พฤศจิกายน 2567

 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
18
19
20
21
23
24
25
26
27
29
30
 
All Blog
เที่ยวเชียงใหม่ช่วงลอยกระทง 14-15 พย. 2024

    สวัสดีครับ ไม่ได้เขียน blog มาหลายวันเพราะมีภารกิจกับครอบครัวครับ น้องสาวมาเยี่ยมรอบนี้มาหลายวันก็เลยมีโอกาสได้ไปไหนมาไหนบ่อยขึ้นครับ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเชียงใหม่ช่วงเทศกาลลอยกระทงพอดี พวกเราคุยกันว่าจะไปดูงานลอยโคมช่วงค่ำวันที่ 14 พฤศจิกายนดีกว่าไปคืนวันลอยกระทงเพราะว่า "คนเยอะ" แน่นอน แล้วพวกเราก็ไม่ทราบว่าจะมีการปิดถนนช่วงไหนบ้างเพราะต้องการจะไปดูพลุด้วย (มีจุดรึเปล่าก็ค่อยว่ากันอีกที) น้องสาวกับน้องเขยผมขับรถมารับที่เวียงป่าเป้าช่วงเย็นวันที่ 14 ครับ การขับรถมาก็ไม่ได้นานมาก ราวๆ 1 ชม.จากบ้านที่แม่ริมครับ

 


เข้ามาถึงตัวเมืองรถก็เยอะพอสมควรเลย นี่ขนาดยังไม่ใช่วันงานนะเนี่ย
เราขับรถวนช่วงสะพานข้ามแม่น้ำปิง 2-3 สะพาน ก็ตกลงปลงใจหาที่จอดรถแถวๆสะพานนวรัฐแล้วไปเดินหาอะไรกินกันก่อน
เห็นว่าจะมีจุดพลุช่วง 2 ทุ่ม ก็ยังพอมีเวลาอยู่




พวกผมมาแวะร้านนี้กันครับ มีข้าวต้มปลาด้วย!! คุณพ่ออยากกินครับ




คนอื่นสั่งข้าวต้มปลากัน ส่วนผมอยากแหวกแนว...
เลยสั่ง "ข้าวแห้งปู" (85 บาท) มากินครับ
รสชาตประมาณข้าวปูทอดกระเทียมเลย



ฟุตบาทก็คนเพียบครับ นักท่องเที่ยวฝรั่งเยอะเหมือนกัน




แม่ค้าก็มีกระทงมาขายครับ ราคาไม่แพงมาก 20-40 บาท




โคมก็มีหลายแบบนะ ราคาเริ่มต้นที่ 50 บาทครับ



เสียดายที่เป็นโคมกระดาษ ไม่ใช่โคมผ้า ไม่ยังงั้นผมจะซื้อซักคู่ไปแขวนที่บ้านสวยๆครับ




มีคนจุดโคมลอยเป็นระยะๆครับ เห็นว่าไม่แพงมาก 3 โคม 100 บาท




ริมน้ำก็มีคนมาลอยกระทงกันเยอะนะครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นฝรั่ง
เห็นน้องผมว่า คนเชียงใหม่ส่วนใหญ่เขาอยู่บ้านกัน มีออกมาก็เป็นส่วนน้อยครับ




ตรงนี้ผมมายืนกลางสะพานนวรัฐแล้วก็เล็งไปอีกฝั่งนึงครับ
รอจนสองทุ่มกว่า ก็...มีพลุจุดกันเท่านี้
ถามไปถามมา อ่อ...เป็นพลุที่จุดเล่นกันเอง พลุที่เป็นชุดๆเขาจุดกันพรุ่งนี้ครับ

จบข่าว...พวกผมก็เดินกลับไปขึ้นรถ ไปวนประตูท่าแพนิดหน่อย(คนเยอะสุดๆ)แล้วก็กลับบ้านนอน


