เกินกว่าระห่ำ…มันคือ “ระห้ำ” กับที่สุดแห่งภาพยนตร์แอ็คชั่น ที่มากกว่าทุกแอ็คชั่นที่เคยสัมผัส กับภาพยนตร์ “The Raid 2 : ฉะ! ระห้ำเมือง” เพราะไม่เพียงแต่นักแสดงนำและสตั๊นท์แมนเท่านั้น ที่จะทุ่มเทเสี่ยงตายเพื่อฉากแอ็คชั่นมันส์ๆแบบสมจริง เหล่าทีมงานเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็น ผู้กำกับ ผู้กำกับภาพ ตากล้อง ก็พร้อมใจกันเสี่ยงชีวิต เพื่อความระห้ำ แบบเกินขีดระห่ำ อย่างฉากของการต่อสู้ขับรถไล่ล่า ตากล้องของกองถ่าย ต้องทำงานอย่างน่าหวาดเสียว เพื่อที่จะเก็บภาพรถที่พุ่งเข้าชน ได้อย่างเต็มอารมณ์ หวาดเสียวจริง โดยเบื้องหลังรอดไปอย่างหวุดหวิด “แกเร็ธ อีแวนส์” ผู้กำกับภาพยนตร์เล่าถึงฉากนี้ว่า

หลังจากผมบรีฟกับทางทีมงาน นักแสดง และสตั๊นท์แมนแล้ว ผมก็มีสมาธิจดจ่ออยู่กับภาพในมอนิเตอร์ ว่าจะออกมาได้อย่างที่ใจนึกมั้ย ปรากฏว่าภาพที่ได้ออกมา ยอดเยี่ยมสมใจผมมาก มันคือฉากแอ็คชั่นมันส์แบบที่ผมใฝ่ฝันถึง แต่พอผมเห็นภาพเบื้องหลังการถ่ายทำที่ทีมงานเก็บภาพไว้ ผมเพิ่งรู้ว่าเบื้องหลังก็ตื่นเต้น หวาดเสียว ไม่แพ้เบื้องหน้า ผมนับถือและขอบคุณทีมงานทุกคนจริงๆที่ให้ใจกับหนังเรื่องนี้ขนาดนี้”

ถ้าพูดถึงแอ็คชั่นสตาร์ของเอเชียที่เป็นระดับตำนาน หลายคนคงจะนึกถึง บรูซ ลี / เฉินหลง / เจ็ท ลี รวมไปถึง จา พนม ของไทยเรา ล่าสุดวงการแอ็คชั่นของเอเชีย ได้แจ้งเกิดแอ็คชั่นสตาร์คนใหม่ ที่สามารถสร้างชื่อเสียงผงาดไปแล้วทั่วโลก ด้วยฝีไม้ลายมือการแสดงฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ กล้า ลุย พร้อมเสี่ยงตาย มีความสดใหม่และแม่นยำเป็นเอกลักษณ์ เขาก็คือ “อิโก อูไวส์” นักแสดงนำ โดย อิโก อูไวส์ ไม่เพียงแต่จะเป็นนักแสดงเท่านั้น เขายังเป็นผู้ออกแบบคิวบู๊อีกด้วย รวมไปถึงยังเป็นนักกีฬาปันจักสีลัต (กีฬาเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้) โดย อิโก เริ่มเป็นที่รู้จักของคอหนังแอ็คชั่นทั่วโลกจากภาพยนตร์เรื่อง The raid ที่เข้าฉายในปี 2012 ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของหนังแอ็คชั่น เพราะสามารถสร้างชื่อเสียงและกวาดรายได้ไปทั่วโลกกว่า 500 ล้านบาท ถูกนำไปรีเมคเป็นเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดโดยผู้สร้าง The Expendables จากความสำเร็จถล่มทลาย ทำให้ผู้สร้างเดินหน้าสร้างภาค 2 ต่อทันที ด้วยทุนสร้างที่มากกว่าเดิมถึง 5 เท่า การันตีความมันส์ขั้นสุด ทุกคนต่างยกให้ The Raid เป็นหนังที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการหนังแอ็คชั่นในเอเชีย นับตั้งแต่ที่ องค์บาก เคยทำไว้เมื่อทศวรรษที่แล้ว

“อิโก อูไวส์” เปิดใจว่า เฉินหลงคือฮีโร่ของเขา “ผมเติบโตมาโดยมีเฉินหลงเป็นฮีโร่ ถึงแม้เฉินหลงจะมีแนวทางแบบกังฟู และผมจะมีแนวทางแบบกีฬาปันจักสีลัต แต่ผมพยายามทุ่มเท ฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อที่จะสามารถเป็นนักแสดงแอ็คชั่นเอเชีย ที่เป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลกเช่นเดียวกับฮีโร่ของผม ปรากฏการณ์ความสำเร็จของภาพยนตร์ The raid ภาคแรก ทำให้ผมภูมิใจมาก และนั่นเป็นพลังที่จะทำให้ภาคสองนี้ดีขึ้นกว่าเดิม”

ขอบคุณข้อมูล