ใครเคยรักจริงไซร้ต้องได้รัก เมื่อแรกเห็นประจักษ์จับดวงใจ
สวัสดีค่ะพี่น้องพ้องเพื่อนชาวถนนที่รัก
ไม่ได้แวะมาวางกระทู้นานแล้ว เอาแต่แอบอ่าน อ่าน และอ่านเรื่องในถนนอย่างเดียว พอดีฤดูใบไม้ร่วงปีนี้มีโอกาสได้ไปเยือนบ้านเกิดของวิลเลียม เชคสเปียร์ นักประพันธ์ผู้โด่งดังชาวอังกฤษ ได้เห็นเมืองสแตรทฟอร์ดแล้วก็เกิดหลงรัก เป็นรักแรกเห็นที่ทำให้ย้อนนึกถึงบทประพันธ์ของเชคสเปียร์ ทั้งเรื่อง The Merchant of Venice As You Like It และ Romeo and Juliet ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่หกทรงแปลเป็นภาษาไทยในชื่อ เวนิสวาณิช ตามใจท่าน และ โรมิโอกับจูเลียต
คราวนี้เลยถือโอกาสเอาภาพเมืองเล็ก ๆ น่ารัก พร้อมกับคำกลอนที่พอจำได้ว่าเคยอ่านมาฝากกัน แต่ขอเล่าเรื่อยเปื่อยเล่น ๆ ก่อนแล้วกันนะคะ
สแตรทฟอร์ดเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอวอน มีชื่อเสียงเพราะเป็นเมืองเกิดของวิลเลียม เชคสเปียร์ (William Shakespeare) กวีเอกในสมัยควีนเอลิซาเบธ
เชคสเปียร์เกิดวันที่ ๒๓ เดือนเมษายน ปีคริสต์ศักราช ๑๕๖๔ และเสียชีวิตในวันเดียวกันเมื่อปี ๑๖๑๖ เป็นลูกคนที่สามแต่เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัวพ่อค้าในเมืองสแตรทฟอร์ด ชีวประวัติในเบื้องต้นของเขาค่อนข้างคลุมเครือ ทราบเพียงว่าอาจได้รับการศึกษาเบื้องต้นที่ Stratford Grammar School จนกระทั่งอายุสิบแปดปี เชคสเปียร์ได้แต่งงานกับ Anne Hathaway ผู้ซึ่งมีอายุแก่กว่าประมาณแปดปี แต่ภายหลังสมรสเพียงห้าปี เชคสเปียร์ได้เดินทางเข้าไปทำงานที่โรงละคร Globe Theatre ในกรุงลอนดอนและเริ่มมีชื่อเสียงปรากฏต่อสาธารณชนในฐานะกวีเมื่อปีคริสต์ศักราช ๑๕๙๓
บทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงของเชคสเปียร์เช่น Romeo and Juliet, Henry VI, The Merchant of Venice, A Midsummer Night's Dream, All's Well that Ends Well, Henry V, Much Ado about Nothing, As you like it, Twelfth Night, Julius Caesar, Hamlet, Macbeth, Antony and Cleopatra, A Winter's Tale, Henry VIII and The Two Noble Kinsmen.
