หมื่นพันคำที่สะสม.....ทุกอารมณ์เก็บเอาไว้...เติมให้ชีวิตสวยงาม
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
5 กันยายน 2549
 
All Blogs
 

ข่าวร้าย......มันกลับมาแล้ว

“ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”อาจจะมีบางคนเถียงว่า...”.ไม่จริงหรอก ความรวยต่างหากคือลาภอันประเสริฐ” ถ้าคนๆนั้นไม่เคย......
............ไม่เคยลุ้นฟังผลจากคุณหมอ ว่าผลชึ้นเนื้อเป็นเนื้อร้ายหรือเนื้อดี
............ไม่เคยนอนโรงพยาบาล 2 อาทิตย์ โดยลุกไปทำอะไรก็ไม่ได้
............ไม่เคยเข้าห้องผ่าตัด ที่ไม่รู้ทำไม มันต้องหนาวจับใจอย่างนี้
............ไม่เคยไม่มีแรง แม้กระทั่งจะลุกไปฉี่...
เรื่องที่จะเล่าวันนี้ เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวเอง ซึ่งแต่ก่อน ไม่เคยคิดเลยว่า เรื่องราวที่เราร่ำเรียนมา ดูสารคดี ดูรายการถามตอบปัญหาสุขภาพ หรือ ได้ข่าวจากพี่ป้าน้าอา ว่าเป็นโรคนั้น เป็นโรคนี้ จะกลับมาเกิดขึ้นกับตัวเอง

เมื่อวันก่อนไป อัลตราซาวด์ ดูรังไข่ว่าปกติดีหรือไม่ ถ้าคนไม่รู้จัก อาจจะงงว่า อยู่ดีๆ ไปอัลตราซาวด์ทำไมกัน.....

เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน หน้าท้องเราเริ่มโต (เหมือนคนมีพุงอ่ะ) ท้องอืด ก็ไม่คิดอะไรมาก นึกว่าตัวเองอ้วนและมีพุง ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาของวัยกำลังกินกำลังนอนอย่างเรา (อิอิ จริงๆ คือวัยเจริญอาหารน่ะ) แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่ ทำไมมันอึดอัดอย่างนี้ แล้วก็หน้ามืดเป็นลมบ่อยมาก (ก็ไม่คิดอะไรอีกเพราะเป็นคนเลือดน้อยอยู่แล้ว Hct, Hb ต่ำอยู่แล้ว เลยเป็นลมง่าย)
กางเกงยีนส์ ตัวเก่า ทำไมมันอึดอัด จนต้องคอยปลดกระดุมเวลานั่งอยู่เรื่อย
แต่ก็ยังไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจอะไรมากไง ช่วงนั้นงานก็ยุ่งมาก ไม่มีเวลามาคิดเรื่องตัวเองอะไรมากหรอก..........
แต่เหมือนว่ามีเทวดาคุ้มครองมาดลใจ วันนั้นเป็นวันเสาร์ ว่างพอดี รู้สึกว่าท้องอืดมาก ก็คิดว่าอืมไปหาหมอก็ได้ ปกติเป็นคนไม่คอยชอบไปหาหมอน่ะ แต่วันนั้นนึกไงไม่รู้ ก็ไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คาดว่าคงได้ยาลดกรด หรือยาแก้ท้องอืดมากิน เท่านั้น
แต่ผลปรากฏว่า มันไม่ใช่ท้องอืดอย่างที่คิด หลังจากที่หมอได้ตรวจท้องดูแล้ว ก็สั่งอัลตราซาวด์ คือหมอเค้าคิดว่าเรา"ท้อง"แล้วไม่รู้ตัวว่าท้องอ่ะ (จะบ้าเหรอคะ รอบเดือนเพิ่งจะหมดไปเนื่ย...จะท้องได้ยังไง ) เราก็ต้องไปตรวจเพราะหมอดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงอย่างเราเหลือเกิน ไม่ได้ต้งอพิสูจน์ให้หมออับอายไปเลย......ผลกลับกลายเป็นว่า เรามี Chocolate cyst ที่รังไข่ข้างขวา

อะไรนี้ ....... เราเคยเรียนมา เคยอ่านหนังสือเจอ เคยรู้ว่ามันคืออะไร……เราคิดว่ามันไกลตัวเรามาก ไม่น่าเกิดขึ้นกับเราหรอก.............เราคิดผิด


Cyst ขนาดเท่าลูกมะพร้าวเผาอ่ะ ลองคิดดูสิคะ ไม่เล็กเลย หมอบอกว่า ถ้ามาช้ากว่านี้ cyst อาจจะแตก เป็นอันตรายได้ แถมโดนหมอดุด้วย ว่าทำไม่เก็บไว้นานจนมันโตได้ขนาดนี้ ไม่ดูแลตัวเองเลย ต้องผ่าออกเท่านั้น หมอบอกว่า จะตัดรังไข่ออกไปเลยข้างนึง

