การขอวีซ่าอเมริกา(นักเรียน)

เย้!!!เย้!!!เย้!!! ในที่สุดก็ผ่านแล้ววีซ่าอเมริกา(แต่ยังไม่รู้ว่าได้นานเท่าไหร๋) งั้นวันนี้ก็จะเขียนถึงเรื่องนี้แหละ "การขอวีซ่าอเมริกา" เห็นมีคนอื่นเขียนเยอะแล้วแต่รายละเอียดไม่ได้อย่างใจเราเลย ก็เลยต้องลงมือเขียนเอง
ก่อนอื่นก็ต้องมีจุดประสงค์ในการขอก่อน หลายคนอาจขอ การขอมีสองแบบ คือแบบชั่วคราว(หมายถึงไปแล้วกลับ) กับแบบถาวร(ไปแล้วไม่กลับหรือกลายเป็นคนอเมริกาแล้ว ของที่จะเขียนวันนี้เป็นประสบการณ์ตรงของแบบชั่วคราว ซึ่งในแบบชั่วคราวก็จะแบ่งเป็นหลายประเภทตามจุดประสงค์การเดินทาง เช่นไปเรียน ไปเที่ยว ไปทำข่าว ไปธุรกิจ อื่นๆอีก ซึ่งผมก็จะเขียนของไปเรียน ในของไปเรียนก็มีอีกหลายแบบ ไปแบบเรียนในสถาบันการศึกษา สถาบันอาชีพ ไปแบบนักเรียนทุน ซึ่งของผมจะเป็นแบบสถาบันการศึกษาโดยออกค่าใช่จ่ายเอง ครับซึ่งวีซ่าที่ได้ จะเป็น F-1 ครับ งั้นเรามาเริ่มต้นกระบวนการขอวีซ่า F-1 เลยดีกว่า

อย่างที่บอกวีซ่า F-1 เป็นวีซ่านักเรียนที่เรียนเต็มเวลาดั้งนั้นเราต้องมีที่ที่เราจะไปเรียนและหลักฐานในการสมัครเรียน(ขอผมนี่มีคนช่วยเหลือก็คือ ธนาคารกรุงเทพฝ่ายแนะแนวการศึกษาครับ คนอื่นจะไปที่อื่นหรือทำเองก็ได้ครับ) อันนี้ผมจะไปเรียนภาษานะครับ ของผมนี่ไปเรียน ภาษาที่ GEOS,BOSTON
หลักฐานในการสมัครเรียน
-สำเนา PassPort ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน อันมี้ทำไว้ตั้งแต่อยู่โซนี่ ทำฟรี อิอิอิ
-หลักฐานทางการเงินจะเป็นของเราหรือผู้สนับสนุนเราก็ได้ ควรเป็นนามสกุลเดียวกัน อันนี้ทำมาสองชุดก็ได้ หลายธนาคารก็ได้ เงินควรคลอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราจะไปเรียน คิดง่ายๆ เอาค่าเรียนบวกด้วยเดือนที่จะไปคูณด้วย 1000 เหรียญ( ค่าเรียน+(เดือนที่จะอยู๋ x 1000)) ส่วนของผมใช้ของแม่ แต่เป็นเงินเงินผมทั้งหมด ควรคิดเงินเป็น US dolla (ธนาคารกสิกรไทยได้เลย ธนาคารกรุงไทยกับธนาคารออมสินได้ช้าเพราะต้องส่งกลับมาที่สำนักงานใหญ่เซ็นก่อน แล้วค่อยส่งกลับหรือมารับที่สำงานใหญ่ แต่ต้องขอที่สาขาที่เปิดบัญชี)
-ใบสมัครที่เขียนเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่ให้กรอก passport No. ชื่อที่อยู่ ผู้สนับสนุน ประมาณนี้

หลักจากมีหลักฐานก็สมัครได้เลย การส่งก็ FAX จดหมาย E-mail จากนั้นก็รออย่างเดียวประมาณ อาทิตย์สองอาทิตย์ เค้าก็จะส่งเอกสารตอบรับกับ I-20 ซึ่งสำคัญมาก เราต้องตรวจสอบชื่อเราใน I-20 กับ passport ให้ตรงกัน หรือรายละเอียดอื่น ให้ดี ถ้าไม่ถูกต้องให่เค้าส่งใหม่ หลักจากตรวจสอบว่าถูกแล้วก็สามารถทำเรื่องขอวีซ่า(ปกติที่เรียนจะเก็บเงินหลังเราได้วีซ่า)

