Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
แจงแวง อินอเมริกา : ตอนที่ 1 : ไปก็ไป กลัวอะไรวัยรุ่น..

แจงแวงไกลบ้าน : ตอนที่ 1 : ไปก็ไป กลัวอะไรวัยรุ่น..


เนื่องด้วยช่วงนี้เหมือนจะว่างๆ - -*
และโปรเจคนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่แวงอยากเขียน เขียนเพื่อถ่ายทอดให้คนอื่น
ได้เข้ามาอ่าน และเขียนเพื่อให้ตัวเองได้ระลึกถึงช่วงที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต
ดังนั้น บล็อกนี้จะเป็นอะไรที่เป็นชีวิตส่วนตัวส่วนหนึ่งมากๆ
(แล้วไอบล็อกอื่นมันไม่ส่วนตัวเรอะ -*-) 555+ น่ะแหล่ะ
เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องเล่า ที่มีสาระน้อยนิด
แต่มีความหมายใหญ่หลวงของชีวิตแวงเลยทีเดียวเชียว
ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าที่เข้ามาอ่านก่อนเลยจ่ะ ^^~

เรื่องทั้งหมดต่อไปนี้ จะเป็นเรื่องตอนที่แวงได้มีโอกาส
ไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยโครงการ work and travel
เมื่อปี 2005 ตอนนั้น มันเป็นอะไรที่แวงไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต
และคิดแค่อย่างเดียวว่า กรูจะไปเก็บเงิน - -* ..........
แต่หลังจากที่กลับมาแล้ว มันไม่ใช่แค่นั้นเลย
แวงได้อะไรที่มีค่ามากกว่าเงินมากๆ
ซึ่งแวงคงหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้วในชีวิตนี้ …

แวงจะแทนตัวเองว่า ฉัน -*- อาจจะดูแปลกๆ
แต่แวงว่ามันจะได้อ่านแล้วสละสลวย ไม่ขัดดีนะ

**********************************************


แทบจะสวนคำตอบกลับไปไม่ทัน เมื่อเพื่อนสนิทที่รักถามฉันว่า
“ไปทำงานที่อเมริกาไหมมึง” หน้าพยักไปก่อนที่ปากจะอ้าเสียอีก
ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องทำอะไร แบบไหน ยังไง และทำไม
“มันมีโครงการเว่ย เพื่อนชั้นไปมาปีที่แล้ว ได้เงินกลับมาอู้ฟู่เลย
ไม่โดนหลอกด้วย เอามะ งั้นไปสมัครกันเลยเสาร์นี้”
เพื่อนสนิทยังคงสาธยายเจื้อยแจ้วต่อ ดวงตาเปล่งประกายมีความหวังวิบวับ


หลังจากคุยกับมันเสร็จ ฉันก็ไม่เป็นอันกินอันนอน
เนื่องจากมัวแต่นั่งเพ้อฝัน ฮู้ยยย...... ถ้ากรูได้ไปนะ จะทำอะไรก่อนดีวะ
จะกรี๊ดหรือว่าจะเอานิ้วแตะดินก่อนดี แล้วจะได้ไปดูเทพีเสรีภาพไหม
แล้วจะได้ไปดิสนีย์แลนด์ไหม แล้วจะ .... แล้วจะ..... แล้วจะ......ไหม....


วันเสาร์มาถึงเร็วกว่าที่คิด ฉันไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรเลย
แค่เพียงแต่ตามเพื่อนไปเท่านั้น มันบอกว่า มีค่าสมัคร 400 บาท
เอกสารชีวิตอีกนิดหน่อยที่พึงมีในการเป็นหลักฐานประกอบ
แล้วต้องสอบสัมภาษณ์ด้วยนะมึง แต่เพื่อน(ที่เคยไปมาแล้ว)
บอกว่าไม่อยากหรอก ชิวๆมึง ถามอะไรก็ตอบไป


เมื่อไปถึงที่สำนักงาน คนเยอะมหาศาลมาก ฉันตกใจรุ้สึกว่า
เฮ้ยย ทำไมคนมันเยอะแยะขนาดนี้ นี่ไปกันหมดทั้งมหาวิทยาลัยหรือไงนะ - -*
สำนักงานมีรูปของพวกที่เคยไปมาก่อนแล้ว ถ่ายนั่นถ่ายนี่มาให้ดูอย่างน่าอิจฉา
อดฝันไม่ได้อีกแล้วว ฮึ่มม คอยดูกรูมั่งละกันเว่ย ปีหน้า - -*
จะมาเสนอหน้าให้สลอนเชียว..


