Connor ก็ไม่นิ่งนอนใจ ส่งทหารย้อนเวลากลับไปปกป้องแม่ตัวเอง Kyle Reese คือทหารที่สมัครใจย้อนเวลาเพื่อไปปกป้อง Sarah เขาคอยคุ้มครองเธอจากการตามล่าของหุ่นมือสังหาร และ Kyle Reese นี่เองที่เป็นพ่อของ John Connor บุรุษผู้เป็นความหวังของมนุษยชาติ

สำหรับภาคแรกนี้ เนื้อหาหนัง..ดี ดำเนินเรื่องแบบเข้าใจง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน



The Terminator เป็นหนังทุนต่ำที่สร้างด้วยงบเพียง $6.4 ล้าน แต่กลับทำรายได้ทั่วโลกไปถึง $78 ล้าน (รายได้เฉพาะในอเมริกาอยู่ที่ $38 ล้าน) ด้วยความสำเร็จดังกล่าวทำให้ ผู้กำกับโนเนมอย่าง James Cameron ขึ้นทำเนียบเป็นนักทำหนังแถวหน้าของฮอลลีวู้ด ส่วน Arnold Schwarzenegger พระเอกหุ่นพี่บึ้กของเรา ก็ก้าวขึ้นเป็นดาราระดับซูเปอร์สตาร์ และติดภาพลักษณ์ความเป็น “คนเหล็ก” นับแต่นั้นเป็นต้นมา







THX :      


Create Date : 14 มิถุนายน 2552
Last Update : 19 กรกฎาคม 2552 20:33:21 น. 3 comments
Counter : 4397 Pageviews.

 
เป็นกำลังใจช่วยคนเหล็กทุกภาคครับ
อยากดูภาค5ไวๆจัง


โดย: ค IP: 124.122.50.191 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:42:13 น.  

 
อีกอย่างครับ
อย่าลืมนำภาพหรือผลงานใหม่ๆมานำเสนอนะครับ เด็กลานกระบือ ควีน


โดย: ควีน IP: 124.122.50.191 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:44:40 น.  

 
มีข้อสงสัยครับ
คือว่าผมเคยได้ชมคนเหล็กอยู่ตอนนึงผ่านทาง you tube แต่ไม่ใช่ทั้ง 4 ภาค ที่คุณแนะนำ ทำให้รู้สึกงงๆ ตอนที่ว่านี้ผมได้ดูไม่ทันจบพอดีมีธุระ เนื้อหาประมาณว่า ซ่าร่า พาจอร์นไปเรียนที่ไหนซักแห่ง ช่วงเวลาน่าจะเป็นหลังจากภาค 2 แล้วก็มีหุ่นเหล็กเป็นหญิงวัยรุ่นส่งย้อนเวลามา ผมดูถึงช่วงนี้แล้วก็ไม่ได้ดูอีก ค้นหาใหม่แล้วไม่เจอ คุณเคยดูหรือเปล่าครับพอจะมีข้อมูลไหมครับ


โดย: krish IP: 171.99.59.139 วันที่: 31 พฤษภาคม 2555 เวลา:11:59:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zazi_i
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




My FaceBook

:: วัตถุประสงค์หลักของผู้จัดทำ Blog นี้ คือ เผยแพร่ข้อมูลร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึงสาระบันเทิงต่างๆนานา ทุกข้อความที่ปรากฎเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น ::

ƒ ก า ร เ ดิ น ท า ง ยั ง ย า ว ไ ก ล   ถ น น ส า ย นี้ ยั ง ย า ว ไ ก ล   จุ ด ห ม า ย ป ล า ย ท า ง ไ ก ล เ พี ย ง ใ ด   ฉั น เ อ ง ก็ ไ ม่ รู้ ว่ า เ มื่ อ ไ ห ร่   แ ต่ ท า ง ย า ว ไ ก ล ที่ ก้ า ว ม า   ไ ด้ ทำ ใ ห้ ฉั น นั้ น รู้ ว่ า   เ สี ย ง หั ว เ ร า ะ แ ล ะ น้ำ ต า   กี่ สุ ข แ ล ะ กี่ ทุ ก ข์ ที่ ฟั น ฝ่ า   มั น ทำ ใ ห้ ชี วิ ต มี ค่ า   เ พ ร า ะ ฉั น ไ ด้ รู้ ว่ า . . . เ ธ อ ยั ง อ ยู่ ต ร ง นี้ ƒ

