JOB
หางาน
สมัครงาน
งาน
งาน งาน งาน งาน ....
Note Book
Health
Music
Daily Update
English DD
Money Talk
JOB FAIR
Travel
SME ตีแตก
เพลงประกอบภาพยนตร์/ละคร
งานราชการ
<<
มีนาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 มีนาคม 2551
เลขฐานสอง ความลับของระบบดิจิตอล
5 กลยุทธ์ สุดยอดนักขายแห่งโลก
สตาร์ทและอุ่นเครื่องยนต์ตอนเช้า ดีจริงหรือ??
ประวัติความเป็นมา จังหวัดนครศรีธรรมราช
หมอลักษณ์ฟันธง ดวงปี 2555 (ศึก 12 ราศี ราศีเมษ พฤษภ เมถุน กรกฎ )
เอาชนะความเครียด...ไม่ยากอย่างที่คิด
เนื้อเพลง Otis
การเปลี่ยนมุมมองให้สร้างสรรค์เพื่อชีวิตที่เปลี่ยนไป
วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง
ขำขำ : ตานี่ดูแก่จัง.. ตัวฉันเองยังดูหนุ่มกว่ามันตั้งเยอะเลย
เทคนิคขับรถขึ้น-ลงภูเขา สำหรับเกียร์ออโต้
เทคนิคการขับขี่รถยนต์ให้ได้เปรียบเชิงกล
4 คำทำนาย จากไข่ 4 ฟอง
เซอร์จอห์น เบาว์ริง
5 พฤศจิกายน HBD น้องรถเมล์ คะนึงนิจ
เข้าใจเขา เข้าใจเรา เข้าใจกัน
นักวิชาการ ระบุซิลเวอร์นาโน อาจเป็นพิษต่อร่างกาย
เรื่องย่อละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
เรื่องย่อละคร กุหลาบไร้หนาม
9 เคล็ดลับ จับใจคน
เรื่องย่อละคร สวยเริ่ดเชิดโสด
เรื่องย่อ วิวาห์ว้าวุ่น
ขำขำ : หลวงตากับเจ้าแกละ
พระคุณแม่ทดแทนไม่รู้หมด
กำลังใจดีๆ ให้ตัวเอง
เทคนิคมองโลกในแง่ดี
คนประสบความสำเร็จ
วันแม่...ความสุขแบบแม่น้องเดียว
เพราะชีวิตคนเรามีแค่ 21,900 วันเท่านั้น
โอวาทของ Steve Jobs ผู้สร้าง Macintosh : Stay Hnugry , Stay Foolish
วันเกิดบอกความเจ้าชู้
20 วิธีประหยัดเงินแบบง่ายๆ
เทคนิคดูแลเสื้อผ้าหน้าฝน
10 วิธีทำให้คนอื่นชอบคุณ
เส้นขนาน อ่านนะ น่ารักดี
ถ้าคุณตอบถูก10ข้อ ..คุณเป็นอัจฉริยะ
แบบทดสอบฆาตกร
พร 4 ข้อ
การล้างผักสดให้ปลอดภัย
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี
กฎเหล็ก 5 ข้อ สานสัมพันธ์รักให้ยืนยาว
ชวนดูหนัง Before Valentine
13 วิธี ในการเพิ่มความสุขให้กับชีวิต
เมื่อบ้านมีระเบียบ ฮวงจุ้ยก็ดีได้
ความพยายามกับความสำเร็จ
วันสารทจีน
***เลือกคู่ครอง...ก่อนครองคู่***
นิทานชาวบ้าน - ลูกของแม่ยังไม่โต
"ของขวัญ....ล้ำค่า"
กระถางต้นไม้จากขุยมะพร้าว
มองแต่แง่ดีเถิด - คำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ
10 บัญญัติ ประหยัดน้ำมัน
ทำบุญอย่างมีความหมาย
ความพอดีของชีวิต...
ความแตกต่างที่หลายคนมองผ่าน...
วิธีป้องกันไมเกรนกำเริบหน้าร้อน @ @
อัญมณีของสาว 12 ราศี
"สงกรานต์นี้" ไปเที่ยวที่ไหนดี
หยิบสวยจากตู้เย็น ~ สวยง่าย ๆ ในวันหยุดสบาย ๆ
ความรัก กับ นาฬิกา
= จาก Web 2.0 สู่ Web 3.0 ความเหมือนที่แตกต่าง =
ฉันยุ่งจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัวหรือแม้แต่กับตัวเอง !!
"วันแรกของวันที่เหลือ"
ภาษาอังกฤษวิตถาร (1)
เลขฐานสอง ความลับของระบบดิจิตอล
" ตัวเราเปลี่ยนพร้อมสมองเรา ทุกๆ วัน " คุณวนิษา เรซ
~ สิ่งธรรมดาคือสิ่งพิเศษ - วนิษา เรซ ~
^ ^ สูดกลิ่นกุหลาบยามหลับช่วยความจำดีขึ้น ^ ^
สหราชอาณาจักรกับอังกฤษ ต่างกันอย่างไร
การประกอบพิธีเวียนเทียน ในวันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา
TOPHIT _ ของขวัญ วันวาเลนไทน์
....วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)....How to?