1.ไปถ่ายรูปขนาด 2นิ้วx2นิ้ว ทางที่ดีปริ๊นตัวอย่างในเว็ปสถานทูตไปให้ร้านเลยจะได้เถียงไม่ออก เอาเป็นไฟล์จะดีกว่า เพราะมันอัฟโหลดได้ง่ายจะได้รู้ว่าผ่านหรือไม่ผ่านตั้งแต่ต้น ฉากหลังสีขาว
2.จ่ายค่า sevis fee 200$ จ่ายทางเว็ปดีที่สุดผ่านบัตรเครดิตเลย //www.fmjfee.com และ พิมพ์ออกมา ใช้ข้อมูลในpassport กับ I-20
3.กรอกแบบฟร์อม DS-160 ในเว็ปไซต์ //www.bangkok.usembassy.gov เตรียมข้อมูลให้พร้อม ข้อมูลของเรา ของพ่อแม่ สถาบันที่เรียน รูป I-20 การกรอกก็ค่อยๆกรอก ที่ละหัวข้อแล้วบันทึกเพราะมันจับเวลาเรา บันทึกก็มีสองแบบ แบบบันทึกเป็นข้อมูล กับบันทึกเป็นไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ ให้เลือกลงคอมพิวเตอร์ จะได้เรียกข้อมูลได้ง่ายกว่า บันทึกแต่ละครั้งชื่อไฟล์จะต่างกันเรียงลำดับเก่าไปใหม่เมื่อเรียกใช้ข้อมูลให้เรียกอันใหม่สุด เมื่อกรอกเสร็จก็อัฟโหลดรูปถ้าผ่านมันก็ผ่านถ้าไม่ผ่านก็ถ่ายใหม่หรือถือไปวันสัมภาษณ์ก็ได้ จากนั้นระบบมันจะ review ข้อมูลให้ดูอีกรอบ เมื่อเราเช็คทุกอย่างถูกต้องมันจะให้ confirm ข้อมูลระบบมันจะเข้าหน้าสุดท้าย เป็น ใบ comfirmation เราต้องพิมพ์ใบนี้ออกมา ต้องให้ บาร์โค้ดชัดเจน
4.นัดสัมภาษณ์ เข้า //thailand.us-visaservices.com แนะนำให้ซื้อ PIN ผ่านบัตรเครดิต จะสามารถใช้ได้ทันที เราต้องสร้าง USERNAME กับ PASSWORD จากนั้นซ้อ PIN กรอกข้อมูลส่วนตัว เราต้องใช้หมายเลข confirmation จาก DS-160 ด้วย จากนั้นก็นัดวัน ถ้าไม่ไมวันว่างไม่ต้องตกใจ เพราะทางสถาทูตยังไม่อัฟเดต หรือไม่มีคนยกเลิก ดังนั้นให้เข้าบ่อยๆ จะได้เอง จากนั้น เมือนัดเสร็จก็รอวัน