Nara Bar
(ชั้น 7 CW) ร้านอาหารไทยสไตล์ Contemporary รสชาติอาหารใช้ได้ทีเดียว มี "ยำมะเขือยาว" ด้วยอ่ะ
K-ca Ramen
(Food Hall @ Paragon) เส้นราเมนอร่อย ข้าวญี่ปุ่นเค้าก็อร่อย ไม่เหมือนใคร.. ปกติจะกินเส้นไม่เคยหมด แต่สำหรับร้านนี้..เหลือไว้ไม่ได้แล้ว!!
Reflections
(ย่านประดิพัทธ์) กับ location ใหม่ แต่ยังคงเน้นสีสันการตกแต่งที่แปลกหูแปลกตาอยู่เหมือนเดิม..เจ๋ง!! ชอบการตกแต่งของที่นี่จริงๆ
แพกระแต
(ย่านประดิพัทธ์) ร้านอาหารไทย เน้นพวกปลาน้ำจืด เจ้าของร้านเป็นกันเอง ชอบมาแนะนำเมนูให้ลูกค้า ติดใจกะ "ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม" ที่ซู๊ดด!!
SOFA so good
(อารีย์ ซ.5) ถ้าไปกินมื้อค่ำ บอกได้คำเดียวว่า "ควรไปกะแฟน..แล้วเลือกนั่งโต๊ะแบบโซฟา"
Pathe
(ห้าแยกลาดพร้าว) ร้านบรรยากาศ antique ที่ตกแต่งด้วยของเก่า โดยเฉพาะแผ่นเสียง ลำโพงเก่า จักรยานโบราณ ฯลฯ เมนูแนะนำ "ไก่กรอบซอสมะนาว" "แกงส้มไข่ชะอม" ชะอมชุบไข่ชิ้นหนาๆอวบๆ อันนี้ชอบมากก..ฯลฯ มีถั่วให้กินเล่น และน้ำชาร้อนๆดับกลิ่นปากก่อนออกร้าน..ห่ะห่ะ!! กู๊ดไอเดีย
Grand Palace
ชอบซี่โครงหมูมั่กๆ หนังบางๆ เคี้ยวกรุบๆ สุดยอดดด!!
The Pool
(เกษตร-นวมินทร์) บรรยากาศดีทีเดียว อาหารก็ใช้ได้ นั่งฟังเพลงไปเพลินๆ (โอ้ เสกสรร+ชัด)
Banana Leaf
(ชั้นใต้ดิน Silom Complex) อร่อยกะอาหารไทยๆ "แกงส้มปลาช่อนแป๊ะซะ", "ทอดมันกุ้ง", "พล่ากุ้ง", "เนื้อปูผัดผงกระหรี่", ฯลฯ
Platfrom 1
(เลียบทางรถไฟ สถานีสามเสน) ร้านอาหารนานาชาติ..เล็กๆ..เรียบ..หรู เป็นบ้านไม้สีขาวอบอุ่น บรรยากาศเงียบๆ ลองชิมแค่ "สปาเกตตี้ผัดปูนิ่ม, เนื้อปูบดห่ออะไรซักอย่าง, เป็ด.."(ชื่อมันเป็นภาษาปะกิด..จำม่ะร่าย)
โบราณเรียกชื่อ
(พหลโยธิน 13) บรรยากาศโอเค รสชาติอาหารธรรมดา เพลงใช้ได้
Goodevening Restaurant
(ถ.นราธิวาส ติดกับ Sortel) ร้านนี้บรรยากาศดี ใกล้ที่ทำงาน อาหารอร่อยใช้ได้ เพลงก็เพราะ(ร้องสด) ถ้าไปต้องสั่ง "กระเบื้อง Good Evening" นะ..
Country Place
(พระราม 5) กิน "เบียร์" สิครับ
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
(ถ.นราธิวาส) ก็ต้อง "เบียร์ - Lager Beer, Dunken Beer, Weizen Beer", "ขาหมู", "กระหล่ำปลีน้ำปลา", "เย็นตาโฟทรงเครื่อง", ฯลฯ
Wasabi
(ชั้น 3 Esplanade) ชาบูน้ำเต้าหู้..สุดยอดไปเลย หอมมั่ก, ฯลฯ ตบท้ายด้วย "ของหวาน 3 อย่าง" จำได้ว่ามีไอติม(ทำจากถั่วเหลืองอีกเหมือนกัน..ห้อม หอม), วุ้นแก้วมังกร, แล้วอะไรอีกอย่างจำไม่ได้และ
Secret Recipe