แต่พ่อกับแม่ไม่ยอม เรื่องอะไรลูกชั้น ยังสาวยังแส้ จะมาต่งมาตัดอะไรกัน

พ่อกับแม่ก็เลยพาย้ายโรงพยาบาลไปอีกโรงยาบาลหนึ่ง ซึ่งที่นี่หมอเค้าเก่ง เค้าเลาะเฉพาะ cyst ออกได้ ไม่ต้องตัดไปทั้งรังไข่ วันนั้นเองก็เข้าห้องผ่าตัดเลย........ขึ้นเขียงนาน เกือบ 3 ชม.แนะเพราะหมอบอกว่าต้องค่อยๆเลาะพังผืดออก ก้อนเท่าลูกมะพร้าว พังผิดก็ต้องเยอะแหงๆ ตอนแรกจะลงรูปที่หมอเค้าถ่ายตอนผ่าตัดให้ดูด้วย แต่อย่าดีกว่า เพราะมันเลือดโชกเลยอ่ะ เราเองยังไม่ค่อยอยากดูเลย

โชคดี..ที่ผลตรวจชิ้นเนื้อที่ตัดไป เป็นเนื้อดี ไม่ใช่เนื้อร้าย.....เฮ้อ...โล่งอก

ตอนนั้นเรานึกในใจ.......หรือว่ากรรมมันจะตามทัน เพราว่าเราเคยเลี้ยงหนูทดลอง ต้องฉีด Ag เพื่อ Immunize ทางหน้าท้องหนู แล้วก็ฆ่าหนู เพื่อผ่าเอา spleen ออกมา ทำแลป.........หรือจะเป็นกรรม......ทำไมตามมาเร็วจัง

จากนั้นหมอก็มาบอกว่า ตัดออกไปแล้ว ไม่ใช่ว่ามันจะไม่กลับมาอีกนะ เราต้องฉีด Hormone ไปตลอด จนกว่าจะตั้งครรภ์ แล้วจึงหยุด (ตอนนี้ฉีดมาได้เกือบ 2 ปี......จนสะโพกพรุนไปหมดแล้ว ก็แน่หล่ะตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงานค่ะ อีกนานง่ะ เฮ้อ....ต้องทนเจ็บไปอีกนาน) เพื่อไม่ให้ cyst มันกลับมาอีก และต้อง อัลตราซาวด์ตรวจดูอยู่เสมอๆ


“มันไม่สนุกเลยนะ”

ข่าวร้าย.......ที่ว่าก็คือ
ผลอัลตราซาวด์ พบว่ามันกลับมาอีกแล้ว ที่นี้ไม่ใช่แค่ก้อนเดียว แต่เป็นก้อนเล็กๆๆๆ หลายก้อน ที่รังไข่ทั้ง 2 ข้างเลย หมอบอกว่า ตอนนี้ ฉีด Hormone อยู่ทุก 3 เดือน ไม่เป็นไร มันจะช่วยกดไว้ไม่ไห้มันโตขึ้น หรือฝ่อลงไปเองได้

สาธุ.....ขอให้เป็นอย่างที่หมอบอกเถอะ เพราะฉีดมานี่ก็เกือบ 2 ปีแล้ว มันก็ยังกลับมาได้อีก
ไม่อยากขึ้นเขียงอีกแล้วอ่ะ

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ไม่อยากให้มาสงสารหรืออะไรนะคะ ........แต่อยากจะบอกเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนว่า ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองไว้ให้ดีๆ อะไรที่คิดว่ามันห่างไกลตัวเรา คงไม่เกิดกับตัวเราหรอก คิดซะใหม่
โรคหัวใจเหรอ.......อู้ย เราไม่เป็นหรอก เรายังเด็กอยู่เลย
โรคเบาหวานเหรอ.......อู้ย ยังอีกไกล ไม่เป็นตอนนี้หรอก
โรคมะเร็งเหรอ..........อู้ย คงไม่เป็นหรอก เรากินผักผลไม้ทุกวัน แข็งแรงอยู่แล้ว
อย่าคิดอย่างนั้นนะคะ ดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีๆ เป็นอะไรนิดอะไรหน่อย ก็อย่าคิดว่า เดี๋ยวก็หายเองได้ ไม่ต้องไปหาหมอหรอก อย่าประมาท
ด้วยความปราถนาดีค่ะ






ขอบคุณเพลงบรรเลงจาก ป้ามด อีกครั้งค่ะ




 

Create Date : 05 กันยายน 2549
12 comments
Last Update : 5 กันยายน 2549 16:52:20 น.
Counter : 341 Pageviews.