วันวาเลนไทน์
เลขฐานสอง ความลับของระบบดิจิตอล
ดิจิตอล หรือ ระบบดิจิตอล กลายเป็นคำคุ้นหูของคนยุคนี้เสียเหลือเกิน ในทุกขณะที่โลกกำลังหมุนไป ระบบดิจิตอลก็ได้แทรกซึมและเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีมากมายในปัจจุบันต่างก็ได้พัฒนาและนำระบบดิจิตอลมาใช้ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ เครื่องคิดเลข กล้องถ่ายรูป โทรทัศน์ โทรศัพท์ นาฬิกา ฯลฯ เราจึงเริ่มคุ้นเคยและพูดถึงระบบการทำงานที่ว่านี้กันอยู่เสมอ แต่เคยนึกย้อนกลับไปหรือไม่ ว่าแท้จริงแล้วระบบดิจิตอลนั้นคืออะไร
ก่อนที่จะไปถึงคำตอบ เรามาเริ่มต้นด้วยการรู้จักคำว่า ดิจิต กันก่อนเป็นไง
ดิจิต (digit)
มาจากภาษาลาตินแปลว่า นิ้ว ตั้งแต่ไหนแต่ไรมามนุษย์เราเรียนรู้ที่จะใช้นิ้วมาช่วยในการนับ แต่เนื่องจากเรามีเพียง 10 นิ้ว เราจึงชินกับการนับเลขฐานสิบคือ นับตั้งแต่ 0 ถึง 9 โดยนับจากซ้ายไปขวา และใช้ 10 เป็นฐาน เช่น ตัวเลข 110 ก็คือ 1 หลักร้อย 1 หลักสิบ และ 0 หลักหน่วย
คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นแรกก็ได้นำระบบเลขฐานสิบนี้มาใช้ในการทำงาน ซึ่งต้องใช้ส่วนประกอบจำนวนมากเพื่อแทนตัวเลข 1 ตัว เครื่องคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้นจึงมีขนาดใหญ่และทำงานช้า แต่พอถึงปลายทศวรรษ 1940 ก็ได้มีการนำจำนวนตัวเลขและคำมาเข้ารหัสเป็นเลขฐานสองเก็บไว้ในรูปของประจุไฟฟ้า ให้ช่วงกระแสไฟฟ้าหนึ่งพัลส์ (pulse) หรือเปิดสวิตซ์ แทนเลข 1 และให้ช่วงขาดกระแส หรือปิดสวิตซ์ แทนเลข 0 ระบบนี้ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพราะต้องเลือกระหว่าง ใช่ กับ ไม่ ในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงาน นับแต่นั้น ระบบการทำงานด้วยการนับเลขฐานสอง ที่มีแค่ 0 กับ 1 จึงได้รับการเรียกขานว่า ระบบดิจิตอล ซึ่งหมายถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สัญลักษณ์ตัวเลขในการบันทึกหรือเก็บข้อมูล
ความเป็นดิจิตอลจึงอยู่ที่การกำหนดขึ้นมาของมนุษย์ ว่าให้สองสถานะที่แยกจากกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอยู่ในตำแหน่งปิดหรือเปิด ถูกแทนค่าด้วยสัญลักษณ์ตัวเลข 0 และ 1 และให้เฉพาะสองสถานะนี้เท่านั้นที่มีความหมาย เครื่องคอมพิวเตอร์ดิจิตอลจึงได้รับการออกแบบให้ทำงานโดยรับข้อมูลเข้ามาในรูปแบบของ 0 และ 1 การรวมกันของรหัสเลขฐานสอง 0 และ 1 ในลำดับที่ต่างกัน ได้กลายเป็นข้อมูลข่าวสารที่คอมพิวเตอร์ต้องการ เพื่อประมวลผลตามกฎที่โปรแกรมเมอร์กำหนด แล้วส่งผลออกมาในรูปของจำนวนเลขฐานสิบ ตัวอักษร ภาพสีสันสวยงาม หรือแม้แต่เสียง
คราวนี้เรามาดูกันว่าระบบการทำงานของเลขฐานสองนั้นเป็นอย่างไร ??
