มาเก๊า-ฮ่องกง เราสบาย2.1
ตอนที่สองของมาเก๊า-ฮ่องกง เราสบาย เที่ยวไทยในฮ่องกง

หลังจากที่หลับอย่างสบายในเบาะกำมะหยี่ ประมาณสองชั่วโมงรู้สึกตัวตื่นเมื่อได้ยินเสียงดังเอะอะ พร้อมภาพด้านข้างที่เห็นเรือจอดอยู่หลายลำ ถึงแล้วฮ่องกง จากนั้นก็ลงจากเรือ ผ่าน ตม ขึ้นบก โห!!!!! ท่าเรือเป็นห้างสรรพสินค้าด้วยดีจริงสะดวกดีจริง อีกทั้งด้านล่างยังเป็นสถานีรถไฟใต้ดินด้วย สมแล้ววที่คนมาเที่ยวเยอะเพราะเดินทางสะดวก เลยวางแผนเดินทางล่วงหน้าได้สบาย อย่างที่บอกเดินจาก ตม ออกมาเจอห้าง คนเดินขวักไขว่ แต่มีคนมองกล้องคนนึง 5555 หูตาไวจริง



บรรยากาศในรถไฟ ต้องถึงขนาดกางแผนที่เลย ดีนะไม่วางบนพื้น ที่เพื่อนต้องกางเพราะมันมีรถไฟหลายสีหลายสาย เลยต้องดูว่าเราต้องขึ้นสายไหนต่อสายไหน ไม่เหมือนบ้านเรามีสองสาย รวมทั้งป้ายบอกสถานีก็เป็นแบบเคลื่อนไหว (ไม่ใช่บ้านเรา เป็นแผ่นกระดานเลยสถานียังไม่รู้เลยนึกว่ายังไม่ถึง คนหูหนวกตาบอกขึ้นไม่ได้นะรถไฟฟ้าบ้านเรา) ตอนก่อนขึ้นเราซื้อบัตรหมึกสาย(Octopus) ด้วย ซื้อแบบเติมเงิน ไปไหนมาไหนสะดวก

href="//www.bloggang.com/data/s/step39/picture/1291109473.jpg" target=_blank>


ถึงแล้วที่พัก เราพักอยู่ย่านมงคล(Mong kok) ไม่รู้เหมือนกันทำไมเลือกที่นี่เพราะเพื่อนหาและจอง เดินวนอยู่เกีอบชั่วโมงก็เจอที่พัก ถ้าไม่เดินวนเดินตรง ๆ ถึงนานแล้ว ถ้าจำไม่ผิดออกประตู 3 เดินข้ามถนน แล้วเลี้ยวซ้ายแยกหน้าก็เจอโรงแรมมังกร (Dragon Hotel) ซื่อมันบอกว่าเป็นโรงแรมแต่ด้านในมันเป็นตึกที่แบ่งย่อยหลายหลายห้อง แต่ละชั้นก็มีเจ้าของของใครของมัน สรุปบ้านเราดีกว่าเรื่องที่พัก แต่ไม่เป็นไรเอาไว้อาบน้ำกับนอนห้าหกชั่วโมงเท่านั้น



พอเช็คอินเสร็จออกมากินข้าวเที่ยงตอนบ่ายสอง ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ข้างนอกถ้าสองคนนี้ไม่บังก็ก็น่ากินมากนะ ส่วนรถชาดบรรยากาศจีน จริงๆ จืดสนิทกับดังสนั่น


