Darkest Hour ชั่วโมงชี้เป็น บุรุษผู้ชี้ตาย
8/10
สงครามโลกครั้งที่ 2 คือหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของโลกที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์นับครั้งไม่ถ้วน และกับการถ่ายทอดสู่แผ่นฟิล์มครั้งล่าสุด Darkest Hour ของผู้กำกับ Joe Wright แสดงให้เห็นว่าสงครามไม่ใช่แค่เรื่องการรบในสมรภูมิเท่านั้น แต่การชิงไหวชิงพริบทางการเมืองทั้งภายในและระหว่างประเทศก็สำคัญไม่แพ้กัน
Darkest Hour เล่าเรื่องตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิล (Gary Oldman) นายกผู้มีบุคลิกไม่เป็นที่รัก ต้องนำสหราชอาณาจักรในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งประวัติศาสตร์ เลือกระหว่างการเจรจาสันติภาพ หรือจะต่อสู้กองทัพนาซีอย่างสมศักดิ์ศรี โดยเขาอยู่ตรงกลางระหว่างกษัตริย์ พรรคการเมืองที่ไม่เข้าข้างเขา และประชาชนซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าควรบอกข้อเท็จจริงของสงครามครั้งนี้หรือไม่
2 ชั่วโมงของ Darkest Hour ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนัง "ถึง" ทั้งส่วนที่จริงจังและอารมณ์ขัน บทภาพยนตร์เล่าเรื่องการต่อสู้ในสภาพร้อมกับการต่อสู้ในสมรภูมิรบ, ความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับกษัตริย์ตัดสลับกับความสัมพันธ์ของเชอร์ชิลกับภรรยาและเสมียนคู่ใจ และการแสดงถึงบุคลิกผู้นำที่ให้ความสำคัญต่อเสียงของประชาชน ทั้งหมดถูกร้อยเรียงผ่านมุมกล้องแปลกตา ดนตรีประกอบอันลื่นไหล การออกแบบงานสร้างที่สมจริง และการแสดงระดับมืออาชีพของนักแสดงกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะ Gary Oldman ที่ฝีมือการแสดงทะลุทะลวงเมคอัพหนาเตอะกันเลยทีเดียว เขาสร้างวินสตัน เชอร์ชิล ให้เป็น "มนุษย์" เอาแต่ใจแต่ก็อ่อนไหว และมี "เสน่ห์" อย่างน่าประหลาดใจ
ไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ต่างๆ ใน Darkest Hour เป็นข้อเท็จจริง หรือแค่ "ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง" หลายฉากหลายตอนตั้งใจปลุกอารมณ์รักชาติอย่างถึงที่สุด ชวนให้นึกถึงดินแดนด้ามขวานทอง ถ้ามีหนังไทยสร้างจากเหตุการณ์จริงแล้วปลุกอารมณ์รักชาติในแบบที่ Darkest Hour ทำได้ คงจะดีไม่น้อยนะท่านผู้นำ อุ๊ป!
ติดตามรีวิวอื่นๆ ที่ facebook page ตุ๊ดเล่าหนัง
Create Date : 30 มกราคม 2561 |
Last Update : 30 มกราคม 2561 23:03:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 505 Pageviews. |
|
|