Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
6 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

แจงแวง อินอเมริกา : ตอนที่ 4 : บิน

แจงแวงไกลบ้าน : ตอนที่ 4 : บิน


5 มีนาคม 48

ฉันตื่นแต่เช้า ไปปฐมนิเทศกับทางโครงการ
แต่ถึงจะตื่นเช้าแค่ไหน..

ฉันก็ไปสายอยู่ดี - -*

เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ให้เซ็นชื่อลงทะเบียน ตามสถานที่ที่เราจะไป
หลายที่ ฉันเห็นชื่อเด็กไทยยาวเป็นหางว่าว ในขณะที่หลายๆที่ ก็มีแค่เพียง 1-2 คนเท่านั้น จนมาถึงหน้าของฉัน นับได้ 6 คน มีมาเซ็นชื่อแล้ว 2 คน

สิ่งแรกที่ฉันแว้บนึกขึ้นมาในใจ นั่นคือ “พวกนี้จะต้องมาเป็นเพื่อนฉันสินะ”
มันเป็นปฏิกิริยาทางความคิดมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าฉันเห็นประกาศหรือรายชื่ออะไรที่ฉันไปร่วมโครงการด้วย ฉันจะรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก

เหมือนโดนพระเจ้าบังคับให้รู้จักกัน - -*

เนื่องจากฉันไปสาย ฉันจึงไม่ได้นั่งกับเพื่อนที่จะไปที่เดียวกัน ได้แต่นั่งแอบๆหลังๆ คอยฟังเรื่องที่เขาพูด

เจ้าหน้าที่แนะนำอะไรดีๆให้หลายอย่าง และพอถึงช่วงเบรก คุณเจ้าหน้าที่ก็ยังปฏิบัติงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยการตะโกนถามหาเพื่อนที่จะไปกับฉันให้ และพาไปนั่งรวมกลุ่มกัน - -*

เพื่อน 2 คน ที่ฉันเจอในวันนั้นเป็นผู้หญิงทั้งคู่ คนหนึ่งชื่อลิ้นจี่และอีกคนชื่อตุ๊ก
ลิ้นจี่นั่งติดกับฉัน ไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก เพียงแต่ฟังและคุยกันแบบเขินๆ

ฉันนี่ก็แปลก บางครั้งฉันก็เบื่อกับการทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ ฉันอึดอัดและไม่มีอารมณ์ จริงแล้วฉันเป็นคนสนิทกับคนยากมาก ถึงแม้ฉันจะสามารถทำความรู้จักได้อย่างง่ายดายขนาดไหนก็ตาม ครั้งนี้ก็เช่นกัน ฉันรู้สึกว่าพระเจ้าบังคับให้ฉันต้องมาเป็นเพื่อน ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเพื่อนด้วยความเป็นเพื่อน - -* ฉันเลยออกจะอิดออดนิดหน่อย ที่จะต้องทำตัวสนิทราวกับรู้จักกันมานานแบบนี้


ฉันยังจำครั้งแรกที่ตุ๊กพูดกับฉันได้ ตุ๊กเป็นผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียว (เตี้ย) - -* มาจากขอนแก่น ตุ๊กหันมายิ้มแบบสดใสมากๆ พร้อมกับแนะนำตัวเองในประโยคแรกว่า
“เราชื่อตุ๊ก”
มันคงจะไม่แปลกอะไร ถ้านับจากวันที่ 2 ที่ฉันเจอตุ๊กอีก ฉันไม่เคยเรียกตุ๊กว่าตุ๊กอีกเลยตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ส่วนฉันเรียกตุ๊กว่าอะไรนั้น ขออุบไว้ก่อนละกัน


ส่วนลิ้นจี่ เป็นผู้หญิงที่ดูออกจะเป็นคนเรียบร้อยมาก ลิ้นจี่เป็นนักศึกษาลูกแม่โดม คณะศิลปศาสตร์ (ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเค้าเรียนอะไรกันในคณะแบบนี้ จนมารู้จักกับลิ้นจี่นี่ล่ะ) ดูจากภายนอก ฉันคิดในใจว่า ฉันคงจะไม่สามารถคุยกับผู้หญิงคนนี้ได้ถูกคอแหงๆ - -* แลดูเป็นคนที่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย แล้วมาเจอโก๊ะๆลุยๆแบบฉันจะคบกันได้รอดไหมนี่...


เราแลกเบอร์โทรศัพท์และอีเมล์กัน เพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่เราก็แลกกันไป อาจจะเป็นเพราะว่าเราต้องไปที่เดียวกันล่ะมั้ง ที่จริงฉันไม่ได้ยี่หระเท่าไหร่ เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องไปด้วยกันและรู้จักกัน(ตามบทของพระเจ้า)อยู่ดี


เราแยกย้ายกันกลับมาบ้าน คนที่ไปด้วยอีก 3 คนไม่ได้มาในวันนั้น..