ใบสมัครอยู่ตรงหน้า มีประมาณ 4 หน้าได้
ทุกคำเป็นภาษาอังกฤษ ฉันพลิกดูหน้าหลังๆแล้วแอบอึ้ง
ที่เห็นว่ามันมีให้ตอบคำถามเป็นบรรทัดยาวๆด้วย - -* เวรกรรม
ยาวไปป่ะเนี่ย แล้วจะตอบได้ไหมกรู แกรมม่าเท่าหางอึ่ง
ถึงแม้จะเรียนโรงเรียนคริสต์มาเมื่อ ม.ต้นก็เหอะ
แต่มันก็ไม่ได้ใช้อะไรที่เป็นทางการขนาดนี้มานานแล้ว ถนัดแต่จ๊ะจ๋า - -*


งมๆดำๆอยู่เป็นชั่วโมง ฉันเขียนประวัติส่วนตัว
กรอกรายละเอียดทุกอย่างเท่าที่จะบรรยายให้ใครคนหนึ่งรู้จักชีวิตฉันได้
ไปค่อนชีวิต และในช่วงที่ตอบคำถาม ฉันก็ได้ตระหนักถึงน้ำใจของเพื่อนเลิฟ
ที่คบกันมา โอ้วว ขอบใจมากที่แปลและคิดให้กรูเป็นภาษาอังกฤษนะพลอย
คบเด็กคอนแวนต์ไว้ไม่เสียหลายจริงๆ

เมื่อฉันไปยื่นใบสมัครและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว
พี่เจ้าหน้าที่ได้บอกว่า ...น้องได้คิวสัมภาษณ์สัปดาห์หน้านะคะ
ไม่ยากค่ะ เป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษของน้องเอง
เพื่อที่จะได้รู้ว่ามีความสามารถในการสื่อสารขั้นไหนค่ะ”


ฉันได้แต่ตบปากรับคำ ถึงแม้ในใจจะว้าวุ่น เวรและกรู -*-
ถึงจะถนัดจ๊ะจ๋า แต่มาแบบนี้ก็ไม่เคยเฟ่ย ทำยังไงเล่า T^T


วันเสาร์ต่อมา มาถึงเร็วกว่าที่จะตั้งตัว
ฉันนัดเจอกับเพื่อนคนเดิม และมันก็มีคิวสัมภาษณ์ก่อนฉันแค่นิดเดียว
เมื่อเจอหน้ากันก็ไม่มีเวลาจะมาประสาทกิน ได้แต่ให้กำลังใจ
และพูดปลอบใจว่า อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด - -* ไม่เครียดนะมึง


ฉันไม่มีโอกาสที่จะพูดคุยกับเพื่อนสนิท
ที่มันเข้าไปก่อนฉัน ในกลุ่มก่อนหน้านี้ เพราะตอนที่มันออกมา
ฉันก็โดนเรียกเข้าไปแล้ว


ฉันนั่งลงพร้อมๆกับเพื่อนๆอายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีก 4 คน
ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตากรอกเอกสารอีก 1 ชุด
เพื่อที่จะยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่ทำการสัมภาษณ์
ฉันแทบจะจำไม่ได้ ว่าฉันเขียนอะไรไปบ้าง เพราะมัวแต่ตกใจ
ในท่าทางอันมาดมั่นของผู้ร่วมสัมภาษณ์ทั้ง 4 คนที่เหลือ -*-
คิดในใจว่า มันมาแข่งอคาเดมีแฟนทาเซียเหรอฟระ
แต่ละคนกรอกๆ กรอกๆ และกรอกๆ แต่งตัวมาหยั่งกับ
จะเข้าแข่งประกวดอะไรซักอย่าง ท่าทางมั่นใจว่าภาษาอังกฤษของชั้นนี้
ไม่เป็นรองใคร
แล้วหันกลับมามองตัวเอง - -* เสื้อยืด กางเกง รองเท้าผ้าใบเก่าๆขาดๆ -*-
แถมไม่มีการเตรียมคำตอบ ท่องขมุบขมิบหรืออะไรใดๆทั้งสิ้นอีกต่างหาก




