Bloggang.com : weblog for you and your gang
บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
ปฐมบท...ความจริงของชีวิต
พุทธประวัติ
พุทธองค์ตรัส
หลักปฎิบัติเพื่อหลุดพ้น
โศลกธรรม
คาถาธรรม
ทัสนะ
วิปัสสนาข่าว
ลำนำ
เพลงอริยะ
วิถีแห่งเซน
นวนิยายอิงหลักธรรม
เสียงธรรม
รักเอย ?
เพลงแห่งรัก
ชีวิตจริง
ปรัชญา คติธรรม คำคม
เรื่องราวดี ๆ
Life & Family
สุขภาพ
ธรรมชาติและวัฒนธรรม
จิปาถะ
ถาม-ตอบ ทุก(ทุกข์)ปัญหาชีวิต
รวมลิงค์ทั้งหมด
<<
มกราคม 2554
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 มกราคม 2554
ทัสนะ(8)...หมดทุกข์ สิ้นสุข
All Blogs
ทัสนะ(8)...หมดทุกข์ สิ้นสุข
ทัสนะ(7)...สุข ทุกข์ อยู่ที่คิด
ทัสนะ(6)...ความเป็นของคู่
ทัสนะ(5)...ลำธารชีวิต
ทัสนะ(4)...ทำบุญให้ได้บุญ
ทัสนะ(3)...วังวนชีวิต
ทัสนะ(2)...สูขและทุกข์คือเงาสะท้อนของกันและกัน
ทัสนะ(1)...เข็มทิศชีวิต
ทัสนะ(8)...หมดทุกข์ สิ้นสุข
เพราะรู้ว่าความสุขนั้นเป็นเพียงมายาจึงไม่ปรารถนา ที่จะได้เสพย์สุข เพราะรู้ว่าความทุกข์นั้นคือสัจจะจึงไม่เกลียดชังความทุกข์ เมื่อไม่ปรารถนาการเสพย์สุขไม่เกลียดชังความทุกข์จึงอยู่เหนือความสุขและความทุกข์
ผู้ที่อยู่เหนือความสุขและความทุกข์ได้ ย่อมไม่รักความเป็นและไม่กลัวความตายจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้มีอิสรภาพอันไพบูลย์
จากกัลยาณมิตร(นิรนาม)
ความทุกข์นั้น เป็นหนึ่งในอริยสัจ 4 ข้อ ซึ่งเป็นความจริงในชีวิตเรา ๆ ท่าน ๆ ส่วนความสุขนั้นทางพุทธศาสนาใช้คำว่า สุขขัลลิกะ หรือสุขแบบหลอกลวง ทำไมจึงว่าความสุขไม่ใช่ความจริง เพราะมันมีความเปลี่ยนแปลง มันเนื่องด้วยบุคคล วัตถุ สิ่งของ คาดหวัง บังคับ และกำหนดกฎเกณฑ์ไม่ได้
เมื่อสิ่งใดไม่ใช่ความจริง หรือไม่มีอยู่จริง สิ่งนั้นมันก็คือสิ่งที่สมมุติขึ้น แต่สิ่งที่สมมุติว่าความสุขนั้นมันถูกยึด ถูกสอน และประทับลงในจิตวิญญาณของเราซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าจนกระทั่งเรายึดสมมุตินั้นว่าคือความจริง (สมมุติสัจจะ) และต่างก็พยายามแสวงหาสิ่งที่คิดว่าจะก่อให้เกิดความสุขนี้ตามกำลังความสามารถที่มีอยู่ เมื่อสมปรารถนาก็รู้สึกสุข ไม่สมปรารถนาก็เป็นทุกข์ หรือกล่าวได้ว่าความทุกข์มีสาเหตุมาจากความปรารถนาในความสุขนั่นเอง
ผู้ใดก็ตามที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับความวนเวียนซ้ำซากของสุขและทุกข์ ก็ให้ลดความปรารถนาในความสุขลง เมื่อนั้นความทุกข์ก็ลดลงตามลำดับ ประกอบกับการไม่รังเกียจความทุกข์เนื่องจากรู้อยู่ว่าความทุกข์นั้นเป็นความปกติของการที่ยังมีชีวิตอยู่ ดั่งนี้จึงเรียกว่าเป็นผู้ไม่ติดยึด หรืออยู่เหนือสุข และทุกข์
และเมื่อหมดความปรารถนาในความสุขอย่างสิ้นเชิง ก็ไม่มีเหตุที่จะต้องรักความเป็น หรือการมีชีวิตอยู่ (รู้เพียงแต่ว่าการมีชีวิตอยู่นั้น ก็เพียงแค่ยังประโยชน์ให้ผู้อื่นอยู่เท่านั้น) และเมื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ก็เหลือเพียงแค่ความทุกข์ทางกายเท่านั้น ส่วนใจนั้นหาทุกข์ไม่ จึงเป็นเหตุที่ทำให้ท่านไม่กลัวตาย เพราะเมื่อความตายมาถึง ท่านก็จะหมดความทุกข์โดยสมบูรณ์ ทั้งกายและใจ หรือก็คือผู้มีอิสรภาพอันไพบูลย์ ปราศจากเครื่องร้อยรัด หมดความเสพย์ สิ้นความอยาก ที่จะนำพาให้เกิดอีกนิรันดร์
ทัสนะ
Create Date : 12 มกราคม 2554
Last Update : 12 มกราคม 2554 17:56:20 น.
2 comments
Counter : 2177 Pageviews.
Share
Tweet
ขออนุญาติทำความเคารพ และแสดงมุทิตาจิตในธรรมมะของท่านครับ
โดย:
shadee829
วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:06:44 น.
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
โดย:
shadee829
วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:08:11 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
atruthoflife10
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
?
]
ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553
ดับไป....???
Friends' blogs
สู้ตาย85
ไวน์กับสายน้ำ
กัปตันลูกชุบ
พธู
shadee829
Webmaster - BlogGang
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
เกษตร-เกษตรพอเพียง
ศาสนา-พลังจิต
IT-Zone IT
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.