 
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2024

    เช้าวันนี้ ผมโดนต้าวแมวของน้องสาวทับขาจนเป็นเหน็บแต่เช้า (ตี 4!!) เหมือนโดนปลุกให้ตื่นขึ้นมา แล้วตัวมันก็...ไปปลุกน้องเขยต่อให้เทอาหารเปียกให้ ปล่อยให้ผมนอนงง "ปลุกเราทำไมหนิ?" อยู่แบบนั้น ผมหลับต่อไปได้อีกหน่อยก็โดนปลุกโดยคุณพ่อผมเอง ช่วงราวๆ 6 โมงเช้า "ไปใส่บาตรกันเถอะลูก ได้เวลาแล้ว" แล้วพวกเราก็ออกไปใส่บาตรกัน วันนี้เป็นวันพระใหญ่วัดสามัคคีธรรมที่เป็นวัดขาประจำที่เชียงใหม่ของเรามีงานทำบุญที่วัดตอนเช้า เราก็เลยได้ไปร่วมงานวัดโดยปริยาย ไม่ได้ใส่บาตรในบรรยากาศสงบๆแบบเมื่อก่อน หลังจากใส่บาตรเสร็จก็ได้เวลาออกไปทำบุญอีกครับ คุณพ่อผมตัดกล้วยมา 3 เครือ มะละกออีก 1 กระสอบ หัวปลีอีก 2-3 หัว แล้วก็มีท่อนต้นกล้วยกะว่าจะไปแวะปางช้างด้วย

 
เริ่มกันด้วย..."วัดดอยแม่ปั๋ง" ที่อำเภอพร้าวครับ หนึ่งในวัดที่หลวงปู่แหวนเคยจำพรรษาอยู่




ไปถึงวัดก็ปรากฏว่า วันนี้มีงานทอดกฐินครับ พวกเราก็เลยเนียนไปร่วมงานด้วยเลย




ไปถึงก็สิบโมงกว่า ช้าไปหน่อยเพราะเขาเริ่มเก็บงานกันแล้ว
แต่ก็ยังได้ทำบุญ ถวายผ้าห่ม ธูปเทียนในศาลาครับ




มีโรงทานด้วยครับ นี่คือมื้อเที่ยงวันนี้




บริเวณวัดร่มรื่นมากครับ มีศาลากับทางเดินยื่นออกไปจากเนินเขาด้วย




มองออกไปเห็นทุ่งนากว้างงง บรรยากาศดีสุดๆ (แต่ก็ร้อนไม่เบานะตอนเที่ยงแบบนี้)




เจดีย์หลวงปู่แหวนครับ








สำหรับสายวัดป่าแล้ว วัดนี้เคยเป็นที่พำนักของหลวงปู่หลวงตาหลายองค์เลยครับ
หลวงปู่แหวน
หลวงตามหาบัว
หลวงปู่ตื้อ
หลวงปู่ขาว
หลวงปู่สิม
หลวงปู่หนู





ถัดไปไม่ไกลในบริเวณวัดก็มีเจดีย์หลวงปู่หนูให้้เข้าไปเยี่ยมชมครับ



ทางเดินขึ้นยาวพอสมควรครับ น่าจะราวๆร้อยขั้นได้




ข้างในก็เป็นองค์พระพุทธและองค์หลวงปู่หนูจำลอง






ฝาผนังข้างในมีภาพนูนต่ำที่น่าสนใจด้วย ในหลวง ร.9 ของเราก็เสด็จพระราชดำเนินมาที่นี่บ่อยมาก
เห็นว่า แทบทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินเชียงใหม่ต้องมาที่นี่ (ผมได้ยินมาแบบนี้ครับ)


หลังจากนี้เราก็ขับรถเข้าไปในตัวอำเภอพร้าวกันครับ
คุณพ่อบอกว่า "อำเภอพร้าวเป็นอำเภอเกิดใหม่ อายุไม่มากน่าจะราวๆ 50 กว่าปี
สมัยก่อนที่เคยมา (ถนนยังเป็นดินลูกรังอยู่) มีแต่ป่าครึ้มๆ เดินทางลำบากมาก"



