|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
พายุแห่งมาร์ บทที่ ๔ ควบคุมหรือถูกควบคุม โดย...นิรีย์
อาเดรียดโกรธจัดจนทำอะไรไม่ถูก สิ่งแรกที่เธอต้องรีบทำด่วนที่สุดหลังจากพิธีแต่งงานคือหาวิธีการกำจัดความไม่รู้จักควบคุมสิ่งโจ่งแจ้งของผู้ชายคนนี้
เอามันออกไป
คุณแน่ใจหรือที่อยากให้มันออกมา เขาอดใจล้อเลียนเธอไม่ได้ แม้นจะรู้ตัวว่ามันไม่สมควรนัก และพยายามแล้วที่จะพรางอารมณ์ที่เขาเองก็ไม่อยากให้มันเกิดในสถานที่ที่ไม่สมควรยิ่งเช่นนี้ แต่ความตื่นระทึกในตัวเขามันช่างโดนกระตุ้นอย่างง่ายดายเพียงเพราะเธอมาแนบชิด
อาเดรียพยายามสงบใจอย่างยากเย็น พยายามวิเคราะห์สถานะการณ์ทางกายภาพของเขาจากข้อมูลทั้งหมดที่เธอรับรู้เกี่ยวกับผู้ชายจากโลกซึ่งมีอยู่น้อยนิดในศูนย์ข้อมูลของเซ็น และคงจะช่วยเธอไม่ได้มาก แต่คนอย่างอาเดรียไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ หรอก ด้วยพลังจิตขนาดเธอ ไม่น่ายากเย็นนักที่จะป้องกันตัวเองจากธรรมชาติของมนุษย์เพศชายที่ข้ามมิติเวลาจากเมื่อพันปีก่อนมาที่นี่
ฉันต้องการให้คุณยับยั้งเจ้าสิ่งนั้น ก่อนที่เราจะถึงที่หมายในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
ให้ตายซิอาเดรีย อย่าทำเสียงเหมือนผมเป็นสิ่งน่ารังเกียจอย่างนั้นเลย ผมไม่อยากให้ตัวเองน่าอับอายอย่างนี้หรอกนะ ถึงเรากำลังจะแต่งงานกันก็ตาม ทั้งที่ส่วนหนึ่งเป็นความผิดของคุณด้วยที่เลือกการเดินทางแบบเบียดเสียดเช่นนี้ น้ำเสียงเขาเริ่มหงุดหงิด
คุณจะโทษฉันได้ยังไง ฉันไม่มีอาการโจ่งแจ้งอย่างคุณ อาเดรียตอบโต้อย่างไม่ยอมแพ้
ผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกัน เสียงเดลอ่อนลง ยอมเจ้าหล่อนไปก่อน แล้วค่อยเอาคืนทีหลัง
ที่เซ็นเราทุกคนเหมือนกัน ไม่คิดถึงเรื่องทางกาย และคุณควรจดจำไว้ตลอดเวลาด้วย
ครับผม เดลรับปากเพื่อไม่ให้เรื่องนี้ขยายบานปลาย ทั้ง ๆ ใจเขาไม่อาจยอมรับได้ ใจที่ต่อต้านขึ้นมาทันทีทันใดทำให้ยิ่งสับสนตัวเอง รู้สึกว่าเขาไม่มีความเป็นเซ็นอยู่ในตัวเลย
เขาเป็นเซ็น เป็นนักรบ อย่างที่เธอบอกจริงหรือเปล่า
ถึงแล้ว อาเดรียบอกเสียงเครียด เมื่อเรือทรายเลื่อนไถลตัวแทรกเนื้อทรายเข้าสู่โพรงอากาศขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายห้องไร้ผนังที่ใช้เป็นท่าเรือใต้ผืนทรายของตระกูลมาร์ แต่ท่าเรือทรายที่นี่ใหญ่กว่ามาก และมีการสร้างระเบียงขนาดเล็กยื่นออกมาจากช่องอุโมงค์ที่เจาะลึกเข้าไปในผนังด้านในสุด ความสูงของช่องอุโมงค์และ ระเบียงนั้นเกือบจะเท่าความสูงของเรือทรายทำให้สะดวกในการขึ้นลงจากที่นั่งในครอบแก้วรูปไข่ที่ติดไว้บนหลังเจ้าหนอนยักษ์ตัวนี้ เพราะแค่ก้าวลงก็ถึงพื้นระเบียงแล้ว