(La Villa อารีย์ / Paragon) วันนั้นไปกิน "ปลา(อะไรซักอย่าง)ราดซอสร็อบสเตอร์" ไฮโซ๊..ไฮโซจิง เค้าว่าเค้กอร่อย ได้รางวัลมาเยอะ ไม่เคยได้ลองซักที "สปาเกตตี้เนื้อ" ก็ใช้ได้นะ ร้านนี้มีสาขาทั้งในสิงคโปร์ มาเลเซีย และจาการ์ตาเน่อ
Bug&Bee
เมนูเครปสุดยอดด.. ต้องไปลองที่สีลมบ้างและ
Greyhound Cafe'
(ทั่วไป) I tasted "Noodle in Tom Yum Kung" and "Phad Thai with fresh Shrimps". Good..Costly..High
Take a view
(สะพานพระราม 8 ฝั่งธนฯ) อาหารงั้นงั้นไม่ค่อยถูกปาก นักร้องร้องมันทุกแนว บรรยากาศร้านเหมือนจะดี แต่ซวยเอง..ดันไปตอนร้านกะลังปรับปรุง..เลยไม่ได้นั่งชมวิวสะพานพระราม 8
แพกลางกรุง
หรือ "Virgin River" (เกษตร-นวมินทร์) อาหารไม่ค่อยถูกปากอ่ะ แต่มี "อุ๊ หฤทัย" มาร้องวันศุกร์หละ..เจ๋ง!!
Darabar
(เกษตร-นวมินทร์) ร้านนี้อาหารอร่อย อย่างน้อยก็อร่อยทุกอย่างที่สั่งเลย จำได้แต่ "กุ้งกระเบื้อง"(มั้ง) แล้วก็หมูพันบะหมี่(มันชื่อไรไม่รุ้นะ) บรรยากาศดี๊ดี ข้างนอกเป็นเหมือนสระน้ำ แล้วก็มีที่นั่งเหมือนแพ(อธิบายไม่ถูกว่ะ) ร้านนี้ขอแนะนำ!!
Sortel
(ถ.นราธิวาส ติดกับ Goodevening) จำมะร่าย ไปมานานและ จำได้ว่ากินคอกเทลด้วยแหละ ตอนนั้นเพลงมันโคตรดัง(หนวกหู) แต่วันนั้นไปกิน Goodevening แล้วเดินผ่าน คนเยอะโคตร นักร้องเป็นผู้หญิงด้วย(วันศุกร์) เสียงใช้ได้เลย ต้องไปลอง..ต้องไปลอง
บ้านพระอาทิตย์
(ถ.พระอาทิตย์) "Espresso" เข้มสุดสุด กินแก้วเดียวตาแข็งไปทั้งคืน..ยันเช้า แนะนำข้าวผัดปลาสลิด..อร่อยได้ใจ บรรยากาศร้าน..ดีม๊ากก เหมาะสำหรับไปนั่งอ่านหนังสือ..
บะหมี่ฮ่องกง
หรือ "Hong Kong Noodle" (ตลาดเล่งบ๊วยเอี๊ยะ เยาวราช/สยาม) เกี๊ยวกุ้งตัวโต เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ซู้ดดยอดด!!"
the terrace
(Central Lardpao) กินได้ กินได้ กุ้งตัวใหญ่ เป็ดอร่อย ตบท้ายด้วยกล้วยไข่เชื่อม "ไป central ไม่รู้จะกินอะไร ให้คิดถึง the terrace"
สีฟ้า
(ทั่วไป) ไปทุกครั้งต้องสั่ง "แกงเผ็ดเป็ดย่าง" หละ
ผัดไทยอารีย์
(จากซอยอารีย์ย้ายไปพหลโยธิน 8/เอราวัณ) ตอนนี้กินแต่ "เส้นมะละกอ"(ผัดไทยมะละกอ) แต่อยากกิน "ข้าว"(ผัดไทยข้าว)แล้วง่ะ..ไปทีไรสั่งแต่มะละกอ
เจียงฮาย
(ต้นซอยลาดพร้าว) ต้องกิน "ข้าวซอยไก่(original)" เพราะที่นี่เค้ามีเส้นหลายอย่าง อูด้ง, ราเมนก็มีนะ ฯลฯ แต่ต้องใส่น้ำตาลหน่อย รู้สึกคนทำจะชอบกินเค็ม ไปกินกี่ครั้งก็จะแก่เค็ม น้ำเงี้ยวก็มี.. เป็นร้านของมือกีตาร์วง Big Ass หล่ะ..เห็นพี่แกขยันขันแข็งช่วยเมียซะจิ้ง..
KURODA
