|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
The Smartest Guys in the Room: The Amazing Rise and Scandalous Fall of Enron ความเก่ง ความยิ่งใหญ่ ฯ
The Smartest Guys in the Room: The Amazing Rise and Scandalous Fall of Enron ความเก่ง ความยิ่งใหญ่ ความอหังการ์ และจุดจบที่น่าเสียดาย
By Bethany McLean and Peter Elkind
เนื่องจากขี้เกียจถ่ายภาพค่ะ เครดิตรูป Amazon.com นะคะ
เมื่อหลายปีก่อน ถ้ามีใครได้ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด หรือได้มีโอกาสอ่านหนังสือนิตยสารประเภท Business Week และ Wall Street Journal บ่อยๆ ก็คงหลีกไม่พ้นที่จะต้องได้ยินเรื่องของ Corporate Governance และ Accounting Fraud ที่ระยะหลังๆกลายมาเป็น Hot Issue ที่ใครๆก็พากันระวังเป็นการใหญ่
ในยุคที่ใครๆต่างก็แสวงหาคนเก่ง ชื่อหลายๆชื่อ เช่น Jack Welsh (GE), Loius V. Gerstner (IBM) ต่างก็พากันกลายมาเป็น Celebrity CEO ที่นอกจากจะต้องรับมือกับความคาดหวังสูงๆจากผู้ถือหุ้น, ลูกจ้างพนักงาน, และนักวิเคราะห์ และรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่คึกคะนองและหวือหวาที่สุดช่วงหนึ่งแล้ว ยังมีบทบาทที่กลายมาเป็น ดาว ในหมู่แวดวงสังคมซึ่งผิดกับนักธุรกิจและผู้บริหารสมัยก่อนหน้าด้วย อย่างไรก็ดี ในยุคที่ใครๆก็เชื่อว่าคนเก่งทำอะไรก็ย่อมจะสำเร็จ สิ่งตอบแทนที่จะมัดใจมัดกาย ยอดฝีมือ เหล่านี้ ก็คือ ค่าตอบแทนที่สูงจนล้นฟ้า (ในบางกรณีนั่นเอง) ซึ่งหลายๆบริษัทก็พร้อมที่จะสู้ เพราะเชื่อว่า สิ่งที่เสียไปย่อมจะคุ้มค่ากับการที่จะได้คนเหล่านี้มา และเพื่อให้คนเหล่านี้รู้สึกผูกพันกับบริษัทให้มากยิ่งขึ้น บ่อยครั้งที่ผลตอบแทนก็คือ หุ้นส่วนหนึ่งของบริษัทนั่นเอง
มหากาพย์ Enron เรื่องนี้แสดงภาพที่ดีของยุค ข้าเก่ง ข้าแน่ ข้ามาแล้ว ได้อย่างดีที่สุดเล่มหนึ่งเลยเชียวค่ะ แสดงภาพการเติบโตของบริษัทๆหนึ่งจากบริษัทเล็กๆ กระโดดมาเป็นยักษ์ใหญ่ของประเทศ (และพยายามจะเป็นของโลกซะด้วย) แต่ท้ายที่สุด ความเห็นแก่ตัว ความโลภ และ corruption ก็ทำให้เรื่องนี้มีจุดหักเหที่สนุกยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะ และพาให้หลายๆองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องประสบปัญหา (เช่น Arther Andersen) จนบางรายถึงขั้นล่มสลายตามไปด้วยอย่างน่าเสียดาย
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ทั้งสองท่านเป็นนักข่าวธุรกิจที่เขียนเรื่องนี้ออกมาในแนวกึ่ง Fiction โดยอ้างอิงจากข้อมูลและพยานวัตถุที่มีอยู่จริง บทสัมภาษณ์ และคำบอกเล่าของแหล่งข่าวต่างๆที่เกี่ยวข้อง เรียงร้อยมาเป็นหนังสือเล่มหนาหนักที่ต้องบอกว่าอ่านแล้วไม่น่าเบื่อแม้แต่น้อย
แนะนำมากๆค่ะ สำหรับคนชอบอ่านหนังสือแนวธุรกิจกึ่ง Non-Fiction เรื่องนี้
ให้ไปเลย 5 ดาว
ราคาไทย 2,2xx.- หาซื้อได้ที่ Kinokuniya & Asia Book
Update ค่ะ วันก่อนแวะไป มีปกอ่อนออกมาแล้วนะคะ ราคาจำไม่ได้ น่าจะซัก 6xx.- มีคำบรรยายว่ามีข้อมูลและหลักฐานเพิ่มด้วยค่ะ เราพลิกอ่านดู ยังไม่ต่างมากกับเล่มที่เรามี อาจเพราะเหตุผลทางรูปคดีที่กำลังดำเนินอยู่ในศาลที่สหรัฐ
ว่าไปแล้วก็อยากให้คดีจบเร็วๆ จะได้รออ่านบทสรุปไปเลยทีเดียว
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2549 |
|
2 comments |
Last Update : 5 ธันวาคม 2549 17:54:37 น. |
Counter : 4711 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: BoOKend (BoOKend ) 27 พฤศจิกายน 2549 18:57:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: vink (vink ) 5 ธันวาคม 2549 17:50:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
คนอารมณ์แปลกขึ้นอยู่กับฝนกับฟ้า บทจะ'tist ก็ไม่ใช่ บทจะบ้าก็ไม่เชิง พูดง่ายๆก็แปรปรวนนั่นแหละ ชอบอ่านหนังสือที่สุด อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาทุกประเภท(ยกเว้นนิยายเพราะจะอินและไม่มีความสุข) รักหมา(เฉพาะลูกชายตัวเอง) ไม่ชอบเด็ก(เพราะไม่ใช่นางงาม) และบ้าการช้อปปิ้งกับเดินป่าเป็นชีวิตจิตใจ(เข้ากันยังไงเนี่ย) ทุกวันนี้อยู่แผนกนางสนองพระโอษฐ์พระบิดามารดาเพื่อเรียนรู้การขยับขยายตำแหน่งต่อไปในภายภาคหน้า
|
|
|
|
|
|
|
แต่เห็นราคาแล้ว...ปาดเหงี่อ