Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
15 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

ทำไมเราต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค

การลงทุนในตลาดหุ้น หากไปนั่งจ้องกร๊าฟ ก็จะถูกสายตาของเราเองหลอกเอาได้ สายตาหลอกอย่างไร ดูรูปข้างล่าง



รูปข้างบน ความจริงแล้ว ความว้างของโต๊ะ มันเท่ากัน ลองใช้ไม้บรรทัดวัดดูได้





รูปข้างบน เราจะเห็นว่า ปีศาจ 2 ตัวนั้น ตัวไม่เท่ากัน แต่ความจริงแล้ว มันตัวเท่ากันเลย เพราะฉนั้น สายตา จึงสามารถหลอกเราได้



เช่นเดียวกับในตลาดหุ้น กร๊าฟ ที่มันขึ้นๆ ลงๆ มันก็หลอกเราได้เหมือนกัน ผสมโรงกับ ความกดดัน และอารมณ์ โดยเฉพาะ ความโลบ และ กลัวขาดทุน ยิ่งไปกันใหญ่ ดังนั้น จึงต้องมีการวิเคราะห์ทางเทคนิคขึ้นมา


....................................

ที่นี้เรามาดูรูปแบบ หลักๆในตลาดหุ้น (เส้นกร๊าฟ) จะมีรูปแบบหลักๆอยู่ 2 รูปแบบเอง คือ




1.รูปแบบการกลับตัว (Reversal Patterns) ประมาณว่า จากกร๊าฟ ขึ้นๆอยู่ดีๆ แล้วกลับตัวลง หรือ ลงอยู่ดีๆ ก็หักหัวขึ้น แต่ก่อนที่มันจะมีการกลับตัว มันมักจะมีรูปแบบ "เฉพาะ" มาบอกให้เรารู้ว่า มันจะกลับตัวแล้วนะ ประมาณนั้น

2.รูปแบบ ต่อเนื่อง (Continuous Patterns) นั้นคือ ขึ้น ขึ้น และขึ้น หรือ ลง ลง และลง นั้นคือ รูปแบบนั้น มันก็จะมีรูปแบบของมัน เช่น ราคาขาขึ้น มันจะขึ้น ขึ้น แล้วก็จะลง มานิดหน่อย แล้วก็ขึ้นต่อ


.....................................

ที่นี้เรามาดูเครื่องไม้เครื่องมือในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคา นั้นคือ

กร๊าฟแท่งเทียน ตามรูปข้างล่าง







หรืออาจจะเป็น กร๊าปบาร์ก็ได้




หรืออาจจะเป็นกร๊าฟแบบเส้นก็ได้




................................

แต่ส่วนใหญ่ที่เขานิยมกันก็คือ กร๊าฟแท่งเทียนที่จะทำให้เราเห็นแนวโน้มได้

แล้วก็จะมีเครื่องมือเสริมก็คือ เส้นค่าเฉลี่ย





แล้วก็จะมีเส้น Boilinger Band





แล้วก็จะมี Paraboric SAR




............................

เส้นหรือเครื่องมือวิเคราะห์พวกนี้จะช่วยให้เราวิเคราะห์หา แนวโน้มราคาได้

จากจากนี้ยังมีพวก indicator อีก เช่นพวก MACD RSI DMI




แต่เวลาเราวิเคราะห์เราควรใช้เครื่องมือที่ละอย่างจะง่ายกว่า ไม่งั้นตาลายแน่ๆ ละความหมายและวิธีใช้เครื่องมือแต่ละอย่างก็ต้องศึกษาต่อไป


........................

เครื่องมืออีกอันเรียกว่าเส้น ไฟโบเรนซี่ จะมีการลากเส้นจากจุดต่ำสุดไปถึงจุดสูงสุด ก็จะได้ค่าต่างๆ ซึ่งจะสามารถบอกให้รู้ถึงแนวรับแนวต้าน ตามรูปข้างล่าง




อีกอันหนึ่งก็คือ เส้นเทรนไลน์ ใช้ดูแนวโน้ม











ในตอนนี้เป็นการแนะนำเครื่องมือการวิเคราะห์อย่างเคร่าๆ เท่านั้น




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2553
0 comments
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 14:46:32 น.
Counter : 1320 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


tunsystem
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




Friends' blogs
[Add tunsystem's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.