กลยุทธ์สู่ผิวสะอาด และ...สดใส

อากาศสลับร้อนสลับหนาวมาตั้งแต่ต้นปี บางวันยังมีฝนตกลงมาซะอีกด้วย แต่ไม่นานอากาศร้อนก็มาเยือนอีกเช่นเคย เพียงแค่จะเริ่มๆ ก็เล่นเอาเหงื่อไหลไคลย้อย หน้ามันเยิ้มไปตามๆ กันแล้ว จนกลายเป็นว่าไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนๆ เราก็ต้องเผชิญกับความร้อนไม่ค่อยจะแตกต่างกันอยู่ดี

สิ่งที่มากับความร้อนก็คือ เหงื่อไคล และความสกปรก เรื่องของการทำความสะอาดผิดพรรณ จึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกสำหรับวิธีการดูแลผิวของคนไทยกันเลยทีเดียว

ทุกวันนี้ในท้องตลาดก็มีผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดผิวหลากหลายรูปแบบ นับตั้งแต่ สบู่ก้อน สบู่เหลว โฟมล้างหน้า และเจล เป็นต้น ซึ่งจริงๆ แล้วทุกชนิดก็ใช้เพื่อทำความสะอาดผิวเหมือนๆ กัน แต่บางครั้งเทคนิคของการโฆษณา ก็อาจจะทำให้เราเกิดความสับสนได้ และไม่ทราบว่า ตกลงแล้วเราควร เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดไหนดี

เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยโดยแพทย์หญิง สุวิรากร โอภาสวงศ์ แห่งศูนย์ผิวหนัง คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ ได้กรุณาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผิวของแต่ละคนดังนี้

วัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว

ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ช่วยป้องกันอันตรายจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย ในแต่ละวันผิวหนังต้องสัมผัสกับสารต่างๆ ฝุ่นละออง มลภาวะ เครื่องสำอาง เป็นต้น ดังนั้นต้องมีการทำความสะอาดผิวหนังกันทุกวัน ผิวหนังประกอบด้วย 3 ชั้น คือ ชั้นหนังกำพร้า หนังแท้ และชั้นไขมัน ผิวชั้นนอกสุด คือหนังกำพร้าเป็นชั้นที่มีความสำคัญมากที่สุด โดยชั้นนี้ร่างกายจะสร้างไขมันทั้งจากต่อมไขมันเองและจากผิวหนังชั้นนอก การทำความสะอาดผิวหนังนั้นจุดประสงค์ คือ ต้องการชำระล้างเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ไขมันส่วนเกินที่ร่างกายสร้างออกมา สิ่งที่ไม่ต้องการที่มาติดกับผิวชั้นนอก เช่น ฝุ่นละออง คราบเหงื่อไคล เชื้อโรค เครื่องสำอาง เป็นต้น ดังนั้นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ดีควรล้างสิ่งสกปรกทั้งที่ละลายน้ำและละลายไขมันได้โดยไม่ทำลายไขมันที่เป็นตัวปกป้องผิวหนัง

สารทำความสะอาด (Surfactant)

สารทำความสะอาดที่ใส่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมีคุณสมบัติ Amphiphilic คือ โครงสร้างส่วนหนึ่งละลายได้ทั้งในน้ำและอีกส่วนหนึ่งละลายในไขมัน ทำให้สามารถละลายไขมันส่วนเกินที่ผิวหนังออกไปกับน้ำที่เราทำความสะอาด สารทำความสะอาดนี้มี 4 ชนิด ได้แก่

1.สารที่มีประจุลบ Anionic surfactant ได้แก่ กลุ่ม Sodiumlauryl sulfate นิยมใช้ในสบู่ทั่วไป เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาด และทำให้เกิดฟองดี สามารถล้างความมันบนผิวหนังได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันถ้าใช้ในผู้ที่มีผิวแห้งอาจก่อให้เกิดระคายเคืองง่าย

2. สารที่มีประจุบวก Cationic surfactant ได้แก่กลุ่ม Quaternary ammonium compound มีประสิทธิภาพในการเกาะติดกับผิวหนังดีเนื่องจากผิวหนังส่วนใหญ่มีประจุลบ แต่เนื่องจากมีการระคายเคืองสูง จึงไม่เป็นที่นิยมใช้

3. สารที่ไม่มีประจุ Non-ionic surfactant เช่น Tween, sucrose ester สารในกลุ่มนี้ ระคายเคืองน้อย แต่ความสามารถในการทำให้เป็นฟองน้อย

4. สารที่มีทั้งประจุบวก และลบ Ampholitc surfactant เช่น betaines, alkyl amino acid กลุ่มนี้ระคายเคืองน้อยและเกิดฟองได้ดี จัดเป็นกลุ่ม mid surfactant

รูปแบบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดต่างๆ

สบู่(SOAP)

