ภาษาอังกฤษวิตถาร (1)
ภาษาอังกฤษวิตถาร (1)
ในคอลัมน์นี้เรามักจะดูศัพท์สำนวนที่มีความหมายแปลก ๆ หรือตีความได้หลายอย่าง ซึ่งหลายครั้งก็เดาจากบริบทไม่ออก นั่นเป็นเพราะภาษาอังกฤษมี quirks (เควิ่ร์คส) ของมันเยอะ คือ ลักษณะแปลก ๆ หรือ วิตถารเฉพาะตัวที่ไม่มีเหตุผล ดูอย่างคำว่า degree นี่สิครับ โดยมากเราจะเห็นในความหมาย ปริญญา เช่น He has five university degrees but can't hold down a job. (ฮี แห็ส ฟายฟฺ ยูหนะเฟ้อร์สะดี่ ดะกรีส บัท แคนทฺ โฮลดาวหนะ จ้อบ) = เขามีปริญญามหาวิทยาลัยห้าใบ แต่ไม่สามารถทำงานที่ไหนได้ตลอดรอดฝั่ง หรือไม่เราก็จะเจอในความหมาย องศา เช่น The temperature is 90 degrees Fahrenheit. (เธอะ เท้มผระเฉ่อหริส นายนฺดี ดะกรีส แฟ้หรั่นไห่ท) = อุณหภูมิอยู่ที่ 90 องศาฟาเรนไฮต์ หรือจะแปลว่า ระดับมากน้อย ก็ได้ เช่น He's guilty, too. It's just a matter of degree. (ฮีส กิลที ทู่ว อิทส จัสตะแม็ทเดอหรัฟ ดะกรี้) = เขาก็มีความผิดเหมือนกัน จะมากกว่าหรือน้อยกว่าแค่นั้นเอง มันเริ่มน่าสนใจเมื่อ degree ในความหมายนี้นำหน้าด้วยคำที่บ่งบอกลำดับ กลายเป็น first degree, second degree, third degree ฯลฯ ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะยากอะไร น่าจะเรียงตามลำดับน้อยไปหามากหรือมากไปหาน้อย แต่ที่แปลกคือสำนวนเดียวกันสามารถมีความหมายตรงข้ามกันได้ เช่น murder of the first degree (เม้อร์เด่อหรัฟเธอะ เฟิร์สทฺ ดะกรี้) หรือ first-degree murder (เฟิร์สทฺ ดะกรี เม้อร์เด่อร์) หมายถึงฆาตกรรมที่ร้ายแรงที่สุด เช่นฆาตกรรมที่ไตร่ตรองล่วงหน้า หรืออาจรวมถึงเงื่อนไขพิเศษอื่น ๆ ด้วยก็ได้ แล้วแต่กฎหมายแต่ละแห่ง ถ้าตัวเลขสูงขึ้นเป็น second-degree หรือ third-degree murder ก็ถือว่าเป็นฆาตกรรมที่ร้ายแรงน้อยกว่า โทษก็ลดหย่อนลงตามลำดับ แต่ถ้าเราพูดถึงแผลไหม้วิธีเรียงลำดับความหมายจะกลับตาลปัตรกันเลยครับ first-degree burn กลับเป็นแผลไหม้ที่ร้ายแรงน้อยที่สุด เช่นที่เราเห็นฝรั่งอาบแดดกันจนเป็น sunburn (ซั้นเบิ่ร์น) = แผลไหม้จากแสงอาทิตย์ ตัวแดงเหมือนกุ้งก้ามกรามที่โดนต้มสุกนั่นแหละครับ ถ้าตัวเลขสูงขึ้นก็บ่งถึงแผลไหม้ที่ยิ่งร้ายแรงขึ้นตามลำดับ จนถึง sixth-degree burn ซึ่งหมายถึงสภาพที่คนไข้กล้ามเนื้อถูกไหม้จนเกือบหมด ซึ่งไม่ค่อยมีรายไหนรอด วงดนตรี Alabama (โปรดอย่าสับสนกับ Obama นะครับ) เคยมีเพลงดังชื่อ Love in the First Degree ลองทายสิครับว่าเขาอุปมาความรักเป็นฆาตกรรมหรือแผลไหม้. ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก : เดลินิวส์
Create Date : 13 มีนาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 13 มีนาคม 2551 10:30:51 น. |
Counter : 1011 Pageviews. |
|
|
|