รอดไหมนี่กรู -*-





เมื่อกรอกเสร็จ เราขึ้นไปที่ชั้น 2 ไม่มีใครพูดกับใคร
บรรยากาศตึงเครียดประหนึ่งลุ้นยิงประตูลูกโทษฟุตบอลโลกปี 1994
เมื่อทุกคนเครียด ฉันก็อดจะเครียดตามไม่ได้ เริ่มกังวล ว้าวุ่น และพะวง
ตกลงกรูจะต้องสอบสัมภาษณ์แบบไหนวะ - -*


ยังไม่ทันจะต้องเครียดมากไปกว่านั้น
รู้ตัวอีกทีฉันก็นั่งต่อหน้าผู้ชายคนที่สัมภาษณ์แล้ว ช่างมัน ช่างแห้ว
แล้วโว๊ยย - -* เดี๋ยวก็รู้



4 ข้อแรกเป็นคำถามง่ายๆ ที่ฉันพอจะตอบได้
แม้จะตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ฉันก็อาศัยครูพักลักจำ
จากเพื่อนๆที่นั่งอยู่ด้วยกัน (คือเงี่ยหูฟังเขาตอบ
แล้วก็มาประยุกต์เป็นคำตอบของตัวเอง ฮี่ๆ)

และในที่สุด.....สิ่งที่ฉันรุมๆกลุ้มๆก็มาถึง

เพราะในข้อสุดท้ายมันก็ต้องเป็นฉันที่ตอบคนแรกน่ะสิ -*-
เวรกรรม ขอให้อย่ายากเลย....



“What do you think will be your most challenge in this program?”



"..........................."




-*- ฉันถึงกับอึ้ง นิ่ง และเงียบ สมองตอนนั้นว่างเปล่า ขาวโพลนไปหมด
และสิ่งที่ฉันนึกได้อย่างแรกในสมอง คือ รถแข่งและปีนหน้าผา



5 วินาทีต่อมา คำถามเกิดขึ้นในหัวมากมาย อะไรวะ อะไรวะ
อะไรชาเลนจ์ๆ
แปลว่าอะไรล่ะน่ะ นึกสินึก เคยได้ยินที่ไหนนะ
อ๋อ...ชาเลนเจอร์ฮอล์ที่อิมแพคไง นั่นล่ะ มีในรถแข่งด้วย
รถแข่งน่ะ รถแข่ง ชาเล้นจ์ๆ กลางปีๆ -*- (กรังซ์ปรีด์)
วอล์คแรลลี่ไง อ่าวแล้วมันหมายความว่ายังไงล่ะวะ -*-

ฮือออออออ
แปลว่าอะไร ชั้นจะตอบว่าอะไร ฮืออคุณครูคะ หนูขอโทษที่ขี้เกียจท่องศัพท์



“What do you think will be your most challenge in this program?”





ง่ะ ...........



“Money”




หลุดปากไปแล้ว -*- อะไรก็ไม่รู้แต่ตอบไปแล้ว
ช่างมัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด...



“What do you mean… money??”



จะเน้นเสียงสูงทำไมฮึ -*- จะถามต่อทำไมฮึ
แล้วฉันจะตอบอะไรล่ะทีนี้
ในใจหนึ่งคิดว่า อยู่บ้านช่วยแม่ทำงานเฉยๆก็ได้ ฮ่วยย



“Because I need it - -*”




จบกันกรู ...... โง่ที่สุดในโลก คำตอบนั่นมันอะไรล่ะน่ะ



ฉันสบตาพี่เจ้าหน้าที่และตอบคำถามอย่าง(ทำท่า) ว่ามั่นใจ...
และทิ้งคำพูดในสายตานั้นว่า..

“That’s it” …….พอได้แระ ไม่ต้องถามอีกแล้วเฟ้ย - -*


เขาไม่ได้ถามอะไรฉันอีก ได้แต่กรอกอะไรขยุกขยิกลง
ไปในเอกสารที่ฉันเขียนไว้ตอนแรก และหันไปถามคนอื่นๆ
ที่พร้อมใจจะตอบกันยาวเหยียดเป็นหางว่าว

ฉันก้มหน้างุด คิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่ได้โง่เว่ย
แค่ไม่รู้เท่านั้นเอง -*- คนเรารู้ทุกอย่างบนโลก ก็ไม่มีคนที่ไม่รู้น่ะสิ