 

ครับ เข้ามาเห็นใจครับ เพราะคำว่า ......มันกลับมาแล้ว
ที่หมอพูด มันรุนแรงเพียงใด เพราะโดนมาแล้ว ไม่อยากบอกว่า ที่หมอบอกกับลุงไม้นั่นคือ บอกว่าให้กลับไปเตรียมตัวตายแหละครับ ฮ่า ฮ่า

แต่นะครับ กำลังใจครับ สู้ อย่าเครียด คำว่า อย่าเครียดนี่พูดง่ายครับ แต่ในความเป็นจริง ปฏิบัติยากครับ ฮ่า ฮ่า ไมเกรนถามหาทีเดียวแหละครับ

พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลร่างกายให้ดี ๆ ทำใจให้สบาย
ก่อนนอน สวดมนต์ให้ใจสบายครับ หากทำได้นะทำสมาธิยิ่งดีครับ

นะโม 3 จบ พุทธังสรนังคัตฉามิ ธรรมมังสรนังคัตฉามิ สังฆังสรนังคัตฉามิ....ทุติยัมปิ.....ตติยัมปิ...

แล้วอิติปิโส ให้เรียบร้อย

หากเป็นไปได้ คาถาชินบัญชรด้วยครับ
****************************

อย่าไปคิดเรื่องเวร เรื่องกรรมเลยครับ ไม่ใช่บอกไม่ให้เชื่อครับ เวรกรรม รับรู้ไว้ก็ดี ทำแต่สิ่งที่ดี ทำให้เราทำดี ย่อมมีกรรมดีครับ

ตอนนี้ก็หมั่นทำบุญ รักษาศีลนะ เอาแค่ศีล 5 นี่ก็ได้บุญมากแล้วครับ เป็นไปได้ซื้อชีวิตสัตว์ ทำสังฆทานด้วยยิ่งดีครับ พลังแห่งพุทธคุณมีอานุภาพมากมายครับ
*****************************

อย่าลืมว่า อาหารในปัจจุบัน เจือปนด้วยสารมีพิษมากมาย พวกไก่ เนื้อสัตว์ เร่งการเจริญเติบโตโดยสารเคมี

สิ่งแวดล้อม มนุษย์ทำลาย ฝืนธรรมชาติมากขึ้น นั่นแหละคือผลที่ย้อนกลับมาทำลายมนุษย์ สร้างความลำบากในการดำรงชีวิต บั่นทอนอายุ บั่นทอนความสุข

แม้แต่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ตอนก่อนไม่เคยเจอ ไม่มี แผ่นดินเลื่อน น้ำท่วม
********************************

สำหรับเจ้าของบล็อก แนะนำให้เลือกทานอาหารที่หลีกเลี่ยงสารมีพิษแบบชีวจิต ลำบากหน่อยแต่ไม่มากเกินกว่าที่เราจะทำหรอกนะ หลีกเลี่ยงพวกไก่ อาหารทะเล สิ่งหมักดอง ขนมกรอบแกรบ พวกอาหารขยะ fastfood ที่มาจากฝั่งตะวันตก อย่าไปยุ่ง

หากทำได้อีกอย่างการทำดีท็อกซ์ เพื่อขจัดสารพิษในร่างกายออกไป จะทำให้ร่างกายแข็งแรง เพราะเรารับสารที่มีพิษเข้าไปทุก ๆ วัน ควรที่จะชะล้างออกมาให้ได้มากที่สุดครับ

ทำใจให้สบายครับ เที่ยวธรรมชาติ ดูแลพี่น้อง คิดแต่สิ่งดี ๆ อีกอย่างงานศพหากหลีกเลี่ยงได้ก็ดีครับ

ด้วยความปราถนาดีครับ

 

โดย: ไม้หลักปักมั่นคง 5 กันยายน 2549 14:28:35 น.  

 

ฮ่า ฮ่า ไปอ่าน.....รู้จักกันมากขึ้น.....แรงบันดาลใจ...

เลยมาบอกว่า สอนสังฆราชซะแล้ว แต่ก็เหอะครับ โดนกับตัวเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน โรคร้ายบางโรค ใช่ว่าจะหายกันได้ง่าย ๆ ครับ

กำลังใจ ช่วยได้ครับ

 

โดย: ไม้หลักปักมั่นคง 5 กันยายน 2549 14:40:04 น.  

 

ยังไงก็จะเป็นกำลังใจ และอยู่ข้างๆเจ้าของ Blog ตลอดไปนะจ๊ะ

 

โดย: aladin IP: 203.147.50.114 5 กันยายน 2549 15:47:26 น.  

 

สู้ๆนะค่ะซึด มันไม่เป็นอะไมกหนิค่ะ สู้ๆเย้

 

โดย: oreocream 5 กันยายน 2549 16:37:06 น.  

