Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
9 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
ลงทุนโดยไม่มีความรู้ มันก็คือ "การพนัน" ดีๆนี้เอง

อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า ราคาของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ มนุษย์ ล้วนตั้งขึ้นมาเองทั้งสิ้น

วัตถุใดคนส่วนใหญ่ "เห็นว่า" หรือ "เชื่อว่า" มันมีค่า มันก็จะมีค่าขึ้นมา แม้แต่กระดาษ แผ่นเล็กๆ ก็สามารถมีค่ามหาศาลได้

เอาละ ของทุกสิ่งบนโลก มีราคาจริงของมัน และราคาที่มนุษย์อุปโลกขึ้น

เช่น น้ำ หรือ อากาศ ความจริง ของ 2 สิ่งนี้ มีค่ามากต่อมนุษย์ แต่ราคาของน้ำ 1 ขวด แค่ 5 บาท

ในทางกลับกัน "เพชร" ซึ่งความจริงคือ เศษหินชัดๆ แต่ กลับมาราคาเป็นแสนเป็นล้าน นั้นเพราะมนุษย์ ส่วนใหญ่เชื่อว่า เพชรมีราคา

..............................

ความเชื่อของมนุษย์ กับ ราคา ของสิ่งต่างๆ เกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออก เช่น ราคาทองคำ ราคา น้ำมัน ราคาที่ดิน ราคาข้าว ฯลฯ ซึ่งทั้งมหดที่กล่าวมา มี 2 ส่วนคือ ราคาจริงของสินค้านั้น เช่น ข้าว น้ำมัน กับอีกอย่างคือ ราคาตาม "ความเชื่อ" เช่นทองคำ


"ความเชื่อ" มีคนต่อราคาสินค้ามากมายมหาศาล นอกเหนือจากอุปสงค์-อุปทาน

แต่ "ความเชื่อ" ก็มีขึ้นมีลง เราจึงเกิดการซื้อขายกัน ดังนั้น กร๊าพราคาต่างๆที่ใช้กันทั่วโลก ก็เป็นการรวมทุกอย่างให้มาเป็นเส้นกร๊าฟ ทั้ง ราคาจริง ราคาหลอก ข่าวสารบ้านเมือง อุปสงค์ อุปทาน พฤติกรรมของมนุษย์ทั้งหมด รวมกันอยู่ในกร๊าฟราคาพวกนี้

มาดูกร๊าฟส่วนหนึ่งราคากัน ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งหลักการของกร๊าฟ เป็นรูปแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะทอง หุ้น น้ำมัน ราคาเหล็ก ราคาข้าว ราคารถ ตราสารหนี้ ฯลฯ เลยอยากบอกว่า ถ้าเก่งเรื่องกร๊าฟ รับรอง รวย


รูปข้างบนคือ กร๊าฟราคาทองคำ





กร๊าฟราคาน้ำมัน





กร๊าฟหุ้น ดูเส้นต่างๆที่เขาขีดเขียนๆในกร๊าฟนี้สิ นี้คือการ วิเคราะห์กร๊าฟราคา โดยใช่สถิติเข้าช่วย ไปได้มากดมั่วๆ แบบแทงหวยนะ ดังนั้น ความรู้จึงสำคัญมาก





ราคาค่าเงินดอลล่าห์ต่อเงินบาท


ในส่วนของค่าเงิน จะมาไปแล้วก็เป็นความเชื่อของคนอีกเหมือนกัน เช่นคนทั่วโลก เชื่อว่า อเมริกาเป็นมหาอำนาจ มีเศรษฐกิจดี ค่าเิงินก็จะสูงขึ้น ก็มีผลในการซื้อน้ำมันจากตะวันออกกลางได้มากขึ้น แต่ข้อเสียคือ ของต่างๆที่ผลิตในอเมริกา จะขายในต่างประเทศไทยยาก เพราะแพง

แต่ความเป็นจริงค่าเงินที่ขึ้นๆลงๆ มีผลมาจาก การนำเข้า-ส่งออก ส่วนหนึ่ง การแทรกแทรงจากประเทศนั้นๆส่วนหนึ่ง การเกรงกำไรส่วนหนึ่ง ปนๆกัน

