ดินแดน พุทธภูมิ 4 (5 พ.ค. 2550)

อรุณสวัสดิ์กันที่วัดไทยศิริราชคฤห์ ล้อหมุนเวลา ตี 4 อีกแล้ว เหอ เหอ
แต่มีคุณแม่บางท่านตื่นอาบน้ำตั้งแต่ตี 1 แล้วก็พากันตื่น แล้วก็ตื่น ตื่นกันเรื่อยๆ
ก่อนเวลาล้อหมุน 1 ชั่วโมง พวกเราก็พร้อมกันหมดแล้ว
โอ้ยแม่เจ้า เพื่อประโยชน์อันใดน้อ หนูยังง่วงอยู่เลย หื้อ ๆๆๆๆ
กินข้าวต้มกันตอนตีสาม ทานไม่ลงจริงๆ
เดินทางมุ่งหน้า ไปยัง เมืองกุสินารา
ใช้เวลาเดินทางนานทีเดียว เพราะกว่าจะถึงกุสินารา ก็ประมาณบ่ายโมงเกือบบ่ายสองเข้าไปแล้ว
ระหว่างนั้นก็ชมทิวทัศน์สองข้างทาง
ทุ่งนา ป่าไม้ แม่น้ำ ลำธาร สมบูรณ์ทุกอย่าง แม่น้ำที่อินเดียจะกว้าง และมีน้ำเยอะมาก
ว่ากันว่าอินเดียเหมือนผืนดินลอยน้ำ เพราะโอบล้อมด้วยทะเล และผืนดินก็มีน้ำใต้ดินเยอะมาก
ขุดเจาะไม่ลึกเท่าไหร่ก็จะเจอน้ำแล้ว พืชผลทางการเกษตรจึงไม่แล้งน้ำสักเท่าไหร่






กุสินารา เป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน

พระสถูปปรินิพพาน
พระเจ้าอโศกมหาราชโปรดให้สร้างสถูปขนาดใหญ่ขึ้น ณ สถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ภายใต้ต้นสาละทั้งคู่ เมื่อวันเพ็ญวิสาขบูชา โดยสร้างคร่อมพระแท่นปรินิพพานพร้อมด้วยต้นสาละ มีลักษณะทรงบาตรคว่ำ

วิหารปรินิพพาน
วิหารหลังนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าพระสถูป รูปทรงบาตรคว่ำ ภายในมีพระพุทธรูปปางปรินิพพานขนาดใหญ่ เป็นพระประติมากรรมที่เหมือนจริง สวยงามมาก





ได้มีโอกาสเข้าไปกราบไหว้และกล่าวคำบูชา เป็นบทสวดที่ค้นหู และติดปากพวกเราเป็นอย่างดี แต่ไม่รู้เพราะด้วยเหตุใด ในขณะที่ท่องบทสวดมนต์และต่างก็จ้องพระพักตร์พระพุทธรูปกันนั้น พวกเราต่างพากันน้ำตาไหล ประดุจหนึ่งว่า พระองค์กำลังเพิ่งจะดับขันปรินิพพานไปต่อหน้าต่อตาในเวลานั้น และก็ด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มใจที่มีโอกาสมากราบไหว้ บูชาแทบพระบาทของพระพุทธองค์

บทสรรเสริญพระพุทธคุณ
(นำ) องค์ใดพระสัมพุทธ (รับพร้อมกัน) สุวิสุทธสันดาน
ตัดมูลกิเลสมาร บ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมศานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
พร้อมเบญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปทั้งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ข้อขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ
สัมพุทธการุญ- ญ ภาพนั้นนิรันดร (กราบ)

บทสรรเสริญพระธรรมคุณ
(นำ) ธรรมะคือคุณากร
(รับพร้อมกัน) ส่วนชอบสาทร
ดุจดวงประทีปชัชวาล
แห่งองค์พระศาสดาจารย์ ส่องสัตว์สันดาน
สว่างกระจ่างใจมล
ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล
และเก้ากับทั้งนฤพาน
สมญาโลกอุดรพิสดาร อันลึกโอฬาร
พิสุทธิ์พิเศษสุกใส
อีกธรรมต้นทางครรไล นามขนานขานไข
ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง
คือทางดำเนินดุจคลอง ให้ล่วงลุปอง
ยังโลกอุดรโดยตรง
ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์ นบธรรมจำนง
ด้วยจิตและกายวาจา (กราบ)
บทสรรเสริญพระสังฆคุณ
(นำ) สงฆ์ใดสาวกศาสดา
(รับพร้อมกัน) รับปฏิบัติมา
แต่องค์สมเด็จภควันต์
เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร- ลุทางที่อัน
ระงับและดับทุกข์ภัย
โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร ปัญญาผ่องใส
สะอาดและปราศมัวหมอง
เหินห่างทางข้าศึกปอง บ มิลำพอง
ด้วยกายและวาจาใจ
เป็นเนื้อนาบุญอันไพ- ศาลแด่โลกัย
และเกิดพิบูลย์พูนผล
สมญาเอารสทศพล มีคุณอนนต์
เอนกจะนับเหลือตรา
ข้าขอนบหมู่พระศรา พกทรงคุณา-
นุคุณประดุจรำพัน
ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์ พระไตรรัตน์อัน
อุดมดิเรกนิรัติศัย
จงช่วยขจัดโพยภัย อันตรายใดใด
จงดับและกลับเสื่อมสูญ (กราบ)

เป็นครั้งแรก ในชีวิตเราเลยก็ว่าได้ ที่เราตั้งใจสวดมนต์ และรู้สึกปลาบปลื้ม ตื่นตันใจที่สุด
จากที่เคยต้องสวด เพราะครูบังคับให้สวด จากที่เคยต้องสวด เพราะคนอื่นๆเค้าสวดกัน
ไม่เคยทำด้วยใจสักครั้งเดียว



พระอาจารย์นำคณะของเรา ไปต่อกันที่ มกุฎพันธนเจดีย์
เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ
ในขณะที่นั่งฟังคำบรรยาย ถึงสถานที่แห่งนี้ และการแบ่งการแจกพระบรมสารีริกธาตุ
ก็มีกลุ่มชาวพุทธใหม่ที่พากันมากราบไหว้บูชา จนถึงเวลาเดินเวียนรอบมกุฎพันธนเจดีย์แล้วท่องบทสวด อิติปิ โสฯ 3 รอบ (เราจำชื่อพิธีกรรมนี้ไม่ได้ด้วยสิ ขออภัย แหะ แหะ )
กลุ่มชาวพุทธใหม่กลุ่มนี้ก็มาร่วมกับพวกเรา โดยเดินต่อกันเป็นทิวแถวยาว งดงามมากๆ แต่ไม่ได้เก็บรูปมาฝากเพราะอยู่ในพิธีกรรม ได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำ

ก่อนจะถึงที่พัก คือวัดศรีลังกา
แวะทำบุญร่วมสร้างวัดที่ วัดกุสาวดี ซึ่งเป็นวัดที่กำลังสร้างใหม่
เข้าพักกันที่วัดศรีลังกา
มีการจัดการเหมือนโรงแรมเลยนะ แปลกใหม่สำหรับความรู้สึกของเราเลย

Create Date : 19 พฤษภาคม 2550		6 comments
Last Update : 20 พฤษภาคม 2550 9:14:55 น.
Counter : 1029 Pageviews.
Share Tweet