Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

CRASH.........หนังดีนะครับ

เรื่อง Chrach รอบเวลา 15.30 น. โรง 6 ที่กาดสวนแก้ว

.... มีคนดูไม่ถึงสิบคน และในนั้นมีคุณพ่อคนหนึ่งพาเด็กผู้หญิง อายุไม่น่าจะถึง 15 ขวบปีมาดูด้วยครับ
ยอมรับว่าตัวหนังดีมากๆ นักแสดงที่เยอะขนาดนั้น ผมก็ไม่ลืมแม้แต่คนเดียว เพราะคาแรกเตอร์มันชัดเจน...
ขอบอกตามตรงว่า ในเรื่องของบทนั้น สามารถพาให้คนดูเดินตามตัวละครแบบไม่มีหยุด ไม่มีสะดุด และลื่นไหล ตัวละครทุกตัวทำได้ดีมากๆ ถ้าถามว่ามีการขโมยซีนกันไหม อันนี้ผมไม่ทราบ รู้เพียงแต่ว่าเล่นกันดีทุกคน...
ผู้กำกับไม่ได้ให้ใครเด่นแบบโดดๆ แต่จะให้เด่นกันทุกคนเลยครับ...

การวางโครงเรื่องทำได้ดีครับ เหมือนเลข 8 ซ้อนกันหลายๆชั้น

ขอหยิบเอาเรื่อง ซุ้มมือปืนมาพูดหน่อย ขอบอกตามตรงว่า ถึงแม้มันจะเป็นคนละแนว แต่การแชร์ตัวละคร มันคล้ายกัน... ทางซุ้มฯอาจจะเสีย ตรงที่ตัวละครไม่มีความเป็นดราม่าที่ชัดเจน แต่ แครช กลับมีครบครัน ทำให้เราตามตัวละครได้ถูกจุด...

หนังว่าด้วยเรื่องของการ ชนกัน หรือ การประทะกันทั้งเรื่อง แค่การเปิดเรื่องก็ได้ใจแล้ว นักสืบผิวดำที่เดินมาดูที่เกิดเหตุ แต่เขาต้องช็อคตาค้าง ซึ่งฉากนี้เราไม่เห็นแม้แต่สิ่งที่นักสืบเห็น ก็คงพอจะเดาได้ว่า นั่นคือสิ่งที่ผูกพันธ์กับเขาอย่างแน่นอน จากนั้นหนังก็พาให้เราไปรู้จักกับตัวละครอีกหลากหลายคนที่วนเวียนในเรื่อง ซึ่งทุกคนมีปมปัญหาแสดงออกมาให้เห็น...
ปัญหาความสัมพันธ์กัน ซึ่งเราจะสัมผัสได้จาก คู่ของแซนดร้า บูลล็อคกับแบรนดอน แฟซเซอร์
วัยรุ่นใจแตก จากดารานักร้องผิวดำและคู่หูที่ดูเหมือนลูกไล่ ที่มีปัญหากับสังคม

จากนั้นหนังก็ให้ทั้งสอง ปล้นรถ จนกลายเป็นปูมเหตุการชนกันอีกหลายๆคู่ต่อมา...

ประเด็นหลัก คือ ว่าด้วยเรื่องของทัศนคติส่วนตัว และเรื่องการเหยียดสีผิว...

+ ทัศนคติ ของตัวละครนั้น พยายามจะไม่เชื่อใครนอกจากคนใกล้ชิด เพราะเป็นเมืองใหญ่ ที่มีหลายพ่อพันธุ์แม่

แม้แต่ การมองคนในแง่ร้ายเกือบจะทุกตัว ยกตัวอย่าง ตัวละครัวหนึ่ง ที่เป็นคนผิวสี(โทษทีครับ จำชื่อไม่ได้ที่แสดงโดยนักร้องเพลงฮิฟฮอฟ หรือแร็พ) ซึ่งเขาคนนี้จะระแวงว่า ทุกคนที่ผิวขาวพยายามเหยียดสีผิวดำ ทุกคนซึ่งไม่เว้นแม้แต่ พนักงานสาวผิวดำที่เห็นเงิน(ของคนขาว)เช่นกัน...

ซึ่งมันก็มีปัญหาเรื่องนี้สำหรับคนขาวเช่นกัน ที่มองคนดำเป็นเพียงคนหน้ากลัว อย่าง...
- แซนด้าร์ บลูล็อค ที่มองคนดำเป็นเพียงคนที่ชอบงัดบ้าน หรือโจร เธอมักจะโวยวายและพร้อมจะลงไปที่แม่บ้านผิวสี...
- แมต ดิลล่อน ที่มองผู้หญิงผิวสีเป็นแค่เครื่องผ่อนคลายความใคร่อันชั่ววูป อันที่จริงแมตมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลผิวสีเช่นกัน เขาเลยมาลงทุกอย่างที่แฟนผู้กำกับ...
แต่กลับกัน สำหรับผู้ที่คิดว่าคนผิวสีไม่ได้ชั่วกันทุกคน ตัวละครของ ไรอัล ฟิลิปเป้ กลับเป็นคนที่อ่อนไหวกับปัญหามากที่สุดในเรื่อง เพราะเขาพยายามที่จะเชื่อว่า คนผิวสีขาว อาจจะชั่วมากกว่าใคร จนเขาขอเปลี่ยนคู่หู จากแมต ดิลล่อนไปเป็นคนอื่น...