วันสัมภาษณ์
1.ออกจากห้องตอน 11.30 น. ไปถึงสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต 12.30น.
2.เดินไปสถาทูตทางถนนวิทยุ อากาศไม่ร้อน พนักงานแถวนั้นออกมากินข้าวเราก็เดินดูไปเลื่อย เดินซักพักเห็นคนต่อแถวกันอยู่ เราก็เดินไปต่อด้วย ปรากฏ เค้าเข้าแถวซื้อข้าว อ้าวแล้วตูมาต่อทำไม เลยเดินต่อไปถึงสพานลอย มองเลยไปเห็นกลุ่มคนยืนต่อแถว ถือเอกสารอยู่หลากหลายวัย ทังไทยและเทศ เห็นป้าย ใช่แน่ สถานทูตอเมริกาจุดหมาย
3.ต่อแถวประมาณ 15 นาที ถึงด่านแรก พนักงานจะเช็คว่าคุณมีนัดวันนี้จริงหรือไม่ ไม่จริงไล่กลับจริงก็ เขียนบนกระดาษเราว่า F-1 13.30 น. จากนั้นให้เราฝากเครื่องมือ อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สแกนหาระเบิด ตรวจอาวุธ
4.ด่านสอง ตรวจสอบเอกสารกับเขียนใบส่งกลับ อันนี้พนักงานน่ารัก เอกสารที่ใช้ passport ใบเสร็จค่าธรรมเนียม ใบเสร็จ sevis fee I-20 Transcript ใบรับการทำงาน แค่นี้เอง
5.ด่านสาม ตรวจสอบข้อมูล ด่านนี้เค้าจะเช็คข้อมูลของเราว่าถูกต้องมั้ย ถ้าถูกก็แล้วพิมพ์ลายนิ้วมือ อันนี้จะถาม กรอกข้อมูลเองมั้ย เคยเปลียนชื่อรึเปล่า เคยขอวีซ่าอเมริกามั้ย ทำนองนี้ สัมภาษณ์ภาษาอะไร ไทย อังกฤษ เลือกอังกฤษ คนเลือกภาษาไทยน้อยมาก พวกที่รออยู่มีแต่สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ
6.ด่านตัดสินซึ่งสุดท้ายสำหรับบางคน ด่านนี้เป็นของจริง แต่เท่าที่สังเกตุดูคนผ่านกันเยอะมาก คนสัมภาษณืเป็นผู้ชายทั้งหมด รออยู่เกือบชั่วโมงคนเริ่มน้อยลง คิวที่ 206 ดังขึ้น เชิญช่อง 8 ตกใจ ก่อนมาได้ข่าวว่า ป้าช่องแปดโหด ตอนเราเข้ามาช่องนี้ยังไม่เปิด เลยตกใจ แต่พอไปเห็น เป็นผู้ชายออกแนวแขกๆขาว การสัมภาษณ์เริ่มต้นขึ้น

กงสุล: How do you do?
อยากทำอะไรก็ทำ: OK
กงสุล:Why do you want to go US?
อยากทำอะไรก็ทำ: Study English.
กงสุล:Where do you study?
อยากทำอะไรก็ทำ:GEOS,BOSTON.
กงสุล:Why do you choose BOSTON?
อยากทำอะไรก็ทำ: It's big city and transportation is convenience.
กงสุล:Who pay tuition fee?
อยากทำอะไรก็ทำ:MOM.
กงสุล:What does she do?
อยากทำอะไรก็ทำ:Teacher.
กงสุล:You get beachelor?
อยากทำอะไรก็ทำ:Yes.
กงสุล:What faculty?
อยากทำอะไรก็ทำ:Engineering.
กงสุล:Do you have relative or friend in BOSTON.
อยากทำอะไรก็ทำ:Yes.I have a friend.
กงสุล:What does he do?
อยากทำอะไรก็ทำ:He study MBA at Boston U.
กงสุล:Do you want to study MBA?
อยากทำอะไรก็ทำ:Yes.
กงสุล:Where?
อยากทำอะไรก็ทำ:Somewhere in america.
กงสุล:2007-2010 What do you do?
อยากทำอะไรก็ทำ:I work at SONY.
กงสุล:What do you do in SONY?
อยากทำอะไรก็ทำ:I'm Engineer.
กงสุล:OK.You is good aplication ,บลา บลา บลา สรุปคือได้แล้วเลยไม่สนใจฟัง
อยากทำอะไรก็ทำ:Thank you.

แล้วเค้าก็ให้ใบสีฟ้ากลับมา บอกไปรษณีย์อยู่ด้านนอก ซื้อซอง
ถ้าคนที่ไม่ผ่านจะได้เอกสารกลับมาทั้ง
7.ด่านรองสุดท้าย ซื้อซองกรอกที่อยู่
8.ด่านสุดท้าย รับของกลับ
พร้อมกลับบ้านด้วยความดีใจ

แต่ไม่รู้ว่าจะส่งมาถึงวันไหนหนอ

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553 Last Update : 30 มกราคม 2554 10:22:24 น. Counter : 1414 Pageviews.		4 comments
Share Tweet