ตกบ่ายก็ต้องหาร้านกาแฟนั่งชิลๆบ้างครับ อิอิ




เมนูวันนี้ ชาไทยนมโอ๊ต(ไม่หวาน) ครับ ราคา 45+15 บาท เปลี่ยนนมวัวเป็นนมโอ๊ตมีจ่ายเพิ่มนิดหน่อย รสชาตดีครับ
มีกาแฟคั่วอ่อนด้วย ผมก็ไม่พลาดที่จะลอง แต่รู้สึกว่าคั่วอ่อนค่อนไปทางกลางๆครับ ไม่อ่อนมาก ติดขมพอสมควร

อำเภอนี้เล็กจริงๆครับ น่าจะเล็กกว่าตำบลแม่ขะจานแถวบ้านผมอีก



ขากลับเข้าเชียงใหม่ก็มีแวะน้ำตกครับ ทางผ่านเข้าเมืองพอดี ไม่ไกลมาก
พอขับรถผ่านป่า ผ่านเขาเข้ามาก็ต้องตกใจครับว่าที่นี่นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมากๆ มีนักท่องเที่ยวไทยราวๆ 5-10% เท่านั้นเอง




น้ำตกที่นี่แบ่งเป็น 4 ชั้น เดินขึ้นได้ มีเชือกให้ไต่ครับ




ทางเดินไม้เรียบๆก็มีให้เดิน ...But we do NOT need it!




ที่นี่มีการจัดการที่ดีมากครับ ขยะเรี่ยราดหรือคนส่งเสียงดัง ตั้งวงกินเหล้าไม่มี ขนาดไม่มีค่าผ่านประตูนะเนี่ย
สถานที่สะอาดสะอ้าน คุณพ่อผมนี่เป็นงง "เราคนไทยยังไม่รู้เลยว่ามีที่เที่ยวแบบนี้"




ต้นไม้ก็สูงใหญ่ ป่าสุดๆครับ
ผมว่าบรรยากาศประมาณนี้กำลังเหมาะสม เป็นตัวอย่างที่ดีของอุทยานไทย




ตัดภาพไปอีกทีก็บ่ายสามกว่าครับ เวลาผ่านไปไวมาก พวกผมก็เลยตกลงว่า "ปางช้างเอาไว้วันหลังนะ"
ก็เลยแวะ "วัดถ้ำบัวตอง" ถวายผลไม้ที่ขนมาแทบทั้งหมดเลยครับ เว้นแค่ท่อนต้นกล้วยที่อาจจะแวะไปให้ปางช้างพรุ่งนี้

วัดนี้มีพระจำพรรษาอยู่รูปเดียวครับ ท่านใจบุญมากรับอุปการะสัตว์ในบริเวณวัดเยอะทีเดียว สุนัข 6 ตัว แมว 5 ตัว ปลา ตะพาบอีกหลายตัว
เห็นว่ามีเจ้าที่เป็นงูจงอางอยู่หลังพระพุทธรูปในถ้ำหน้าวัดด้วยครับ

ท่านว่า "เคยบวช 2 ครั้ง ครั้งแรกบวชกับหลวงพ่อจรัญ ซึ่งฉายานั้นก็ยังใช้ต่อมาตอนบวชครั้งที่ 2 นี้"




ไม่มีแมวในทริปก็เหมือนขาดอะไรไป
น้องมอมตัวนี้เป็นสมาชิกใหม่ของวัดได้แค่อาทิตย์เดียวเอง คนเรา...เอาน้องมาทิ้งได้ลงคอเนอะ 111