คุณไปก่อน เขาบอกด้วยเสียงที่พยายามให้เรียบที่สุด
ทำไมล่ะ เสียงเล็ก ๆ ตั้งคำถาม ความกังวลใจต่อสิ่งที่คิดว่าต้องเผชิญข้างหน้าทำให้หลงลืมสิ่งที่ชายหนุ่มเป็นอยู่ขณะนี้ ดวงตากลมโตหวานใสจึงจ้องเขาเขม็งอย่างรอฟังคำตอบ
ผมขอเวลาส่วนตัวสักครู่ จะได้จัดการสงบสิ่งที่คุณไม่ชอบ น้ำเสียงชักเริ่มห้วนนิด ๆ บอกอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนักของเจ้าตัว
ฮึ...ก็ได้ อาเดรียหน้าแดงก่ำด้วยความอาย รีบเอื้อมมือไปกดปุ่มตรงแผงด้านหน้าที่นั่งเพื่อเปิดครอบแก้ว และเพียงชั่วอึดใจครอบแก้วทั้งอันก็ยกขึ้นอย่างอัตโนมัติเหนือศีรษะของคนทั้งสอง หญิงสาวพยายามลุกขึ้นอย่างระมัดระวังไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสัมผัสเขาอีก แต่ที่ทางแสนแคบ และผ้าคลุมพะรุงพะรังทำให้การลุกขึ้นง่าย ๆ กลายเป็นเรื่องยากเย็น
ช่วยดันฉันขึ้นทีซิ
คุณไม่ให้ผมสัมผัสตัวไม่ใช่หรือ
เวลาจำเป็น คุณสัมผัสฉันได้ เธอกระแทกเสียงใส่ อารมณ์ชักเริ่มขุ่น เพราะดูเหมือนว่าเขาคนนี้จะมีข้อขัดแย้งกวนใจไม่ได้หยุด
รับทราบ แต่ผมว่าเราคงต้องสัมผัสกันอีกสักพัก
เอ๊ะ! ทำบ้าอะไรนี่
อาเดรียโวยวายลั่น เพราะแทนที่เขาจะช่วยให้ลุกขึ้น กลับดึงเธออย่างแรงให้กลับลงมานั่งอย่างเดิม
ดูนั่น เขากระซิบบอกเสียงเข้ม และเพียงเธอเงยหน้าขึ้นมองสิ่งที่เขาบอกเท่านั้น อาเดรียก็รีบกดปิดครอบแก้วลงทันที แล้วตะโกนบอกเรือทรายของเธอลั่น
ไปจากที่นี่ เร็ว
เรือทรายใช้เท้าเล็ก ๆ มากมายของมันช่วยให้การเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็วที่ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับสัตว์ขนาดใหญ่เช่นนี้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว และทำให้กลุ่มคนในชุดคลุมสีขาวนับสิบที่กำลังกรูกันออกมาจากช่องอุโมงค์มองเจ้าหนอนยักษ์อย่างตื่นตะลึงจนลับสายตา
พวกนั้นคือใคร เดลถามด้วยน้ำเสียง และท่าทางที่เยือกเย็น
พวกผู้นำจิต อาเดรียตอบด้วยเสียงที่ค่อนข้างสั่นเพราะความตื่นเต้น
มารอให้การต้อนรับเราเร็วมาก เขาหัวเราะเบา ๆ อย่างเห็นเป็นเรื่องน่าสนุกมากกว่าจะทุกข์ร้อนเพราะโดนติดตาม
ฮึ...ไม่น่าพลาดเลย ไม่น่าเผลอส่งพลังจิตออกไปพวกนั้นเลยรู้ตัวเลย เธอบ่นงึมงำ หน้างอหงิก
แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อ จะกลับไปก่อนหรือเปล่า คนที่ยังยิ้มได้เอ่ยขึ้นเพื่อหารือ
