Bloggang.com : : ตุ้งแง่ว : โบรกแนะเก็งกำไร 4 หุ้นแกร่ง ดัชนีผันผวน จับตายุโรป พอร์ตลงทุนรอชัดเจนต.ค.

โบรกแนะเก็งกำไร 4 หุ้นแกร่ง ดัชนีผันผวน จับตายุโรป พอร์ตลงทุนรอชัดเจนต.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.55 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 30.94 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวก บนความคาดหวังความพยายามของยูโรโซนในการขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ ซึ่งส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก โบรกคาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวน เน้นทยอยขายทำกำไรช่วงขึ้น และซื้อช่วงลง แนะเก็งกำไร 4 หุ้นเด่น ได้แก่ AP BGH KBANK DTAC ส่วนพอร์ตลงทุนไม่เน้นซื้อเพิ่ม ถือเงินสดรอความชัดเจนต้นเดือนต.ค. โดยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ กลยุทธ์การลงทุน: ขึ้นขาย-ลงซื้อ แนวโน้มตลาดวันนี้: การปรับขึ้นแคบลงขณะที่ผันผวนมากขึ้น

คาด Sentiment ยังดีอยู่สำหรับตลาดหุ้นไทยวันนี้ต่อหลังดีดกลับแรงวานนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การเข้าซื้อสินทรัพย์เสียงของนักลงทุนบนความคาดหวังความพยายามของยูโรโซนในการขยายกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ ซึ่งส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ให้ปรับตัวสูงขึ้น 2) แรงซื้อที่กลับเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันและ 3) ความคาดหวัง Window Dressing สิ้นสุดไตรมาส 3 อย่างไรก็ตามคาดการปรับขึ้นจะแคบลงและอาจเห็นแรงทำกำไรเข้ามาเป็นระยะ ขณะนักลงทุนติดตามข่าวจากยูโรโซนอย่างใกล้ชิด

กลยุทธ์การลงทุน: จากความผันผวนของ SET ที่ยังมีอยู่ จึงแนะนำนักลงทุนระยะสั้นอิงกลยุทธ์ “ขึ้นขาย-ลงซื้อ” อีกทั้งให้เน้นหุ้นพื้นฐานดีเพื่อช่วยลดความเสี่ยงการลงทุน

แนวต้าน : 960-980 แนวรับ : 930-910

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 0-25% : เงินสด 100-75%

ถือต่อในพอร์ต : AP, BGH, KBANK

หุ้นที่ปรับเข้า : DTAC เก็งกำไร FV ปี 55=86 บาท คืบหน้ากสทช.+การโตของธุรกิจ Non-Voice+รอปันผลพิเศษ

KGI มองหุ้นไทยวันพุธเช้าทรงตัว บ่ายอยู่ที่ยุโรป แนะถือพอร์ตเทรดดิ้งต่อ โดยหลังจากตีกลับมาแรงเมื่อวานนี้ คาดว่า SET จะเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับข่าวสารในฝั่งยุโรปประกอบด้วย i) การที่เจ้าหนี้ของกรีซ (Troika) จะกลับไปที่กรีซในวันนี้เพื่อประเมินว่ากรีซสมควรได้รับเงินช่วยเหลือ 8.8พันล้านยูโรในต้นเดือน ต .ค .หรือไม่ ii) การรอผลประชุมสภาฯ ของเยอรมันในวันพฤหัสฯในการอนุมัติเพิ่มศักยภาพของกองทุน EFSF เพื่อนำมาซื้อพันธบัตรของประเทศต่างๆ รวมทั้งเพิ่มทุน

ให้กับธนาคาร และ iii) การลุ้นว่าทางการยุโรปจะมีประกาศมาตรการใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาหนี้สินภาครัฐฯ และหนี้เสียของภาคธนาคาร สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อสุทธิหนักเมื่อวานนี้และในสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นช่วงสิ้นไตรมาสที่ 2554 /3เราคิดว่ามีโอกาสสูงที่ฝั่งสถาบันจะเป็นผู้ซื้อสุทธิเพื่อประคองราคาปิดงวดบัญชีไม่ให้น่าเกลียดเกินไป ซึ่งปัจจัยนี้น่าจะหนุนตลาดหุ้นในระดับหนึ่งในสัปดาห์นี้