พอพวกเรากราบลาท่านเจ้าอาวาสออกมา ก็ได้เวลากลับเชียงรายครับ น้องเขยขับรถยาวๆส่งถึงบ้านเกือบหนึ่งทุ่มก็เป็นอันจบทริปนี้ครับ
พรุ่งนี้น้องผมกับน้องเขยต้องกลับกรุงเทพแล้ว เพราะนัดลูกค้าคุยวันที่ 17 นี้ ก็ขอให้เดินทางปลอดภัยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ครับ หากมีอะไรแนะนำหรือติชมก็ comment ไว้ได้เลยนะครับผมอ่านทุกตัวครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยีน Blog น้องใหม่อย่างผมมากๆครับ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สวัสดีครับ

18



Create Date : 16 พฤศจิกายน 2567
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2567 16:16:44 น.
Counter : 229 Pageviews.

5 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmcayenne94, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปัญญา Dh, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณดอยสะเก็ด

  
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนค่ะ
อนุโมทนาสาธุ ได้ไปทำบุญกับครอบครัวหลายที่
วัดหลวงปู่แหวน ไกลยังไม่เคยไปเลยค่ะ
วัดนั้นน่าจะมีหลวงปู่เปลี่ยนไปจำพรรษา เป็นครูบาอาจารย์อีกรูปที่ยังทันได้กราบองค์จริง

รูปในcloud มีหลายหมื่นค่ะ ถ้ารูปถ่ายตัวเองที่พอดูได้ชอบทุกรูปค่ะ เวลาหาภาพง่ายดีค่ะ วันนี้จะรีบไปดูพลุที่ในเมืองบ้างค่ะ
โดย: mcayenne94 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:18:40:04 น.
  
อากาศน่าจะไม่เย็นมาก
ไม่มีใครใส่เสื้อหนาวเลย

โดย: หอมกร วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:18:45:57 น.
  
ผมอยู่เชียงใหม่ แต่ก็ไม่ได้ไปงานลอยกระทงเลยครับ
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:19:57:00 น.
  
ภารกิจพาคนเที่ยว ก็ได้เที่ยวได้เฮฮากันนะครับ แต่เหนื่อยนิดนึง ลอยกระทงผมไม่ได้ไปร่วมน่าจะกว่าสิบปีแล้วมั้งครับ แต่ก็ติดตามข่าวบรรยากาศความคึกคัก

ดูแล้วครับที่สะอาดสะอ้าน ผมมองว่าเพราะมีถังขยะพร้อมด้วยมั้ง แต่ก็น่าชื่นชมการจัดการของเขาจริงๆ อีกส่วนอาจเป็นเพราะคนไปกันน้อยด้วย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:10:00 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับ

เมื่อคืนไปรับลูกชายตอนเที่ยงคืน
ลูกอยากไปถ่ายภาพงานลอยกระทงครับ
ส่งเสร็จตอนทุ่มครึ่งก็กลับมารอที่บ้าน รถติดหนักมาก

ส่วนตัวผมไม่ค่อยเที่ยวช่วงเทศกาลครับ
เพราะรถติด คนเยอะมาก

วัดดอยแม่ปั๋งเคยไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
สวย สงบครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:5:13:31 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

กะริโตะคุง
Location :
เชียงราย  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชอบปั่นจักรยาน
เที่ยวแถวๆบ้าน (แต่จริงจังนะ)
แวะคาเฟ่ไปเรื่อยๆครับ

เครื่องดื่มที่ชอบ :
Espresso (คั่วอ่อน)
Latte (คั่วกลาง)
ชาไทย (ไม่หวาน)
ชาเขียว (ก็ไม่หวาน)
โกโก้ (ไม่หวาน ขมๆ 90%)
ชาฮ่องกง (Ceylon) ก็ไม่หวานเหมือนกันครับ

ถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกมาตั้งแต่ปี 2014
แต่ฝีมือไม่ค่อยพัฒนาเท่าไหร่ครับ ถ่ายตามใจฉัน
จะพยายามอัพ Blog บ่อยๆครับ
New Comments