ภายหลังจากที่เขาเกษียณอายุจากงานเขียนในปี ๑๖๑๑ เชคสเปียร์หวนคืนสู่บ้านเกิดและใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่สแตรทฟอร์ดจนสิ้นอายุขัย ศพของเขาถูกฝังอยู่ที่ Church of Holy Trinity โบสถ์เดียวกับที่เขาเคยเข้าพิธีแบบติสเมื่อแรกเกิด
ในพินัยกรรม เชคสเปียร์ได้ยกเตียงที่ดีที่สุดอันดับสองให้กับภรรยา Anne Hathaway ส่วนเตียงที่ดีที่สุดนั้นนำมาเป็นเตียงสำหรับรับรองแขก เรื่องนี้จึงกลายเป็นข้อกังขาถึงความไม่ลงรอยในชีวิตสมรสของเขา แต่อย่างไรก็ตามทั้งคู่มีบุตรธิดาด้วยกันถึงสามคน คือ Susanna และฝาแฝดชายหญิง Hamnet กับ Judith
นั่งฟังกันเมื่อยแล้ว ไปเดินเที่ยวกันดีกว่ามั้ยค่ะ
Shakespeare's Birthplace บ้านเกิดของเชคสเปียร์ ซึ่งเป็นบ้านดั้งเดิมของพ่อแม่ John & Mary Shakespeare ตั้งอยู่ที่ถนน Henley street ได้รับการสืบทอดผ่านรุ่นลูกหลานจนกระทั่งศตวรรษที่ ๑๙ จึงอยู่ในความดูแลของคณะกรรมการผู้ดูแลทรัพย์สินของเมือง
ตัวบ้านสร้างด้วยไม้โอ๊คและหินสีฟ้า ภายในประดับด้วยเครื่องเรือนสมัยเอลิซาเบธ
นอกจากนี้บริเวณสวนรอบนอกยังตกแต่งด้วยต้นไม้ ไม้ดอก และสมุนไพรที่อ้างไว้ในงานของเชคสเปียร์แทบทั้งสิ้น
ส่วนหนึ่งของบ้านเชคสเปียร์ เขาเอาไม้มาขัดไว้ตรงหน้าต่างทำไมค่ะ ใครทราบช่วยบอกที หรือว่าสมัยก่อนเขาจะกลัวภาษีหน้าต่าง (window tax) หรือเปล่าเอ่ย อันนี้มั่วค่ะ แหะ ๆ
Anne Hathaway's Cottage กระท่อมของ Anne Hathaway ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองสเตรทฟอร์ด เป็นสมบัติของครอบครัว Hathaway ถึงแม้จะเรียกว่ากระท่อมแต่ภายในประกอบด้วยห้องถึงสิบสองห้อง ตัวบ้านสร้างด้วยไม้ หน้าต่างมีลักษณะขัดเป็นฟันปลา และหลังคามุงแฝก (thatched roof) กระท่อมนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่างหนักเมื่อปี ๑๙๖๙ แต่ก็ได้รับการปรับปรุงขึ้นใหม่ภายหลัง บทประพันธ์หลายเรื่องของเชคสเปียร์ได้รับแรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อมแบบชนบทรอบ ๆ กระท่อมหลังนี้
Nash's House บ้านหลังสุดท้ายของเชคสเปียร์ ตั้งอยู่ที่ถนน Chapel Street นับว่าเป็นบ้านที่ใหญ่เป็นอันดับสองในช่วงเวลานั้น ล้อมรอบด้วยสวนไม้ผลไม้ดอก ตัวบ้านมีโครงสร้างแบบศตวรรษที่ ๑๖ ลักษณะ half-timber ภายหลังที่เชคสเปียร์เสียชีวิต บ้านหลังนี้ตกอยู่ในความดูแลของลูกสาวคนโต
ปัจจุบัน Nash's House กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัตศาสตร์ของท้องถิ่นตั้งแต่สมัยผู้บุกเบิกตั้งรกรากริมฝั่งแม่น้ำเอวอน ผ่านยุคโรมันและแองโกลแซกซอน จนถึงสมัยของเชคสเปียร์ นอกจากนี้ภายในยัง เก็บรักษาเครื่องเรือนในสมัย Jacobean และ Tudor
The Swan เป็น galleried theatre ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงโรงละครในสมัยเอลิซาเบธ
*************************************
จริงจริงหนอคนเรานี้มีต่างต่าง ทั้งรูปร่างกิริยาแสนน่าขัน บางคนมีแต่สนุกทุกคืนวัน หัวเราะงันเหมือนนกแก้วแจ้วแจ้วไป บางคนหุบปากไว้ไม่แย้มหัว จำอวดเล่นรอบตัวหาขันไม่ ไม่รู้จักสนทนาฮากับใคร เหมือนเป็นไข้ไม่รู้สร่างไม่วางวาย (เวนิสวาณิช)
*************************************
อันความงามดูตามน้ำหนักชั่ง ดังนี้อัศจรรย์เห็นแน่นักหนา คือสิ่งใดวาววับจับสายตา ทั้งน้ำหนักและราคามักย่อมเยา (เวนิสวาณิช)
ถ้าแม้ไม่ทำดีในแดนดิน จะถวิลถึงสวรรค์นั้นอย่าหา (เวนิสวาณิช)
*************************************
...........ความเอยความรัก เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ หรือเริ่มในสมองตรองจนดี แรกจะเกิดเป็นไฉนใครรู้บ้าง อย่าอำพรางตอบสำนวนให้ควรที่ ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงรตี ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอย.......... (เวนิสวาณิช)