กลับไม่ได้! อาเดรียร้องเสียงแหลมก่อนจะอธิบายต่อ ป่านนี้พวกนั้นไปดักรอยู่ที่บ้านแล้ว
ถ้าอย่างนั้นเราไปใช้ท่าเรือทรายอื่นได้ไหมล่ะ เขาเสนอแนะ
เออจริงซิ มีอยู่ท่าหนึ่งอยู่ใต้วิหารพอดีเลย แต่มันเป็นท่าร้างที่ปิดตายมานานมาก ไม่แน่ใจว่าทรายจะเข้าไปอัดจนเต็มช่องอากาศหรือเปล่า
คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเสี่ยง
ฉันก็คิดอย่างนั้น
นี่ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองมีความคิดเห็นตรงกัน อาเดรียหันไปส่งยิ้มให้ที่ปรึกษาพิเศษของเธออย่างอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
อาเดรีย
อือ
ยิ้มให้ผมบ่อย ๆ ได้ไหม
อาเดรียทำหน้าไม่ถูกเมื่อเจอคำขอที่ไม่คาดคิดในเวลาที่ตึงเครียดเช่นนี้
นี่ไม่ใช่เวลามาพูดไร้สาระอย่างนี้นะ
ผมไม่รู้ว่าเมื่อก่อนผมคิดอย่างไร แต่ตอนนี้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระสำหรับผมแน่นอน เพราะเรากำลังจะแต่งงานกัน และสามัญสำนึกบอกผมว่าคุณควรจะหวานกับเจ้าบ่าวของคุณมากกว่านี้ ไม่ใช่เสียงดังใส่ตลอดเวลาอย่างที่ผ่านมา
ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้ คุณก็
ไม่เคยว่าอะไร
จากที่คุณบอกผม เพราะเราอยู่ห่างกัน ผมเลยไม่มีโอกาสบอกมั้ง แต่ตอนนี้เรามีเวลาที่ใกล้ชิดกันมาก เขาเน้นคำว่ามากพร้อมกับอ้อมแขนที่กอดกระชับร่างบนตัก ...เราน่าจะทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ดีขึ้น
เราเคยเข้าใจกันแล้ว อาเดรียเริ่มเสียงอ่อนลง แม้จะอึดอัดและรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจเดลขึ้นมาอีก แต่ถ้าแสดงความห่างเหินกับเขามากไป อีกฝ่ายก็คงสงสัยมากกว่านี้
นั่นมันก่อนที่ผมจะความจำเสื่อม เวลานี้เราควรทำความเข้าใจกันใหม่ไม่ใช่หรือ ในเมื่อผมไม่ใช่ผมคนเดิมแล้ว
ฉันจะช่วยทุกทางให้คุณกลับไปเป็นคนเดิม แต่ต้องหลังจากที่เราแต่งงานกันแล้ว ไม่เช่นนั้นฉันคงไม่มีสิทธิจัดการการร้องขอหลักฐานต่าง ๆ ของคุณได้
ฟังดูแล้วยุ่งยาก
ไม่เชิงหรอกค่ะเดล เพียงแค่ฉันสามารถเข้าไปในฐานข้อมูลของคุณได้ ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย
อันที่จริงแล้วเธอต้องการใช้สิทธิของการเป็นภรรยาที่จะเข้าไปสร้างฐานข้อมูลของเขาใหม่ถึงจะถูกต้อง และต้องอย่างเร็วที่สุดไม่เช่นนั้นจะมีคนรู้ว่าเดลไม่ใช่ชาวเซ็นในอีกไม่กี่วินาทีต่อมาที่พวกผู้นำจิตพบตัวเขา