(ตรงข้าม TOPS RCA) ร้านอาหารญี่ปุ่น คุณภาพดี รสชาติพอใช้(สำหรับตัวเองนะ)กินแก้ขัดได้ ราคาย่อมเยาว์ อยากกินอาหารญี่ปุ่นนึกถึงร้านนี้ก็ไม่ผิดหวัง แต่อาหารรสชาติจะออกแนวเค็มไปนิดส์ ร้านนี้เมนูจะเน้นไก่บ้าน เพราะเค้ามีฟาร์มเป็นของตัวเองหละ
เดอะครก
(Siam Square Soi.2 ติดกับ "ไอดินกลิ่นครก") จำเมนูเด็ดๆ มะร่าย สลับกันกินกะ "ไอดินกลิ่นครก" เลยสับสน
อาจิเซน ราเมน
(ท่าพระจันทร์) อร้อย..อร่อย บางอย่างก็อร่อยกว่าโออิชิอีกนะ ดูเป็นญี่ปุ่นมากกว่า มีสาขามากมายในแถบเอเชีย ของเค้าดีจิง.. ถ้าไปตอนเย็นมากๆ เมนูอาจมีให้เลือกกินน้อยลง..ฉะนั้นต้องรีบไป
ก๋วยจั๊บน้ำใส..มะรุ้ชื่อ
(โรงหนังเก่า เยาวราช) "ก๋วยจั๊บ" ชามโต..อร้อย..อร่อย หมูกรอบก็อร่อย น้ำซุปเผ็ดร้อนหอมกลิ่นพริกไทยก็อร่อย อิ่มได้ที่จิงจิง!!
ตลาดนางเลิ้ง
(นครสวรรค์ 6/8 แล้วแต่จะเข้า) อร่อยทั้งตลาด ยกตัวอย่างก็ได้ มี "บะหมี่เป็ด"(เป็ดเยอะมั่ก บะหมี่อร่อยเหนียว), "สาคู"(มี 2-3 ร้านติดกัน จำชื่อร้านที่ดังๆไม่ได้ ที่เด็ดๆคือ สาคูไส้ปลา), "ข้าวแช่"(กินแล้วชื่นใจ กะปิทอด..อร่อย ไอ้หวานๆเหนียวๆ..หัวไชโป๊ป่าวไม่รู้..อร่อยมาก), และอีกมากมาย..
ซีฟู้ดเยาวราช..ม่ะรุ้ชื่อ
(เยาวราช) มีให้เลือกทั้ง indoor และ outdoor กินได้อย่างไม่ต้องอายใคร เพราะโต๊ะอื่นมูมมามกันเต็มที่เหมือนกัน(มีแต่ต่างชาติเอเชีย)
โชคดีติ่มซำ
(ทั่วไป) กินแก้หิว เมนูเด่นคงเป็น "บักกุดเต๋" ก็พอกินได้นะ
ติ่มซำเยาวราช..จำชื่อมะร่าย
(เยาวราช ป้ายรถเมล์แรก) "โกยซีหมี่" เส้นอร่อย..หุหุ
ร้านโจ๊ก..ไม่มีชื่อ
(แยกแปลงนาม ถ.เจริญกรุง) "โจ๊ก - ใส่ทุกอย่าง ใส่ไข่ ไม่ผัก ไม่ขิง" เด็ด!!
โรตีมะตะบะ
(ถ.พระอาทิตย์) ต้อง "มะตะบะไก่", "สตูแพะ", "มัสมั่น", ฯลฯ
ร้านบะหมี่..ไม่มีชื่อ
(ข้าง swensen's ท่าพระจันทร์) "บะหมี่แห้ง" อร่อยที่สุดในโลก มีเกี๊ยวให้กินฟรีด้วย แต่คนเยอะมั่กๆ ไปครั้งล่าสุดก็ไม่ได้กิน ไม่มีที่นั่ง อยากกินน..อยากกินน
ใบไม้ร่าเริง
<i> (เกษตร) ร้านคาราโอเกะ อาหารอร่อย..ใช้ได้เลยทีเดียว
To-Sit
(Siam Square Soi.3) มาร้านนี้ก็ต้องกิน "ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว" อีกเหมือนกัน(แต่ที่ "กิน ดื่ม" อร่อยกว่า) จำได้ว่าวันพฤหัสจะมี "อิน บูโดกัน" วันศุกร์มีผู้หญิงร้องเพลงกับเปียร์โน
กิน ดื่ม
(ถ.พระอาทิตย์) มาร้านนี้ต้องกิน "ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว" แซ่บบบ.. มานั่งคุย นั่งฟังเพลงแนว bekery
มิตรโกหย่วน
(ตรงข้าม กทม.) "กุ้งกระเทียม", "หมี่กรอบ", "สตูลิ้นวัว"
Friends' blogs
[Add zazi_i's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.