กำหนดการบินของฉันคือวันที่ 28 มีนาคม 2548
เครื่องออกตอน 4 โมงเย็น (ถ้าฉันจำไม่ผิด)


ระหว่างนั้น ฉันก็ไม่ค่อยวุ่นเท่าไหร่นักหรอก ออกจะเย็นๆใจด้วยซ้ำ
ก็มีเตรียมข้าวของบ้าง แลกเงินบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันทำทุกวันเลย
คือนั่งมองแผนที่และดูเวบไซต์ของรีสอร์ท

ฉันตกหลุมรักภูเขาหิมะนั่นตั้งแต่ฉันเห็นในเวบ ท้องฟ้าสีฟ้าจริงๆ สีฟ้า สีน้ำเงินเข้มสวยสด จนดูเหมือนเป็นของปลอม พื้นทุกที่เป็นสีขาวสะท้อนนัยน์ตา กิ่งไม้แล้งๆ ทำให้ฉันมวนท้องนิดๆเวลาจ้อง เพราะถ้าฉันได้ไปยืนที่นั่น ฉันคงจะยืนมองมันเนิ่นนานแสนนาน .. ฉันคิดว่านะ - -*

ของที่ฉันเอาไป มานึกดูตอนนี้แล้วไม่น่าเชื่อว่าฉันจะยัดหมดนั่นลงกระเป๋าไปได้
มีโอกาสจะสาธยายในคราวหลัง



28 มีนาคม 2548
ฉันจัดของเสร็จตั้งแต่เมื่อคืน กระเป๋าหนักจนฉันไม่คิดว่าฉันจะลากมันไปได้ด้วยตัวคนเดียวแหงๆ น้องสาวช่วยฉันแบกลงมาจากห้อง ฉันเอาไปใบเดียวนี่ล่ะ ขี้เกียจจะดูแล และมีเป้ไปอีกใบ เมื่อตอนนั้นทางสายการบินยังไม่เคี่ยว อุปกรณ์หรืออะไรที่มีน้ำเป็นส่วนผสมยังไม่ได้ถูกกำจัดปริมาณเหมือนตอนนี้ ในเป้ฉันเอาน้ำดื่มไปด้วย (เพราะกลัวไปเหยียบที่โน่นแล้วมันจะแพง – กันไว้ดีกว่าแก้ใช่ไหมล่ะ - -*)

ก่อนจะถึงสนามบิน แม่ น้อง น้าๆ และยาย(ที่บังเอิญมาจากเชียงใหม่มาเที่ยวพอดี )
แวะกินข้าวก่อนที่จะไปส่งฉันที่สนามบิน ทุกคนตื่นเต้นกว่าฉันเสียอีก แหม..ก็เดินทางไกลๆครั้งแรกคนเดียว ก็รู้ว่าทุกคนเป็นห่วง แต่ฉันไม่เห็นตื่นเต้นเลยแฮะ

จนกระทั่ง นั่นล่ะ อยู่ที่สนามบิน ถึงจะเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาบ้าง ฉันไปที่ช่องเช็คอิน จึงได้รู้จักเพื่อนๆอีกทั้ง 3 คนที่ฉันไม่ได้เจอวันปฐมนิเทศ 2 คนมาจากเอแบค เป็นเพื่อนกัน และอีก1คนมาจากธรรมศาสตร์ เป็นผู้หญิงทั้งหมด ทุกคนดูเก่งๆดี ท่าทางมีประสบการณ์ในการเดินทางกันถ้วนหน้า แลดูรวย ยกเว้นฉันนี่ล่ะ เคยแต่แบ็คแพ็คเวียดนาม6-7วัน แค่นั้นล่ะ

มีพี่เจ้าหน้าที่จากโครงการ มาส่งเราที่สนามบิน คอยแนะนำและตรวจเช็คให้และแนะนำจนกระทั่งก่อนเข้าเกท ทุกคนได้รับสติ๊กเกอร์จากสายการบิน แปะที่เสื้อ ประมาณว่าเป็นครั้งแรกที่เดินทางไปอเมริกาแล้วอาจจะเด๋อด๋า ถ้าได้รับเกียรติให้แปะสติ๊กเกอร์นี้ แสดงว่า แอร์โฮสเตทจะดูแลเราอย่างดิบดี

เป็นไปตามคาด 3 คนใหม่ที่ฉันรู้จัก คือ กิ๊บและกุ๊กจากเอแบค คุณตุ่นจากธรรมศาสตร์ ล้วนแต่เคยผ่านการเดินทางมาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นพี่เจ้าหน้าที่เลยให้กุ๊ก (ผู้ซึ่งเคยเดินทางไปออสเตรเลีย) เป็นคนคอยดูแลเพื่อน ที่เหลือประกอบด้วยฉัน ตุ๊ก ลิ้นจี่ ยืนฟังกันเงียบๆสบตากันปริบๆ หลังจากพบปะกันพอรู้จักทุกคนแล้ว ก็แยกย้ายไปอำลาญาติตัวเองก่อนที่จะออกเดินทาง