ระบบเลขฐานสองจะใช้เลขโดด 2 ตัวคือ 0 และ 1 โดยนับจากขวาไปซ้าย ( แต่เวลาอ่านให้อ่านจากซ้ายไปขวา) มาเป็นรหัสเลขแทนค่าของตัวเลขอ้างอิงเหล่านี้ เช่น . ,64, 32, 16, 8, 4, 2, 1 (นับจากขวาไปซ้าย) ซึ่งตัวเลขแต่ละตัวที่เลื่อนไปทางซ้ายจะมีค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของตัวที่อยู่ขวามือ ดังนั้น ในระบบเลขฐานสอง เมื่อเลข 1 (เปิดสวิตซ์) ถูกแทนค่าในตำแหน่งใดของตัวเลขอ้างอิง ตำแหน่งนั้นก็จะมีค่าเท่ากับตัวเลขนั้น ๆ แต่ถ้าตำแหน่งใดถูกแทนค่าด้วยเลข 0 (ปิดสวิตซ์) จะมีหมายความว่าไม่นับค่า เลข 11 (หนึ่งหนึ่ง) ในระบบเลขฐานสองจึงไม่ใช่สิบเอ็ด แต่เป็นตำแหน่งที่หนึ่งบวกตำแหน่งที่สองของเลขอ้างอิง ซึ่งให้เลข 1 ในตำแหน่งที่หนึ่งแทนค่าหนึ่ง เลข 1 ในตำแหน่งสองแทนค่าสอง เมื่อนำมารวมกันแล้วจึงเท่ากับสาม ส่วนเลข 10 ก็ไม่ใช่สิบ เพราะตำแหน่งแรกเป็นเลข 0 แทนค่าหนึ่ง ทำให้ค่าของ 1 ไม่ถูกนำมานับ จึงมีแต่ค่าสองที่ถูกแทนด้วยเลข 1 เท่านั้นที่นับได้ 10 (หนึ่งศูนย์) จึงรวมกันเป็นสองนั่นเอง
ถึงตรงนี้ ลองหันไปมองรอบตัวเราดูสิ ตัวเลข 0 และ 1 กำลังวนเวียนอยู่เต็มไปหมดใช่ไหม มันเป็นเสมือนตัวเลขพื้นฐานของคนยุคนี้ไปแล้ว ขณะเดียวกันมันยังแสดงให้เราได้เห็นถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จทางเทคโนโลยีของเหล่ามวลมนุษยชาติที่ไร้ขีดจำกัดอีกด้วย
ให้ความรู้โดย อพวช.
Create Date : 12 มีนาคม 2551
Last Update : 12 มีนาคม 2551 11:53:18 น.
6 comments
Counter : 1303 Pageviews.
Share
Tweet
โดย: lukroyu (
รักรออยู่
) วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:13:02:27 น.
ที่กำลังเปิดอ่านอยู่ ก้อ ตัวเลขฐานสอง เหอะเหอะ
คนที่คิดคนแรก เก่งจริงๆ
โดย:
yyswim
วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:14:33:57 น.
เข้ามาทบทวนความรู้เก่าซักหน่อย
ไม่น่าเชื่อนะ 0 กะ 1 นี่ จะพลิกโฉมโลกได้
โดย:
merf1970
วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:15:27:19 น.
ผมนี่ไม่ค่อยจะได้เรื่องเลยครับพวกนี้
โดย:
กระต่ายไม่ขูดมะพร้าว
วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:21:39:51 น.
เด็กๆ สมัยเรียน
" โค ตะ ระจะเกลียดไอ้ศูนย์หนึ่งนี่เสียจริง "
ทุกวันนี่ฉันจะต้องมาสอนออกแบบดิจิจตอล
จริงดังเค้าว่าเนอะ "เกลียดยังไงมักได้แบบนั้น"
แต่มันก็จริงอย่างคุณ merf1970 ว่าเนอะ
ไม่น่าเชื่อว่ามันจะพลิกโฉมโลกได้
โดย:
Pam_Pink
วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:22:42:00 น.
มันเป็นอะไรที่คลาสสิคมาก
โดย:
ใสซื่อดื้อตาใส
วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:11:22:35 น.
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
คนที่คุณไม่รู้ว่าเป็นใคร
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add คนที่คุณไม่รู้ว่าเป็นใคร's blog to your web]
หางาน
งานราชการ
สมัครงาน
ฟังเพลง
เล่นเกมส์
งาน
งานรัฐวิสาหกิจ
Google
ไทยรัฐ
ธนาคารไทยพาณิชย์
Job
กรมการจัดหางาน
งานพิเศษ
จองตั๋วหนัง sf
รับสมัครงาน
ตลาดนัดแรงงาน
ธนาคารกรุงไทย
SET
งาน part time
SETTRADE.COM
CU
สมัครงานราชการ
งานธนาคาร
ตำแหน่งงานว่าง
Pantip
วิชาการ
หางานเชียงใหม่
BOT
กระทรวงแรงงาน
Parttime
งานว่าง
Msn
BBC
ประกาศรับสมัครงาน
ชมรมคนออมเงิน
หุ้น
เปิดสอบ
หางาน อยุธยา
งานต่างประเทศ
หางานโรงแรม
Jobisp
Bloggang.com