การแต่งงานจะทำให้สามีภรรยามีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของอีกฝ่ายในทันทีที่มีการประกาศสถานะภาพของการเป็นคู่ชีวิต อาเดรียจะใช้ชื่อคู่หมั้นที่เธอไม่เคยรู้จัก เพียงแต่รู้ว่ามีจากคำบอกเล่าของบิดาผู้จากไป คู่หมั้นผู้มีเชื้อสายนักรบ เชื้อสายที่ไร้ร่องรอยในเซ็นมาเนิ่นนาน แต่ทว่ากลับมีอิทธิพลต่อจิตใจของชาวเซ็นตลอดมา นักรบที่เป็นเหมือนสัญญลักษณ์ของผู้สร้าง และในขณะเดียวกันคือผู้ทำลาย มีผู้กล่าวว่า
เซ็นเกิดมาจากนักรบ อยู่ได้ด้วยผู้นำจิต แต่ในที่สุดจะย่อยยับเพราะมือผู้ให้กำเนิด
เหล่านักรบจึงจากไปอีกมิติเพื่อไม่ให้ผู้คนหวาดกลัว และไม่เคยแสดงตัวต่อสาธารณะอีกเลย ไม่เคยย้อนกลับมาเรียกร้องสิทธิเหนือผู้ใดในเซ็น ทั้ง ๆ ที่มีสิทธินั้นโดยชอบธรรม
อาเดรียรู้ดีว่าสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปนี้คือสิ่งที่จะทำให้เซ็นลุกเป็นไฟ แต่เพื่อจับตัวผู้อยู่เบื้องหลังการตายของท่านพ่อ และความอยู่รอดของตระกูลมาร์ที่เหลือเธอเป็นทายาทคนสุดท้าย อาเดรียจำเป็นต้องทำ...เธอจะปล่อยให้ผู้นำจิตกลืนตระกูลมาร์ด้วยการยัดเยียดลูกชายวัยเด็กให้แต่งงานกับเธอไม่ได้
พวกนั้นจะเข้ามาครอบครองทุกอย่าง รวมทั้งชีวิตของเธอ มีเพียงข้ออ้างเดียวที่จะหลุดพ้นการโดนบังคับแต่งงานที่ถูกบังหน้าด้วยความสงสารเห็นใจ คือการรีบแต่งงานกับคู่หมั้นที่เกิดจากพันธะสัญญาของตระกูลเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
และเขาคนนี้คือคนที่จะช่วยเธอได้...พายุแห่งมาร์นำพาผู้ชายจากโลกข้ามมิติมาให้เธออย่างไม่คาดคิด แต่กลับถูกที่ถูกเวลาราวกับได้ถูกกำหนดมาแล้วว่า เขาจะมาสวมบทบาทคู่หมั้นที่ไม่มีใครเคยรู้จักของเธอ
และที่สำคัญ...เขาจำอะไรไม่ได้เลย
และนั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนา คนที่ไม่มีอดีตให้จดจำ คนที่เธอจะสร้างเขาขึ้นมาใหม่เป็นผู้สืบสายเลือดนักรบที่ไม่มีใครกล้าควบคุมได้ นอกจากเธอที่รู้ความจริงทั้งหมด
แม้นมันจะไม่ถูกต้อง เป็นการเอาเปรียบคนที่ไม่มีทางไป แต่อาเดรียก็ต้องกล้ำกลืนความรู้สึกผิดนั้นไว้ก่อน...รอให้เรื่องทุกอย่างเรียบร้อย เธอจะตอบแทนเขาด้วยทุกอย่างที่เธอมี ที่เธอจะทำได้ หรือต้องหามาให้ได้ เพื่อคืนเขาคนเดิมกลับสู่โลก
คุณจะทำอะไรกับฐานข้อมูลของผม เดลย้อนถามด้วยเสียงเอื่อย ๆ เหมือนไม่สนใจ
ทุกคนในเซ็นมีอักษรเฉพาะตัวที่จะถูกสร้างขึ้นทันทีเมื่อเกิดพร้อมฐานข้อมูลส่วนบุคคล อักษรเฉพาะนี้เป็นรหัสส่วนตัวเพื่อการดำรงอยู่ในเซ็น ถ้าคุณไร้รหัสจะถูกพาไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครได้กลับมาอีก