เมื่อเดินออกมา เจอหน้าเพื่อน ฉันแค่ชวนมันไปหาอะไรกิน
และนั่งเพ้อต่อไป..ว่าจะอะไรแบบไหนยังไง พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า
จะมีการสัมภาษณ์จ็อบ แฟร์ และเลือกตำแหน่งงาน ในอีก 2 สัปดาห์
ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม


ฉันไม่ได้คิดอะไรเหมือนเดิม ใน 2 สัปดาห์ระหว่างนั้น
ไม่เตรียมตัว พร้อมเข้ารบเหมือน 4 คนที่เจอกันตอนสัมภาษณ์รอบแรก
ไม่คิดวิตกจริตว้าวุ่น ว่าจะทำอะไรแบบไหน
ฉันแค่พยายามหาหนังฝรั่งมาดู จะได้ฟังผ่านหูให้ชินสำเนียง
และที่สำคัญ ฉันรู้ความหมายของคำว่า challenge
และจำขึ้นใจว่า มันหมายความว่าอะไรมาจนถึงบัดนี้....






คิดมากไปก็เท่านั้น...คนมันจะได้ไป มันก็ได้ไปเองล่ะน่า...........




to be continued



Create Date : 18 ธันวาคม 2550
Last Update : 20 เมษายน 2551 18:11:49 น. 8 comments
Counter : 471 Pageviews.

 
โห - -*

คนเข้ามาอ่านเพียบเลย

-*-

แต่ไม่มีเม้นเลย แอบอ่านกันเรอะ - -*



โดย: สะบะละเฮ่ยแจงแวง วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:19:19:07 น.  

 


5555 จริงใจมากๆ...

“Because I need it - -*”


โดย: Watashi mo วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:20:24:18 น.  

 


คนเรามักจะลืมไปว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น

มิได้มาจากการที่เราพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้รับในสิ่งที่เรา "ไม่มี"

แต่เกิดจากการที่ยอมรับ และ พึงพอใจกับสิ่งที่เรา "มีอยู่" ต่างหาก


แวะมาหาด้วยความคิดถึง และ ห่วงใย


โดย: ~ เจ๊ล่ะเบื่อ!!!! ~ วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:11:01:05 น.  

 
ดีจ้าแจงแวง

มาฟังคนบ่นๆ น่ะ ยังไงก็ขอให้โชคดีหละ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราทำดีที่สุดแล้วหละ เพราะมันได้ผ่านไปแล้ว ทุกคำตอบจ้า

ขอบคุณนะที่ไปทักทายให้กำลังใจกันค่ะ


โดย: วีดวาด วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:12:44:51 น.  

 


โดย: กรุณาใช้บริการช่องถัดไป วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:22:33:43 น.  

 
หุหุหุ


โดย: ก้อนหินน้อย IP: 58.10.93.206 วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:23:41:35 น.  

 
คิดว่าจะเป็นเรื่องที่มันส์กว่านี้


โดย: สบู่ IP: 202.44.70.55 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:10:17 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ เขียนสนุ๊กสนุก
แอมป์ก็เคยไปwork ค่ะ
แต่หลังพี่หลายปีดีดักค่ะ
ยังไงจะแวะมาบ่อยๆนะคะ


โดย: amp IP: 222.123.26.214 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:22:15:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สะบะละเฮ่ยแจงแวง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




^ - ^

..Welcome to Super Rainnie's World..

มีคนมาดูบลอกเกินสองหมื่นละ

ดีใจยังไงไม่รู้ T^T



แจงแวงอ่ะนะ

ก็เป็นคน ฉลาด ใจดี ขี้งก ตลกเฮฮา
สะระเยอะ เคอะเขิน ขี้อาย
ร้องไห้ง่าย ใจแข็ง - -*


เป็นผู้หญิงไม่เท่ - -*

ไม่เรื่องมาก

ไม่ง๊องแง๊ง ไม่งี่เง่า - -*

มีสิ่งเฝ้าฝันอยู่อย่างเดียวคือเที่ยวรอบโลก ^^~


เป็นผู้หญิงที่หาความสุข
เล็กๆน้อยๆในชีวิต ได้ง่ายมาก
เช่น กินโกโก้ร้อนแก้วนึง
กะ ฟังเพลง Owner of my heart ทุกเช้า
ก็สุขแล้ว


เย่ๆๆ




^^~

Friends' blogs
[Add สะบะละเฮ่ยแจงแวง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.