ประเด็นหลักๆ...คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจกันครับ ถ้าหากเรายอมหยุดนิ่งสักพัก แล้วลองเชื่อใจตัวเอง และผู้อื่น ทุกสิ่งทุกอย่าง(ในเรื่อง) มันอาจจะมีทางออกที่ดี

ประเด็นต่อมา... คือ เรื่องของ การมีปัญหา ใช่ครับ ในเรื่องทุกคนมีปัญหาเหมือนกันหมด
ซึ่งบางปัญหาเกิดจากการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน แม้แต่คนใกล้ชิด ตรงนี้หนังจะพยายามไม่โฟกัสให้เห็น ซึ่งผมคิดว่าผู้กำกับให้เราเห็นเอง...

ขั้นเวลาเล็กน้อย.... อยู่ๆ ฟิล์มหนังตก ครั้งแรก เป็นประมาณ 5-10 นาที ผมเริ่มรำคาญ รีบออกไปที่ประตูกะจะหาพนักงาน เพื่อให้เขาช่วยบอกคนฉายที แต่หาไม่เจอครับ... กลับมานั่งคนดูหนังฟิล์มตกต่อ.. ฟิล์มตก 2 รอบครับ กำเจงๆ...

ประเด็น...คนดี อาจจะไม่ดีก็ได้ และคนที่ไม่ดีในสายตาใครๆ อาจจะเป็นคนดีที่รักครอบครัว...
ผมชอบเรื่องราวของ พนักงานเปลี่ยนกุญแจ ที่รูปลักษณ์ภายนอกเป็นคนผิวดำ มีรอบสักที่แขน จนโดนแซนดร้า บลูล็อคด่าว่าจนเสียหาย หรือ เจ้าของร้านจากเปอร์เชียที่ระแวงที่ทุกย่างก้าว แต่จริงๆแล้วเขาเป็นเพียงคนผิวดำที่ทำงานสุจริตหาเงินเพื่อย้ายตัวเองและครอบครัวไปอยู่ที่ๆดีกว่า...
ยอมรับว่าผมน้ำตาไหล ในช่วงไคลแมกส์ของตอนนี้ครับ ที่คนเปอร์เชียไปยิงเขา เพราะหวังจะทวงเงินคืน...

ซึ่งหนังก็ยังได้เสนอแง่คิด และวิธีการแก้ปัญหาเช่นกัน หรือแม้กระทั่งบอกให้เราจำต้องลืมปัญหาบางอย่างไปเสีย...

สุดท้าย แม้แต่การเผารถเพื่อทำลายหลักฐานของตำรวจคนหนึ่ง ก็ยังสร้างความอบอุ่นของใครหลายๆคน หนังกำลังจะบอกว่า ความเจ็บปวดบางอย่างก็สามารถรักษาบาดแผลได้เช่นกัน
แต่หนังก็ยังทิ้งความน้ำเน่าให้เรา โดยให้เจ้านักร้องคนนั้นไปปล่อยคนต่างด้าวที่ถูกล่ามโซ่ในรถตู้ ถ้าไม่มีตรงนี้ผมว่าหนังก็โอเคแล้วนะ ให้ตัวละครตัวนี้กลับรถบัส ดีอยู่แล้ว...

แค่นี้ดีกว่าครับ...เขียนบทความไม่เก่ง แต่อยากให้ใครหลายๆคนที่อยู่เชียงใหม่ไปดูหนังดีๆเรื่องนี้นะครับ เพราะคงอยู่ไม่นาน

หนังเต็ม 10 ผมให้ 9 ครับ...
ทุกสิ่งทุกอย่างคงไม่ดี 100 %

ส่วนโรงหนัง 10 ผมให้ 4.5 ครับ...
ซึ่งหักจากระบบที่ยังแย่เหมือนเดิม ถ้าฟิล์มไม่ตก ผมจะให้ 7 ครับ...




 

Create Date : 19 สิงหาคม 2548
1 comments
Last Update : 19 สิงหาคม 2548 19:11:49 น.
Counter : 840 Pageviews.

 

ผมเคยไปดูเรื่อง 'คืนวันพระจันทร์เต็มดวง' ที่ 12 ห้วยแก้ว ด้วยสถิติคนดู 2 คนครับ

วันนั้นลุ้นมาก จำได้ว่าเป็นเย็นวันพฤหัส ผมก็รีบไปดูเพราะกลัวว่าหนังจะออกก่อน ไปถึงเวรล่ะ มีตูคนเดียว

เขาก็บอกว่าอย่างน้อยต้องมีคนดูด้วย ผมก็รอไป สักพักมีใครมารู้มาดูด้วยครับ ก็เลยจำเป็นต้องฉาย (โชคดีไปตู)

เข้าไปในโรง พี่เขาบอกเลือกหนังเอาเลย ตรงไหนก็ได้ มีความรู้สึกว่าเหมือนดูหนังที่บ้านยังไงอย่างนั้น จะเอาเท้าพาดเก้าอี้หน้ายังไงก็ได้ เพราะไม่มีใครเห็น

ผมเคยไปดูวิสต้าไม่กี่ครั้ง (เรื่องสุดท้ายคือ What lie beneath) นู้นแหละครับ แล้วก็ที่ 12 ห้วยแก้ว ดู LOTR:3 สบายดี คนไม่เยอะ เสียงดีด้วย (ทำไมต้องแห่กันไปเมเจอร์ล่ะ)

ผมจบมาสองปีล่ะ ตั้งแต่นั้นมาไม่เคยแวะเวียนไปโรงหนังที่เชียงใหม่เลยครับ

 

โดย: I will see U in the next life. 22 สิงหาคม 2548 13:43:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


KT.luder
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add KT.luder's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.