..........ตอบเอยตอบถ้อย เกิดเมื่อเห็นน้องน้อยอย่าสงสัย ตาประสบตารักสมัครไซร้ เหมือนหนึ่งให้อาหารสำราญครัน แต่ถ้าแม้นสายใจไม่สมัคร เหมือนฆ่ารักเสียแต่เกิดย่อมอาสัญ ได้แต่ชวนเพื่อนยามาพร้อมกัน ร้องรำพันสงสารรักหนักหนาเอย.......... (เวนิสวาณิช)
*************************************
อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้ม แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล เป็นกำลังเลิศพลังอื่นทั้งสิ้น เจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระกรุณา ประดุจทรงวราภรณ์สุนทรสวัสดิ์ เรืองจรัสยิ่งมกุฏสุดสง่า พระแสงทรงดำรงซึ่งอาชญา เหนือประชาพสกนิกร (เวนิสวาณิช)
*************************************
ชนใดไม่มีดนตรีการ ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดกบฏอัปลักษณ์ หรืออุบายมุ่งร้ายฉมังนัก มโนหนักมืดมัวเหมือนราตรี และดวงใจย่อมดำสกปรก ราวนรก ชนเช่นกล่าวมานี่ ไม่ควรใครไว้ใจในโลกนี้ เจ้าควรฟังดนตรีเถิดชื่นใจ (เวนิสวาณิช)
*************************************
ทั้งโลกเปรียบเหมือนละครใหญ่ ชายหญิงไซร้เหมือนตัวละครนั่น ต่างมียามเข้าออกอยู่เหมือนกัน คนหนึ่งนั้นยอมเล่นตัวนานา (ตามใจท่าน)
*************************************
เห็นไหมเล่าพวกเราเหล่าสหาย จะเคราะห์ร้ายแต่เราก็หาไม่ ที่ในโรงละครโลกนี้ไซร้ มีเรื่องน่าสลดใจอยู่มากครัน (ตามใจท่าน)
*************************************
จงดูแยบแบบโบราณท่านสอนไว้ ให้กอบกิจโดยไม่นึกประสงค์ ยิ่งบำเพ็ญเจตนาและพะวง ตรงอยู่ที่จะกอปกรณีย์ (ตามใจท่าน)
*************************************
ถึงแม้นายเพชฌฆาตฉกาจร้าย เห็นคนตายจนชินฉะนั้นไซร้ ยามขวานเงื้อเหนือคอนักโทษไว้ ก็ยังขออภัยก่อนฟาดฟัน (ตามใจท่าน)
*************************************
อ้าลมหนาวพัดอ้าวไม่ร้ายสู้ ความชั่วอกตัญญูของคนได้ ถึงพัดต้องกายเย็นไม่เป็นไร เพราะมิได้เคยเห็นเป็นเพื่อนกัน (ตามใจท่าน)
*************************************
ผู้ใดไม่มักใหญ่ใฝ่ทรัพย์สิน ชอบนอนกินกลางแสงตะวันจ้า หาเสบียงพอเลี้ยงอาตมา ได้เท่าใดปรีดาจิตสบาย (ตามใจท่าน)
*************************************
คนโง่ย่อมนึกว่าตนฉลาด แต่คนฉลาดย่อมรู้ว่าตนโง่ (ตามใจท่าน)
*************************************
ใครเคยรักจริงไซร้ต้องได้รัก เมื่อแรกเห็นประจักษ์จับดวงใจ (ตามใจท่าน)
*************************************
นามนั้นสำคัญไฉน ที่เราเรียกว่ากุหลาบนั้น แม้เรียกว่าอย่างอื่น ก็หอมรื่นอยู่เหมือนกัน (โรมิโอกับจูเลียต)
*************************************
Why, such is love's transgression Griefs of mine own lie heavy in my breast, Which thou wilt propagate to have it press'd With more of thine: this love that thou hast shown Doth add more grief to too much of mine own. Love is a smoke rais'd with the fume of sighs; Being purg'd, a fire sparkling in lovers' eyes; Being vex'd, a sea nourish'd with lovers' tears: What is it else? a madness most discreet, A choking gall, and a preserving sweet. (จากบทประพันธ์โรมิโอกับจูเลียต โดย วิลเลี่ยม เชคสเปียร์)
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ ภาพที่เห็น ไม่ได้ถ่ายเอง แต่ยืมเพื่อนมาอีกทีค่ะ ขอบคุณเจ้าของภาพมากค่ะ
จันทร์ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๖
************************************* ภาพประกอบ
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2554652/W2554652.html
Create Date : 27 พฤษภาคม 2549 |
|
5 comments |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 17:54:14 น. |
Counter : 1172 Pageviews. |
|
|
|
มายิ้มคลายเครียดกันน่ะค่ะ