จากนั้นเราเริ่มเดินทางตามที่วางแผนเดินทางไว้ เริ่มแรก วัด หวัง ว่า สิ้น(Wong Tai Sin) วัดนี้เป็นวัดยอดนิยมด้านหน้าคนน้อยเหมือนเราก็สบายแล้ว บรรยากาศเป็นวัดจีนเหมือนในไทยแหละ ส่วนด้านในไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพื่อนหญิงไฮโซผู้รักโชคชะตา กำหนดเส้นทางเดินให้เรามาวัดนี้เป็นที่แรกเพราะต้องการเสี่ยง เซียมซี อันโด่งดังและแม่นยำนัก จำได้ผมเคยขัดว่าที่ไทยก็มีต้องบินไปถึงฮ่องกงเลยเหรอ เพื่อนรวมเสียง กันว่า มันไม่เหมือนกัน มันไม่ได้อารมณ์เหมือนมาไม่ถึง มันเป็น บลาบลาบลา คือพูดง่ายๆ จะมาเสี่ยงใครจะทำไม พามาแล้วจะบ่นไร นี่เป็นครั้งที่หนึ่งนะกับคำว่า มันไม่ได้อารมณ์เหมือนมาไม่ถึง งั้นก็ได้ มีเหตุผลกันทุกคน พวกผมก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยจนถึง ตึกที่เค้าเสี่ยงเซียมซี รู้ได้ไงแค่เห็นเอง ตอบเลยเสียงคนเขย่าดังลั่นขนาดนี้หูหนวกถึงไม่ได้ยิน ด้านหน้าเป็นเตาขนาดใหญ่เอาไว้เผาธูปกับใบเซียมซีที่ไม่ดี เอาแล้วไงเพื่ทรายไปนั่งเขย่าอย่างเมามันหล่นเป็นสิบ เลือกเอาจากที่หล่นมาหนึ่ง จำไว้ในใจ คนที่แอมเข้าไปต่อ ผมและแต็กตามหลัง ได้มาคนละอัน ผมกับทรายได้ใบเดียวกัน พอเอาเบอร์ไปให้เท่านั้นแหละอึ้ง มีแต่ภาษาจีน แล้วมันดีไม่ดีจะรู้ได้ไง เจ้าหน้าที่แนะนำว่าด้านล่างมีแปล เราก็เดินลงไปตามหา เมื่อเจอได้ใจความว่า ใบละ 20 เหรียญ โหแพง เลยตัดสินใจไม่เอา เพื่อนผมรู้อีกว่ามันมีคำแปลในเว็ป ผมอึ้ง แล้วต้องเอาใบเซียมซีที่ไม่รู้ว่าดีกลับไทยเนี่ยนะ!!!ถ้าไม่ดีแล้วทำไง ในเมื่อไม่มีใครลงทุนเลยต้องกลับมาแปลที่ไทย




ความสงสัยยังคงอยู่ในหัว แต่เพื่อนไม่มีโอกาศได้คิดเลย เดินทางไปต่อที่จุดชมวิวตึกชามข้าวยักษ์ ที่ Victoria peak โดยใช้รถไฟตามเดิม การเดินทางขึ้นจุดชมวิวต้องใช้รถราง ลากขึ้นไปบนเขา คยต่อแถวกันยาวมากๆ กว่าจะได้ขึ้นชั่วโมงกว่า ค่ำพอดี





ที่ตึกชามข้าวมีหลายชั้นส่วนใหญ่ขายของที่ระลึก จุดชมวิวมีสองส่วนดูฟรีกับส่วนเสียเงิน ระดับไฮโซอย่างคุณนายก็ต้องชมแบบมีระดับดูฟรี (ระดับปีนกันสาดดู) มันก็เห็นเหมือนกัน อีกอย่างดูไปก็ไม่รู้ว่าตึกไหนหรือส่วนไหนชื่ออะไร ด้านบนมองเห็นวิวเกาะฮ่องกงไม่หมดนะ เห็นด้านเดียวก็สวยดีมีแต่ตึก!!!!



ต่อที่ 2.2 นะครับ



Create Date : 30 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2553 21:09:10 น.
Counter : 751 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อยากทำอะไรก็ทำ
Location :
BOSTON  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เดินตามทางที่เลือกอย่างแน่วแน่
New Comments
พฤศจิกายน 2553

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
All Blog