คนไร้ความทรงจำอย่างผม ก็คล้ายกับเป็นคนไร้รหัสซินะ เป็นคนเถื่อนของที่นี่
ไม่ต้องกังวลเรื่องรหัสประจำตัวหรอกค่ะเดล หลังจากแต่งงานฉันสามารถเข้าไปฐานข้อมูลของคุณ และเอามันออกมาได้
ถ้าจำเป็นอย่างนั้นเราคงต้องรีบแล้ว ผมไม่อยากเป็นคนไร้รหัสนานนัก
ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่ง และดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเราด้วยนะ ดูข้างหน้าซิ ท่าเรือทรายใต้วิหารที่ยังใช้การได้ อาเดรียร้องอย่างดีใจ เมื่อเห็นจุดสว่างหม่น ๆ ท่ามกลางความมืดใต้ผืนทรายข้างหน้าเขาทั้งสอง แต่เมื่อเธอกำลังจะอ้าปากออกคำสั่งให้เรือทรายรีบเร่งเข้าท่าเรือนั้น ฝ่ามือใหญ่ของคนที่นั่งซ้อนหลังโดยมีเธอนั่งอยู่บนตักก็รีบตะปบปิดปากเธอไว้ก่อน
อย่าเพิ่งรีบไป รอดูให้แน่ใจก่อน เขาบอกเบา ๆ ก่อนปล่อยมือเมื่อเธอพยักหน้ารับคำ
นิ่ง อาเดรียเปลี่ยนคำสั่งเรือทราย
ความมืดและเงียบงันรอบล้อมสามชีวิตจากสามดินแดนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งสามได้มารวมตัวกันเฝ้ามองจุดสว่างเล็ก ๆ ที่เป็นเพียงความหวังเดียวในขณะนี้ร่วมกันอย่างไม่มีทางเลือก
เราต้องเข้าใกล้กว่านี้ถึงจะเห็นความเคลื่อนไหว เสียงของอาเดรียแทบจะเหมือนพรายกระซิบ
ไปช้า ๆ
เรือทรายเคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ ตามคำสั่งของเขาทันที อาเดรียรีบเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้องไว้ขณะนี้ตัวเธอแข็งเกร็งเพราะความตื่นตระหนกในสิ่งที่เขาทำโดยไม่รู้ตัว
ผู้ชายจากโลกคนนี้บังคับเรือทรายของเธอได้
คุณตกใจอะไรอาเดรีย เห็นพวกนั้นหรือไง
ความรู้สึกของเขาไวเหลือเกิน อาเดรียเริ่มคิดหนักอย่างจริงจังกับปัญหาการควบคุม เดล มอรีส ที่เธอคิดว่ามันจะง่าย ๆ ในตอนเริ่มต้น แต่นี่มันเกินความคาดคิดของเธอจริง ๆ
เขาคือบุคคลที่อันตรายที่สุดในเซ็น เขาอาจจะทำลายที่นี่ได้ถ้าเขารู้ถึงอำนาจของตัวเอง ความจำที่หายไปทำให้เขาอยู่ในสภาพไร้จิต ไม่สามารถที่เธอหรือแม้นกระทั่งผู้นำจิตจะควบคุม แต่เขากลับควบคุมสัตว์ดึกดำบรรพ์อย่างเรือทรายได้ในเวลาแสนสั้น ในขณะที่เธอต้องใช้เวลาเป็นสิบปี แล้วต่อไป...เขาอาจควบคุมเธอได้ ถ้าเขารู้วิธี
อาเดรีย คุณกลัวจริง ๆ ด้วยที่รัก
อาเดรียแทบลืมหายใจเมื่อผมยาวสลวยถูกลูบไล้และโดนปัดมารวมอยู่ด้วยกันด้านหนึ่ง เปิดทางให้ลมหายใจอุ่นจนเกือบร้อนเป่ารดลงมาหลังกกหู พร้อมกับอ้อมแขนแกร่งที่ยิ่งกอดกระชับแน่น