กลยุทธ์: พอร์ตเทรดดิ้ง – ให้ถือพอร์ตหุ้นต่อไปก่อนในกรณีที่ตลาดทรงๆ ตามคาด /หรือแม้ในกรณีที่ปรับลงในวันนี้ก็ตาม ส่วนพอร์ตลงทุน คงคำแนะนำเดิมคือให้รอดูความชัดเจนจากปัจจัยในยุโรป เริ่มจากวันพรุ่งนี้ซึ่งสภาเยอรมันจะมีการประชุมในเรื่องกองทุน EFSF ไปจนถึงการตัดสินว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่ในต้นเดือน ต.ค .

บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ถ้าเทรดดิ้ง..ตลาดบวกให้ทำกำไรบ้าง และเลือกซื้อเฉพาะตอนพักตัว!!

แนวโน้ม จากข่าวการเตรียมเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองทุนช่วยเหลือของยูโรโซน และแนวโน้มที่จะมีการออกมาตรการเพื่อคลี่คลายวิกฤติหนี้ในยุโรป รวมถึงโอกาสที่กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือจาก IMF/EU เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในงวดเดือน ต.ค. ที่จะถึงนี้ ส่งผลให้นักลงทุนกลับมามีความมั่นใจมากขึ้นในสินทรัพย์เสี่ยง SET จึงสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาวานนี้ถึง 4.71% ขณะที่บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกก็เริ่มฟื้นตัวได้ด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตลาดหุ้นเอเชียขยับขึ้นมาพอควร เช้านี้ก็เริ่มมีลักษณะแกว่งตัวผันผวนอีกครั้ง เนื่องจากแผนแก้ไขวิกฤติหนี้ของยุโรปยังขาดความชัดเจน ทำให้ FSS คาดว่า SET จะเริ่มแกว่งตัวผันผวนอีกครั้งได้ เพื่อรอดูความชัดเจนของมาตรการต่างๆ รวมทั้งรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในช่วงสัปดาห์นี้ด้วย

กลยุทธ์: ดังนั้นถ้าเทรดดิ้งจึงควรขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดบวก และรอหาจังหวะเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งในช่วงตลาดพักตัวลง นอกจากเป็นส่วนที่ซื้อเพื่อถือลงทุน จึงจะเน้นให้ถือต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มพอร์ตขึ้นอีก

บล.ไทยพาณิชย์ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ต้องแบ่งการวิเคราะห์เป็น 2 แบบ ข่าวบวก และข่าวลบ (เหมือนคนจะเข้าใจเรื่องลบได้ง่ายและเร็วกว่าเรื่องบวกที่ต้องอธิบายกันนาน) – หุ้นยุโรปวานนี้บวกกันไปกว่า 5% จากเรื่องกองทุน EFSF ที่คาดว่าจะจัดตั้งสำเร็จได้อย่างช้าในเดือนหน้า ในขณะที่การแถลงของประธานาธิบดีกรีซที่ระบุว่ากรีซสามารถทำตามเงื่อนไข ขณะ EU/ECB/IMF เตรียมประเมินในสัปดาห์นี้ ทำให้ตลาดปรับขึ้นค่อนข้างแรง แม้แต่ดาวโจนส์ในช่วงแรกที่บวกไปกว่า 320 จุด แต่หลังจากนั้นเจอแรงขายออกมาหลังมีข่าวว่าประเทศในกลุ่ม EU บางประเทศระบุว่าอาจต้องให้ผู้ถือพันธบัตรของกรีซ ยอมรับความเสียหายบ้าง ซึ่งประเด็นนี้เองที่ทำให้ตลาดสหรัฐฯ ปรับร่วงลงแรงในช่วงท้าย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ว่าเยอรมันจะยังไม่เห็นด้วยในการปรับเพิ่มขนาดของกองทุน EFSF ในการประชุม 29 ก.ย. ทำให้ตอนนี้เรามองว่าการปรับขึ้นของตลาดอาจจะยังไม่เสถียรนัก แต่การที่มีความพยายามที่จะช่วยเหลืออย่างจริงจังมากขึ้น เรามองท้ายที่สุดผลลัพธ์น่าจะออกมาดี เพียงแต่ข่าวลบก็จะเข้ามาแรกในช่วงนี้เป็นระยะ ทำให้ตลาดคงจะขึ้นไปรวดเดียวจบ แต่อาจจะขึ้นแบบค่อยๆ ซิกแซกกลับขึ้นไปอีกครั้ง