จะว่าไปแล้วค่าเงิน ก็เป็นการต่อสู้กันด้านความได้เปรียบในทางการค้าระหว่างประเทศต่างๆ เช่น ในกรณีที่เกิดขึ้นกับญี่ปุ่น สมัยก่อน ที่ ญี่ปุ่นได้กดค่าเงินตัวเองให้ต่ำกว่าปรกติ จนของที่ผลิต ที่ญี่ปุ่น ราคาถูกมากๆ ส่งผลให้ยุโรป ต้องขาดดุลมหาศาล สุดท้าย "พวกแก๊งตะวันตก" รวมหัว หรือสุ่มหัวกัน วางแผนร้าย เพื่อกดดันให้ค่าเงินเยน แข็งค่าขึ้น โดยการ ใช้เงิน ปอนด์ เงินดอยมาก เงินดอลล่าห์ ฯลฯ ไปซื้อ เงิน เยนในตลาดโลก มาเก็บไว้ ผลก็คือ เงินเยนในตลาดโลก หายากขึ้น ส่งผลให้เงินเยนแข็งค่า


เมื่อเงินเยนแข็งค่า งานก็เข้าญี่ปุ่นทันที่ สินค้าของญี่ปุ่น ที่ผลิตในญี่ปุ่น ก็ราคาแพงขึ้นในตลาดโลก

ญี่ปุ่นก็ได้ทำการ "แก้เกมส์" โดยนำเงินเยน ไปซื้อ เหล็ก น้ำมัน ข้าว ฯลฯ มาเก็บไว้ในประเทศจำนวนมาก อีกทั้ง ยังไปลงทุนในต่างประเทศ อีกอย่างมากมาย เพราะค่าเงินแข็งขึ้น ก็จะมีกำลังมากขึ้นในการลงทุนในต่างประเทศ

สรุปก็คือ พวก "แก๊งค์ตะวันตก" เอาเงินให้ญี่ปุ่นใช้ฟรีๆ

โง่จริงๆ

.............................

เอาละ เล่าไปไปซะมากมาย แต่จงรู้ถือว่า เก่งด้านนี้ รวยแน่ๆ แต่เราจะทำกำไรได้อย่างไร

แน่นอน มีคนขาย ก็ต้องมีคนซื้อ แต่จะซื้อขายอย่างไร หากเราซื้อที่จุด A ในราคา 10 บาท แล้ว เรามาขายที่ จุด B ในราคา 20 บาท คุณคิดว่าจะได้กำไรเท่าไหร่






ง่ายมะ แต่ตอนที่เราอยู่ในเวลา ณ จุด A เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ราคามันจะขึ้น หากเราไม่หาข้อมูล ไม่รู้กลไกตลาด ไม่รู้จักสิที่เราซื้อ เช่นทองคำ เราก็ต้องรู้ว่า ประเทศไหนซื้อ ใครซื้อ ตลาดที่แล้วๆมาเป็น แนวโน้ม ในอนาคต สามารถดูอดีตเพื่อวิเคราะห์มันได้ ความตึงเครียดระหว่างประเทศเป็นไง ราคาน้ำมัน ราคาเงินดอลล่าห์ การวิเคราะห์ทางเทคนิค สถิติ พฤติกรรมมนุษย์ ต้องเอามาใช้หมด นั่นแหละคือความยาก แต่ที่จุด A หากเราเอาแต่ "เชื่อว่า" มันน่าจะขึ้น หรือน่าจะลง ตามสายตา ตามความคิด ตามที่เราไม่มีข้อมูลเพียงพอ มันจะไม่ต่างอะไรกับการ แทงบอล การเล่นสูงต่ำ กำถั่ว ซื้อหวยเลย เพราะ

"สายตา และ ความเชื่อ ของตัวเราเอง สามารถหลอกเราได้"

เช่น


รูปโต๊ะ 2 ตัวนี้ มี "ความกว้าง" เท่ากันหรือไม่


เอาไม้บรรทัดวัดดู แล้วจะรู้ว่า "ความกว้างของโต๊ะ" มันเท่ากัน เพราะดวงตาของคุณ สามารถหลอกคุณได้




ดูรูปข้างบนดิ ตัวไหนตัวใหญ่กว่า ตัวไหนน่ากลัวกว่า

แต่จริงๆแล้ว มันตัวเท่ากัน และเป็นแบบเดียวกันเลย

เห็นแล้วยัง ว่าสายตามันเชื่อไม่ได้ เพราะฉนั้น การไปนั่งจ้องกร๊าฟ ราคา แล้วคิดว่า มันจะขึ้น จะลง จะอย่างนั้น จะอย่างนี้ เห็นแล้วยัง

เพราะฉนั้นเวลาอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ อย่าให้เส้นกร๊าฟ และอารมณ์ของคุณ มันมาหลอกคุณได้ ต้องรู้จักใช้เครื่องมีทางการวิเคราะห์ ติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะ ข่าวที่ออกมาจากธนคารกลางประเทศต่างๆ นะ


Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2553 14:04:38 น. 1 comments
Counter : 1502 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ จะติดตามอ่านผลงานตลอด


โดย: ฤดูใบไม้ผลิ วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:19:22:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tunsystem
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




Friends' blogs
[Add tunsystem's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.