 

ไม้หลักปักมั่นคง :ขอบคุณสำหรับความห่วงใย ลุงไม้ก็เช่นกันนะคะ รักษาสุขภาพด้วย

aladin :ขอบคุณกำลังใจ ที่มีให้มาเสมอจ้า

oreocream :ขอบคุณที่แวะมาทักทาย และให้กำลังใจค่ะ

 

โดย: tweety girl 5 กันยายน 2549 17:46:05 น.  

 

Twety Girl....เราเห็นด้วย การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่เมื่อเกิดโรคแล้วเราว่าการปรับทัศนคติให้มองอะไรที่เกิดขึ้นในแง่ดี มีผลทำให้เราสุขใจมากกว่านะ.....เรารู้ว่าเธอทำได้ดี...มองโลกในแง่ดี ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับโอ้ จริงป่าว

 

โดย: สิงห์นครพิงค์ 5 กันยายน 2549 20:40:04 น.  

 

เปี๊ยกอยากบอกว่าเปี๊ยกเพิ่งได้ยินคำว่า chocolate cyst เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง ยังงงๆ อยู่เลยว่ามันคืออะไร แล้วก็มาเจอว่ามีคนเป็น เฮ้อ...

พักนี้เปี๊ยกว่าเปี๊ยกโชคไม่ดีแล้วนะคะ แต่กลับกลายเป็นว่าหลายๆ คนที่มาให้กำลังใจเปี๊ยก จริงๆ เค้ามีปัญหาอยู่ ซึ่งดูๆ ไปปัญหาจะหนักหนากว่าเปี๊ยกอีกมั้ง แย่จัง พักนี้คนรอบๆ ตัวเปี๊ยกเคราะห์ร้ายกันหมดเลย เป็นช่วงเวลาที่แย่เนอะ

ถึงเราจะไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว เปี๊ยกก็ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ ขอให้มันไม่ลุกลามไปใหญ่โต สุขภาพแข็งแรงไวๆ นะคะ

 

โดย: อุรัสยา 6 กันยายน 2549 5:22:33 น.  

 

สิงห์นครพิงค์: ทัศนคติที่ดีที่เกิดขึ้นก็คือ ตอนนี้เราใส่ใจตัวเองมากขึ้น เป็นอะไรนิดหน่อย ก็เริ่มไปหาหมอ คงเป็นเรื่องการระวังตัว และการปล่อยวางมากกว่าความสุขใจน่ะ ขอบคุณที่แนะนำจ้า


อุรุสยา: ทุกคนมีกรรมของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

 

โดย: tweety girl 6 กันยายน 2549 7:01:21 น.  

 

อ่านแล้ว...รู้สึกว่าความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐจิงๆๆ...จะเป็นกำลังใจให้โอ้เสมอ...แม้ว่า..บางช่วงเวลาเราจะห่างหายกันไปบ้าง...ตามทางเดินของชีวิต...แต่โอ้..ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีในความทรงจำของเราเสมอ.....
ว่าแต่ว่าไอ้ที่ ซาวด์มารอบใหม่เนี๊ยะ...เหมือนเป็น PCOs (PolyCystic Ovarian Syndrome) หรือเปล่า...ถ้ามีอะไรคุยกับเราได้น่ะ...เป็นห่วงเพื่อนเสมอ....
แล้วจะแวะมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆทั้ง..blog..Ozzy..& tweety girl (สงสัยจังทำไมต้อง tweety girl ด้วยหล่ะ)

 

โดย: เพื่อนคนนึง..ที่ห่างหาย IP: 202.133.139.78 6 กันยายน 2549 13:45:39 น.  

 

เพื่อนคนนึง...ที่ห่างหาย ดีใจที่ปิวมาเม้นท์นะ ขอบคุณที่เป็นห่วง ไว้เจอกันแน่ๆจ้า สำหรับทำไมต้อง tweety girl น่ะเหรอ มีคนบอกว่าเราเหมือน tweety (นกตัวสีเหลืองในการ์ตูนน่ะ) คือว่าตอนนั้นเราก็ผอมๆ แล้วหัวก็โตๆ แต่ว่าตอนนี้ คงจะเหมือนนกกระทุมล่ะมั้ง….. เพราะอ้วนขึ้นเยอะ

 

โดย: tweety girl IP: 203.157.14.246 6 กันยายน 2549 17:41:30 น.  

 

สู้ ๆ นะคะ

 

โดย: แ ม ง ป อ 6 กันยายน 2549 18:45:10 น.  

 

สู้ๆนะน้องโอ้ พี่ก้อเป็นอีกคนที่จะเป็นกำลังใจให้โอ้นะค่ะ สู้เค้านะ พี่ว่าไม่น่าจะใช้เวรกรรมนะ
ปล.หายไวๆนะ

 

โดย: Mr.peejung IP: 58.9.92.138 11 กันยายน 2549 23:05:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


tweety girl
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Friends' blogs
[Add tweety girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.