ต้องระวังแรงขายวันนี้ให้ดี หลังวานนี้บวกแรง ในขณะที่ภาพข่าวบวกยังไม่แกร่งพอที่จะทำให้ตลาดเชื่อมั่น – หุ้นไทยบวกแรง 42 จุด ปิดที่จุดสูงสุดที่ 946 จุด มูลค่าการซื้อขายกลางๆ 3.5 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อย 600 ล้านบาท กลุ่มที่ดีดขึ้นแรงเป็นหุ้นที่ถูกขาย/Short ออกมาก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น PTTCH KBANK ในขณะที่หุ้นปลอดภัยอย่างสื่อสารค่อนข้างทรงตัว โดยเรามองว่าภาพตลาดวันนี้ภายใต้ข่าวบวกที่ตลาดยังไม่เชื่อเต็มอก ในขณะที่ข่าวลบช่วงท้ายตลาดสหรัฐฯ วานนี้จะเป็นตัวกดให้ตลาดหุ้นดูไม่ดีนัก รวมถึงตลาดยุโรปที่จะเปิดมาในช่วงบ่ายด้วย แต่ต้องย้ำกันอีกครั้งว่าการเล่นหุ้นตอนนี้การติดตามข่าวสำคัญที่สุด โดยพรุ่งนี้จับตากับประเด็นใหญ่สุดในสัปดาห์เรื่องการประชุมโหวตแผน EFSF ของเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนในกองทุนเยอะสุด แต่หากดูท่าทีตอนนี้ต้องยอมรับว่าตลาดอาจจะผิดหวังในเรื่องของการเพิ่มขนาดกองทุน ในขณะที่สภาฯ EU จะมีการประชุมกันในวันจันทร์หน้า ส่วนเรื่องของกรีซคงได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้ (เรามองปัญหากรีซในช่วงสั้นจะผ่านไปได้)

กลยุทธ์วันนี้

วันนี้อาจขายทำกำไรบ้างสำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่เล่น Rebound ตั้งแต่ 900 จุดขึ้นมา โดยเรามองตลาดจะเจอแรงขายทำกำไรสลับกับแรงซื้อเข้ามาเป็นระยะ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการสะสมเพิ่ม เราแนะนำให้รอการประชุมของเยอรมันในวันที่ 29 ก.ย. แล้วค่อยตัดสินใจซื้อเพิ่มหรืออยู่เฉยๆ หุ้นที่น่าสะสม ปลอดภัย และงบฯ ไม่เสี่ยงมาก ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร ค้าปลีก ยานยนต์ อสังหาฯ และบันเทิง (หุ้นแนะนำ ADVANC DTAC CPALL BIGC SAT LPN LH BEC MAJOR) ซึ่งเรามองว่า ณ ระดับดัชนีปัจจุบัน หุ้นกลุ่มนี้น่าซื้อคืน/ถัวเฉลี่ย และกลุ่มที่รอความชัดเจนแล้วค่อยซื้อตาม (รออัพเดทกลุ่มนี้) ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ และธนาคาร

Create Date : 28 กันยายน 2554

Last Update : 28 กันยายน 2554 10:22:12 น.

0 comments

Counter : 617 Pageviews.