ผมอยู่นี่แล้ว อย่ากลัวนะครับ เสียงกระซิบแผ่ว แต่ส่งผลรุนแรงราวกับเสียงตะโกนก้องเมื่อร่างนุ่มนิ่มบนตักเขาสะดุ้งสุดตัว เดลรู้สึกถึงความไม่ปกติอย่างยิ่ง แต่หลังคอขาวเนียนที่เห็นกระจ่างแม้นในความมืดเช่นนี้ทำให้ไม่อาจห้ามใจ เดลกดจมูกลงไปยังความเนียนนิ่มและหอมกรุ่นตรงหน้า เขากำลังปลอบโยนเธอด้วยวิธีที่ไม่ใช่วิธีของเซนแน่นอน แต่เขาคิดออกแต่วิธีแบบโบราณที่เธอพร่ำบอกไม่ให้เขาทำ
เดล คุณทำมันอีกแล้วนะ อาเดรียหันขวับมาแว้ดใส่ ลืมเรื่องกลัวเขาไปทันที
ฮ่ะ ฮ่ะ หายกลัวแล้วใช่ไหม เขาหัวเราะเสียงระรื่น ตาเป็นประกายแพรวพราวจนเห็นชัด
อาเดรียหน้าแดงในความมืด ก่อนทำเสียงเครียดเตือนเขาอีกครั้ง มันผิดกฏ
ผมรู้ คุณบอกหลายหนแล้ว
แต่คุณไม่เคยฟัง
ผมฟัง แต่จะทำตามหรือไม่ เป็นเรื่องที่ผมขอตัดสินใจเอง
คนบ้า! ฉันไม่น่าเลือกคุณมาแต่งงานเลย
อย่าหงุดหงิดซิ แล้วผมจะทำให้คุณรู้ว่าคุณเลือกไม่ผิดคน
เดล ฉันเตือนเพราะห่วงคุณนะคะ อาเดรียเอี้ยวตัวกลับมามองเขาตรง ๆ และพูดด้วยเสียงที่พยายามให้หวานอย่างที่สุด คุณ...เออ...จากเซ็นไปนาน แล้วยังกลับมาแบบจำอะไรไม่ได้อย่างนี้ ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีกับคุณ ฉันต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิตแน่
ผมทำให้คุณห่วงขนาดนี้เชียวหรืออาเดรีย
ก็ใช่นะซิ คนหัวดื้อ คุณไม่ฟังฉันสักอย่าง ทั้ง ๆ ที่เป็นคนเจ็บ
เฮ้อ! คุณทำให้ผมรู้สึกผิดมากนะนี่
ถ้ารู้สึกผิด คุณก็ต้องเชื่อฉันซิค่ะ รับปากได้ไหมว่าจะทำตามที่ฉันบอก
ก็ได้ ถ้ามันทำให้คุณสบายใจ
อาเดรียยิ้มกว้าง บางทีการควบคุมเขาอาจจะไม่ยากอย่างที่คิด เธออ่านพบข้อมูลบางอย่างจากการค้นลึกเข้าไปในศูนย์ข้อมูลกลางที่รวบรวมสารพันความรู้ในทุกมิติไว้ในรูปแบบเสมือนจริง เธอเจอหนังสือจากโลกเล่มหนึ่งอยู่ในส่วนที่ระบบบอกว่าไม่มีใครสนใจเข้าไปอ่านสักคน แต่น่าสนใจสำหรับเธอมากเพราะเนื้อหาที่แปลกสำหรับวิถีของเซน ในนั้นบอกว่าผู้ชายแพ้มารยาของผู้หญิง และมีการแนะนำวิธีการที่เรียกว่ามารยาหญิงไว้มากมาย
ผู้ชายจากโลกก็ควรต้องใช้วิธีการของผู้หญิงจากโลกในการควบคุม
เมื่อครู่เธอใช้สิ่งที่ในหนังสือบอกว่าคือ การออดอ้อน ไปนิดหน่อย ซึ่งได้ผลเกินคาด เขาหยุดสัมผัสที่ทำให้อุณหภูมิในตัวเธอขึ้นสูงเกินไป แถมยังเก็บมือให้ห่างจากตัวเธอด้วยการเอาไปกอดอกไว้อีก ถ้าเป็นอย่างนี้เขาก็ไม่น่าเป็นอันตรายอย่างที่กลัว...เธอคงคิดมากจนเกินไป
คุณทำตัวดีมากค่ะเดล ขอบคุณ
มีรางวัลให้ไหม
ฉันจะไปหารางวัลได้ที่ไหนในนี้
คุณมี
อะไรค่ะ
จูบของคุณ
เดล!
