เดินหน้าอวดฝีมือด้วยความภาคภูมิใจ กับผลงานบายศรีสู่ขวัญที่นำมาซึ่งรายได้ แถมยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของศิลปะประจำชาติ โดยเด็กยุคใหม่หัวใจไทย

ที่ผ่านมานักเรียนจากโรงเรียนเหมืองแบ่งวิทยาคม จ.เลย ริเริ่มโครงการรับทำบายศรี สู่ขวัญและจัดแต่งดอกไม้ โดยมี อาจารย์ณัฐวดี นนทโครต เป็นที่ปรึกษา ก่อนร่วมกันก่อตั้งบริษัท รับทำบายศรีสู่ขวัญและจัดตกแต่งดอกไม้ จำกัด ขึ้น

ล่าสุดคว้ารางวัลชมเชย จากโครงการกรุงไทย ยุววาณิช ประจำปี 2554 ที่จัดขึ้นเพื่อเปิดเวทีให้เยาวชนประกอบธุรกิจจริงและเข้าใจหลักการดำเนินธุรกิจ สร้างฝัน พัฒนาตนเอง ที่อาคารสำนักงานใหญ่ นานาเหนือ

นายลิขิต ต่อฤทธิ์ หรือ นิว อายุ 15 ปี เล่าว่าชุมชนในละแวกข้างโรงเรียนของเราตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง เมื่อมีการจัดงานพิธีสำคัญๆ ในชีวิต เช่น งานแต่งงาน งานบวช รวมถึงงานอวมงคล ต้องจ้างช่างในเมือง ทำให้สิ้นเปลืองเวลาและงบประมาณการเดินทาง

จึงจัดตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาบริการคนในชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวก โดยรับทำบายศรีสู่ขวัญ พร้อมจัดตกแต่งสถานที่ รับทำของชำร่วยเนื่องในโอกาสต่างๆ เพื่อบริการลูกค้า ครู นักเรียน และชาวบ้านในชุมชน ต.หนองหญ้าปล้อง และเขตพื้นที่ใกล้เคียงที่เข้าไปใช้บริการในเมืองไม่สะดวก

เริ่มแรกสร้างการรับรู้ด้วยการเข้าไปช่วยเหลืองานต่างๆ ในชุมชน เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพของทีมและเป็นการฝึกปรือสิ่งที่ร่ำเรียนมา ได้รับความสนใจและกลายเป็นที่รู้จัก มีคนมาจ้างทั้งงานอุปสมบท งานแต่งงาน งานศพ ฯลฯ

สมาชิกทั้งหมด 7 คน จะแยกกันทำในส่วนต่างๆ เช่น บายศรีหรือห่อฐาน อุบะ กรวย หรือตัวประกอบอื่นๆ ใครถนัดอะไรก็ช่วยกันทำ แล้วค่อยนำมาประ กอบกันทีหลัง ไม่จำ เป็นต้องเก่งเพราะสามารถฝึกฝนเรียนรู้พัฒนาจนชำนาญได้

นิวบอกอีกว่า ความท้าทายของงานใบตองและการทำบายศรีดอกไม้สด เป็นงานที่ใช้ความประณีต อดทนสูง และต้องมีใจรัก สิ่งเหล่านี้เกี่ยวพันกับชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย

"ผมอยากให้อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒธรรมไทยที่มีมาแต่โบราณให้คงอยู่ ความโดดเด่นของบริษัทคือความประณีตในการทำงาน การไล่โทนสีของใบตอง การเลือกวัสดุแบบผสมผสาน ดอกไม้ที่มีในท้องถิ่น เพื่อให้ชิ้นงานนั้นออกมาสมบูรณ์สวยงาม"

ด้าน น.ส.ธัญญลักษณ์ โอ่ราชา หรือ ฟ่าง อายุ 16 ปี กล่าวเสริมว่า วัสดุในท้องถิ่นมีใบตองตานี ซึ่งมีสีเขียวเข้มและใบใหญ่ ส่วนดอกไม้จะใช้ดอกพุด ดอกกุหลาบ และดอกรัก รวมถึงดอกไม้หลากสีสันเข้ามาเสริมซึ่งหาได้จากท้องถิ่น จะเลือกซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ด้วยเราสนองความต้องการของลูกค้า ใกล้บ้านแถมราคาถูก เน้นการบริการสร้างความประทับใจให้ลูกค้ามากกว่าราคา โดยราคาบายศรีเริ่มต้นที่ 1 พันบาท รวมเครื่องสังเวย และเนื่องจากบริษัทจัดทำของที่ชำร่วยซึ่งเป็นงานแฮนด์เมด อนาคตข้างหน้าอาจทำตลาดโดยพุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติด้วย

ฟ่างบอกว่า การทำ งานสอนให้เราอดทน มีวินัยต่อตนเองและส่วนรวม ทั้งยังช่วยเหลือชุมชน โดยรายได้ส่วนหนึ่งเรานำไปซื้อของรางวัลเด็กและมอบเป็นทุนการศึกษา นอกจากจะได้เรียนรู้ธุรกิจ การเงิน การบัญชี การตลาด

ยังต่อยอดพัฒนานำไปประกอบอาชีพได้ ช่วยชาวบ้านประหยัด รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ฝึกความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดการสร้างชิ้นงาน

สนใจติดต่อหรือสอบถามโทร.08-9576-0406

หน้า 24

ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์ 
คอลัมน์ ไอคิวทะลุฟ้า

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