|
เด็กๆมักมีความฝัน แต่ในความเป็นจริงกับมีปัจจัยอีกหลายอย่าง ที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกว่าความฝันซักอย่างหนึ่งจะเป็นจริง หนึ่งในนั้นคือการสนับสนุนจากพ่อแม่ เพื่อ สารฝันลูก ให้เป็นจริง แต่การที่เด็กจะสามารถบอกสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่อยากทำได้นั้น อาจไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเข้าใจได้ในวัย 2-3 ขวบ แต่ต้องเป็นคนในครอบครัวที่ต้องคอยสังเกตุสิ่งที่ลูกชอบ กิจกรรมที่ลูกชอบทำ แล้วสนับสนุนลูกให้ได้ทำในกิจกรรมที่ชื่นชอบ เพื่อให้เขาค้นหาตัวเองได้ไวและมุ่งมั่นไปในทิศทางนั้น เพื่อให้เขาถึงเป้าหมายตามที่ต้องการ สารฝันลูก กับอีกหนึ่งหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่1-สังเกตความชอบของลูก จากประสบการณ์ จากสิ่งต่างๆที่ได้พบ เช่น การอ่านหนังสือ ได้ดู ได้เห็น ท่องเที่ยว เล่น หรือฝึกทักษะต่างๆ มากเท่าไร ก็ยิ่งมีการแสดงออกที่ชัดเจน ว่าเขาจะชอบหรือไม่ชอบอะไร ช่วงเวลาทำกิจกรรมเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตุพฤติกรรม พูดคุยและถามลูกไปตรงๆ เลยก็ได้ว่าลูกชอบอะไร อยากให้พ่อแม่สนับสนุน พามาเล่น หรือมาทำกิจกรรมอีกหรือไม่ 2. เปิดโอกาสให้ลูกได้ลอง ในการหาความชอบของใครซักคนเราจำเป็นต้องให้เค้าได้สัมผัส และได้ลองเรียนรู้สิ่งต่างๆที่หลากหลาย แม้กิจกรรมเสริมเหล่านี้ ที่พาลูกๆไปทำจะต้องมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี กีฬา ศิลปะ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกจะไม่ทิ้งไปกลางทางหากไม่ชอบ อาจหาคอร์สสั้นๆ ให้ลูกเรียน หากเรียนจบแล้วลูกชอบ ก็สามารถให้ทดลองต่อไปในขั้นที่สูงขึ้น 3. ให้ลูกมีส่วนตัดสินใจทำในสิ่งที่ชอบ เพาะความชอบของลูก อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่พ่อแมาชอบ การเปิดโอกาสให้เขาได้ร่วมตัดสินใจ และทำให้ลูกรู้สึกดีที่พ่อแม่รับฟัง จะทำให้เขากล้าริเริ่มทำในสิ่งที่ชอบและสนุกกับสิ่งที่เขาได้เลือกทำอย่างเต็มที่ เพราะในการทำกิจกรมมต่างนั้นก็มักจะสิ่งต่างๆให้ตัดสินใจ เช่นระยะเวลาในการเรียน สถานที่เรียน และค่าใช้จ่ายในการเรียนต่างๆ 4. ลูกควรมีความรับผิดชอบในความฝันของตนเอง เพราะความฝันมักเต็มไปด้วยอุปสรรค ยิ่งความฝันใหญ่เท่าไร อุปสรรคก็จะยากตามด้วย เพื่อให้เด้กๆจริงจัง และไม่ทำเป็นเล่น พ่อแม่ควรตกลงกับลูกก่อนว่า ถ้าหากเขาล้มเลิกกลางคัน เขาจะต้องรับผิดชอบบางสิ่งบางอย่างเป็นการลงโทษ เช่น หักค่าขนม 20% หรือช่วยทำงานบ้านเพิ่ม ฯลฯ 5. ให้กำลังใจและชื่นชม กำลังใจและคำชื่นชมเป็นแรงพลักดันที่ดีเช่น รู้ว่าลูกอยากเล่นเปียโน ก็ส่งเสริมให้เขาได้เรียน แต่เมื่อเค้าพบกับปัญหา พ่อแม่ต้องเป็นฝ้ายพลักดัน และให้กำลังใจเพื่อให้เค้าได้ทำอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เด็กๆถอดใจตั้งแต่เริ่มต้น และเมื่อเขาทำได้ดีก็ชื่นชมให้กำลังใจ ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เขาสนุกที่จะทำต่อ 6. ไว้วางใจในในตัวลูก เมื่อลูกได้เริ่มตามหาความฝันแล้ว ความไว้วางใจ เชื่อใจ เชื่อมั่น เป็นสิ่งที่จะทำให้เด็กๆ ได้เข้าใจในความฝันที่ตัวเอง รู้จักความพยายาม สามารถตัดสินใจ ในการลองและหาทางต่างๆเพื่อให้ความฝันเป็นจริง โดยมีพ่อแม่ค่อยช่วยเหลือ และประคับประคองอยู่เบื้องหลัง 7. คาดหวังแต่ไม่กดดัน เด็กทุคนมีความชอบและถวามถนัดที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา ศิลปะฯ แต่ความชอบในวัยนี้ไม่ได้เป็ตัวชี้วัด หรือกำหนดอนาคตของลูกว่าต้องทำอาชีพใอะไร ดังนั้นการคาดหวังและบอกให้ลูกจะเป็นการสร้างแรงกระตุ้นอีกอย่างให้กับเด็ก แต่ในทางกลับกัน ก็ไม่ควรไปกดดันว่าเมื่อเริ่มทำแล้วจะไม่สามารถแก้ไขหรือไม่สามารถเลือกความฝันอื่นๆได้อีกต่อไป จำเป็นต้องทำสิ่งนี้เท่านั้น เพราะบางทีกว่าที่ลูกจะรู้ว่าตัวเองอยากทำอาชีพอะไร ก็อาจเป็นช่วงที่เข้าสู่วัยรุ่นตอนปลายถึงผู้ใหญ่ตอนต้นแล้ว อ่านบทความดีๆจากทาง โรงเรียน ได้ที่ นานาสาระ
| Create Date : 04 พฤศจิกายน 2565 |
|
0 comments |
| Last Update : 4 พฤศจิกายน 2565 16:37:52 น. |
| Counter : 269 Pageviews. |
|
 |
|