แค่จูบเดียว แล้วผมจะเก็บมือให้ห่างอย่างที่คุณต้องการ
ไม่
ตามใจ งั้นผมเลิกกอดอกแล้วนะ
บ้าที่สุด ก็ได้ ก็ได้ เธอร้องเมื่อเห็นเขาทำท่าจะเอามือลง
เร็ว ๆ
อาเดรียอยากจะใช้กระแสจิตได้เหลือเกิน เธอจะเล่นงานผู้ชายอันตรายที่เผลอไม่ได้คนนี้ให้สาสมทีเดียว แล้วคงต้องคิดมาก ๆ ยิ่งกว่าเดิมสำหรับการรับมือกับเขาหลังการแต่งงาน
หลับตาก่อน
ผมว่าตอนนี้ก็มืดพอแล้ว เขาแกล้งแหย่อีก รู้สึกดีที่เห็นเธอว่าง่ายขึ้น
มันผิด เสียงหวานใสอ้อนให้เห็นใจ
ไม่ผิด เพราะผมไม่ใช่เซ็น
คุณ...ทำไมพูดอย่างนั้น
ผมจำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับเซ็น ไม่รู้รหัส ไม่รู้บ้าน แล้วคุณคิดว่าผมควรเป็นเซ็นไหม
คุณเป็น ฉันกำลังทำให้คุณเป็นเซ็นใหม่
รู้ไหมอาเดรีย...ลึก ๆ แล้วผมไม่อยากเป็นเซ็น ถ้านั่นจะทำให้การสัมผัสคุณเป็นความผิด
พยายามหน่อยซิค่ะเดล ฉันรู้ว่าคุณทำได้ อาเดรียหลอกล่อเขาต่อไป แต่รู้สึกเจ็บปวดที่ใจขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนมันกำลังโดนบาดอย่างช้า ๆ ด้วยความสำนึกผิด
ผมพยายามแล้ว แต่ใจผมโหยหาการสัมผัส มันทรมานมากนะที่พบแต่ความเย็นชา ขอร้องได้ไหมอาเดรีย... ระหว่างเราอย่าทำแบบเซ็น
เธอพูดอะไรไม่ออก เขาเรียกร้องในสิ่งที่น่าหวาดหวั่น จะเกิดอะไรขึ้นหลังการสัมผัสที่เร่าร้อนจนไม่อาจทานทน เธอจะแตกสลายหรือเปล่า หรือในท้ายสุดแล้วจะกลายเป็นเธอเองที่เรียกร้องหามัน
เพียงแค่คิดก็น่าอับอาย และอดสูนัก
แต่เพื่อท่านพ่อ และตระกูลมาร์ เธอพร้อมจะทำทุกอย่าง
หลับตาก่อน ถึงมันจะมืดแต่ฉันก็ยังอาย เธอบอกเขาเสียงแผ่ว
เดลหลับตาลง คาดหวัง และรอคอยริมฝีปากนิ่ม ๆ
|
Create Date : 05 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 9:29:49 น. |
|
5 comments
|
Counter : 341 Pageviews. |
|
|
|
โดย: sorwor วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:22:43:09 น. |
|
|
|
โดย: sakeena IP: 124.120.102.22 วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:0:12:33 น. |
|
|
|
โดย: sakeena IP: 124.120.72.67 วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:10:49:10 น. |
|
|
|
โดย: sorwor วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:23:03:36 น. |
|
|
|
โดย: sakeena IP: 115.87.88.72 วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:16:02:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ต้นเหตุแห่งการยินดีที่ได้รู้จักกันนั้น เริ่มที่เว็บฟอร์ไรท์เตอร์ดอทคอมจากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางงานเขียนนวนิยาย ทำให้พวกเรา สว. (สาวสวยสมวัย) เกิดความคิดที่จะรวมตัวกันจัดทำบล๊อกขึ้นมาเพื่อเผยแพร่งานที่พวกเราเขียนเอง งานที่พวกเราทำด้วยใจรักและรักเหลือเกิน อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านและอยากได้คำติชมจากเพื่อนๆ เพื่อเป็นกำลังใจและนำพัฒนาทางการเขียนต่อไป |
ซัน โรแมนติก-อบอุ่น ราคา 220 บาท
น้ำชารสสตรอเบอร์รี่ รัก-โรแมนติก ราคา 190 บาท
ปางเสน่หา โดย น้ำดอกไม้ (บัดดี้) สนพ.พลอยชมพู
|
งานเขียนใน “สวยสมวัย” เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ได้รับความคุ้มครองตามกฏหมาย ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ........................... คิดเอง เขียนเอง และสร้างความภาคภูมิใจ ให้กับตัวเองกันเถอะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|