Group Blog All Blog
|
เมื่อมันสายเกินไป Delayed Devotion (Duffy) Delayed devotion - Duffy It seems you wanna give me Oh, a life time of security Down on your dying knees I watch you, babe, I watch you plead มันดุเหมือนว่าเธออยากจะมอบให้ฉัน ความมั่นคงชั่วชีวิต ขณะที่เธอคุกเข่าไร้เรี่ยวแรง ฉันมองเธอ ดูเธออ้อนวอน But your words come much too late My love for you has turned to hate 'Cause you've taken too much time To show me that you're mine แต่คำพูดของเธอมาสายเกินไป ความรักของฉันกลับกลายเป็นความเกลียด เพราะเธอใช้เวลามากเกินไป กว่าจะแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นของฉัน When I drop you boy You'll need another toy One that won't stand up for herself When I knock you down You'll need another town Where somebody's gonna talk to you You just let me wait Now it's too late For your delayed, delayed devotion พอฉันละเธอไป เธอก็มองหาของเล่นใหม่ หาสาวที่ไม่รู้จักยืนหยัดเพื่อตัวเอง พอฉันเรียกร้องขึ้นมา เธอกลับต้องการระยะห่าง ไปหาคนคุยกับเธอรู้เรื่อง เธอได้แต่ปล่อยให้ฉันรอ ตอนนี้ก็สายไปแล้ว สำหรับความทุ่มเทที่มาช้า ช้าเกินไป You try to convince me Oh, about the possibilities But I know that all your poetry Just comes from insecurity เธอพยายามโน้วน้าวฉัน ถึงความเป็นไปได้ต่างๆนาๆ แต่ฉันรู้บทพูดของเธอหมดแล้ว มันก็แค่มาจากความรู้สึกไม่มั่นคงของเธอเอง 'Cause your actions speak nothing no more When it's what I've been waiting for 'Cause you've taken too much time To show me that you're mine เพราะการกระทำของเธอไม่ได้บอกอะไรมาเลย ตลอดช่วงเวลาที่ฉันเฝ้ารอ เพราะเธอเสียเวลามากเกินไป ที่จะแสดงว่าเธอเป็นของฉัน When I drop you boy You'll need another toy One that won't stand up for herself When I knock you down You'll need another town Where somebody's gonna talk to you 'Cause you just let me wait Now it's too late For your delayed devotion พอฉันละเธอไป เธอก็มองหาของเล่นใหม่ หาสาวที่ไม่รู้จักยืนหยัดเพื่อตัวเอง พอฉันเรียกร้องขึ้นมา เธอกลับต้องการระยะห่าง ไปหาคนคุยกับเธอรู้เรื่อง เธอได้แต่ปล่อยให้ฉันรอ ตอนนี้ก็สายไปแล้ว สำหรับความทุ่มเทที่มาช้า ช้าเกินไป You played me for a fool for too long Blinded by your lies I never saw your all I'm no longer under your spell Hear it in a song You can go to Hell เธอเล่นตลกกับฉันมานานเกินไปแล้ว ปิดบังฉันด้วยคำโกหกที่ทำให้ฉันมองไม่เห็นธาตุแท้ของเธอ ตอนนี้ฉันหลุดจากมนต์สะกดของเธอแล้ว ฟังซะให้ดีๆ เธอจะไปลงนรกที่ไหนก็ไป When I drop you boy You'll need another toy One that won't stand up for herself When I knock you down You'll need another town Where somebody's gonna talk to you You just let me wait And now its too late For your delayed, delayed devotion พอฉันละเธอไป เธอก็มองหาของเล่นใหม่ หาสาวที่ไม่รู้จักยืนหยัดเพื่อตัวเอง พอฉันเรียกร้องขึ้นมา เธอกลับต้องการระยะห่าง ไปหาคนคุยกับเธอรู้เรื่อง เธอได้แต่ปล่อยให้ฉันรอ ตอนนี้ก็สายไปแล้ว สำหรับความทุ่มเทที่มาช้า ช้าเกินไป ============================================ ฟังเพลงนี้แล้วสะใจจริงๆ ช่างสมน้ำหน้าผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นของตาย คิดจะมาก้อมา คิดจะไปก้อไป พอเราอยากไปขึ้นมา กลับจะเป็นจะตาย ผู้ชายแบบนี้สมควรโดนทิ้งเป็นอย่างยิ่ง น้องหนู Duffy ช่างเกิดผิดยุคซะจริงๆ ถึงน้องหนูจะอายุเพิ่ง 25 กลับมีน้ำเสียงบาดหู ราวกับนักร้องยุค 50 แถมยังเขียนเพลงได้ตรงใจ ราวกับเห็นโลกมามากมาย เก่งจริงนะ ตัวแค่นี้!! this song is proper for me so much .. now i'm on that situation .. my guy treat me like I'm a "death thing" .. and he never try to make thing better for me .. he always lies .. very very selfish guy .. now he meets a new girl .. let me down again .. so i decided to break up .. he should go to hell 5555
โดย: JRy IP: 58.8.91.136 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:2:57:29 น.
|
COS Stylist
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] การไตร่ตรองและคิด วิเคราะห์ เป็นหนทางสู่การพัฒนาสมอง การพัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคม คนเรามักสนใจแต่การปรุงแต่งรูปลักษณ์ภายนอก บุคคลิกภาพ พื้นฐานทางสังคม และความสุขส่วนตัว หากมีซักกี่คนที่มุ่งเน้นการพัฒนา "ใจ" บล็อคนี้ เขียนจากคนธรรมดา ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น หากแต่ชอบคิด ชอบเขียน และ อยากพัฒนา"ใจ"ของตนเอง ให้พบกับความสุขที่ยั่งยืน ที่ไม่มีวัตถุเป็นตัวกำหนด พร้อมทั้งยังอยากให้เพื่อนๆร่วมโลกได้ประโยชน์จากประสพการณ์และเรื่องเล่าต่างๆ ให้เป็นสาระแก่การดำเนินชีวิต และได้ข้อคิดแล้วต่อจะไปปรับใช้ในชีวิตของแต่ละคน ทั้งนี้ ผู้เขียนขอไม่ประสงค์ออกนามของทั้งตนเอง และผู้ใดก้อตามที่ได้กล่าวอ้างถึง ไม่ให้พาดพิงต่อสิทธิส่วนบุคคลของทั้งตนเองและผู้อื่น ทั้งนี้ข้อคิด และ เรื่องราวต่างๆนานาๆ ผู้เขียนไม่อาจรับรองได้ว่าเป็นวิธีคิด การกระทำ หรือทางเลือกที่ดีที่สุด สิ่งที่นำเสนอ เพียงแต่เป็นมุมมองของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้อ่านเป็นหลัก ทั้งนี้ อยากให้เพื่อนๆเพียงแค่ได้นำสิ่งที่เขียนไปคิดพิเคราะห์ คนเขียนก็ปลื้มใจมากมายแล้ว ทั้งนี้ในฐานะชาวพุทธ ขอยกคำสอนของพระพุทธเจ้าผู้ปราดเปรื่องให้ข้อเตือนใจก่อนจะรับฟังเรื่องใดๆดังนี้ กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกว่า เกสปุตสูตร ก็มี[1]) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการคือ อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้ อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่ ปัจจุบันแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ 2500 ปีก่อนได้รับการบรรจุเป็นวิชาบังคับว่าด้วยการสร้างทักษะการคิดหรือที่เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking) ไว้ในกระบวนการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยของประเทศพัฒนาแล้ว ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3
Friends Blog Link |
nice voice