เรื่องของ Fund Flow
แล้วตอนนี้เงินไหลไปไหน???
การที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือปรับตัวลดลงไม่ใช่เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน หรือผลการประกอบการอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากการไหลของเงินในกระแสโลก (Fund Flow) ว่าจะไหลไปในทิศทางใด การเข้าใจสภาวะของตลาดโลก สามารถช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์ถึงกระแสเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดทุนได้เป็นอย่างดี
เมื่อหุ้นตกนักลงทุนอาจมีคำถามในใจคือเงินไหลไปไหน??
การลงทุนในปัจจุบันส่วนมากมีลักษณะเป็น Multi-AssetInvestment คือ นักลงทุนนิยมลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยปกติสินทรัพย์ที่สำคัญ4 ประเภทที่เงินทุนจะไหลไปพักเพื่อทำกำไรคือ 1.หุ้น (Equity) 2. ตราสารหนี้ (Fixed-Income) 3.อัตราแลกเปลี่ยน (Forex) และ 4. สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity)
สินทรัพย์ตัวแรกที่ควรพิจารณาในอันดับต้นๆ คือ ตราสารหนี้ เนื่องจากเป็นตราสารการเงินที่ให้ผลตอบแทนคงที่ และการันตีเงินต้นว่าไม่สูญหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นตราสารหนี้ของรัฐบาล (ตราสารหนี้บางประเภท อาจให้ผลตอบแทนลอยตัวหรือ Link กับเงินเฟ้อหรืออาจมีความเสี่ยงด้านเครดิต เช่น หุ้นกู้เอกชน เป็นต้น) ดังนั้นเมื่อเกิดความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นนักลงทุนมักเลือกที่จะเก็บเงินไว้ในที่ๆ ปลอดภัยและรอจังหวะทิศทางของหุ้นที่แน่นอนเครื่องมือที่ใช้วัดการไหลของเงินไปมาระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ คือ ดัชนีหุ้น (Stock Index) และดัชนีตราสารหนี้ (Bond Index) เช่น Barclays U.S. Aggregate Bond Index เป็นต้น ซึ่งใช้วัดตราสารหนี้โดยรวมของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นหากนักลงทุนมีดัชนี Bond Index ในหลายๆ ประเทศไว้ดู ก็สามารถคาดเดาการไหลของเงินทุนได้ แต่ปัญหาคือ Bond Index มักถูกสร้างโดยสถาบันการเงิน และมีค่าบริการที่สูง จึงไม่เป็นที่แพร่หลายเหมือนดัชนีหุ้นนักลงทุนในต่างประเทศจึงนิยมใช้ตัวแทน (proxy) เป็น Bond ETF แทนโดยเลือกกองทุนที่มีค่า Tracking Error ต่ำ
ลองมาดูทิศทางของ Fund Flow แบบง่ายๆ พิจารณาจากรูปข้างล่าง เป็นข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2556 ที่ผ่านมา
ดูกราฟ World Stock Index ตลาดหุ้นในยุโรปที่สำคัญปิดลบแต่ Bond Index ของยุโรปปิดบวกอย่างมีนัยยะเมื่อเทียบกับ Bond Index ของเอเชีย ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่สำคัญของยุโรป ทำให้เชื่อว่าทิศทางของเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นยุโรปเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ของยุโรป นี่เป็นเทคนิคการดู Fund Flow แบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนที่นำมาฝากในวันนี้ครับ
ปิดท้ายด้วยกราฟของ Thai Baht Base, Asia Stock Index, Commodity Futures และ Yield Curve ให้ดูเล่นๆ ครับ
เมื่อพิจารณาจากกราฟ Thai Baht Base ช่วงนี้ค่าเงินบาทยังแข็งอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าหุ้นไทยยังสามารถขึ้นต่อได้เรื่อยๆ นะครับ แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนิดนึง เพราะอาจมีเซอร์ไพรส์ จากผลกระทบของปัญหาในยุโรปครับ
ที่ //www.facebook.com/SpyWing.net