อรรถกถาทานสูตร
บทว่า เอตทคฺคํ ตัดบทเป็น เอตํ อคฺคํ แปลว่า (ธรรมทานนี้ เป็นเลิศ) บทว่า ยทิทํ ความว่า บรรดาทานสองอย่างเหล่านี้ ธรรมทาน ที่กล่าวแล้วนี้นั้น เป็นเลิศคือประเสริฐสุด ได้แก่สูงสุด อธิบายว่า บุคคล จะหลุดพ้นจากอนัตถะทั้งปวง คือก้าวล่วงทุกข์ในวัฏฏะทั้งสิ้นได้ ก็เพราะอาศัย ธรรมทาน อันเป็นอุบายเครื่องยังสัตว์ให้ถึงพระนิพพาน. ก็ธรรมทานที่เป็น โลกิยะ เป็นเหตุแห่งทานทุกอย่าง คือเป็นรากเง่าของสมบัติทั้งปวง ด้วย เหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
การให้ทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง รสแห่งพระธรรม ย่อมชนะรสทั้งปวง ความยินดีในธรรม ย่อมชนะความยินดี ทั้งปวง ความสิ้นไปแห่งตัณหา ย่อมชนะ ทุกข์ทั้งปวง ดังนี้.
ในอธิการนี้ อภัยทานพึงทราบว่า ทรงสงเคราะห์เข้ากันด้วยธรรมทาน นั่นเอง การไม่บริโภคปัจจัยทั้งหลายเสียเอง แต่ปัจจัย ๔ อันตนพึงบริโภค แล้วแจกจ่ายแก่คนเหล่าอื่น โดยมีความประสงค์ จะเผื่อแผ่แก่คนทั่วไป ชื่อว่า อามิสสํวิภาโค (แจกจ่ายอามิส) ความเป็นผู้ไม่มีความขวนขวายน้อย แสดง อ้างธรรมที่ตนรู้แล้ว คือบรรลุแล้วแก่คนเหล่าอื่น โดยมีความประสงค์จะ เผื่อแผ่ธรรมแก่คนทั่วไป ชื่อว่า ธมฺมสํวิภาโค (แจกจ่ายธรรม). การ อนุเคราะห์ การสงเคราะห์คนเหล่าอื่น ด้วยปัจจัย ๔ และด้วยสังคหวัตถุ ๔ ชื่อว่า อามิสานุคฺคโห (อนุเคราะห์ด้วยอามิส) การอนุเคราะห์ การสงเคราะห์ คนเหล่าอื่น ด้วยธรรม โดยนัยดังกล่าวแล้วนั่นแหละ ชื่อว่า ธมฺมานุคฺคโห (อนุเคราะห์ด้วยธรรม) คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วทั้งนั้น.
Create Date : 12 กันยายน 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 12 กันยายน 2550 19:48:29 น. |
Counter : 1040 Pageviews. |
|
|
|