เป็นสารมาตราฐานที่ใช้ทำความสะอาดผิวหนัง ได้จากการผสมของไขมันพืชหรือสัตว์ กับด่างของโซเดียมหรือโปตัสเซียมโดยการทำให้เกิดขบวนการซาโปนิฟีเคชั่น(Saponification) เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีประจุลบและมีความเป็นด่าง มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและการเกิดฟองดีมาก เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการชะล้างความมันดี ทำให้มีผลต่อไขมันที่เป็นตัวปกป้องผิวหนัง การใช้สบู่แบบนี้นานๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้ และสบู่ชนิดนี้มีความเป็นด่างสูง (pH 9-10) ซึ่งผิวหนังปกติจะมี pH ค่อนมาทางเกรด (pH 5.4-5.9) ทำให้มีผลต่อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนัง ทำให้แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวเจริญเติบโตดี ข้อเสียของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดนี้ คือถ้าอยู่ในที่มีน้ำกระด้างจะทำให้เกิดฟองน้อยและทิ้งคราบเกลือแคลเซียม ไว้บนผิวหนัง ทำให้เกิดการระเคืองได้

สบู่สังเคราะห์

จากปัญหาการใช้สบู่ที่ทำให้เกิดการระคายเคือง และ ปัญหาความเป็นด่าง จึงมีการทำสบู่สังเคราะห์ขึ้น (syndet) หรือ soapless soap โดยอาจจะอยู่ในรูปสบู่ก้อน สบู่เหลว โฟม เจล ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดนี้สามารถปรับสภาพความเป็นกรดด่างให้เท่ากับผิวหนังได้ และ อาจจะใส่สารที่ทำให้เกิดความชุ่มชื่นแก่ผิวหนังได้ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้มาก เพราะสะดวก ไม่ทิ้งคราบไว้บนผิวหนัง และเมื่ออยู่ในที่มีน้ำกระด้างไม่เกิดปัญหาเกลือแคลเซียมบนผิวหนัง

ครีมทำความสะอาด(Cleansing cream)

ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าโดยใช้ไขมัน เช่น Mineral oil, waxes เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งมาก เช่น cold cream

โลชั่นเช็ดหน้า(Astringent, cleansing lotion, clearifying lotion, toner)

ใช้เช็ดหลังจากการล้างหน้า มีส่วนประกอบของ แอลกอฮอล์ เพื่อเช็ดความมันบนใบหน้าและให้ความรู้สึกว่าใบหน้าตึง กระชับ และสะอาด เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้ามัน หรือผู้ที่เป็นสิวง่ายและใช้เครื่องสำอางแต่งหน้า Oil-free เพื่อเช็ดความมันก่อนแต่งหน้าจะทำให้เครื่องสำอางติดทนขึ้น

สรัปป์(Facial scrubbers)

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดนี้จะใส่เม็ดหยาบๆ เพื่อไปขัดเอาเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออก ทำให้หน้าดูสะอาดขึ้น บริษัทเครื่องสำอางมักแนะนำให้ใช้อาทิตย์ละครั้ง เพราะถ้าใช้มากจะทำผิวหนังระคายเคืองได้

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไร้ไขมัน(Ilpid-free cleanser)

ชนิดนี้ทำความสะอาดผิวหนังโดยไม่มีสบู่และไขมัน สามารถใช้ทำความสะอาดโดยการใช้กับผิวหนังที่แห้งได้เลย โดยใช้ถูให้ทั่วและเช็ดออก หลังจากเช็ด แล้ว จะทิ้งฟิล์มให้ความชุ่มชื้นไว้สามารถใช้กับผิวที่ระคายเคืองง่าย

ผลข้างเคียงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสามารถล้างไขมันบนผิวหนัง การใช้บ่อยครั้งเกินไปหรือเลือกใช้ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวหนังทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยระยะแรกจะรู้สึกว่าผิวหนังแห้ง ตึง มีรอยย่น ถ้าเป็นมากจะมีผื่นแดง แตก มีขุย จนถึงเกิดผิวหนังอักเสบได้

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจะใส่สารต่างๆ หลายชนิด โดยเฉพาะน้ำหอม สารกันบูด ย่าฆ่าเชื้อ(Antiseptics) สี เป็นต้น สารเหล่านี้ก่อให้เกิดการระคายเคือง และการแพ้ได้ทั้งสิ้น การแพ้เริ่มต้นจะมีผื่นแดง คัน ถ้ามีอาการสงสัยว่าจะแพ้ควรหยุดการใช้ ไม่ควรฝืนใช้ต่อเพราะจะเกิดผิวหนังอักเสบได้

ในบางคนการล้างหน้าบ่อยเกินไป(ส่วนใหญ่แนะนำให้ล้างหน้าวันละ 2-3 ครั้ง)กลังกลายว่าทำให้เกิดสิวได้ เนื่องจากสารในสบู่ก่อให้เกิด คอมมิโดนได้(Comedogenics substances) และการชำระล้างด้วยสารที่มีความเป็นด่างสูงทำให้แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวเจริญเติบโต ดังนั้นไม่ควรล้างบ่อยจนเกินไป

Create Date : 15 สิงหาคม 2553		0 comments
Last Update : 18 สิงหาคม 2553 10:58:55 น.
Counter : 786 Pageviews.
Share Tweet