|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
บ้านใหม่ เมืองใหม่ เพื่อนใหม่ แต่สถานะยังไม่แน่นอน
คันโตนที่อยู่มีกฏหมายว่า ทุกเมืองจะต้องรับผู้ลี้ภัยไปอยู่ในเมือง เขาจะมีสูตรของเขาว่า เมืองไหนรับไปเท่าไร เมืองที่จะพูดถึงนี้คือเมืองชื่อ Berikon ทุกครั้งที่มีงานระดับเมือง เช่นฉลองวันชาติ การละเล่น กีฬาต่างๆ เมือง Berikon จะเชิญผู้ลี้ภัยมาร่วมงานเสมอ หากมีการทำอาหาร ก็ไม่ให้ผู้ลี้ภัยอยู่แต่ในครัว แต่พาออกมาเพื่อให้คนเห็น ให้รู้ว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของคนสวิสในเมืองนี้ และให้ผู้ลี้ภัยเรียนรู้วิถีชีวิตขนบธรรมเนียมของสวิตเซอแลนด์ คุยกับคนที่เป็นผู้ดูแลผู้ลี้ภัย แกบอกว่าพวกแกพยายามมากที่จะแสดงให้เห็นว่าเมืองนี้ ยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัย เพราะเมืองข้างๆ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียโด่งดังมาก รู้กันทั้งประเทศ ว่าเมืองนั้นไม่ต้อนรับผู้ลี้ภัย
วันนี้ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงที่เมืองที่มุสตาฟาอยู่ งานนี้จัดขึ้นโดยหน่วยงานที่ดูแลผู้ลี้ภัยประจำเมืองกับโบสถ์คาธอลิค ผู้ลี้ภัยทุกคนทำอาหารว่างอัฟกันให้คนมาร่วมงานได้ชิม และมีผู้ลี้ภัยอีกสามคนที่อยู่มานานกว่า 7 ปีแล้วจากโซมาเลีย ทำอาหารของชาติของเธอมาให้ชิมด้วย
ดีใจค่ะ ที่มุสตาฟาเชิญพวกเราไป เป็นงานเล็กๆ แต่ก็ได้เจอมุสตาฟา นาสเซีย และรามาน สามคนนี้ย้ายมาอยู่เมืองนี้ได้สองสามเดือนแล้ว มีอีกสองคนที่จำหน้าได้ เพราะเคยเห็นมาที่ Cafe Contact แต่อีกสามคนมาจากที่อื่น ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน จากจำนวนผู้ลี้ภัย 8 คนนี้ มีอยู่คนเดียวที่เป็นคนอิหร่าน มาจากเตหะราน นอกนั้นก็มาจากเมืองต่างๆ ในอัฟกานิสถาน
พออาหารเกือบหมด มุสตาฟา นาสเซีย และรามานก็พาไปดูบ้านของเขา บ้านที่เคยเล่าให้ฟัง ว่าเคยเป็นโรงทำเนยมาก่อน แล้วเจ้าของปรับปรุงและให้เมืองเช่าโรงทำเนย ข้างในสถานที่กว้างขวาง มีห้องครัว ห้องน้ำ ห้องทำงาน ห้องอาหารและห้องนั่งเล่น เครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม สภาพภายในเป็นห้องใหญ่กว้างขวาง ทุกคนนอนในห้องเดียวกันหมด เตียง 11 เตียงเรียงกัน เมืองนี้รับผู้ลี้ภัยได้ 24 คน มีตึกสำหรับผู้ลี้ภัยผู้หญิงอีกแห่งหนึ่ง ชั้นบนเจ้าของปรับเป็นห้องเก็บของส่วนตัว
วันนี้เลยได้มีโอกาสสัมภาษณ์มุสตาฟา เรื่องที่ไปเรียนภาษาที่เมืองและการสัมภาษณ์ มุสตาฟาบอกว่า เริ่มสัมภาษณ์ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง กว่าจะเสร็จก็ห้าโมงเย็นกว่าๆ คนที่สัมภาษณ์มากัน 6 คน เป็นตัวแทนจาก UN, จากองค์การเพื่อสิทธิผู้ลี้ภัย ล่าม คนพิมพ์การสัมภาษณ์ และอีก 2 คนน่าจะเป็นตัวแทนจากรัฐบาลสวิตเซอแลนด์
มุสตาฟาบอกว่าคำถามเต็มไปด้วย why, why, why เริ่มตั้งแต่อยู่เมืองไหน มีหลักฐานยืนยันไหมว่าเคยอยู่เมืองนั้นจริงๆ ชีวิตความเป็นอยู่ที่เมือง ครอบครัว พื้นฐานครอบครัว ชีวิตส่วนตัว เรียนอะไร ทำอาชีพอะไร ทำไมถึงมา มายังไง ถามละเอียดทุกอย่าง
หลังจากสัมภาษณ์ก็มีจดหมายมาถึง เป็นจดหมายจากองค์กรสิทธิเพื่อผู้ลี้ภัย บอกว่าถ้ามีปัญหาอะไร ให้รีบบอก จะช่วยเหลือทุกอย่าง ซึ่งมุสตาฟาบอกว่า ดีใจมากที่ได้รับจดหมายฉบับนี้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะได้รับการอนุญาตให้อยู่ในสวิตเซอแลนด์ เพราะว่ายังต้องมีสัมภาษณ์อีกรอบ หลังจากนั้นจึงจะรู้ว่า จะได้อยู่หรือถูกส่งกลับ
แต่อย่างน้อย ก็ดีใจว่าได้รับการสัมภาษณ์และมีจดหมายรับรองจากองค์กรสิทธิเพื่อผู้ลี้ภัย เพราะหลายคนที่รู้จักยังไม่ได้ย้ายไปไหน ไม่ได้ไปเรียนภาษาเพิ่ม หรือมีแนวโน้มจะได้รับการสัมภาษณ์เลย
ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ามุสตาฟาค่อนข้าง relax ขึ้นมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดีใจที่เจอครอบครัวเราและได้รับการสัมภาษณ์แล้ว วันนี้แกพูดเยอะมาก ที่ผ่านมาแกจะไม่ค่อยพูด ถามคำแกจะคิดนาน กว่าจะตอบ แต่คิดบวกว่าแกดีใจที่เจอพวกเรา เพราะนาสเซีย กับรามานก็เดินตามพวกเรามาคุยตลอด เป็นความผูกพันที่มนุษย์ตัวเล็กๆ จะมีให้กันในโลกอันโหดร้ายใบนี้
รูปอาหารที่มุสตาฟากับเพื่อนๆ ช่วยกันทำเลี้ยงคนในงาน ชื่อ Pekora เป็นมันฝรั่งชุบแป้งทอด อีกอย่างคือกระหรี่พัพใส่เนื้อสับ Samosa กินกับโยเกิร์ต (ในโยเกิร์ตใส่แตงกวาหั่น)
คนส่วนหนึ่งที่มาในงาน ผู้ลี้ภัยส่วนหนึ่งที่มาในงาน ผู้จัดงานมอบตระกร้าผลไม้ให้ผู้ลี้ภัยหญิง-ชาย กลุ่มละตะกร้า เพื่อแสดงความขอบคุณที่ทำอาหารเลี้ยงและแสดงถึงการต้อนรับเข้าสู่ชุมชน
Create Date : 26 กันยายน 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 26 กันยายน 2559 2:12:32 น. |
Counter : 1419 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|