|
กับกิจกรรมที่อาจถูกมองข้าม แต่กลับส่งผลดีต่อลูกน้อยได้อย่างมากมายมหาสาร เพราะเป็นกิจกรรมที่พ่อคุณแม่สามารถสามารถมีส่วนร่วมกับลูกๆได้อย่าง การอ่านนิทานให้ลูกฟัง ซึ่งสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ในครรภ์ การอ่านนิทานให้ลูกฟัง จำเป็นไหมประโยชน์ของการอ่านนิทานให้ลูกฟัง ในการอ่านนิทานแต่ละครั้ง จะเป็นการสร้างสายสัมพันธ์อันใกล้ชิด โดยเฉพาะการโอบกอดจากคุณพ่อคุณแม่ ในขณะที่อ่านไปด้วย ลูกจะรับรู้ได้ถึงความรักความเอาใจใส่ ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อพัฒนาการทางด้านอารมณ์และการเข้าสังคม แม้จะอยู่ในวัยที่เด็กยังไม่สามารถโต้ตอบได้ แต่ถ้อยคำต่างๆ ที่ได้ยิน กลับมีส่วนในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาให้ดียิ่งขึ้นในภายหลัง และทักษะด้านภาษาที่ดีก็เป็นพื้นฐานสำคัญที่ส่งเสริมให้เด็กๆ เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเริ่มอ่านนิทานให้ลูกฟังเมื่อไหร่ ช่วงเวลาช่วงเวลาที่สมองเติบโตและมีพัฒนาที่รวดเร็วที่สุด ตั้งแต่ปฏิสนธิในครรภ์ไปจนถึงอายุ 8 ปี ดังนั้นการ ที่เราจึงเริ่มอ่านนิทานให้ลูกได้ฟัง ตั้งแต่ที่เขายังอยู่ในท้อง ตั้งแต่ที่ถือกำเนิด ลูกน้อยก็ชอบที่จะฟังเสียงของคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องเพลง เสียงพูดคุย หรือเสียงเล่านิทาน ในงานวิจัยระบุไว้ว่า ยิ่งอ่านนิทานให้ลูกได้ฟังเร็วเท่าไร ก็จะเป็นผลดีต่อพัฒนาการของเด็ก ที่จะส่งผลไปจนเมื่อลูกโตขึ้น โดยในเด็กแรกเกิดอาจจะยังไม่เข้าใจความหมาย ในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พูด แต่จังหวะ น้ำเสียง และโทนเสียงที่แตกต่างกันออกไป ก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการทางด้านการฟัง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ควรอ่านนิทานให้ลูกฟังอย่างไร
การอ่านให้ทารกที่ยังอยู่ในครรภ์ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกอ่านที่สนใจได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือคอนเทนต์ตามเว็บไซต์ต่างๆ เพราะลูกน้อยก็มีแนวโน้มที่จะสนุกไปด้วย หากคุณพ่อคุณแม่เพลิดเพลินกับสิ่งที่อ่าน
เมื่อเริ่มโตขึ้น เริ่มมีพัฒนาการด้านการมองเห็น เด็กๆจะสนใจหนังสือภาพ ที่มีสีสันสดใสสวยงามลายเส้นคมชัด ซึ่งบางทีอาจหยิบจับหรือเอาเข้าปากบ้าง หนังสือจึงควรมีความแข็งแรงในระดับหนึ่ง โดยการเลือกซื้อหนังสือนิทานนั้น ควรเลือกเล่มที่มีลูกเล่นสนุกๆ ซ่อนอยู่ เช่น สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างเพื่อดูภาพที่ซ่อนอยู่ในนั้น และหากมีเพลงประกอบด้วยก็จะยิ่งดี เพราะเพลงเป็นสิ่งที่จดจำง่ายและทำให้เด็กๆ สนุกมากขึ้น เคล็ดลับเกี่ยวกับการอ่านนิทานให้ลูกน้อยฟัง ข้อแรกคือ การฟังซ้ำๆ ดังนั้น จึงควรเลือกนิทานที่มีคำซ้ำเยอะๆ หรืออ่านนิทานเรื่องโปรดให้เขาฟังบ่อยๆ โดยเปลี่ยนโทนเสียงไปตามอารมณ์ของเนื้อหา อย่างการดัดเสียงตามคาแรกเตอร์ของตัวละครด้วย เพื่อดึงดูดความสนใจของเด็ก ก็จะช่วยเพิ่มพัฒนาการทางภาษาที่ดีให้เด็กได้
ข้อที่สอง ตั้งคำถามกับลูกน้อย แม้ลูกอาจจะเด็กไป เกินกว่าที่จะตอบโต้เราได้ แต่ก็สามารถกระตุ้นพัฒนาทางภาษาด้วยคำถามง่ายๆได้ เพราะการโต้ตอบมีส่วนช่วยในการจดจำของเด็ก และเพิ่มความเข้าใจในความหมายของคำศัพท์ได้ดียิ่งขึ้น เช่น ในภาพนี้มีลูกบอลอยู่สองสี ลูกชอบสีไหนมากกว่ากัน เป็นต้น เปิดนิทานในไอแพดให้ลูกฟังดีไหม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ แนะนำเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ควรให้เด็กดูทีวีหรือใช้เวลากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนอายุ 2 ขวบ เพราะสื่อเหล่านี้มักมีฟังก์ชัน ที่จะค่อยเบี่ยงเบนความสนในของเด็กออกจากเนื้อเรื่อง จนนำไปสู่โรคสมาธิสั้น โดยเฉพาะการปล่อยให้ลูกดูหรืออ่านนิทานตามลำพังบ่อยๆ เด็กก็จะมีแนวโน้มที่จะสนใจไอแพดมากกว่าคุณพ่อคุณแม่ ในกรณีที่จำเป็นต้องการให้ดูไอแพด ควรจำกัดเวลาในแต่ละครั้งว่าไม่เกิน 10–15 นาที และควรนั่งดูเป็นเพื่อกับเขา เพื่อพูดคุยระหว่างที่ดูไปด้วย เช่น ทำเสียงตลกซ้ำๆ เลียนแบบคลิป เต้นตามท่าทางตัวละคร เป็นต้น สอนสะกดคำในระหว่างอ่านนิทานดีไหม เด็กๆมักจะสนใจในสิ่งที่มีความสนุก ในการอ่านนิทานจึงควรเริ่มที่ความสนุก ทำให้เขารู้สึกสนุกกับเรื่องราวได้อย่างเต็มที่ และมีความสุขที่ได้แบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ โดยไม่เร่งรีบสอนเรื่องการออกเสียง และสะกดคำ เพราะอาจทำให้ให้เด็กรู้สึกเบื่อหน่ายได้ แต่เมื่อลูกโตในระดับหนึ่ง เด็กจะมีความพร้อมในการเรียนรู้ขั้นต่อๆไป ก็อาจจะกลายเป็นด็กเองที่ต้องการจะเรี่ยนรู้ ซึ่งสมารถเริ่มลองสะกดคำง่ายๆ หรือถามคำศัพท์ที่สนใจ เมื่อถึงเวลานั้น จึงค่อยสอดแทรกบทเรียน ในเรื่องต่างๆเข้าไป อ่านบทความดีๆ จากทาง โรงเรียน ได้ที่ นานาสาระ
| Create Date : 08 ตุลาคม 2565 |
|
0 comments |
| Last Update : 8 ตุลาคม 2565 15:15:53 น. |
| Counter : 414 Pageviews. |
|
 |
|