ฉันมีญาติและเพื่อนเก่ามาส่งอีกหลายคน(ทำยังกะฉันจะไปเป็น10ปี - -*) แอบตื้นตันเล็กๆ คุณแฟนจะมาส่งด้วย แต่จนถึงวินาทีสุดท้าย เค้าก็มาไม่ทัน.....
ฉันแอบเสียใจนิดหน่อย อยากเจอหน้ากันก่อนไป แต่เมื่อถึงเวลาฉันก็ต้องเข้าไปในเกทด้านในแล้ว
จนกระทั่งฉันเดินเข้าไป ต่อคิวที่อิมมิเกรชั่นออกเมืองน่ะล่ะ คุณแฟนก็โทรมาพอดี ว่าถึงแล้ว โหยยยยย ตอนนั้นนี่ตีบทนางเอกกระจุย ฝากของไว้กับเพื่อน แล้ววิ่งออกไปเลย บอกจนท.เฝ้าประตูว่าลืมของ วิ่งออกไปเพื่อที่จะเจอหน้า แค่นั้นล่ะ ไม่ได้จับมือถือแขนหรือกอดอะไรทั้งนั้น แค่วิ่งออกไปลา ยิ้ม แล้วก็บ๊ายบาย..

หันหลังกลับเดินกลับมา น้ำตามันแอบซึมนิดๆ T^T

พอกลับเข้ามาทำใจได้ละ ก็เข้าแถวเข้าช่องตรวจ ที่อิมจะมีถ่ายรูปด้วย ก็ถ่ายอมยิ้มนิดๆพอน่ารัก ก่อนที่จะเดินเข้าไปรอขึ้นเครื่อง

พอเข้าไปในนั้น ฉันก็ยังไม่ได้คุยกับเพื่อนๆเท่าไร ทั้งเขินและอึดอัดนิดๆ กับการรู้จักกันแบบเกร็งๆ เลยยังไม่ได้คุยกับใครเป็นพิเศษ แต่ก็คุยกันแบบเขินๆนิดตามประสา

เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องพวกเราก็ขึ้นไปนั่งประจำที่ ฉันได้นั่งติดกับลิ้นจี่ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เราได้คุยกันมากมาย
แต่มันหลังจากนี้นะ ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก

เครื่องทะยานสู่ฟ้า มุ่งหน้ายังไทเปเพื่อเปลี่ยนเครื่อง
ตอนนั้นล่ะ ที่ฉันรู้สึกว่า ฉันตื่นเต้นมากๆจริงๆเสียแล้วล่ะ




 

Create Date : 06 เมษายน 2551
6 comments
Last Update : 20 เมษายน 2551 18:11:03 น.
Counter : 886 Pageviews.

 

 

โดย: CrackyDong 6 เมษายน 2551 16:28:44 น.  

 

ลงรูปเพื่อนด้วยสิจะได้อ่านแล้วอิน

 

โดย: kirofsky 14 เมษายน 2551 9:24:27 น.  

 

ย้อนอดูตนะเนี่ย มีคุณแฟนมาส่งด้วย กี๊ซๆๆๆ

 

โดย: เข็มขัดสั้น 14 เมษายน 2551 13:09:53 น.  

 

"แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันทำทุกวันเลย
คือนั่งมองแผนที่และดูเวบไซต์ของรีสอร์ท"

เค้าเรียกตื่นเต้นป่ะคะ

 

โดย: *~LiTtlE SpAce~* 16 เมษายน 2551 1:58:49 น.  

 

เมื่อไหร่จะมาต่อตอนต่อไปค๊า
รออ่านอยู่ค่ะ.....

 

โดย: amp IP: 222.123.26.214 19 มิถุนายน 2551 22:38:06 น.  

 

ติดตามอยู่นะ๊ค๊าาา

เมื่อไรจะมาต่อนะ

อยากรู้ว่าไปทำงานแล้วจะสนุกแค่ไหนน้อออ

 

โดย: Monsavenda (Qda-TG ) 2 มิถุนายน 2552 6:33:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สะบะละเฮ่ยแจงแวง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




^ - ^

..Welcome to Super Rainnie's World..

มีคนมาดูบลอกเกินสองหมื่นละ

ดีใจยังไงไม่รู้ T^T



แจงแวงอ่ะนะ

ก็เป็นคน ฉลาด ใจดี ขี้งก ตลกเฮฮา
สะระเยอะ เคอะเขิน ขี้อาย
ร้องไห้ง่าย ใจแข็ง - -*


เป็นผู้หญิงไม่เท่ - -*

ไม่เรื่องมาก

ไม่ง๊องแง๊ง ไม่งี่เง่า - -*

มีสิ่งเฝ้าฝันอยู่อย่างเดียวคือเที่ยวรอบโลก ^^~


เป็นผู้หญิงที่หาความสุข
เล็กๆน้อยๆในชีวิต ได้ง่ายมาก
เช่น กินโกโก้ร้อนแก้วนึง
กะ ฟังเพลง Owner of my heart ทุกเช้า
ก็สุขแล้ว


เย่ๆๆ




^^~

Friends' blogs
[Add สะบะละเฮ่ยแจงแวง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.