ค่ายอันชอกช้ำ....GTH ผมอดสงสารค่ายหนังที่พยายามทำหนังที่คุณภาพอย่าง GTH มากที่สุด... หลังจากที่คุณเก้ง จิระ มะลิกุลกำกับเรื่อง 15 ค่ำเดือน 11 หากจะกล่าวหน้าหนังแล้ว ผมว่าเรื่องนี้สร้างความลึกลับ ได้เป็นอย่างดี อาจจะเพราะโปสเตอร์ดวงไฟที่พวยพุ่งออกจากลำน้ำโขงขึ้นสู่ท้องฟ้าในยามค่ำคืน ดูแล้วมันเหมือนเป็นหน้าหนังสารคดีมากกว่าหนังแนวตลาด เสียอีก... หน้าหนัง แค่คำๆเดียวที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและในด้านลบให้กับหนังเรื่องนั้นๆมากที่สุดในพ.ศ.นี้(และคาดว่าในพ.ศ.หน้าด้วยเช่นกัน) อนึ่ง ถ้าหากฝ่ายการตลาดเหยียบเส้นด้ายแล้วพลาดตกลงเหว...นั่นล่ะครับ หนังจมดิ่งลงก้นแม่น้ำทันที... ปัจจัยอีกเรื่องที่ตอกฝาโลงให้กับหนังดีๆหลายเรื่อง ซึ่งรวมหนังแย่ๆอีกเพียบ นั่นคือ ระบบ 3 วันดี 4 วันไป หรือ 4 วันอันตราย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผกก. นั่งแช่เน่าอยู่ในห้องน้ำ เพราะ 4 วันนี้มันชี้ชะตาว่า อนาคตตัวเองจะเป็นเช่นไป "กรู - จา - ได้ -กำ -กับ - อีก - ไหม - ฟะ -เนี่ย..." ถ้าหากรัฐออก พ.ร.บ. ใหม่ที่เอื้อให้กับหนังแบบเดียวกับที่เกาหลีใต้ทำ ผมเชื่อว่า อนาคตหนังน้ำดี สามารถออกสู้ตลาดกว้างได้แน่... นั่นเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมหนังไทยรอคอย ซึ่งผมคิดว่าชาติหน้าตอนสี่โมงเย็นค่อยว่ากัน อิอิ ถ้าถามว่า หนังแต่ละเรื่องของ GTH หน้าหนังดีไหมถ้านับจากที่รวมตัวกันระหว่าง แกรมมี่ + ไท + หับ ผมเชื่อว่าดีมาก และเชื่อว่าดีกว่าตอนที่คุณเก้งทำที่หับเสียอีก เพียงแต่ยังดีไม่พอ เพราะรสนิยมการดูหนังของคนไทยเปลี่ยนไปแล้ว... อีกทั้งช่วงนี้คนไทยอาจจะเครียดและเครียด..และ ก็เครียด ทำให้หนังแบบเมโลดราม่า คนไทยอาจจะเลี่ยงไปก่อน... ถามว่า ทำไมหนังใหญ่(ที่คล้ายหนังทีวีหรือหนังวีซีดี)อย่าง บอดี้การ์ดฯเอย หลวงพี่เท่งเอย และ มหกรรมส่ายหน้าทั่วฟ้าธานี ที่พากันกวาดรายได้แซงหน้า หนังอย่าง มหาลัย'เหมืองแร่ และ วัยอลวน4...ถึงทำเงินเกิน 100 ล้าน วิเคราะห็ได้อีกอย่างโดยการยึดข้อสันนิฐานข้างบน ได้ว่า 1. คนไทยขี้เกียจหาวและง่วงนอนในโรงหนัง 2. (อาจจะ)เสียดายตังค์ ถ้าหนังมันไม่ช่วยให้จิตใจคนดูสนุกจริง... 3.คนไทยหายโรคจิต ที่ต้องไปดูหนังเร้าน้ำตาแตกแล้ว(กำ ผมดันทะลึ่งพล็อตหนังแนวนี้ และแนวอินดี้อีกต่างหาก) 4. คนไทยส่วนหนึ่ง เสียเงินเพื่อหัวเราะกับมุข 2 มุข...เวง 5. คนไทยชอบดูตลก... หลังจากที่ผมออกทะเลไปนาน ขอว่ายกลับมายังประเด็นของผมต่อ... บางครั้ง GTH ต้องหันมาเอาจริงกับแนวหนังที่หลากหลาย แทนการยึดติดแค่แนวทางเดียวแบบเดิมๆ... ดังเช่นที่เป็นอยู่... แนวแอ็คชั่น ฟัดกันนัวเอย... ตลกเอย... ส่วนหนังผีนั้น ผมเชื่อว่า เป็นแนวทางที่ GTH ทำได้ดี ดูได้จาก ชัตเตอร์ฯ ซึ่งงานต่อไป คือ เรื่องเด็กหอ ทายได้เลยว่าเป็นหนังที่ผ่อนคลายหัวใจคุณเก้ง ให้หายปวดเหมือนดังโดนเข็มแทง จึ๊กๆ... หนังมันก็คล้ายหุ้น คุณเชื่อป่ะ... ผมเชื่อนะ เพราะถ้าหากหนังเรื่องใดมันไม่ทำเงิน คนดูหรือนักช้อนความสนุก จะถอยฉากออกจากหุ้นตัวใหม่(หรือหนังใหม่) เพื่อดูสถานการณ์ แล้วค่อยช้อนอีกทีเมื่อเจอหนังที่ถูกใจ... ต้มยำกุ้ง สะท้อนให้เห็นถึงความอร่อยนั้น ในแง่ของความสนุก ที่สหมงคลได้เสนอหน้าหนัง คือ การต่อสู้ของจา พนม แต่ไม่ใช่เน้นที่บทหนัง... ผมยังศรัทธาบทหนังที่ดีอยู่ครับ และยังรอหนังดีๆของคุณเก้งต่อไป ไม่รู้ว่ายังขายยูสตาร์อยู่หรือเปล่าครับ... กลับมาเหอะครับ กลับมาทำหนังดีๆต่อไป แต่ขออย่างเดียว เอาหลากแนวหน่อยก็ดี... Create Date : 11 สิงหาคม 2548 Last Update : 11 สิงหาคม 2548 15:58:41 น. 1 comments Counter : 916 Pageviews. Share Tweet โดย: ต๊อกแต๊ก IP: 61.91.144.40 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:21:25:01 น.   ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก